คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 5 : เพื่อนใหม่
แม่มดปริศนากดเธอลงกับพื้น สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงเงาของเจ้าตัวที่ทาบทับลงมาบนร่าง ทอดลงสู่พื้นดิน เมื่อมือไม่เป็นอิสระก็ไม่อาจใช้พลังเวทย์ได้
"อึก! แล้วเธอกล้าดียังไงมาทำอาณาเขตยันต์รูนฆ่าคนอื่นแบบนี้!" ลูน่าเอ่ยพลางพยายามขัดขืนและสลัดตัวให้หลุด
"อาณาเขตของข้าไม่เคยฆ่าผู้ใด แต่เจ้าทำลายมัน.."
ชิ้ง! เสียงคล้ายของมีคมถูกดึงออกมาจากฝัก
"อย่านะ! เจ้าอย่าคิดจะทำอะไรลูน่านะ!" สิ่งที่แซนดี้ทำได้มีเพียงการเอาตัวกระแทกสร้างความรบกวน แต่ก็ถูกจับและเขวี้ยงออกไปง่ายดาย
"เจ้าก็จงเป็นคนแรกที่ตายเสียเถิด แม่มดน้อย!"
ในจังหวะนั้นเองลูน่าก็สะบัดมือหลุดจากการพันธนาการ เธอพลิกตัวมาประชันกับแม่มดปริศนาซึ่ง ๆ หน้า
เธอใช้พลังเวทย์ต้านปลายมีดสั้นที่กำลังจะจ่อคอหอยอยู่รอมร่อ ขณะนั้นเอง ผ้าที่ปิดบังหน้าของแม่มดปริศนาก็ได้ถูกเปิดออก
หน้าของเจ้าตัวดูไม่ได้อายุมากไปกว่าเธอเลยสักนิด แต่เมื่อตาประสานตา คล้ายมีลมอ่อน ๆ พัดผ่าน แม่มดปริศนาก็ชะงักนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเก็บมีดกลับเข้าฝักแล้วลุกขึ้นจากตัวเธอ
"..." นางไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพียงแต่มองเข้ามาในดวงตาของลูน่าอย่างตกตะลึง แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความรู้สึกสงสัย
แม้แต่เธอเองที่เมื่อตั้งท่าจะสู้เต็มที่ยังต้องประหลาดใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไป
"ข้าว่าข้า.. เคยเจอเจ้ามาก่อน" แม่มดปริศนาพูดพลางปลดผ้าคลุมหัวลงให้ได้เห็นใบหน้าของตนได้ชัดเจน
คำพูดนั้นทำให้ลูน่าเอียงหัวเล็กน้อย "หมายความว่ายังไง.. ฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อน อย่ามาหลอกให้ไขว้เขวหน่อยเลย! พยายามจะทำให้ฉันสับสนเพราะจะโจมตีทีเผลอใช่ไหมล่ะ!"
เธอเกือบเคลิ้มไปแล้ว แม้จะรู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่าท่าทีนั้นดูจริงเหลือเกิน แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าพยายามจะฆ่าเธอ และไว้ใจไม่ได้
กรร..
ชิ้ง! แม่มดปริศนาชักมีดสั้นออกมาอีกครั้ง นั่นทำให้ลูน่าเรียกพลังขึ้นมาบนมือเช่นกัน
"ระวัง..."
"จะเตือนให้ฉันระวังอะไรอีกล่ะ ฉันไม่กลัวแกหรอกนะ"
กรร..
"อย่าขยับ..."
ลูน่าไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำว่าตรงนี้มีใครอยู่อีกนอกจากเธอและแม่มดลึกลับตรงหน้า คิดเพียงแต่ว่าคนตรงหน้าจะมาไม้ไหนอีก เธอจะได้ตั้งตัวรับทัน
คมมีดลุกไหม้เป็นเปลวเพลิงสีฟ้า นั่นคงจะเป็นเวทย์มนต์ของเจ้าตัว ลูน่ากะตั้งรับเต็มที่ แต่เพียงพริบตาเดียว แม่มดปริศนาก็หายวับไปกับตา
ด้านบน ซ้าย ขวา ไม่มี ถ้าอย่างนั้นก็ด้านหลัง!
ฉึก!
"โฮกกก!!!" เสือสีน้ำเงินขนาดใหญ่ส่งเสียงคำรามลั่นป่าด้วยความเจ็บปวด แม่มดปริศนาวาร์ปขึ้นไปบนคอของมันแล้วใช้มีดปักลงที่กลางหน้าผากจนมันพยายามสะบัดนางให้หลุด
เสือไพลินตัวนี้น่าจะลงมาจากต้นไม้เพราะหมอกจากต้นหมอกครามเริ่มหนา และการต่อสู้จนต้นไม้โค่นล้มคงจะพามันมาที่นี่
แต่เมื่อกี้แม่มดปริศนาพยายาม..ช่วยเธอ?
"หมอบซะ!" หญิงสาวเจ้าของผ้าคลุมน้ำเงินโผตัวลงจากหลังเสือมาที่ลูน่า พยายามเอาตัวบังเธอเอาไว้ เธอหมอบลงตามที่ว่า ท่ามกลางฝุ่นตลบและหมอกหนาอบอวลไปหมด เพราะตอนนี้เสือไพลินที่กำลังทุรนทุรายได้สะบัดส่ายทำลายต้นไม้ใบหญ้าไปทั่วอย่างไร้ทิศทาง
"เจ้ารีบออกไปจากตรงนี้เร็วเข้า หากช้าอยู่จะเป็นอันตราย"
"ทำไมถึง.."
"ไม่มีเวลาถามแล้ว ไปเร็ว!"
เธอเชื่อฟังแต่โดยดีและพยายามฝ่าหมอกหนาที่หนาขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เสียงต้นไม้ที่หักโค่นและเสียงเสือไพลินคำรามดังต่อเนื่องไม่หยุด
หมอกนั้นทำให้ทัศนวิสัยรอบกายมองยากไปหมด เธอไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอะไรอยู่บนพื้นจนทำให้เท้าไปเกี่ยวกับรากไม้
"อ๊ะ!!" ลูน่าเสียการทรงตัว ล้มลงในพุ่มไม้ จนทำให้แม่มดผ้าคลุมน้ำเงินที่พาเธอออกมาพลอยล้มไปด้วย
ร่างของอีกฝ่ายทับอยู่บนตัวเธอ หน้าของทั้งคู่ใกล้กันยิ่งกว่าเมื่อกี้เสียอีก
คนที่มีความชอบในผู้หญิงเป็นทุนเดิม แค่แววตาสีไพลินคู่นั้นอยู่ใกล้เธอขนาดนี้ ใจก็เตลิดไปไหนต่อไป แต่เสียงของเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ที่วิ่งเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ก็ทำให้เธอใจเต้นแรงด้วยความเครียดในสถานะการณ์เสี่ยงตายไม่แพ้กัน
จนกระทั่งร่างทมิฬขนาดใหญ่แหวกหมอกสีน้ำเงินออกมา เสือไพลินตัวนั้นกำลังจะกระโจนใส่เธอและอีกคน
"เชี่ย!" ทุกอย่างปุบปับไปหมด ความตกใจที่ความตายอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมหลายต่อหลายครั้งทับถมกัน นัยน์ตาสีดำของลูน่าเกิดจุดแสงสีขาวประกายทองขึ้น ก่อนที่มือขวาจะปาบอลเวทย์ออกไป
บอลเวทย์นั้นแตกออกก่อนที่จะถึงตัวเสือไพลิน แต่มันได้เผาไหม้อากาศดูดกลืนหมอกสีน้ำเงินรอบบริเวณจนเกินเป็นประตูมิติวงกลมที่ปลายทางคืออีกฟากฝั่งหนึ่งของป่าหมอกคราม
เสือไพลินกระโจนเข้าประตูมิตินั้นพอดิบพอดี ก่อนที่ประตูมิติจะหายไป และทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
การกระทำนั้นอยู่ในสายตาของแม่มดผ้าคลุมน้ำเงินทั้งหมด ตาของนางเป็นประกายทันทีที่ได้เห็นสิ่งที่ลูน่าก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำได้ยังไง
"เจ้าทำเวทย์เมื่อครู่ได้อย่างไร"
"เอ่อ..."
"ลูน่า! ลูน่า! เจ้าอยู่ไหน" เสียงของแซนดี้ทำให้เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเจ้าหนังสือขี้บ่นไม่ได้อยู่ตรงนี้ ต่างฝ่ายต่างกุลีกุจอลุกขึ้นปัดฝุ่นก่อนที่แซนดี้จะลอยมาถึงและพยายามจะพุ่งเข้ามาเอาตัวกระแทกแม่มดผ้าคลุมน้ำเงินตรงหน้า
"เดี๋ยวก่อนแซนดี้!" ลูน่าคว้าหมับไว้คามือ
"เจ้าปล่อยข้านะลูน่า นางพยายามจะฆ่าเจ้านะเจ้าเพี้ยนไปแล้วหรือไง! อื้อ! อื้อ!"
ทางเดียวที่จะปิดปากหนังสือที่เปิดไม่หยุดก็มีแต่ต้องหนีบไว้ที่รักแร้เท่านั้นแหละ
ท่าทีของนางดูรู้สึกผิดเล็กน้อยหลังจากที่แซนดี้บอกว่านางพยายามจะฆ่าเธอ มีเพียงการเอามือไพล่หลัง เสียงหัวเราะเบา ๆ และตาที่หลุบต่ำลงเท่านั้น ไม่ได้พยายามจะแก้ตัวใด ๆ
ลูน่าสังเกตดูแล้วจึงยอมให้อภัย ก่อนจะยื่นมือซ้ายออกมา "ลูน่า ..มูนไชน์"
นี่แหละฤกษ์ตั้งชื่อใหม่เท่ ๆ ที่เธอรอมาแสนนาน
นัยน์ตาสีไพลินที่หลุบต่ำลงเมื่อเห็นเธอยื่นมือออกมาพลางแนะนำตัวก็กลับมาสบสายตากันอีกครั้ง ก่อนที่มือซ้ายของเจ้าตัวจะจับมือเธอกลับ
"ชาร์เล็ตต์ ซันไรซ์" นางเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลง ชาร์เล็ตต์จึงได้นำทางไปยังที่พักของตนที่อยู่ในป่าหมอกครามแห่งนี้ เธอทึ่งสุด ๆ ไปเลยที่ได้รู้ว่าชาร์เล็ตต์อยู่ที่นี่คนเดียว
เต็นท์ของชาร์เล็ตต์อยู่เบื้องหน้าแล้ว แต่เมื่อลูน่าจะก้าวเข้าไปในเขตที่ถูกล้อมด้วยก้อนหิน ชาร์เล็ตต์จึงก้าวเข้าไปก่อนและยืนขวางไว้
"หืม? มีอะไรเหรอ"
"ข้าอนุญาตให้เจ้าทั้งสองเข้ามาได้" นางเอ่ยพลางยื่นมือข้างหนึ่งมาให้เธอจับ
"เอ่อ.. ขอบคุณนะ" ถึงจะงงนิดหน่อย แต่ลูน่าก็รับมือนั้นและก้าวเข้าไป
แต่เมื่อก้าวเข้าไปแล้วจึงเข้าใจ เธอเห็นโดมข่ายพลังเวทย์สีฟ้าก่อตัวกันครอบคลุมที่นี่เอาไว้ เมื่อมองไปตามต้นไม้รอบ ๆ ก็เห็นว่ามียันต์รูนสลักอยู่
"ยันต์รูนอาณาเขตแปดเหลี่ยมงั้นเหรอ.."
"เจ๋งไปเลยใช้ไหมล่ะ ข้าดัดแปลงมันรวมกับคาถาป้องกันน่ะ" ชาร์เล็ตต์เอ่ยพลางถอดผ้าคลุมออก ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะปาบอลเวทย์ลงไปบนแคมป์ไฟให้ไฟลุก นางนั่งลงบนขอนไม้ที่ตั้งอยู่รอบแคมป์ไฟ
"นั่งลงก่อนสิลูน่า ข้าจะเล่าเรื่องของข้าให้ฟัง"
ความคิดเห็น