ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Nor Like 9 - Plan to Uke
Nor Like
09 Plan to Uke
“ทำอะไรอยู่น่ะ พี่สึโยชิ?”ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆด้วยความงุนงง จ้องมองพี่ชายที่ถือดัมเบลอยู่ในมือด้วยความสงสัย
ตั้งแต่กลับมาพี่สึโยชิก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ แถมขังตัวเองอยู่ในห้องจนเธออดสงสัยไม่ได้
...ที่แท้ก็มายกดัมเบลเพิ่มกล้าม...
“พี่จะเพิ่มกล้ามเหรอ?”แม้จะรู้แต่ก็ถามเพื่อความมั่นใจ เด็กสาวอ้อมผ่านร่างผอมๆของพี่ชายก่อนจะนั่งแปะอยู่บนเตียงมองอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ
สึโยชิเพียงพยักหน้าช้าๆก่อนจะวางดัมเบลลง เด็กหนุ่มเลิ่กแขนเสื้อตัวเองให้เห็นต้นแขนขาวๆนั่น ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มๆเนื้อบริเวณนั้นดูว่ากล้ามขึ้นบ้างรึยัง
“พี่ยกมากี่ทีแล้วน่ะ?”เด็กสาวถามด้วยความสงสัย มือบางๆพยายามดึงดัมเบลที่พี่เธอวางขึ้นมาบ้าง แต่เกร็งจนเห็นข้อขาวแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่ามันจะยกขึ้น!
“ข้างละ100”เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่ชักจะเริ่มหงุดหงิด
แขนผอมๆของเขามันไม่เห็นจะมีกล้ามขึ้นมามั่งเลย!
.
เด็กสาวมองพี่ชายตรงหน้าอย่างปลงสังเวช พอจะรู้เหตุผลว่าทำไมพี่เธอถึงฮึดจะเพิ่มกล้าม สงสัยวันนี้จะมีเรื่องกับพี่คาวามูระมาอีกถึงได้ฮึดหนักกว่าเดิม!
แต่ก็นะ...
“ไร้ประโยชน์น่ะ พี่สึโยชิ”คำพูดตัดความหวังที่เด็กหนุ่มฟังแล้วต้องค้อนขวับ เด็กสาวแกล้งส่ายหัวอย่างปลงสังเวชจนพี่ชายอยากจะเอาดัมเบลทุ่มใส่หน้านัก!
“พี่จำไม่ได้เหรอว่าตอนพี่อยู่ม.ต้นพี่ก็ทำแบบนี้ แล้วกล้ามมันขึ้นบ้างไหมล่ะ?”แม้จะเป็นความจริงแต่ฟังแล้วมันก็หงุดหงิดขัดใจ! เด็กหนุ่มมองน้องสาวตาขวางก่อนจะหยิบดัมเบลขึ้นมายกอีกครั้ง
“คราวนี้มันต้องได้สิน่ะ”คำพูดส่อเค้าความไม่ยอมแพ้ยิ่งทำให้สึโบมิต้องถอนหายใจหนักๆ
“พี่จำรุ่นพี่คุราโอะรุ่นพี่สมัยม.ต้นที่ตัวโตกว่าพี่เกือบสามเท่าได้ใช่ไหม? ที่กล้ามโตๆน่ะ”คำถามคุดขุ้ยเรื่องเก่าที่สึโยชิต้องเหลือบตาไปมอง พยักหน้าช้าๆแม้จะยังไม่หยุดยกดัมเบล
“แล้วพี่จำที่มันจับก้นพี่ได้ไหม?”
“แล้วขุดมาถามหาซากเธอเหรอ!”เด็กหนุ่มตะโกนอย่างฉุนๆ แต่กลับเรียกให้อีกฝ่ายยิ้มกว้าง
“ก็ต้องท้าวความหน่อยล่ะ หนูยังจำได้นี่ว่าพี่จับรุ่นพี่เขาทุ่มเสียหลังเดาะโทษฐานจับก้นของพี่น่ะ!”
“ไม่เห็นจะเป็นประเด็น”เด็กหนุ่มเอ่ยค้านเสียงแข็งแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ายัยน้องตัวดีหมายถึงอะไร
เด็กสาวมองเด็กหนุ่มที่โตแต่ตัวตรงหน้าด้วยความปลงอนิจจัง พี่สึโยชิน่ะคิดจะเพิ่มกล้ามมาแต่ไหนแต่ไรแต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง ทั้งๆที่เจ้าตัวก็แรงดีหยั่งกะช้างสาร! น่าจะปลงๆไปได้แล้วว่าตัวเองน่ะยังไงก็กล้ามไม่ขึ้น!
“หยุดนะวาคาบายาชิ!”เสียงตะโกนไล่หลังกลับเรียกให้เด็กหนุ่มเร่งสปีดเท้ามากขึ้น
นี่มันกรรมอะไรของเขาวะเนี่ย!
ตั้งแต่เขาต่อยไอ้รุ่นพี่บ้านั่นจนลงไปนอนวัดพื้น เขาก็กลายเป็นที่ต้องการตัวของชมรมคาราเต้ขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน เขาเพิ่งมารู้ว่าคนที่เขาล้มไปเป็นรองกัปตันของชมรม แล้วยังเป็นคนเดียวกับที่พาลูกน้องเป็นโขยง วิ่งไล่ตามตัวเขาตอนนี้อีกต่างหาก!
“หยุดนะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”เสียงตะโกนเรียกจากด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มเบ้หน้าด้วยความขัดใจ ใครจะหยุดให้โง่!
พูดไปก็เหมือนพ่นลมใส่! บอกว่าไม่เข้าๆก็ยังตื๊ออยู่นั่นแหละ อะไรกันนักกันหนาวะ!
กลุ่มคนด้านหลังเริ่มตามติดกระชั้นจนสึโยชิต้องเบี่ยงตัวหนีไปทางบันได เขากระโจนพรวดเดียวก็ลงไปบันไดขั้นสุดท้าย ก่อนจะวิ่งต่อหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ความสามารถที่สึโยชิคงไม่รู้ว่ายิ่งทำให้คนในชมรมยิ่งมุ่งมั่น
ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาตัวมาเข้าชมรมให้ได้!
“ขะ... ขอโทษ ทะ ที่มาสาย”สึโยชิพูดพลางลากร่างชุ่มเหงื่อของตนเดินมาทางโต๊ะข้างยูยะ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
เขารบกับไอ้รุ่นพี่บ้าพวกนี้มาเกือบอาทิตย์ แถมไม่มีวี่แววว่าพวกนั้นจะรามือง่ายๆ!
ยูยะทอดสายตามองสึโยชิที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเห็นใจ มือบางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาก่อนจะเช็ดแก้มขาวซีดที่โผล่พ้นต้นแขนที่เจ้าตัวใช้หนุนรองเนิบช้า
“ขอบคุณนะ ยูยะ”เด็กหนุ่มไม่ลืมที่จะหยอดคำหวานก่อนจะจับมือนิ่มนั่นมาอังแก้ม ทอดสายตามองนิ่งจนคนโดนมองแก้มขึ้นสีก่ำ...
เขาไม่หยุดศึกกับไอ้เลวนารุมิง่ายนักหรอก!
.
แล้วพลันบรรยากาศหวานฉ่ำนั้นก็หยุดชะงักลง เมื่อน้ำเกือบทั้งขวดถูกรินรดใส่หัวของสึโยชิราวกับโดนรดน้ำ ร่างขาวสะดุ้งเฮือก สะบัดศีรษะก่อนจะเตะโต๊ะใส่คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยความหงุดหงิด
นารุมิใช้เท้าดันโต๊ะนั้นไว้อย่างง่ายๆ เด็กหนุ่มแย้มยิ้มมุมปาก ประสานสายตากับอีกฝ่ายที่จ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง
“แกราดน้ำใส่ฉันทำไม คาวามูระ!”สึโยชิกดเสียงต่ำกลั้นความโมโห เท้าของเขายังดันโต๊ะพยายามจะถีบใส่คนตรงหน้าที่ใช้เท้าดุนไว้สุดกำลัง
“ก็เห็นนายเหนื่อย”นารุมิพูดน้ำเสียงราบเรียบ สะกดอาการเหนื่อยของตนจากการออกแรงดันโต๊ะ ....เห็นตัวผอมๆไม่รู้มันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน แรงเยอะเป็นบ้า!
.
ยูยะแทบจะร้องเสียงหลงเมื่อมือเรียวของทั้งคู่คว้าเก้าอี้ข้างตัวเตรียมทุ่มใส่อีกฝ่าย ร่างบางกระโจนกอดสึโยชิที่อยู่ใกล้กว่าสุดตัว ขอร้องเสียงเอื่อยว่าให้วางเก้าอี้ลง
“ก็ได้”สึโยชิว่าเรียบๆไม่สมนิสัย เขาวางเก้าอี้ลงข้างๆ ก่อนจะแย้มรอยยิ้มหวานที่นารุมิเห็นแล้วใจไม่ค่อยดี...
“ปล่อยนะ ทำอะไรน่ะสึโยชิ!”ยูยะร้องเสียงหลง ร่างบอบบางดิ้นขลุกขลักเมื่อคนตัวโตกว่าช้อนร่างทั้งร่างของเขาไว้ในอ้อมแขน ดวงหน้างามขึ้นสีก่ำแดงเรื่อจนสึโยชิอดไม่ได้ที่จะห้อมแก้มแผ่วเบาอย่างเอ็นดู...
ไม่สนใจนารุมิที่จ้องมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ!
“ปล่อย ทำบ้าอะไร วางฉันลงนะ”ยูยะยังคงดิ้นพล่าน มือขาวทุบอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“ก็ยูยะบอกให้วางเก้าอี้ก็วางแล้วไง ...อุ้มยูยะดีกว่ากันเยอะ”เหตุผลที่ยูยะฟังแล้วต้องก้มหน้างุด สะบัดดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนจนสึโยชิต้องค่อยๆวางลงบนพื้น ไม่ลืมที่จะขโมยหอมแก้มอีกครั้ง
การกระทำทั้งหมดที่นารุมิเห็นแล้วต้องเก็บอารมณ์ข่มลึก
...ในเมื่อว่าดีๆไม่ฟัง ก็ต้องใช้มาตรการขั้นสุดท้าย
จับมันเปลี่ยนฝ่ายไปเลยจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับยูยะของเขาอีก!
TBC มาต่อแล้วนะจ้ะ^^
09 Plan to Uke
“ทำอะไรอยู่น่ะ พี่สึโยชิ?”ดวงตากลมโตกระพริบถี่ๆด้วยความงุนงง จ้องมองพี่ชายที่ถือดัมเบลอยู่ในมือด้วยความสงสัย
ตั้งแต่กลับมาพี่สึโยชิก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ แถมขังตัวเองอยู่ในห้องจนเธออดสงสัยไม่ได้
...ที่แท้ก็มายกดัมเบลเพิ่มกล้าม...
“พี่จะเพิ่มกล้ามเหรอ?”แม้จะรู้แต่ก็ถามเพื่อความมั่นใจ เด็กสาวอ้อมผ่านร่างผอมๆของพี่ชายก่อนจะนั่งแปะอยู่บนเตียงมองอีกฝ่ายตาไม่กระพริบ
สึโยชิเพียงพยักหน้าช้าๆก่อนจะวางดัมเบลลง เด็กหนุ่มเลิ่กแขนเสื้อตัวเองให้เห็นต้นแขนขาวๆนั่น ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มๆเนื้อบริเวณนั้นดูว่ากล้ามขึ้นบ้างรึยัง
“พี่ยกมากี่ทีแล้วน่ะ?”เด็กสาวถามด้วยความสงสัย มือบางๆพยายามดึงดัมเบลที่พี่เธอวางขึ้นมาบ้าง แต่เกร็งจนเห็นข้อขาวแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่ามันจะยกขึ้น!
“ข้างละ100”เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่ชักจะเริ่มหงุดหงิด
แขนผอมๆของเขามันไม่เห็นจะมีกล้ามขึ้นมามั่งเลย!
.
เด็กสาวมองพี่ชายตรงหน้าอย่างปลงสังเวช พอจะรู้เหตุผลว่าทำไมพี่เธอถึงฮึดจะเพิ่มกล้าม สงสัยวันนี้จะมีเรื่องกับพี่คาวามูระมาอีกถึงได้ฮึดหนักกว่าเดิม!
แต่ก็นะ...
“ไร้ประโยชน์น่ะ พี่สึโยชิ”คำพูดตัดความหวังที่เด็กหนุ่มฟังแล้วต้องค้อนขวับ เด็กสาวแกล้งส่ายหัวอย่างปลงสังเวชจนพี่ชายอยากจะเอาดัมเบลทุ่มใส่หน้านัก!
“พี่จำไม่ได้เหรอว่าตอนพี่อยู่ม.ต้นพี่ก็ทำแบบนี้ แล้วกล้ามมันขึ้นบ้างไหมล่ะ?”แม้จะเป็นความจริงแต่ฟังแล้วมันก็หงุดหงิดขัดใจ! เด็กหนุ่มมองน้องสาวตาขวางก่อนจะหยิบดัมเบลขึ้นมายกอีกครั้ง
“คราวนี้มันต้องได้สิน่ะ”คำพูดส่อเค้าความไม่ยอมแพ้ยิ่งทำให้สึโบมิต้องถอนหายใจหนักๆ
“พี่จำรุ่นพี่คุราโอะรุ่นพี่สมัยม.ต้นที่ตัวโตกว่าพี่เกือบสามเท่าได้ใช่ไหม? ที่กล้ามโตๆน่ะ”คำถามคุดขุ้ยเรื่องเก่าที่สึโยชิต้องเหลือบตาไปมอง พยักหน้าช้าๆแม้จะยังไม่หยุดยกดัมเบล
“แล้วพี่จำที่มันจับก้นพี่ได้ไหม?”
“แล้วขุดมาถามหาซากเธอเหรอ!”เด็กหนุ่มตะโกนอย่างฉุนๆ แต่กลับเรียกให้อีกฝ่ายยิ้มกว้าง
“ก็ต้องท้าวความหน่อยล่ะ หนูยังจำได้นี่ว่าพี่จับรุ่นพี่เขาทุ่มเสียหลังเดาะโทษฐานจับก้นของพี่น่ะ!”
“ไม่เห็นจะเป็นประเด็น”เด็กหนุ่มเอ่ยค้านเสียงแข็งแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ายัยน้องตัวดีหมายถึงอะไร
เด็กสาวมองเด็กหนุ่มที่โตแต่ตัวตรงหน้าด้วยความปลงอนิจจัง พี่สึโยชิน่ะคิดจะเพิ่มกล้ามมาแต่ไหนแต่ไรแต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง ทั้งๆที่เจ้าตัวก็แรงดีหยั่งกะช้างสาร! น่าจะปลงๆไปได้แล้วว่าตัวเองน่ะยังไงก็กล้ามไม่ขึ้น!
“หยุดนะวาคาบายาชิ!”เสียงตะโกนไล่หลังกลับเรียกให้เด็กหนุ่มเร่งสปีดเท้ามากขึ้น
นี่มันกรรมอะไรของเขาวะเนี่ย!
ตั้งแต่เขาต่อยไอ้รุ่นพี่บ้านั่นจนลงไปนอนวัดพื้น เขาก็กลายเป็นที่ต้องการตัวของชมรมคาราเต้ขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน เขาเพิ่งมารู้ว่าคนที่เขาล้มไปเป็นรองกัปตันของชมรม แล้วยังเป็นคนเดียวกับที่พาลูกน้องเป็นโขยง วิ่งไล่ตามตัวเขาตอนนี้อีกต่างหาก!
“หยุดนะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”เสียงตะโกนเรียกจากด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มเบ้หน้าด้วยความขัดใจ ใครจะหยุดให้โง่!
พูดไปก็เหมือนพ่นลมใส่! บอกว่าไม่เข้าๆก็ยังตื๊ออยู่นั่นแหละ อะไรกันนักกันหนาวะ!
กลุ่มคนด้านหลังเริ่มตามติดกระชั้นจนสึโยชิต้องเบี่ยงตัวหนีไปทางบันได เขากระโจนพรวดเดียวก็ลงไปบันไดขั้นสุดท้าย ก่อนจะวิ่งต่อหน้าตาเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ความสามารถที่สึโยชิคงไม่รู้ว่ายิ่งทำให้คนในชมรมยิ่งมุ่งมั่น
ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาตัวมาเข้าชมรมให้ได้!
“ขะ... ขอโทษ ทะ ที่มาสาย”สึโยชิพูดพลางลากร่างชุ่มเหงื่อของตนเดินมาทางโต๊ะข้างยูยะ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
เขารบกับไอ้รุ่นพี่บ้าพวกนี้มาเกือบอาทิตย์ แถมไม่มีวี่แววว่าพวกนั้นจะรามือง่ายๆ!
ยูยะทอดสายตามองสึโยชิที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเห็นใจ มือบางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาก่อนจะเช็ดแก้มขาวซีดที่โผล่พ้นต้นแขนที่เจ้าตัวใช้หนุนรองเนิบช้า
“ขอบคุณนะ ยูยะ”เด็กหนุ่มไม่ลืมที่จะหยอดคำหวานก่อนจะจับมือนิ่มนั่นมาอังแก้ม ทอดสายตามองนิ่งจนคนโดนมองแก้มขึ้นสีก่ำ...
เขาไม่หยุดศึกกับไอ้เลวนารุมิง่ายนักหรอก!
.
แล้วพลันบรรยากาศหวานฉ่ำนั้นก็หยุดชะงักลง เมื่อน้ำเกือบทั้งขวดถูกรินรดใส่หัวของสึโยชิราวกับโดนรดน้ำ ร่างขาวสะดุ้งเฮือก สะบัดศีรษะก่อนจะเตะโต๊ะใส่คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยความหงุดหงิด
นารุมิใช้เท้าดันโต๊ะนั้นไว้อย่างง่ายๆ เด็กหนุ่มแย้มยิ้มมุมปาก ประสานสายตากับอีกฝ่ายที่จ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง
“แกราดน้ำใส่ฉันทำไม คาวามูระ!”สึโยชิกดเสียงต่ำกลั้นความโมโห เท้าของเขายังดันโต๊ะพยายามจะถีบใส่คนตรงหน้าที่ใช้เท้าดุนไว้สุดกำลัง
“ก็เห็นนายเหนื่อย”นารุมิพูดน้ำเสียงราบเรียบ สะกดอาการเหนื่อยของตนจากการออกแรงดันโต๊ะ ....เห็นตัวผอมๆไม่รู้มันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน แรงเยอะเป็นบ้า!
.
ยูยะแทบจะร้องเสียงหลงเมื่อมือเรียวของทั้งคู่คว้าเก้าอี้ข้างตัวเตรียมทุ่มใส่อีกฝ่าย ร่างบางกระโจนกอดสึโยชิที่อยู่ใกล้กว่าสุดตัว ขอร้องเสียงเอื่อยว่าให้วางเก้าอี้ลง
“ก็ได้”สึโยชิว่าเรียบๆไม่สมนิสัย เขาวางเก้าอี้ลงข้างๆ ก่อนจะแย้มรอยยิ้มหวานที่นารุมิเห็นแล้วใจไม่ค่อยดี...
“ปล่อยนะ ทำอะไรน่ะสึโยชิ!”ยูยะร้องเสียงหลง ร่างบอบบางดิ้นขลุกขลักเมื่อคนตัวโตกว่าช้อนร่างทั้งร่างของเขาไว้ในอ้อมแขน ดวงหน้างามขึ้นสีก่ำแดงเรื่อจนสึโยชิอดไม่ได้ที่จะห้อมแก้มแผ่วเบาอย่างเอ็นดู...
ไม่สนใจนารุมิที่จ้องมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ!
“ปล่อย ทำบ้าอะไร วางฉันลงนะ”ยูยะยังคงดิ้นพล่าน มือขาวทุบอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“ก็ยูยะบอกให้วางเก้าอี้ก็วางแล้วไง ...อุ้มยูยะดีกว่ากันเยอะ”เหตุผลที่ยูยะฟังแล้วต้องก้มหน้างุด สะบัดดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนจนสึโยชิต้องค่อยๆวางลงบนพื้น ไม่ลืมที่จะขโมยหอมแก้มอีกครั้ง
การกระทำทั้งหมดที่นารุมิเห็นแล้วต้องเก็บอารมณ์ข่มลึก
...ในเมื่อว่าดีๆไม่ฟัง ก็ต้องใช้มาตรการขั้นสุดท้าย
จับมันเปลี่ยนฝ่ายไปเลยจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับยูยะของเขาอีก!
TBC มาต่อแล้วนะจ้ะ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น