ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO] VAMPWoLF หมาป่า...ที่รัก [KaiChen]

    ลำดับตอนที่ #11 : WAMPWoLF : 10 [ Chanyeol & Baekhyun ]

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 57


    WAMPWoLF 10

     

     

     

     

     

             หลังจากที่ชานยอลอาศัยอยู่ที่โอรากอนมาได้ร่วมสองปีกว่า ตอนนี้เขาได้รับความไว้วางใจจากทุกๆคนมากกว่า ไค เสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ชานยอลดำรงตำแหน่งแม่ทัพหลัง โดยมีคริสเป็นแม่ทัพหน้า ทั้งสองร่วมกันทำงานเป็นอย่างดีทั้งฝีมือยังถือว่าอยู่ในขั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

     

             ชานยอลโตมาพร้อมๆกับคิมไคและแบคฮยอนจนรู้นิสัยกันเป็นอย่างดี ทั้งสามตอนเด็กๆสนิทกันอย่างกับเพื่อน แต่พอโตขึ้นมาต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ของตนแต่จะมีใครรู้ไหมว่าชานยอลคนนี้อยากจะรับใช้คนอื่นมากกว่าคิมไค อยากจะคอยอยู่ข้างๆใครอีกคนมากกว่ามาตลอดหลายร้อยปี คนคนนั้นคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก....

     

             แบคฮยอน

     

     

    --- 100 years ago ---

     

             เช้าวันที่แสนสดใสหมาป่าน้อยทั้งสามกำลังวิ่งเล่นกันอยู่ในสวนกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสามยังเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าตนเองเป็นอะไรและมีพลังมากแค่ไหน หลังจากเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทุกอย่างก็ต้องจบด้วยนิสัยของเด็กที่ชอบเอาแต่ใจตัวเองอย่าง คิมไค

     

             "ฉันเหนื่อย...ไม่เล่นล่ะ" พูดพร้อมกับนั่งลงกับพื้น "นี่ชานยอล...ไปเอาน้ำให้ฉันหน่อยสิ ฉันหิวน้ำ"

     

             "คิมไค เจ้าเดินไปเอาเองสิ" แบคฮยอนผู้เป็นพี่กล่าวกลับน้องชาย

     

             "ก็ฉันยังเด็ก คนเป็นพี่ก็ต้องเสียสละสิ งั้นเจ้าก็ไปเอามาให้หน่อย" คิมไคหันไปสั่งพี่ชายของตนเอง แบคฮยอนทำหน้าไม่พอใจก่อนทำท่าจะเดินไปหยิบน้ำให้คิมไค แต่ก็ต้องถูกขัดขึ้น

     

             "ข้าไปเอาเอง" ชานยอลพูด

     

             "ดีมากชานยอล" คิมไคยิ้มอย่างเด็กน้อยที่ถูกตามใจ เพราะเขาเป็นลูกชายคนเล็กจึงถูกเลี้ยงดูอย่างดีโดยพระมารดาของตน ส่วนแบคฮยอนนั้นเป็นพี่จึงถูกสอนมาว่าใหเสียสละให้น้อง นั้นอาจคือเหตุผลที่ทำไมทุกวันนี้แบคฮยอนและคิมไคถึงชอบทะเลาะกันเพราะตัวคิมไคนั้นเองที่เอาแต่ใจตัวเอง

     

             "นี่น้ำ" ชานยอลส่งน้ำให้กับไคกับแบคฮยอน "ยังไงเจ้าทั้งสองก็เป็นองค์ชาย เรื่องแค่นี้เอง" ชานยอลส่งยิ้มบางๆให้กับเด็กน้อยบยอนที่ยืนอยู่ข้างๆเขา 

     

             "ข้าไปดีกว่า ร้อนจะตายข้าดำพอดี" พูดจบไคก็เดินหายเข้าไปในปราสาท 

     

             "นี่เจ้าเตี้ย!!!ทีหลังห้ามตามใจเจ้านั้นนะรู้ไหม?" แบคฮยอนมักเรียกชานยอลแบบนั้นเสมอตั้งแต่เขาจำความได้

     

             "ข้าไม่ได้เตี้ย...สักวันข้าจะสูงให้ดู" ชานยอลเถียง แบคฮยอนยิ้มให้บางๆพร้อมกับลูบผมอีกคนก่อนจะเดินตามคิมไคเข้าไปในปราสาท 

     

             รอยยิ้มวันนั้นของแบคฮยอนทำให้ชานยอลยิ้มตาม มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสของเด็กๆแต่มันกลับตราตรึงมาในใจของเขามาตลอดหลายสิบปี จนเวลาผ่านร่วงเลยไปหลายสิบปี ตอนนี้ทั้งคู่ก็อายุประมาณ50กันแล้วแต่กลับไม่แก่ลงเลยแม้แต่น้อย พวกเขายังคงสภาพตั้งแต่อายุ18

     

             "ย๊าาา…" แบคฮยอนร้องลั่นหลังจากที่ชานยอลวิ่งมาล้อเรื่องที่เขาเตี้ยที่สุด มันทำให้เขาโมโหเพราะเมื่อก่อนเขานั้นมักโอ้อวดว่าเขาตัวโตที่สุดและสูงที่สุดแต่เวลานี้มันไม่ใช่เลย 

     

             "เจ้าจะพูดแบบนั้นกับลูกของข้าไม่ได้นะ" ท่านซีเรียสเดินเข้ามายังวงสนทนาของแบคฮยอนและชานยอล ชานยอลโค้งทำความเคารพอย่างสุภาพ "ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะเลิกเล่นกันเป็นเด็กๆได้แล้ว

     

             "ท่านพ่อหมายความว่าไง

     

             "ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะต้องเรียนรู้การรบสักที...ต่อไปนี้ชานยอลจะเป็นองค์รักษ์ของคิมไค" แบคฮยอนถลึงตาใส่บิดาของตอน "ตามนั้น...."

     

             หล้งจากนั้นทั้งสามต้องฝึกหนักทั้งการรบการต่อสู้และวิถีของนักรบอีกมากมาย แบคฮยอนดูจะต้องฝึกหนักกว่าเพื่อนเพราะเขาคือบุตรชายคนโตและเขาไม่ได้ชอบเรื่องการต่อสู้พวกนี้เลยเลยทำให้ต้องพยายามมากกว่าคนอื่นๆ ต่างจากคิมไคที่เสมือนเขาจะเกิดมาพร้อมพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ นั้นคือสิ่งที่ทำให้ทั้งสองถูกนำมาเปรียบเทียบเสมอซึ่งมันก็สร้างความไม่พอใจให้กับแบคฮยอนลึกๆในใจ 

     

             "ตัวเล็กขนาดนั้นจะไว้หรือเปล่า?" 

     

             ชานยอลที่แอบดูแบคฮยอนฝึกซ้อมอย่างหนักในยามค่ำคืน สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเพราะเขารู้ว่าแบคฮยอนไม่ชอบเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ยังเด็กๆแล้ว คิมไคเป็นคนที่ชอบเล่นแรงๆหลายครั้งที่แบคฮยอนเจ็บตัวเพราะเล่นกับคิมไค ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บแต่เขาก็ไม่สามารถร้องไห้ได้ นั้นคือสิ่งที่ชานยอลเข้าใจดี

     

             "เจ้าจะแอบดูข้าอีกนานไหม?" 

     

             "หือ ข้า เปล่านะ" คนที่แอบมองพูดตะกุกตะกักหลังจากคนที่เขาแอบมองอยู่ๆก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขา

     

             "ก็ข้าเห็นอยู่

     

             "เจ้าไม่ชอบเรื่องแบบนี้ไม่ใช่หรอ?ทำไมถึงแอบมาซ้อมหล่ะ" ชานยอลเปลี่ยนเรื่องคุยทันที แบคฮยอนก้มหน้างุดๆ

     

             "ข้าเป็นหัวหน้าเหล่าทหารจะให้แพ้คนอื่นได้ยังไงหล่ะ ท่านพ่อฆ่าข้าตายพอดี555" ถึงจะพูดติดตลกแต่ชานยอลก็รู้ว่าแบคฮยอนเรื่องเครียดมากแค่ไหน

     

             "ข้ามีอะไรจะให้เจ้าดู"

     

             "อะไร?"

     

             "ตามข้ามาสิ"

     

             "…"

     

             ชานยอลไม่รอให้อีกฝ่ายตอบเขาจับมือแบคฮยอนมุ่งหน้าเข้าป่าไปในยามราตรี ถึงแม้ในหนทางจะมืดแต่ไม่มืดสนิทเพราะยังคงมีแสงดาวและแสงจันทร์มากมายเต็มท้องฟ้านับได้เลยว่าเป็นคืนที่ดาวสวยที่สุดคืนหนึ่ง

     

             "หลับตาสิ" ชานยอลหันมาบอกแบคฮยอน ซึ่งเขาก็ทำตามอย่างว่าง่าย เขาหลับตาลงช้าๆและถูกนำทางโดยชานยอล แบคฮยอนได้ยินเสียงน้ำไหลคาดว่าเขาคงอยู่ที่ลำธารที่ไหนสักแห่ง ไม่นานชานยอลก็บอกให้เขาลืมตา

     

             ภาพตรงหน้ามันสวยงามแถบบรรยายออกมาไม่ได้ น้ำตกที่ไหลไม่สูงมากกำลังตกลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลกกลายเป็นลำธาร ตรงกลางของลำธารกลับมีเกาะเล็กๆซึ่งมีต้นไม้ต้นใหญ่อยู่ตรงกลางเพียงต้นเดียว ต้นไม้ต้นนี้จะไม่น่าสนใจเลยหาก...มันไม่ได้เต็มไปด้วยแสงของหิ้งห้อย

     

             "หวังว่าเจ้าจะชอบนะ" ชานยอลพูดก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่มองด้วยตาเป็นประกายจนอดที่จะอมยิ้มไม่ได้

     

             "มันสวยมากๆเลยแหละ" แบคฮยอนยิ้มอย่างตื่นเต้น "ชานยอล..."

     

             "หืมม" ชานยอลหันมาตามเสียงเรียก

     

             "ขอบคุณนะ" แบคฮยอนกระโดดกอดคนตัวสูง ชานยอลยิ้มจนแก้มแทบแตกเขากอดแบคฮยอนไว้ในอ้อมกอด มันคือความรักที่ทั้งสองมีให้กันตั้งแต่ยังเด็กจนถึงวันนี้มันก็ยังไม่ห่างหายไปไหน 

     

             "ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง ข้าจะคอยปกป้องเจ้าเองนะ ข้าสัญญา"

     

             "อืมมม"

     

             มันเป็นความรักที่ไม่ต้องพูดออกมาเพราะการกระทำทุกอย่างมันบอกได้ดีกว่าคำพูดเสมอ ตั้งแต่เด็กชานยอลคือคนที่ดูแลแบคฮยอนมาตลอดถึงแม้ว่าพักหลังชานยอลจะต้องคอยเฝ้าคิมไคมากกว่า ทั้งสองชื่นชมความสวยงามสักพักก่อนจะพากลับกันมายังปราสาท

     

             "ชานยอล...ไปพบท่านซีเรียสด้วย" ทหารตนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็นชานยอลและแบคฮยอน

     

             "มีอะไรหรอ?" แบคฮยอนด้วยสีหน้าเป็นกังวล

     

             "กระหม่อมก็ไม่ทราบเหมือนกับครับท่านแบคฮยอน" ชานยอลตบบ่าแบคฮยอนเป็นเชิงว่าไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องกังวลไป ชานยอลส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปในปราสาทของท่านซีเรียส 

     

             "ลูกชายคนโตของข้าจะไม่มีวันลดตัวไปเป็นดัชเชสของดยุกอย่างเจ้าจำเอาไว้"

     

             นั่นคือคำสรุปทั้งหมดของเรื่องที่ชานยอลคุยกับท่านซีเรียส เขาไม่สามารถให้แบคฮยอนมาเป็นดัชเชสของเขาได้นั้นก็หมายความว่าเขาไม่สามารถรักแบคฮยอนอีกต่อไปได้ ดังนั้นเขาควรทำตัวห่างเสียแต่ตอนนี้เพราะไม่ว่ายังไงแบคฮยอนก็เป็นถึงเจ้าชายเขาคงไม่คิดอาจเอื้อม

     

             หลังจากวันนั้นชานยอลก็แทบจะไม่คุยกับแบคฮยอนอีกเลย ถึงจะคุยเขาก็มักจะใช้คำพูดอย่างเป็นทางการกับแบคฮยอนเสมอ เสมือนเป็นการเตือนตัวเองว่าเขาทั้งสองนั้นต่างกันมากเกินไป 

     

             แม้แต่ในตอนนี้ชานยอลก็ยังไม่กล้ากลับไปคุยกับแบคฮยอนเหมือนเดิม

     

             "นี่เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่" ชานยอลสะดุ้งหลังจากที่เขากำลังคิดอะไรเก่าๆ "เจ้ากำลังต่อสู้กับข้าอยู่นะ เหม่อแบบนั้นได้ยังไง เดี๋ยวก็ตายกันพอดีหลอก" แบคฮยอนบ่นเสียงงุ๊งงิ๊งจนทำให้อีกฝ่ายยิ้มออกมา

     

             "เจ้าไม่ทำอะไรข้าหรอกจริงไหม?...แบคฮยอน"

     

             "…"

     

             "เงียบทำไมอ่า?"

     

             "ป่าวแค่ไม่ได้ยินเรียกชื่อข้าเฉยๆแบบนี้มานานแล้วก็เท่านั้นเอง

     

             "เจ้าอยากให้ข้าเรียกแบบนั้นก็บอกมาเถอะ...แบคฮยอนคนเตี้ย" ชานยอลขำก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงบ่นของแบคฮยอนแต่ถึงจะบ่นไปเขาก็ยังคงอมยิ้มไปด้วย

     

             "ตอนนี้ไม่มีใครห้ามเจ้าได้แล้วหนิ อีกอย่าง..."

     

             "อะไรหรอ?"

     

             "ข้าก็อยากให้เจ้าเรียกข้าแบบนั้น" แบคฮยอนกอดคนตัวสูงไว้แน่น "ข้าไม่ชอบเลยที่เจ้าทำเป็นห่างเหินหับข้า" ชานยอลกระชับกอดให้แน่นขึ้นเพราะคนในอ้อมกอดเขานั้นเหมือนจะเริ่มตัวสั่นจากการร้องไห้แล้ว

     

             "ข้าขอโทษที่ทำกับเจ้าแบบนั้น ที่นี่เจ้าร้องไห้ได้อ้อนข้าได้เหมือนตอนเด็กๆนะรู้ไหม?" ชานยอลจิ้มจมูกอีกคนเบาๆ

     

             "ข้าไม่ได้อ้อนเจ้าสักหน่อย" แบคฮยอนทำหน้าบึ้งตึง

     

             "ใครกันที่เรียกหาข้าทั้งวันนะ"

     

             "เขาเรียกว่าใช้งานต่างหาก"

     

             "สำหรับข้ามันเรียกว่าอ้อน และข้าก็ชอบให้เจ้าทำแบบนั้นด้วย" ชานยอลยิ้มกว้าง แบคฮยอนก้มหน้าต่ำเพราะเขากำลังเขิลมากๆเหมือนกัน ทั้งสองกอดกันอีกครั้ง มันเป็นเวลานานแสนนานที่ทั้งสองทำได้แค่เก็บความรู้สึกของตนเองเอาไว้ แต่บัดนี้ทั้งสองได้แสดงให้กันและกันเห็นแล้ว

     

             คิมไคที่แอบดูทั้งสองคุยกันจนในที่สุดเขาก็รู้ว่าสองคนนี้รักกันขนาดไหน แต่ที่ผ่านมาทำเป็นไม่สนใจงั้นหรอ ไคยกยิ้มเบาๆเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเขายังเด็กเขาไม่รู้เลยว่าชานยอลใส่ใจพี่ชายของตนมากขนาดไหน

     

     

             ก็ดีแล้วแหละที่เป็นชานยอลมันคงดูแลแบคฮยอนได้ถึงจะซื่อบื้อไปบ้าง...

     

     

             เมื่อไคหันหลังกลับมาก็พบกลับจงแดที่กำลังก้มๆเงยๆแอบฟังแบคฮยอนและชานยอลคุยกัน

     

             "เป็นถึงราชาทำไมถึงมาทำตัวน่าสงสัยแบบนี้" จงแดตกใจเพราะตรงนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น

     

             "ถึงเป็นราชาข้าก็ยังชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่ดีนั้นแหละเจ้าจะทำไม?"

     

             "…"

     

             "แล้วคนรักของเจ้าไปไหนซะหล่ะ?" จงแดถามถึงแวมไพร์สาวผมทองที่มีนามว่าไวท์ เพราะปกติเธอนั้นติดไคเหมือนปลิงทะเล

     

             "ก็เมื่อตอนบ่ายๆ..."

     

             "เรื่องอย่างว่าสินะ" จงแดพูดแทรก

     

             "อืมเจ้าไปแอบดูข้ามาหรือไง" ไคก้าวเท้ายาวของเขามาเรื่อยๆ จงแดเดินถ้อยหลังนี้จนตอนนี้หลังของเขามาชนกับกำแพง "หรือว่า...เจ้าชอบข้า" ไคยกยิ้มมันเป็นยิ้มที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่แปลกมันทำให้หัวใจจงแดกลับเต้นเร็วกว่าที่มันควรจะเป็น

     

             " บ้าาา ข้า ไม่ชอบเจ้าหรอก เจ้ามีคนรักอยู่แล้วหนิ" จงแดก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบตาเพราะกลัวจะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกไป 

     

             มือหนาจับคางคนตัวเล็กให้เงยขึ้น ทั้งสองสบตากันตรงๆ ไคค่อยๆเลื่อนหน้ามาใกล้จงแดมากขึ้นจนจมูกทั้งสองชนกัน ก่อนที่เขาจะประกบริมผีปากของตนเองลงไปริมผีปากบางสีชมพูนั่น จงแดหลับตาลงอย่างช้าๆ 

     

             เพราะอะไรกันทำไมเขาถึงรู้สึกคิดถึงสัมผัสแบบนี้เหลือเกิน

     

             แต่ทำไมจู่ๆน้ำตาของจงแดถึงไหลออกมา เขาผลักคิมไคออกอย่างรุนแรงจนไคกระเด่นออกไปกระแทกกับต้นไม้แถวนั้น

     

     

     

             "คิมไค...เจ้ากล้าทำร้ายข้าขนาดนี้ได้ยังไง
















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×