ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Karna : บุตรแห่งพระอาทิตย์
Lancer : กรรณะ (Karna)
บุตรแห่งพระอาทิตย์
กรรณะ บุตรแห่งพระอาทิตย์ วีรชนผู้คงกระพันแห่งตำนานมหากาพ มหาภารตะ ของอินเดียโดยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ผู้ทรงอิทธิพลอย่าง ปาณฑพ (Pandava) และ เการพ (Kaurava) กรรณะถูกกล่าวขานในฐานะคู่ต่อสู้ของอรชุน (Arjuna)
กรรณะเกิดมาจากลูกสาวของกษัตริย์นามว่า กุนตี (Kunti) กับเทพพระอาทิตย์นามว่าพระสุริยเทพ พระนางกุนตีเป็นภรรยาของกษัตริย์แห่งกรุงหัสตินาปุระ (Kuru) นามว่าท้าวปาณฑุ (Pandu) แต่เขาได้ถูกสาปทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ ดังนั้นพระนางกุนตีจึงต้องหาวิธีอื่นในการมีลูก เธอมีเวทย์มนตร์ที่สามารถทำให้เธอมีลูกกับพระเจ้าองค์ใดก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้น เธอได้มีลูกกับเทพองค์อื่นก่อนที่จะเป็นพระชายาของพระราชา เธอได้ให้กำเนิดกรรณะ เด็กชายตัวสีทองผู้ซึ่งเป็นลูกของเทพพระอาทิตย์ พระนางกุนตีเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นแต่เธอก็กลัวว่าพระเจ้าจะไม่ยอมรับลูกของตัวเอง
พระนางกุนตีจึงสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระสุริยเทพว่า "ข้าต้องการพิสูจน์ว่าลูกคนนี้คือลูกของท่านสุริยเทพ" ตัวของท่านได้ยินเสียงของกุนตี เขาได้ปล่อยให้กรรณะได้เกิดออกมาโดยได้ให้พลังวิเศษมาด้วยเพื่อเป็นหลักฐานว่ากรรณะเป็นลูกของเขา กรรณะเกิดมาพร้อมกับเกราะสีทองที่ทำให้กรรณะคงกระพัน เขาเกิดมาเพื่อเป็นวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่าพระนางกุนตีเลี้ยงดูเขาอย่างดี แต่เธอก็ได้ละทิ้งเขาไป เธอไปเป็นพระชายาของกษัตริย์แห่งกรุงหัสตินาปุระ กรรณะต้องดิ้นรนด้วยสิ่งที่เหลืออยู่อย่างเดียวนั่นก็คือ เกราะที่ท่านเทพได้ให้ไว้ตอนเกิด แต่กรรณะก็ได้อยู่ในสังคมที่แสนตกต่ำ
ตัวของกรรณะจำหน้าของแม่โตัวเองไม่ได้ แม้ว่าเขาจะรับพลังที่ยอดเยี่ยมมาจากพ่อของเขา แต่เขาก็ไม่รู้จักความรู้สึก อารมณ์ของมนุษย์เพราะว่าไม่มีแม่มาคอยสอนเรื่องต่างๆให้ เขามักมีสีหน้าที่โหดเหี้ยมและมักเป็นหัวรุนแรง แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยคิดเกลียดชังแม่ของเขาหรือสภาพแวดล้อมต่างๆที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้เลยแม้แต่น้อย แม่และพ่อของเขาเป็นคนให้ชีวิตเขา ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีวันเเกลียดชังแม่ของตนเอง แต่มีอย่างเดียวที่เขารังเกียจก็คือตัวเขาเอง ถึงอย่างนั้น กรรณะก็เป็นเด็กที่มีคุณธรรม ที่เขาเป็นแบบนี้ก็คงเป็นเพราะเขาอยู่ตัวคนเดียว เขาไม่มีญาติเลยซักคนที่จะให้ความสุขกับเขาได้ ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเลือกเส้นทางของตัวเขาเอง สิ่งที่กรรณะมีอยู่ก็คือความเชื่อมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่นำความอัปยศมาสู่พ่อแม่ของตนเอง
กรรณะได้เติบโตเป็นหนุ่มในการเลี้ยงดูของพ่อเลี้ยงที่เป็นสารถีนามว่า อธิรัฐ และภรรยาของเขา นางราธา วันหนี่ง เขาได้ร่วมการประชุมของครอบครัวแห่งกรุงหัสตินาปุระของฝ่ายปาณฑพ โดยพี่น้องปาณฑพทั้ง 5 ก็หลงใหลในศิลปะการต่อสู้ของอรชุน พี่น้องคนที่สามในตระกูล ผู้ซึ่งมีฝีมือในการใช้ธนูที่เก่งกาจแบบไม่มีใครหาเปรียบได้ กรรณะได้กระโจนเข้าร่วมและแสดงทักษะฝีมือที่เท่ากับระดับของอรชุน เขาได้ท้าทายอรชุนเพื่อตัดสินว่าใครดีกว่ากัน แต่ในฐานะที่อรชุนอยู่ชนชั้นแบบกษัตริย์ แต่ตัวเขาที่อยู่ในวรรณะแพศย์ หรือวรรณะศูทร การท้าทายของกรรณะถูกปฏิเสธพร้อมกับคำหัวเราะของเหล่าพี่น้อง แต่ก็มีคนเข้ามาช่วย นั่นก็คือพี่ชายคนโต หนึ่งในเจ้าชายของแคว้นเการพ ผู้ต่อต้านปาณฑพนามว่า ทุรโยชน์หรือทุรโยธนะ (Duryodhana) เขาสนใจในตัวของกรรณะและจะปั้นเขาให้กลายเป็นกษัตริย์
กรรณะได้เติบโตเป็นหนุ่มในการเลี้ยงดูของพ่อเลี้ยงที่เป็นสารถีนามว่า อธิรัฐ และภรรยาของเขา นางราธา วันหนี่ง เขาได้ร่วมการประชุมของครอบครัวแห่งกรุงหัสตินาปุระของฝ่ายปาณฑพ โดยพี่น้องปาณฑพทั้ง 5 ก็หลงใหลในศิลปะการต่อสู้ของอรชุน พี่น้องคนที่สามในตระกูล ผู้ซึ่งมีฝีมือในการใช้ธนูที่เก่งกาจแบบไม่มีใครหาเปรียบได้ กรรณะได้กระโจนเข้าร่วมและแสดงทักษะฝีมือที่เท่ากับระดับของอรชุน เขาได้ท้าทายอรชุนเพื่อตัดสินว่าใครดีกว่ากัน แต่ในฐานะที่อรชุนอยู่ชนชั้นแบบกษัตริย์ แต่ตัวเขาที่อยู่ในวรรณะแพศย์ หรือวรรณะศูทร การท้าทายของกรรณะถูกปฏิเสธพร้อมกับคำหัวเราะของเหล่าพี่น้อง แต่ก็มีคนเข้ามาช่วย นั่นก็คือพี่ชายคนโต หนึ่งในเจ้าชายของแคว้นเการพ ผู้ต่อต้านปาณฑพนามว่า ทุรโยชน์หรือทุรโยธนะ (Duryodhana) เขาสนใจในตัวของกรรณะและจะปั้นเขาให้กลายเป็นกษัตริย์
กรรณะถูกช่วยออกมาจากความอัปยศอดสู พี่น้องทั้งห้าของปาณฑพได้หัวเราะเยาะเย้ยตัวของกรรณะที่แสดงฝีมือที่เก่งกาจกว่าพวกเขาออกมา โดยได้กล่าวออกมาว่า "เป็นแค่ลูกชายของสารถี ก็ควรรู้จักตำแหน่งของตัวเองบ้างนะ" คำพูดนี้ทำให้กรรณะโกรธมาก ถ้าพวกเขาได้เยาะเย้ยตัวเขาเอง เขาจะไม่โกรธและยอมออกไปจากที่นี่ แต่เขาดูหมิ่นพ่อของกรรณะ สิ่งที่พี่น้องทั้งห้าที่ทำต่อกรรณะนั้นไม่สามารถถอยกลับมาได้แล้ว แต่แล้วอาทิตย์ก็ตกลง งานจึงเลิกแค่นั้น กรรณะก็ถูกทุรโยชน์มาชวนไปยังงานของเจ้าชายทั้งร้อยคนของแคว้นเการพ
สิ่งที่รอคอยเขาอยู่ก็คือการต่อสู้กับพี่น้องทั้งห้าแห่งปาณฑพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอรชุน สงครามทุ่งกุรุเกษตร (Kurushetra) ก็ได้เริ่มขึ้น เป็นที่ๆกรรณะได้จบชีวิตลง กรรณะได้ใช้พลังของเขาเพื่อให้เหล่าเจ้าชายทั้งหนึ่งร้อยคน รวมถึงตัวของทุรโยชน์ ให้ได้รับชัยชนะ ถ้าด้านของปาณฑพมีคนๆเดียวเท่านั้นที่ต่อกรกับกรรณะได้ นั่นก็คืออรชุน แต่ตัวอรชุนเองก็คิดว่าสิ่งเดียวที่เขาจะได้รับจากการสู้กับกรรณะก็คือความตายเท่านั้นเอง
ในที่สุด นางกุนตีเดินทางมาพร้อมกับพระกฤษณะในร่างคนธรรมดา ปรากฏตัวออกมาพร้อมบอกความจริงเกี่ยวกับเชื้อชาติกำเนิดของกรรณะให้แก่เขาฟัง โดยกรรณะนั่นแหล่ะ เป็นพี่คนตัวสุดของพี่น้องฝั่งปาณฑพและเป็นพี่ชายของอรชุนด้วย และได้ขอให้กรรณะเลิกต่อสู้กับพี่น้องของตนเอง และเข้าร่วมกับฝ่ายปาณฑพเพื่อคว้าชัยชนะดีกว่า แต่กรรณะปฏิเสธ เพราะเข้าให้สัจจะกับทุรโยธนะ ผู้เป็นเพื่อนเป็นเพื่อนตายของเขาไปแล้วว่าจะสู้รบนำชัยชนะมาให้ เขาจึงยอมที่จะรบอย่างสมศักดิ์ศรีแล้วตายด้วยน้ำมือของอรชุนดีกว่า และเขาขอให้นางกุนตีเก็บความลับนี้ไว้ อย่าเอาไปบอกพวกเขาจนกว่ากรรณะจะสิ้นลมหายใจ ถึงจะบอกไปตอนนี้มันก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว
หลังจากนั้น พ่อของอรชุน พระอินทร์ (Indra) เทพแห่งสายฟ้า ได้แปลงกายมาเป็นพราห์มมาหากรรณะ แล้วมาเอาเกราะสีทองของเขาไป ทำให้เขาสูญเสียความคงกระพันที่ได้รับจากพ่อไป แต่เขาก็ไม่หยุดที่จะร่วมสู้ในสนามรบ พราห์มได้ถามไปว่ ทำไมไม่เกลียดพระอินทร์ที่ได้กำเนิดอรชุนมา กรรณะตอบไปว่า "ไม่จำเป็นต้องเกลียดท่านเลย ความจริงแล้ว ถึงท่านจะเป็นพระเจ้า แต่ท่านก็เป็นพ่อ นั่นแหล่ะเป็นสิ่งที่ทำให้ข้ามีความสุข" พราห์มถามต่อว่า "ทำไมเจ้ายังมุ่งหน้าที่จะไปสนามรบต่อ" เขาตอบไปว่า "สำหรับข้า ความพ่ายแพ้จะนำความอับอายมาให้พ่อของข้า แม้ว่าความตายจะรอข้าอยู่ แต่ข้าก็ไม่สามารถหลบหนีไปจากมันได้" นั่นคือสิ่งที่กรรณะคิดไว้เสมอ สำหรับเขาผู้ใช้ชีวิตด้วยเกียรติของผู้ให้ชีวิตแก่เขาแล้ว ชีวิตของเขานั้น ไม่ได้เป็นของเขาเลยแม้แต่น้อย พระอินทร์ผู้เห็นความเป็นเทพจากตัวของกรรณะได้ปลาบปลื้ม จึงยกหอกศักษ์สิทธิ์ให้กับเขา พระอินทร์คิดว่า ถ้าให้หอกอันนี้แก่กรรณะ เขาจะสามารถใช้หอกได้อย่างยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยเหตุนั้น พระอินทร์จึงไม่ได้ให้หอกแก่อรชุน หลังจากนั้นกรรณะก็ได้ส่งพระอินทร์กลับไป และเขาก็มุ่งหน้าไปยังสนามรบ
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับอรชุน กรรณะได้ต่อสู้โดยไม่มีพรรคพวกเลย คนขับรถม้าของเขาก็แปรพักตร์ไปแล้ว เขามีภาระที่ต้องแบกรับอย่างมากนั่นคือการต่อสู้กับน้องชายของตนเอง ในขณะการต่อสู้ รถม้าของเขาไปติดหล่มตามคำสาปแช่งของพราห์มที่กรรณะเคยเผลอแผลงศรไปถูกวัวของเขาตาย อรชุนเตรียมง้างธนูอย่างเป็นเต็มแรง ลูกศรได้ยิงทะลุหัวของกรรณะจนกรรณะได้ตายจากไป
กรรณะเป็นชายหนุ่มผมขาวยาวดูรุงรัง ดวงตาของเขาเหมือนกับใบมีดที่คมกริบและมีอัญมณีสีแดงฝังอยู่ในอกส่องแสงน่าหลงใหล นอกจากนั้นยังมีชุดเกราะที่น่าดึงดูดอีกด้วย นิสัยของเขาเป็นคนเย็นชา แม้ว่าการพูดคุยกับเขาจะดูค่อนข้างทำให้เขาดูเย่อหยิ่งและน่าเบื่อ แต่ความจริงเขาเป็นคนที่มักจะคิดให้ถี่ถ้วนและมีหัวใจทั่ซื่อสัตย์ เขาให้ความรู้สึกที่เย็นยะเยือกและดูโหดเหี้ยมเพราะเขาเชื่อว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปรกติ เขาเป็นคนที่ไม่มีความเกลียดชังและความหึงหวงในตัวเขาเลย
อาวุธที่สำคัญที่สุดของเขาคือ ความตั้งใจ ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งและนิสัยที่มีน้ำใจของเขา ทำให้เขาเป็นวีรบุรุษผู้ซึ่งมีน้ำใจมากที่สุด เขาเป็นคนที่ทำตามคำสั่งด้วยไม่มีการคัดค้าน เขารับใช้มาสเตอร์โดยให้ความสำคัญแก่ตัวมาสเตอร์เป็นอันดับหนึ่ง เขาไม่ได้มีความปรารถนาต่อจอกเลยแม้แต่น้อย
ความสามารถเฉพาะคลาส
ต่อต้านเวทย์มนต์ (Magic Resistance) C
ยกเลิกเวทย์ที่มีคำร่าย 2 บทลงไป แต่ไม่สามารถป้องกันเวทย์มนต์ขนาดใหญ่ หรือ เวทย์พิธีกรรมได้ ต่อต้านเวทย์ระดับนี้ถือว่าต่ำมากสำหรับ คลาส เซเบอร์ แต่เนื่องจากเขามีเกราะแห่งพระอาทิตย์การมีความสามารถนี้ในระดับที่ต่ำไม่ใช่ปัญหา
การขับขี่ (Riding) A
สามารถขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด รวมถึงเหล่าสัตว์มายา ยกเว้นเผ่ามังกร
ความสามารถเฉพาะตัว
ความเป็นเทพ (Divinity) A
นอกจากเขาจะเป็นครึ่งเทพแล้ว มีตำนานว่าเมื่อเสียชีวิตไป เขาก็กลับไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสุริยะเทพ ทำให้เขามีความเป็นเทพที่สูง
ปลดปล่อยพลังเวทย์ไฟ (Mana Burst-Flame) A
ความสามารถในการใช้พลังเวทย์โจมตี ป้องกัน หรือ เสริมพลังกาย ออกมาในรูปแบบเปลวไฟ
ประสบการณ์ของผู้อาภัพ (Discernment of the Poor) A
เขาจะไม่ถูกหลอกด้วยคำพูดอย่างเด็ดขาด เป็นความสามารถในการรับรู้ธาตุแท้ของมนุษย์ เป็นความสามารถจากประสบการณ์ที่เขาได้ใช้ชีวิตโดยไร้ญาติขาดมิตร
วิชายุทธ์ของกษัตริย์ไร้มงกุฎ (Uncrowned Martial Arts) ---
จะทำให้ศัตรูประเมินความสามารถของกรรณะต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้ในอาวุธอย่างของเขา รวมถึงความสามารถ ขับขี่ (Riding) และ ความเป็นเทพ (Divinity) จะต่ำกว่าความเป็นจริงหนึ่งระดับ
สมบัติวีรชนที่ครอบครอง
"สรรพสิ่งล้วนจะจบลง! วาสวี ศักติ!"
กวจะและกุณฑล Kavacha And Kundala : สุริยัญเอ๋ยจงกลายเป็นเกราะ
ประเภท : ต่อต้านบุคคล (ตนเอง)
ระดับ : A
เกาะที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของกรรณะของขวัญจากสุริยะเทพ มันคือส่วนหนึ่งของร่างกายเขาเลยก็ว่าได้ ความสามารถของมันคือการลดประสิทธิภาพ ความเสียให้จะลดลงเหลือ 1 ใน 10 ของการโจมตีจริง ทำให้เขาเป็นวีรชนที่แข็งแกร่งมาก แต่เกราะนี้ป้องกันเพียงการโจมตีจากภายนอกเท่านั้น และตราบใดที่มันยังทำงานอยู่มานาของกรรณะก็จะลดลงเรื่อยๆ
พรหมมาส กุณฑล : Brahmastra Kundala พระพรหมเอ๋ยจงสาปแช่งข้า
ประเภท: ต่อต้านประเทศ
ระดับ: A+
มันเป็นธนูที่ได้รับมาจาก ปรศุราม ร่างอวตารที่หกของพระราม หากถูกอัญเชิญมาในฐานะ Archer มันก็จะเป็นธนู แต่หากอัญเชิญมาเป็นอย่างอื่น มันก็จะอยู่รูปแบบการโจมตีระยะไกล มันเป็นการเพิ่มพลังไฟจาก ปลดปล่อยพลังเวทย์(ไฟ)(Mana Burst-Flame) เข้าไปการโจมตีระยะไกลเพื่อสร้างการโจมตีที่มีพลังทำลายเท่าระเบิดนิวเคลียร์
นอกจากนี้เขายังสามารถใช้รูปแบบที่รุนแรงน้อยกว่าโดยการไม่เรียกชื่อของมัน จะเป็นการยิงเลเซอร์ออกจากตา รูปแบบนี้จะใช้ไม่ได้คำศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเขา
วาสวี ศักติ Vasavi Shakti : สุริยัญเอ๋ยจงสังหาร
ประเภท: เทพ
ระดับ: EX
หอกเทพที่ได้รับมาจาก พระอินทร์ โดยแลกกับชุดเกราะที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เมื่อใช้งานเกราะของกรรณะจะหายไป มันมีพลังในการยิงสายฟ้าที่มีพลังทำลายมหาศาลจนสามารถเปลี่ยนภูมิประเทศได้ ตามันเป็นอาวุธที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว
เมื่ออยู่ในรูปแบบที่ผนึกอยู่กรรณะก็ยังสามารถใช้มันโจมตีได้ ซึ่งพลังการโจมตีของมันแม้จะไม่ได้ถูกเรียกชื่อก็ยังเท่ากับ การโจมตีทางกายภาพระดับ A
-------------------------------------------------------------------------
มีเพจแล้วเน้อ : Kokowa ฉันแค่อยากแปล
-------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วนะครับ กับประวัติของวีรชนท่านนี้ กรรณะ บุตรแห่งพระอาทิตย์ ผู้ใจบุญนะครับ บางตำนานเล่าว่า ตอนที่เขาตาย เขาไม่ได้ตายทันที แต่เขาบาดเจ็บสาหัส แล้วพ่อของเขาแปลงร่างเป็นขอทานมาขอของเขา เขาไม่มีอะไรให้แล้ว แต่ขอทานบอกว่าในปากมีฟันทองอยู่ กรรณะเลยเอาหินทุบปากให้ฟันหลุดออกมาแล้วมอบให้เขา ผู้เป็นพ่อเห็นแบบนั้นจึงพาลูกไปอยู่บนสวรรค์ เป็นคนที่ีดีจริงๆนะครับ สำหรับตอนนี้ก็แปลยากมากๆ เพราะศัพท์ฮินดีเยอะเลย และไม่เคยอ่านมหาภารตะมาก่อนด้วย ผิดตรงไหนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ใครที่ชอบก็อย่าลืมกดติดตามและกดถูกใจแฟนเพจด้วย วันนี้ลาไปก่อน พบกันใหม่ตอนหน้าเน้อ (เหนื่อย- แฮ่กๆ - -*)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น