ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : #10 ง้อ ปลาทับทิมกรอบ และ แตกต่าง
#10ง้อ ปลาทับทิมกรอบ และ แตกต่าง
ผมขับCbrสีเขียวคู่ใจออกจากบ้านในสภาพชุดนร.เต็มคราบ รีบไม่รีบก็คิดดูแล้วกันครับ ปาจาคอปไว้หน้าบ้านแล้วก็ดิ่งออกมาเลย
รู้สึกใจหายวาบ คิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆนานาที่จะเกิดขึ้น คนแบบไอ้ป้องนะ ต่อให้ผมเพิ่งเริ่มสนิทก็ยังคาดเดานิสัยมันได้เลยครับ
ผมบิดขึ้น60ภาวนาให้พอไปถึงที่หน้าเพลินจิตแล้วไม่เจอมัน ภาวนาให้ผมคิดไปเอง ภาวนาให้มันไม่รออยู่ตรงนั้น เป็นครั้งแรก ที่มีความรู้สึกอยากให้ใครสักคนหนึ่งลืมคำพูดของผมไป ไม่เชื่อคำพูดของผม ไม่ต้องรอผม ถ้าเป็นคนอื่น คงรู้อยู่แล้วว่าผมไม่มา และคงจะกลับบ้านไปแล้ว
แต่ไม่ใช่กับปกป้อง...
ร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้น ตรงม้าหินอ่อนป้ายรถเมล์ของเพลินจิตวิทยา ใบหน้าจืดๆไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ สายตาเหม่อออกไปด้านหน้า ผมจอดรถก่อนจะเดินลงไปหามัน เจ้าของเสื้อนร.สีซีดเห็นผมแล้วไม่แม้แต่จะมองหน้าผมด้วยซ้ำ
ปกป้องวางกระเป๋าลงตรงตัก มือทั้งสองข้างอยู่บนนั้น ตามแขนทั้งสองข้างมีรอยยุงกัดเต็มไปหมด
ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี ทั้งหมดนี้มันแสดงให้เห็นว่าไอ้ป้องมันนั่งรอผมตั้งแต่เลิกเรียนจนถึงตอนนี้จริงๆ
รอ...แม้จะรู้ว่าผม'ลืม'ไปแล้ว
"กลับบ้าน...กัน"
ผมไม่รู้จะพูดอะไรดีนอกจากชวนมันกลับบ้าน
มันยืนขึ้นไม่พูดตอบ ปัดๆฝุ่นตามร่างกายก่อนจะยืนนิ่งผมเห็นแบบนั้นเลยสตาร์ทCbrรอ มันก้าวขึ้นซ้อนท้ายแต่เอาจาคอปของมันกั่นเอาไว้ระหว่างผมกับมัน น่าแปลกที่ตัวล็อกตรงจาคอปที่ชนหลังผมทำให้รู้สึกเย็นอย่างบอกไม่ถูก
"วันนี้กูอาจรอมึงได้..."
"..."
"แต่ไม่ได้หมายความว่า กูจะรอมึงตลอดไปนะเกียร์"
น้ำเสียงตัดพ้อดังบอกผมแบบนั้น ผมรู้ มันก็สมควรโดนโกรธอยู่หรอก ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายรอขนาดนี้
ถ้าผมลืมจริงๆ มันจะรอผมทั้งคืนเลยไหม?
......คำตอบที่ได้จากใจ ทำผมเย็นวูบไปทั้งตัว
"มึง ...หิวไหม?"
"..."
"เดี่ยวแวะตลาดกันเนาะ"
ผมพยายามพูดทำลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนแต่ไม่มีคำตอบจากปากมัน ใจหายขึ้นอีกกับท่าที่เฉยชาแบบนี้...
ผมขับCbrที่รักไปจอดตรงริมฟุตบาธที่ติดกับตลาดนัดตอนกลางคืนตอนแรกจะชวนมันเดินเล่นแล้วครับ แต่มันบอกว่า'เหนื่อย'ผมเลยไม่กล้าเซ้าซี้อะไรอีก ได้แต่เดินลงไปซื่อของกินนิดหน่อยกับน้ำแตงโมปั่นอีกถุงหนึ่ง
"กินไหม?น้ำแตงโมเจ้านี้อร่อยนะ"
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอร่อยจริงไหม เพราะเพิ่งซื่อครั้งแรก แต่บอกไปแบบนั้น หวังเพียงแค่มันยืนมือรับไปดูด
"ไม่เป็นไร กูไม่หิว"
มันบอกปัด แต่ไม่ได้มองหน้าผม
โกรธจริงจังว่ะ...
ผมเกาหัวไม่รู้จะทำไงต่อไปดี ตั้งแต่เกิดมาจำความได้ยังไม่เคย'ง้อ'ผู้ชายเลยนะครับ และการที่ไอ้คนตัวโตส่วนสูงไล่เรี่ยกับผม
แล้วมางอนเนี้ย บอกเลยว่าไม่เคยเจอ โอเค รู้ ผมผิดเองที่ลืมคำพูดตัวเอง แต่ถ้ามันไม่อยากนั่งรอก็แค่กลับบ้านเองไม่ใช่เหรอครับ? ก็ถ้าเป็นผม ผมก็กลับนะ จะนั่งตากยุงรอทำไม
ผมขับรถไปเงียบๆเพราะในอารมณ์รู้สึกฉุนเล็กๆที่อีกฝ่ายโกรธเพราะเรื่องแค่นี้เป็นผู้ชายแท้ๆดันทำตัวงอแงแบบพวกผู้หญิง แมร่งโครตไม่สบอารมณ์เลย มันก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอครับว่าผมรู้สึกผิด แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ต้องถือเป็นเรื่องโกรธเคืองด้วย
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ...
ผมขับรถมาถึงบ้านราวๆเกือบสองทุ่มเศษ ไอ้ป้องเดินเข้าบ้านไปแบบเงียบๆ ผมเข็นCbrไปจอดก่อนจะรีบวิ่งตามมันไป
"หยุดก่อนดิป้อง คุยกันให้รู้เรื่อง"
ผมคว้าแขนไอ้ตัวดีก่อนมันจะก้าวขึ้นบันได ก็ไม่เข้าใจว่าโกรธแล้วทำไมไม่พูดตรงๆ
"..."
"กูขอโทษที่ลืม พอใจยังไอ้สัส!!!"
"....."
ผมชักอารมณ์เสียขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเห็นมันไม่ตอบผมยิ่งหงุดหงิด
" เอ๊ย งอนกับเรื่องแค่นี้มึงเป็นตุ๊ดเหรอ ไอ้สัส ก็รู้ว่ากูลืมทำไมมึงไม่กลับบ้านเลย จะรอทำเหรี้ยไร ไร้สาระ!!! "
สุดท้ายทนไม่ไหวตะคอกออกไปเต็มหน้ามัน
'แหมะ'
หยดน้ำใสๆหยดลงบนฝามือของผมที่จับมันไว้ มันไม่พูด ไม่ด่า ไม่โต้แย้ง แค่ดึงมือออกไปแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป
"แมร่งโว้ย!!!!!"
ผมคำรามหงุดหงิดระบายอารมณ์ มือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาขยี้หัว หงุดหงิดตัวเองที่ปากหมาแบบนั้น
หงุดหงิดมันที่ไม่ได้ไม่ว่าผมแต่เงียบจนโคตรอึดอัด สุดท้ายความอดทนก็แตกดังโพละเผลอระเบิดอารมณ์ใส่อีกฝ่ายไปแบบนั้น
ยิ่งเห็นน้ำตามันไหลออกมา ผมยิ่งรู้สึกเจ็บ...
ทำไมผมถึงได้ทำร้ายมันไปแบบนั้น ทำไมผมถึงไม่ยอมวางทิฐิลงแล้วยอมรับว่าตัวเองผิดจริงๆ ยิ่งถ้อยคำด่าท่อที่เห็นแก่ตัวนั้นก็อีก ทำไมผมถึงไม่นึกถึงใจมันเลยสักนิด
ผมเครียดจนไม่รู้จะทำยังไงดี สุดท้ายเลยเขวี้ยงจาคอปลงไปกับพื่นห้องนั่งเล่นก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกับโซฟานั่งนิ่งๆทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ก่อนสายตาของผมจะมองสูงขึ้นไปเห็นรูปครอบครัวของผม พี่ขวัญ แล้วก็พ่อแขวนเอาไว้
จริงสิ...
พ่อ...
มือผมไวเท่าความคิด ผมกดหมายเลขที่คุ้นเคยก็จะรออีกฝ่ายรับสาย หวังเพียงแต่ให้พ่อยังไม่นอน
'ฮัลโล ว่าไงลูก'
"พ่อครับ ตอนนี้อยู่กับแม่ไหมครับ? เกียร์ขอคุยกับแม่หน่อยครับ"
ผมรีบพูดสวนหลังพ่อรับสาย
'อยู่ข้างๆพ่อเนี้ยแหละ เอา คุณครับลูกขอคุยด้วย'
ผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ถูกส่งผ่านมือ ก่อนเสียงอบอุ่นของน้าลีลาวดีจะตามมา
'หวัดดีจ้าเกียร์'
"หวัดดีครับแม่ คือเกียร์มีเรื่องจะถามหน่อยครับ"
ผมตอบกลับก่อนปลายสายจะพูดต่อ
'เรื่องอะไรล่ะลูก? ไหนลองถามมาสิจ๊ะ'
"คือ...."
..
..
.
.
.
"ฝันดีครับแม่"
'จ้า ฝันดีเช่นกันนะเกียร์'
ผมกดวางสายหลังคุยกับแม่เกือบค่อนชั่วโมง นัยน์ตาก็มองกระดาษที่จดสิ่งที่ต้องการ ก่อนเท้าจะก้าวขึ้นบันไดไป
ไฟในห้องไม่ได้เปิด ผมเปิดไฟที่ริมประตู แสงสว่างสีขาวนวลช่วยให้เห็นมันนอนอยู่ ไอ้ป้องนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงชั้นล่าง มันนอนไปทั้งๆชุดนร. ถุงเท้ายังไม่ถอดด้วยซ้ำ ขวดน้ำสิงห์วางอยู่ตรงหัวมันผมแตะๆตัวหวังจะให้มันพลิกตัวนอนหงายดีๆ แต่ก็ยังนิ่ง
หลับโครตลึก...
"ป้อง..."
"..."
เสียงลมหายใจฟืดฟาดครูดกับหมอนของมันบอกผมว่าเจ้าตัวไม่ได้แกล้งหลับ
ผมถอนหายใจ ก่อนจะช่วยพลิกตัวมันดีๆ แล้วถอดถุงเท้า ปลดเข็มขัดนร.ให้มันนอนสบายๆตัว พอทำแบบนั้นซองยาสีชาเลยตกลงกับพื่น
ยาอะไร?
ผมพลิกดูทั้งด้านหน้าด้านหลังไม่มีชื่อเขียนบอกไว้คิดว่ามันคงกินแล้วหลับไปเพราะขวดน้ำก็วางอยู่บนหัวนอน ผมวางยาไว้ตรงหัวนอนมันเหมือนเดิม คิดว่าเป็นพวกวิตามินหรืออะไรเทือกๆนั้น สิ่งที่ผมสนใจคือใบหน้าอีกด้านของมันต่างหาก
ดวงตาคู่เรียวหลับสนิท ดูก็รู้ว่ามันร้องไห้กับหมอนจนตาปวมแบบนี้
ผมปาดน้ำตามันออกเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวมัน ตอนหลับก็โอเคอยู่หรอก แต่พอตื่นแล้วโครตงอแงเลย
"รู้แล้วว่ากูผิด แต่ถ้า'ง้อ'แล้วไม่ หายโกรธ...กูหมดมุกแล้วนะเว้ย"
ผมพูดลอยๆกับตัวเอง ก่อนจะเอานิ้วจิ้มแก้มย้วยๆของมัน คนถูกจิ้มยังคงหลับสนิท
หวังว่าไอ้เรื่องที่ลงทุนโทร.ไปถาม มันจะง้อมึงได้นะ
ไอ้ป้อง...
:L2
:"โอ๊ย ร้อน !!!"
ผมสถบออกมาดังๆหลังน้ำมันลวกมือ ตอนนี้หกโมงกว่าๆแล้ว ผมอยู่ในชุดพร้อมรบมีผ้าเอี๊ยมหนึ่งตัวและอาวุธหลักคือตะหลิวในมือ คู่ต่อสู้ในวันนี้คือปลาทับทิมตัวโตที่ผมลงทุนขับCbrไปตลาดสดหาซื่อมาจากตอนเช้ามืด
ส่วนไอ้สาเหตุที่ทำให้ผมต้องมาสู้รบปรบมือกับไอ้ตัวไม่มีขาแต่มีครีบพวกนี้นะเหรอ
..
..
.
.
'ป้องมันชอบกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?'
'ตาป้องนะเหรอ รายนั้นชอบกินพวกปลานะจ๊ะ พวกปลานิล ปลาทับทิมกรอบอะไรแบบนี้'
'เหรอครับ'
'ป้องชอบทานคู่กับพริกน้ำปลาน่ะนะ เขาชอบกินรสเปรี้ยว หนักรสเปรี๋ยวหน่อยนี้ชอบเลย แม่ทำที่ไรเบิ้ลสองทุกที่'
แม่ลีลาวดีหัวเราะผ่านมาตามสาย ก่อนจะบอกวีธีหมักปลาและสูตรทำพริกน้ำปลาให้ผม
กลับมายังสนามรบปัจจุบัน
ผมทำดาเมจใส่ปลาทับ ทิมกรอบไปแล้วครึ่งตัว แม้ตัวจะไรวิญญาณแต่ปลาทับทิมพวกนี้กลับแฝงจิตอาฆาตผมไว้ด้วยการพลีชีพ(ได้ข่าวมันตายนานแล้ว:ปกป้อง)ระเบิดตัวเองใส่ผมเป็นระยะๆ(บรรยายเท่ๆไปงั้น จริงๆคือล้างไม่สะอาดพอใส่ลงกะทะน้ำมันก็ตีกับน้ำ กระเด็นใส่แขน- -)
ผมตวัดลำตัวมันขึ้นมา น้ำมันกระเด็นมากระฉอกใหญ่จนแทบที้งตะหลิวขึ้น แต่ถ้าทำแบบนั้นปลาได้ไหม้แน่ๆ
"โอ๊ย!!!!"
ปลาสุกแล้วแต่ยังไม่หวายแผลงฤทธิ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย(ก็บอกว่ามันตายนานแล้วโว้ยยย:ปกป้อง)ด้วยการระเบิดใส่มือผม
จั้งๆ
"น้ำมันลวกเหรอ?"
ไอ้ป้องที่ผมไม่รู้ว่าลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ถามขึ้น ผมพยักหน้าน้ำตาเล็ดนิดหน่อยเพราะเริ่มรู้สึกแสบๆ มันวิ่งออกไปจากห้องครัว ก่อนจะวิ่งกลับมาในมือถือหลอดยาสีฟันคอลเกตุ
มันดึงผมไปที่อ่างล้างจานก็จะเปิดน้ำเบาๆล้างน้ำมันออก จากนั้นก็ค่อยๆบีบยาสีฟันลูบๆทั่วบริเวณที่ผมโดนน้ำมันลวกๆ ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ผมพูดจาเห็นแก่ตัวแท้ๆแต่พอเห็นผมเจ็บมันก็ไม่เคยรีรอที่จะช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ไม่ว่าจะทะเลาะกันแบบไหน คนที่มันสนใจคนแรก คนที่มันยอมแพ้ง่ายๆ....
ก็คือผม....
"ป้อง..."
"..."
"กูขอโทษที่เมื่อวานพูดไม่ดีกับมึง ทั้งๆที่ตัวกูเองที่ผิด"
มันลูบๆยาสีฟันก่อนจะตอบ
"จะไม่พูดว่าไม่โกรธ เพราะเมื่อวานโกรธมากจริงๆ มันไม่เกี่ยวหรอกนะเกียร์ ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆมึงตอนนี้เพศอะไร แต่การที่มึงนัดคนอื่นแล้วปล่อยให้รอนี้มันใช้ไม่ได้ พอกูโกรธแทนที่จะง้อ จะขอโทษดีๆ มาวีนใส่อ้างเหตุผลควายๆ มันใช้ไม่ได้ ไอ้สัส"
ตบท้ายด้วยอัจวนะภาษาใส่หัวผมเต็มที่ แมร่งตบหัวผมอีกแล้ว TT(ถ้าคืนนี้กูฉี่แตกขอให้ไหลใส่ปากมึง)
"ก็..."
"ก็อะไรอีก?"
..
..
.
.
"ก็กูไม่เคยถูกผู้ชาย'งอน' แล้วกูจะ'ง้อ'เป็นเหรอ? "
จบคำของผม หน้ามันก็แดงแปร๊ดเดินออกจากห้องครัวไปพร้อมกับจานปลาทับทิมทอดกรอบ หึหึหิวก็บอกเหอะทำเป็นฟอร์มฮึดฮัดใส่ผม โถ่ววว
ผมเดินตามมันออกไปจนถึงห้องนั่งเล่นเห็นมันนั่งกินเคี้ยวตุ้ยๆเข้าปากจนแก้มย้วย ก็สมควรอยู่หรอก เมื่อคืนทะเลาะจนไม่ได้กินข้าวกันทั้งคู่เลยนิครับ
ผมนั่งลงข้างๆมันก่อนจะตักข้าวกินเองบ้าง ไม่คิดเหมือนกันว่าไอ้คนที่ผมคิดว่าโลกส่วนตัวสูงมาก จะมีมุมหลุดมาดเหมือนกัน
ปกป้องตักข้าวพูนช้อนก่อนจะอ้าปากกว้างๆแล้วยัดลงไปพร้อมเนื้อปลาทับทิมทอดกรอบ(เชื่อล่ะครับว่าชอบเปรี๊ยวจริงๆ ผมเห็นมันบีบมะนาวใส่เพิ่มทั้งๆที่ของเดิมก็เปรี๊ยวมากอยู่แล้ว)
"ป้อง"
"อะไอ"
"เออ กินข้าวก่อนเถอะ กูค่อยถามก็ได้"
"อูดอาอิ อูออบไอ้"
มึงตอบได้แต่กูฟังไม่รู้เรื่องโว้ยยย
ผมเร่งมือทานของตัวเองบ้างก่อนจะเห็นมันตักข้าวกินเพิ่ม
เห็นแบบนี้ค่อยหายเหนื่อยหน่อย รู้สึกคุ้มค่ากับที่ยอมตื่นเช้า...
"ป้อง"
"ไม่ต้องเรียกชื่อกูแล้ว พูดมาเลย"
มันคงตัดรำคาญเลยพูดบอกแบบนั้น
"ทำไมถึงรอกูล่ะ...?"
มันชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปากก่อนจะมองผม
"ก็มันเป็นครั้งแรกนิ"
"ครั้งแรก?"
"ครั้งแรกที่มึงเป็นคนชวน จำได้ไหมว่าตอนกูอยู่ที่นี้ใหม่ๆ มึงอคติขนาดไหน พอมึงชวนกูกูเลยดีใจ....และรอมึงไง"
ผมพยักหน้าเข้าใจสิ่งที่มันอธิบาย
เรื่องของความรู้สึก เราคิดแทนกันไม่ได้...
บางเรื่องที่มันโครตไร้สาระสำหรับเรา มันอาจเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับใครอีกคนก็ได้
เพราะคนเราล้วนแตกต่างกัน โตกันมาคนละแบบ มันก็เหมือนเราโยนก้อนหินลงน้ำ เราไม่รู้หรอกว่ามันลงไป'ลึก'ขนาดไหน ก็ไม่
ต่างอะไรจากการที่เราว่าคนๆหนึ่งทำอะไรไร้สาระ เพียงเพราะเราคิดต่างจากเขา...
ผมรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นอีกนิดหนึ่งอย่างน้อยๆการแคร์มันก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้ตัวผมเองได้เห็น ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงเลือกจะปล่อย
มันต่อไป โดยไม่คิดจะทำอะไรแบบนี้หรอก
ผมเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
หรือไม่...
ก็เพราะเป็นมัน ผมถึงได้แคร์...
There are many things I used to forget but just one thing never fade away in my heart is you. #ปกป้อง
TBC.
ตอนนี้ถ้าใครอ่านแล้วไม่อิน ไม่เข้าใจน้องเกียร์ แปลว่าต่างยังแต่งไม่ดีเลยไม่เข้าใจในอารมณ์น้องเกียร์ ฮ่าๆ คืองี้นะ แตกต่างอยากให้ลองมองในมุมของ'ผู้ชาย' คือนิสัยของน้องเนี้ย แปลนั้นเป๊ะๆ คือไม่คิดมาก และไม่ค่อยละเอียดอ่อน(ว่าง่ายๆคือมันโง่ด้านอารมณ์ พวกผู้ชายนี้มันจะไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์แบบนี้นักหรอกจ้า - -")ตรงกันข้ามกับป้อง ที่โคตรจะละเอียดอ่อน และให้ความสำคัญกับทุกสิ่งรอบตัว ร่วมทั้งป้องยังมีเรื่องที่ทำให้'ต้องโต'
ถ้าใครอ่านมันตั้งแต่เริ่มต้นจริงๆจะเห็นเลยว่า นิสัยของไอ้สองคนนี้แมร่งโคตร'แตกต่าง' แต่เพราะแบบนั้นแหละ เราถึงได้เลือกเขียนน้องๆขึ้นมาในลักษณะนี้
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาคอมเม้นท์นา คอมเม้นท์ได้เรื่อยๆจ้า จุดไหนชอบไม่ชอบ เราชอบนะ มันทำให้เราได้เห็นอีกด้านหนึ่งของสิ่งที่เราเขียน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น