ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC BLOCK B & WINNER) PINK TO GRAY {COYOON} #REWRITE

    ลำดับตอนที่ #10 : 08 วีธีจีบที่ถูกต้องต้องแกล้งทำเป็นลืมของ

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 59



    PINKGRAY

     วีธีจีบที่ถูกต้องต้องแกล้งทำเป็นลืมของ

     

     

     

     
     

     

                    การกวนตีนเด็กเล่นคือสิ่งที่ทำให้พี่โค่มีความสุข

     

                    พอเห็นหน้าโกรธๆเหวี่ยงๆของมันละยิ่งรู้สึกสนุกสนานจุงกระเบย.. มองร่างของรุ่นน้องคนละสาขาที่เดินนำสะบัดก้นหนีไปตั้งแต่บอกลากับแม่ไป ดูเหมือนแม่ของอีกฝ่ายจะให้ความร่วมมือกับการแกล้งเด็กน้อยมากเกินไปถึงขนาดเอ็นดูให้เขาได้เป็น ลูกสะใภ้ หรือ ลูกเขยอะไรเทือกนั้น ซึ่งอันนั้นเขาเองก็ยังไม่ได้คาดหวังอะไรขนาดนั้นมาก่อนซะเท่าไหร่

                    แค่อยากแกล้งล้วนๆไม่มีอะไรผสม

     

                    มั้ง

     

                    แต่การแกล้งแค่นั้นคงไม่สาแก่ใจสำหรับการที่เด็กปากห้อยเหมือนกันต้องทำให้หน้าเขาเยิน(อีกรอบ)แบบนี้ซะเท่าไหร่ เลยลากคอให้มาช่วยงานของฝั่งสาขาเขาเองซะเลย

                    เป็นอันว่าตอนนี้พี่โค่สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นพร้อมจะปะทุจากคนที่โดนบังคับให้ไปทาสีกับโฟมอยู่อีกมุมหนึ่ง.. นี่ก็พึ่งรู้วันนี้แหละว่าลูกหมามันดุขนาดนี้ได้ด้วยพอเห็นแบบนั้นก็เลยอดที่จะอู้งานของตัวเองแล้วเดินไปหาไม่ได้

                    “เหนื่อยมั้ยน้องยุน~” ทักทายเสียงหวานหวังจะได้ประโยคดีๆที่ไม่เคยได้รับตอบกลับมาบ้าง

                    “เงียบไปเลย” ไม่ดุเปล่ายังจะมาแยกเขี้ยวตาขวางใส่อีกคิกว่าน่ากลัวหรอนั่น.. อีกฝ่ายยกแปรงจุ่มสีชมพูขู่ต่อหน้าจนเขาต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง แล้วนี่ขนาดไม่ค่อยเต็มใจมาช่วยยังเก็บงานละเอียดขนาดนี้เลยนะเนี่ย คนเรานี่มันปากอย่างใจอย่างจริงๆ

                    แอบลอบมองแก้มของอีกฝ่ายที่เริ่มซับสีแดงจางๆจากแดดเปรี้ยงๆยามเช้ากลางสนามฟุตบอลแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าการที่ทำให้ลูกคุณหนูคัง ซึงยุนมาตากแดดแบบนี้มันผิดต่อคำมั่นสัญญาที่ไว้ให้กับคุณแม่ของอีกฝ่ายรึเปล่า? ไม่ได้เป็นห่วงเหมือนห่วงพวกผู้หญิงหรอกจริงๆ

                    จริงๆ ก็แค่ห่วงไง

                    “มึงไปช่วยข้างในปะเดี๋ยวกูทำเอง” แย่งแปรงจากอีกฝ่ายจนไอ่คนถูกสั่งทำนู้นทำนี่จิ๊จ๊ะเบ้ปากใส่ซ้ำสองลุกขึ้นปัดเศษหญ้าแล้วสะบัดก้นใส่รัวๆ

                    จังหวะนั้นเองที่ซึงยุนไม่ทันระวัง.. แข้งขาที่ว่าเล็กๆนั่นได้ไปเตะกับกระป๋องสีเทาจนหกเลอะเต็มโฟมที่ทาด้วยสีชมพูทำเอาอู จีโฮคนนี้ร้องเสียงหลงและก็ตามว่าด้วยเสียงขอโทษที่ฟังดูเหมือนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตามฉนับไอ่ลูกหมาจอมดื้อ

                    “เก๊าขอโทษครับตัวเอง” กัดปากกระพริบตาปริบๆแล้วยกมือไหว้ให้ดูน่าสงสารแล้วคิดว่าเขาจะให้อภัยหรอคัง ซึงยุน!!!!

                    “ไอ่แสบ!!!!!!

     

     

                    กว่าจะสงบศึกกันได้ก็ทำเอาสีหมดไปเกือบครึ่งกระป๋องเพราะไอ้สีที่หายไปนั้นมันไม่ได้ไปไหนเลยนอกซะจากไปอยู่เต็มตามร่างของพวกเขาทั้งสองจนคนแถวนั้นมองสนามรบย่อมๆด้วยความตะลึง ก่อนที่พี่โค่คนนี้จะนั่งมองผลงานศิลปะชิ้นเอก(โดยจิตรกรคัง)สลับกับหน้ามินโฮที่แม่งทำท่าจะกรี๊ดอยู่รอมร่อ

                    “เอาไงวะพี่ ทำใหม่หรอ?” หันไปหาลูกทีมคิดไม่ตกว่าควรแก้งานหรือทำใหม่ดีเพราะไอ่โฟมที่ว่านี่มันสำคัญน้อยซะเมื่อไหร่.. ก็ไอ่ซง มินโฮมันอุตส่านั่งวาดตั้งแต่เมื่อคืนนั่นน่ะสิ

                    “ฮือ ไม่เป็นไรนะน้องหมวยเดี๋ยวเค้าวาดใหม่ก็ได้” < เอาจริงหรือ

                    หันไปหาตัวต้นเหตุที่ก้มหน้าก้มตาสำนึกผิดเห็นแล้วก็น่าสงสารไม่แพ้กันยิ่งเห็นอีกฝ่ายเบะปากเงยหน้าช้อนตามามองตาปริบๆแล้วยิ่งใจอ่อน..

                    หยดสีที่เยิ้มลงมาเกือบจะถึงตาซึงยุนทำให้มือของเขาเลื่อนไปเช็ดออกอย่างอัตโนมัติราวกับเป็นสิ่งเร้าที่ตอบสนองโดยไม่ต้องใช้สมองสั่งการ

    “เดี๋ยวกูแก้งานเอง” พูดกับลูกทีมแต่สายตากลับจดจ้องที่เปลือกตาของซึงยุน

    ค่อยๆเกลี่ยนิ้วโป้งเช็ดสีน้ำสีชมพูนั้นออกจากเปลือกตาแล้วลงมาเช็ดสีที่เปื้อนนิ้วที่ขากางเกงตัวเองแทน คนที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมองตามอึ้งๆและทันทีที่สายตาประสานกันคนที่เป็นฝ่ายกระทำกลับเป็นคนหลบตาไปก่อนซะเอง

     

                    “ว้าว!

                    “ขอหนึ่งบทเพลงครับคุณพโย”

                    “ได้เลยคุณซง ..เห็นเงาในตาฉันมั้ย~ เห็นเธออยู่ในนั้นมั้ย~” เสียงทุ้มต่ำจากสองเกลอทำให้พวกเขาหลุดจากภวังค์ ซึงยุนรีบลุกขึ้นโดยสั่งลาด้วการส่งนิ้วกลางให้สองคู่หูชนิดที่เรียกว่าสายโหดยังยอม ส่วนเขาเองนี่ได้แต่ยิ้มน้อมรับด้วยความเต็มใจ.. ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่นะ 5555555555555555555555

                    “ว่าแต่มึงไม่หวงน้องหมวยของมึงละหรอ” ยิ้มขำถามไอ่น้องคนสนิทที่ยืนถือพู่กันร้องเพลงแซว ตอนแรกเห็นมันเครียดๆกับงานแต่พอเจอโมเม้นต์เมื่อกี้เข้าล่ะคงไม่มีอะไรให้น่าห่วงละมั้ง

                    “เอาจริงๆก็เสียใจแต่ถ้าเฮียมีความสุขโนก็มีความสุขคนับ ._.

                    “อะไร๊..กูแค่แกล้งๆเด็กมันเฉยๆ” เอ้อ ก็เห็นมันน่าซื่อๆเลยชอบแกล้ง แถมยิ่งมีดีกรีว่าหน้าเหมือนเขาแล้วนี่ยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่ จริงๆ บอกเลย บอกเลยว่าฉันไม่คิดอะไร ไม่คิดอะไร

                    “อ่ะหรา” ทีงี้แม่มสามัคคีกันทั้งแก๊งเลยนะสึดเด็กพวกนี้………………

     

                    มองไอ่คนหน้าเหมือนสะบัดก้นหนีแล้วได้แต่หัวเราะกับความบ้าของตัวเอง.. ทำไปได้ไง้! นี่ถ้าเป็นละครช่อง 3 คงว่าไปอย่าง

     

     

                    สุดแล้วแต่จีโฮก็แก้งานจนเสร็จท่ามกลางสองหน่อที่ไม่ได้จะมีความเสียอกเสียใจกับงานของตัวเองที่พึ่ง(เกือบ)โดนพังไป ภาพที่ออกมาดูแปลกตาไปหน่อยแต่เขาก็ได้ปรับ font ใหม่เลยได้ป้ายโฟมที่มาในแนวสตรีทอาร์ตสีชมพูเทาแทนของเดิมที่ดูจะนุ่มนวลจนเป็นภาพสตรีทอาร์ตที่ให้ความรู้สึกดูซอร์ฟด้วยสีที่ใช้ยังไงก็ไม่รู้

                    “เหยดแหม่ เจ๋งว่ะพี่”

                    “มึงดู..ลูกพี่กูระดับไหนละ” เห็นจีฮุนกับมินโฮมันอวยตัวเองแล้วน่ารำคาญนิดหน่อยเลยไล่ให้ไปช่วยเด็กปี 1 เตรียมงาน Sculpture  ทางด้านในสตู

                    มองบรรยากาศการทำงานของน้องๆแล้วนึกถึงตัวเองอยู่ปี 1 โดนสับหัวใช้แบบนี้ไม่ต่างกันนั่นแหละต่างที่อู จีโฮออกแนวจะต่อต้านนิดๆตามประสาอารมณ์ขึ้นๆลงๆสมัยนั้น

                    เห็นไอ่เด็กที่ช่วงนี้รู้สึกจะมีอะไรพัวพันกันกำลังช่วยเพื่อนในสาขาดนตรีเขียนป้ายแบนเนอร์กลางสนามด้วยเนื้อตัวที่ค่อนข้างจะสะอาดสะอ้านบ้างแล้ว แหงนมองพระอาทิตย์เช้าๆแบบนี้ก็ต้องหยีตาแอบรู้สึกว่าไอ่เด็กนั่นมันจะเป็นลมเป็นแล้งไปเลยมองหาเสื้อฮู้ดเลอะสีของตนที่ถอนทิ้งไว้

                    วางงานฝากไว้กับเด็กๆแล้วเดินเลยไปยังสนามฟุตบอล ลอบสังเกตมองคนเด็กกว่าที่ยิ้มหัวเราะคุยกับเพื่อนแอบให้ความรู้สึกเหมือนพระเอกหนังคอยมองนางเอกแบบยังไงยังงั้น

                    ยิ้มให้คนอื่นดีจริงๆกับเขาเองนี่มีแต่บึ้งใส่

                    จงใจโยนให้โดนหัวอีกฝ่ายและทันทีที่ซึงยุนเอาเสื้อออกแล้วรู้ว่าเป็นอู จีโฮที่มาแกล้งก็วางท่าบึ้งหน้าใส่รัวๆ เหวี่ยงแขนหวังจะโยนเสื้อคืน

                    “ใส่ไว้เว้ย มึงดูแดดดิ้”

                    “อู้ย” < เสียงโห่แซวประกอบพร้อมกับมองฉากรักของทั้งคู่

                    เห็นซึงยุนทำท่าอ้ำๆอึ้งๆแต่ก็ยอมใส่แต่โดยดีอาจจะเพราะว่ากลัวร้อน? กลัวดำ? จริงๆเลยจำใจใส่ไว้ท่ามกลางเสียงกรี๊ดและโห่ร้อง(ถามหน่อยว่าจะไปขอขมาใครหรอ)

                   

                   

                   

                    ซึงยุนมองไอ่คนหน้าเหมือนที่ไม่อยากยอมรับมากหรอกว่าแอบคล้ายเดินหันหลังกลับไปยังสตูดิโอด้วยความไม่เข้าใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย..ทำเหมือนไม่สนใจแต่ก็คอยแกล้งมาถามนู้นถามนี่ บางครั้งเหมือนจะดีหน่อยแต่ก็กลับมาแกล้งอีกแล้วยิ่งโมเม้นต์เมื่อกี้มันยิ่งให้คิดมาก!

                    “ซึงยุนเป็นอะไรกับพี่จีโฮอ่ะ?” อึนจีเพื่อนร่วมห้องของเขาที่มาช่วยงานวันนี้ยักคิ้วเหล่ตาถามเหมือนจับผิดทำเอาน้องยุนนี่มองกลับด้วยความงงเลย

                    “เป็นไร? แค่รู้จักกัน”

                    “หรอ? จริงหรอ?”

                    “เอ้อ”

    “เอาจริงป่ะ? แม่งเหมือนจีบกันอยู่อ่ะ!” ได้ยินแบบนั้นซึงยุนรู้สึกสะอึกทันที

    มองเพื่อนผู้หญิงที่พูดไปก้มหน้าทาสีไปพร้อมกับพูดประโยคนั้นแบบไม่ใส่ใจแต่มันดันไปกระทบกับจิตใจของน้องยุนมากถึงมากที่สุด

     “ผู้ชายเหมือนกันจะไปคิดอะไรได้ไง” พยายามจะเลี่ยงให้ได้

    “หัวโบราณหรอแกอ่ะ” ยังจะมาชี้หน้าเขาด้วยพู่กันอีก

    จะให้ปฏิเสธว่าไม่เหมือนจีบก็ดูซึนไปหน่อยละ แต่ให้ทำไงวะ? ไม่อยากยอมรับอ่ะ

     

    โอ้ย เอาวงจรชีวิตที่มีจีโฮเกี่ยวข้องออกไปจากน้องยุนที

     

    ว่าแล้วก็ขยี้หัวที่มีฮู้ดสีเทาคลุมไว้อยู่แล้วจู่ๆเสียงทักหนึ่งก็ดังขึ้น เป็นประโยคที่ซึงยุนเกลี๊ยดเกลียด

    “พี่จีโฮคะ”

    ไอ่แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    “คือ หนูขอช่วยงานพี่ได้ป่ะคะ” หันไปเจอน้องผู้หญิงตัวขอผมสั้นหน้าตาหน่อมแน้มแล้วซึงยุนได้แต่คิดในใจว่าทำไมเขาไม่มีเด็กมาแอบปิ๊งเขาบ้าง ชอบไปไงว่ะเนี่ยไอ่คนแบบนั้น โอ้ย! ปากก็ห้อย เหนียงก็ยาน อ้วนก็อ้วน!

    “โอ้ยยน้อง! พี่ซึงยุน ซึงยุนปี 1 ไม่ใช่ไอ่ห้อยนั่น”

    “โอ้ะ จริงหรอคะ? แต่พี่ดูเหมือนกันมากเลยอ่ะ” พอเลยพอกดพอสก่อนเลย..เลิกพูดแบบนี้ซักทีเหอะอารมณ์นี่สูงขึ้นพอๆกับอากาศของเมืองไทยละอ่ะ

    “เอ้อ!” ไม่สนล่ะครับบอกเลย สวยแค่ไหนอารมรืน้องยุนก็ไม่โอเคละตอนนี้ เสื้อนี่แม่มก็น่ารำคายจังเลย

    “อ๋อ หนูนึกออกละ..พี่ที่ชอบเดินด้วยกันกับพี่จีโฮใช่ป่ะ?”

    อะไร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! นี่กูไปเดินกับพี่แกบ่อยขนาดถึงเป็นภาพจำของสาธารณะเลยหรอ ฮือ ไม่เอาอ่ะ เสียใจ น้องุนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับจีโฮเลยนะเว้ย T _ T

    “หนูขอเบอร์พี่จีโฮได้ป่ะคะ?”

     

    เอาเบอร์พี่แทนป่ะน้อง ไอ่แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

    โคตรเซ็งน่าเด้.. เอ้ย เศร้า

     

    “ไม่มีโว้ย! อยากได้ก็ไปขอเอง!!!!

     

     

    เดือด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    “อึนจีเราไปซ้อมดนตรีละที่เหลือฝากด้วย” หมดอารมณ์จริงๆจังๆ วิ่งไปหยิบกีต้าร์ในสตูที่ฝากไว้เงียบๆไม่กะให้ใครได้มาทักทายและถึงแม้จะมีเสียงโหยหวนของซง มินตุ๊ดก็มิอาจให้น้องยุนได้หันหลังกลับไปอีกแล้ว

    วิ่งขึ้นตึกซ้อมด้วยความไม่สบอารมณ์สุดๆ

     

     

    โดยลืมไปว่าไอ่ฮู้ดเปื้อนสีที่ตัวเองบอกว่ารำคาญดันติดมากับตัวด้วยและคงไม่รู้เลยว่าจีโฮนั้นจงใจ ลืมมันไว้กับเขา

    เสาร์-อาทิตย์ที่ควรจะสงบสุขซักอาทิตย์ก็ยังดีไม่วายมาเจอเรื่องน่าปวดหัวตั้งแต่เช้า แล้วซึงยุนที่รู้ตัวว่าถูกจีบ(?)นั้นจะวางงตัวยังไงกับคนที่แสนไม่ชอบขี้หน้าคงต้องตามชมต่อไป

    Relationship ที่ค่อยๆพัฒนาไปอย่างช้าๆของคนหน้าเหมือนดูจะเป็นการยากไปซะหน่อยในเมื่อต่างคนต่างก็ไม่ยอมรับความรู้สึกแบบนี้ น้องก็ซึนแต่ไอ่พี่นี่ซึนกว่านี่น่ะสิ

     

     

     

                    


     

     


    ดูรายละเอียดการสั่งซื้อฟิคได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ > https://goo.gl/I5IzBy


    #ฟิคพี่โค่น้องยูน
    แหน่ะ อยากเขียนวันงานแล้วเนี่ยนานจริม ข้ามเลยมั้ย
    5555555555555555555555555555

    เม้นหน่อยกั๊บ เจอเม้น 92 คนล่าสุดอ่านแล้วปริ่มมากๆ
    แต่คนที่เม้นมาตลอดน่ารักจริมๆๆๆๆๆๆๆๆ รักทุกคนที่ชอบฟิคเรื่องนี้แฮ่








    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×