ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ ฮอร์ครัชชิ้นสุดท้าย (ปี7)

    ลำดับตอนที่ #10 : สู่กริงกอตส์

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 48


         หลังจากกลับมาสู่ปราสาท ดัมเบิลดอร์ได้เรียกพบกับครอบครัวมัลฟอยทันทีเพื่อคุยอะไรบางอย่าง ซึ่งหลังจากที่พวกมัลฟอยออกมาจากห้องทำงานของดัมเบิลดอร์แล้ว แฮร์รี่แอบเห็นว่า ลูเซียสเร่งไปขอโทษพวกตระกูลวิสลีย์เป็นการใหญ่เกี่ยวกับที่เคยดูถูกกันไว้ในครั้งก่อน ซึ่งดูเหมือนต้องใช้เวลาอยู่บ้างในการให้อภัยและปรับความเข้าใจกัน  หลังจากนั้นการที่พวกมัลฟอยมิได้นำข้าวของหรืออะไรติดตัวมาเลยดัมเบิลดอร์จึงได้ให้แฮร์รี่สั่งให้มอลลี่ไปซื้อข้าวของต่าง ๆ ให้ที่ตรอกไดแองกอน ซึ่งดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรนัก

         หลังจากที่อาเบอร์ฟอร์ดกลับมาสักพัก และใช้เวลารำลึกความหลังอยู่ไม่นานนักกับปราสาทซึ่งเคยเป็นบ้านเก่าของตน ทั้งอาเบอร์ฟอร์ดกับแฮร์รี่ ถูกดัมเบิลดอร์เรียกพบพร้อม ๆ กัน ซึ่งอาเบอร์ฟอร์ดได้พูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนมายืนรวมกันหน้ารูปภาพของดัมเบิลดอร์แล้ว

         “สวัสดีพี่ข้า ไม่ได้เจอกันมากี่ปี่แล้วนะ”

         “สวัสดีน้องรัก ฉันเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากไม่ได้พบกันห้าสิบปี ความขลาดเขลาของเจ้าคงจะหายไปหมด” ดัมเบิลดอร์พูดพลางอมยิ้มนิด ๆ ซึ่งตอนนี้แฮร์รี่ก็ได้เห็นรอยยิ้มที่หายากของอาเบอร์ฟอร์ดอีกครั้งเช่นกัน

         “ฉันคิดว่า แฮร์รี่คงทำสำเร็จสินะ ในการโน้มน้าวจิตใจของเจ้าให้มาที่นี่ได้ ฉันคิดไว้แล้วละว่าแฮร์รี่ต้องทำได้ เพราะเมื่อปีก่อน ฉันได้เห็นความสามารถข้อนี้ของแฮร์รี่มาสองครั้งแล้ว เธอมีความดึงดูดอยู่ในตัวรู้ตัวไหมแฮร์รี่” ดัมเบิลดอร์หันมาทางแฮร์รี่

         “เอาละ ฉันจะขอเข้าเรื่องเลยละกัน - - แฮร์รี่ ถ้าเธอไม่ขัดข้อง ฉันคิดว่าจะให้อาเบอร์ฟอร์ดเป็นผู้นำของภาคีนกฟีนิกซ์คนต่อไป”

         ทั้งแฮร์รี่และอาเบอร์ฟอร์ดตาโต “ไม่ขัดข้องเลยครับ อาจารย์” แฮร์รี่รีบตอบทันที

         “แล้วนายละ อาเบอร์ฟอร์ด จะขัดข้องไหม”

         “ขัดข้องสิ ขัดข้องอย่างรุนแรงเลยละ นี่ฉันแค่รับปากมาอยู่ที่นี่เท่านั้นนะ ไม่ได้คิดที่จะมาเป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านที่โง่เขลาที่ทำไปก็ไม่มีทางชนะนี่เสียหน่อย ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันขอไปใช้ชีวิตอันสงบสุขที่เดิมดีกว่า” อาเบอร์ฟอร์ดแหว

         “ไม่มีที่ปลอดภัยสำหรับใครก็ตามอีกต่อไปแล้ว คิดดูสิ เหตุใดเมื่อสักครู่ผู้เสพย์ความตายจึงไปที่ร้านหัวหมูที่ฮอกส์มี้ด” ดัมเบิลดอร์จี้จุด

         อาเบอร์ฟอร์เงียบไปชั่วครู่ “แต่ ฉันไม่มีมีมันสมองเหมือนอย่างพี่ ฉันคิดแผนการต่าง ๆ อย่างพี่ไม่ได้หรอกนะ”

         “นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะว่ารูปของฉันก็อยู่นี่ แล้วเรื่องแผนการฉันก็คิดไว้จนหมดแล้ว เหลือแค่เมื่อฉันส่งแฮร์รี่ไปทำภารกิจ ให้น้องช่วยคุ้มครองแฮร์รี่จนถึงที่สุด ก็แค่นั้น” ดัมเบิลดอร์กล่าว

         “แล้วเรื่องผู้นำ - -”

         “แค่นำคำสั่งของฉันไปบอกต่อกับสมาชิกภาคีก็พอ พรุ่งนี้เช้าทุกคนจะกลับมาที่ปราสาท ฉันจะให้แฮร์รี่ประกาศที่ห้องโถงใหญ่ว่าอาเบอร์ฟอร์ดเป็นผู้นำคนใหม่ของภาคีนกฟีนิกซ์ และทำการจารึกตราฟีนิกซ์ต่อหน้าทุกคน - - แฮร์รี่ เธอต้องจารึกตราลงไปสองครั้ง นั่นถึงจะเป็นการมอบอำนาจให้กับหัวหน้าคนใหม่ของภาคี เข้าใจนะ”

         แฮร์รี่พยักหน้า อาเบอร์ฟอร์ดทำสีหน้าที่ยากจะคาดเดาความรู้สึกได้

         “เอาละ ต่อไป ฉันอยากให้พวกเธอทั้งสามคน” ดัมเบิลดอร์หันหน้าไปทางเด็กทั้งสาม “ฉันอยากให้พวกเธอใช้เวลาว่างที่มีจากการฝึกคาถาต่าง ๆ ให้เข้าห้องสมุด หาข้อมูลเกี่ยวกับ ร.อ.บ.”

         แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ ถลึงตามองกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

         “อันที่จริง ศาสตราจารย์ พวกเรารู้แล้วละค่ะ ว่าร.อ.บ. คือใคร” เฮอร์ไมโอนี่บอกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

         “แล้วกัน แล้วทำไมไม่รีบมาบอกฉัน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากรู้ไหม” ดัมเบิลดอร์ปราม เมื่อเห็นพวกเด็ก ๆ ทำหน้าสลด เขาจึงรีบพูดต่อ “อย่างไรก็ตาม ดีมากที่มีความมุมะนะในการศึกษาด้วยตนเอง ฉันขอชมเชย ว่าแต่ว่า คนที่พวกเธอคิดว่าเป็นร.อ.บ. คือใครหรือ บอกมาสิ”

         “เรกูลัส อาร์ทิมิส แบล็ก” รอนบอกเรียบ ๆ

         “เรกูลัส เป็นเขาจริง ๆ หรือ ไม่น่าเชื่อ” ดัมเบิลดอร์อุทานออกมา “เธอแน่ใจเพียงใด”

         “แน่นอนค่ะ เพราะว่าไม่มีชื่ออื่นเลย ในทำเนียบผู้มีเวทย์มนต์ที่จะมีชื่อย่อเป็นร.อ.บ.ได้แล้วค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่บอก

         ดัมเบิลดอร์เงียบไปชั่วครู่ จึงทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แม้แต่รูปภาพของอาจารย์ใหญ่ก็ยังมิมีเสียงรอดเล็ดออกมา และในที่สุด ดัมเบิลดอร์ก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นเอง “ฟีนิแอส” ดัมเบิลดอร์ตะโกนเรียก

         จากกรอบภาพที่ว่างเปล่าในบนผนังเมื่อครู่นั้น กลับปรากฏเป็นภาพของฟีนิแอส ไนเจลัส เดินเข้ามาในกรอบภาพ ทำหน้าตางงงวยราวกับอยากจะถามว่ามีเรื่องอะไรกันอีกละ แล้วตนเกี่ยวอะไรด้วย

         “ฟีนิแอส ฉันมีเรื่องอยากจะถาม - - เรกูลัส ตายอย่างไร และก่อนตาย เขาบอกอะไรไว้บ้างหรือเปล่า”

         “เกี่ยวอะไรกับฉันอีกละ เรกูลัสก็ถูกคนที่คุณก็รู้ว่าใครสังหารยังไงละ” ฟีนิแอสบอกกวน ๆ

         “ฉันหมายถึง ก่อนที่เขาจะไปหาความตาย ฉันได้ยินมาว่า หลังจากเรกูลัสทรยศโวลเดอมอร์แล้ว เขาได้กลับมาบ้านครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเขาพูดกับใครบ้างหรือเปล่า หรือว่าเป็นการบ่นพึมพำคนเดียวก็ได้ ท่านมีรูปภาพอยู่ที่นั่นด้วย ท่านน่าจะรู้”

         “ขอฉันคิดก่อนนะ เรื่องมันนานมาแล้ว” เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่ง แล้วก็เอ่ยขึ้น “จริงสิ เห็นเขาเคยบ่นพึมพำว่าจะเอาอะไรสักอย่างไปซ่อนไว้ที่ไหนดี ฉันเห็นเขาถือเป็นเหมือนกระดาษเก่า ๆ แผ่นหนึ่ง เลยไม่ได้สนใจอะไร อาจจะเป็นจดหมายอะไรไร้สาระก็ได้จริงไหม ไม่รู้สิ แต่ว่า ฉันดูเหมือนว่าจะได้ยินเขาพูดว่าจะเอามันไปไว้ที่ตู้นิรภัยของกริงกอตส์ แล้วยังบอกอีกว่าถึงจะมีใครหามันเจอ แต่คงจะไม่มีทางได้มันไป ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่” ฟีนิแอสพูดจบแล้วจึงเงียบเสียงลงอย่างรวดเร็ว แล้วเพ่งสายตาและเงี่ยหูฟังสิ่งที่ดัมเบิลดอร์จะพูดต่อไป

         “ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่าเขาคงยังไม่ได้ทำลายฮอร์ครัชทิ้งไป แต่ทว่า เขาได้นำมันไปเก็บไว้ก่อน และทำลายแทงไว้ซึ่งหลังจากนั้นเขาอาจกลับไปหาโวลเดอมอร์อีกครั้ง แต่ถูกจับได้และสังหาร แต่ฉันคิดว่า โวลเดอมอร์คงยังไม่รู้เรื่องที่ถูกขโมยฮอร์ครัช - - เอาละ แฮร์รี่ อีกชั่วโมงให้เธอเดินทางไปสู่กริงกอตส์ ค้นหาตู้นิรภัยที่เก็บลายแทงให้ได้ ก่อนนั้นที่เธอเตรียมตัว ฉันจะให้ศาสตราจารย์มักกอลนากัลช่วยฉันเขียนจดหมายถึงผู้อำนวยการก๊อบลินที่กริงกอตส์ และได้แต่หวังว่ามันคงยอมเปิดทางให้เธอ มิเช่นนั้น เธอจำเป็นต้องบุกเข้าไปในกริงกอตส์กับอาเบอร์ฟอร์ด แต่ฉันได้แต่หวังว่าเรื่องคงไม่ถึงขั้นนั้น” ดัมเบิลดอร์บอก

         แฮร์รี่ไม่พูดอะไร ได้แต่พยักหน้าว่าเข้าใจ ดัมเบิลดอร์มีสีหน้าพอใจระคนหวาดกลัว “ฉันขอโทษด้วยแฮร์รี่ เรื่องมันคงดีกว่านี้ถ้าฉันสามารถช่วยอะไรได้สักอย่าง แต่นี่ - - ฉันไม่มีร่างกายอีกแล้ว ได้แต่ขอให้พวกเธอกับอาเบอร์ฟอร์ดโชคดี ในระหว่างนี้ ไปเตรียมตัวซะ” เขาโบกมือเป็นเชิงให้ออกไปได้ ก่อนที่แฮร์รีจะออกไปนั้น ทันได้เห็นดัมเบิลดอร์พูดอะไรบางอย่างกับอาเบอร์ฟอร์ด แล้วเขาก็ออกมาพร้อม ๆ กัน



         แฮร์รี่เตรียมตัวจนเสร็จเรียบร้อย เขาใส่เสื้อคลุมของพ่อมด ( เครื่องแบบฮอกวอตส์ ) ที่คิดว่าเขาคงไม่ได้ใส่อีกหลังจากโรงเรียนปิด ผ้าคลุมล่องหนที่ดัมเบิลดอร์สั่งให้พกติดตัวไว้ตลอดเมื่อปีที่แล้ว บัดนี้อยู่ในเสื้อคลุมของเขา พร้อมที่จะหยิบออกมาใช้ได้ทุกเวลา ไม้กายสิทธิ์เตรียมพร้อมอยู่ในเสื้อคลุมเช่นกัน เด็กทั้งสามเตรียมตัวกันจนพร้อม และออกมาที่หน้าปราสาทเพื่อพบกับอาเบอร์ฟอร์ด และทั้งสามจึงออกเดินไปยังฮอกส์มี้ด เพื่อหายตัวไปยังกริงกอตส์

         “แฮร์รี่ หลังจากเสร็จภารกิจนี้แล้ว ฉันอยากให้เธอแวะที่กระทรวงเวทย์มนต์ก่อน เพื่อที่จะทำการทดสอบหายตัว ดัมเบิลดอร์บอกว่าอีกหน่อยเธอจะจำเป็นต้องใช้” อาเบอร์ฟอร์ดพูดหลังจากทั้งสี่คนเดินทางพ้นเขตปราสาทฮอกวอตส์แล้ว

         แฮร์รี่พยักหน้าเงียบ ๆ กระทรวงเวทย์มนต์หรือ - - ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่อยากไปที่นั่นนักหรอก เพราะเมื่อช่วงคริสมาสต์ปีที่แล้ว เขาเพิ่งจะมีความบาดหมางกับรูฟัส สคริมเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์คนใหม่ที่เข้ารับตำแหน่งต่อจากฟัดจ์ แต่ก็นั่นละ อะไรที่เราไม่อยากจะประสบพบเจอ มักจะวนมาหาเราเสียเสมอสิน่า แฮร์รี่คิด

         “เอาละ ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ถึงแม้ว่าเธอจะหายตัวเองได้ แต่ในเมื่อยังไม่ผ่านการทดสอบ เธอจะหายตัวแบบติดตามไปพร้อมกับฉัน ตกลงไหม และให้รอนหายตัวแบบติดตามไปพร้อมกับเฮอร์ไมโอนี่เช่นกัน เอาละแฮร์รี่ จับมือของฉันไว้ให้แน่น” อาเบอร์ฟอร์ดบอก

    แล้วขณะที่แฮร์รี่ขยับมือของเขาจะไปจับกับแขนของอาเบอร์ฟอร์ดนั้น เขาก็ต้องชะงัก เพราะว่าได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมาจากด้านหลัง เขาไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงนี้อีกแล้ว

         “เดี๋ยว… รอก่อน เดี๋ยว… ให้ฉันไปด้วยคน… ขอฉันไปด้วย” เสียงของกิลเดอรอย ล็อกฮาตส์ตะโกนเข้ามาเข้าหูของเขาระหว่างที่แฮร์รี่ไปเห็นร่างค่อยข้างเจ้าเนื้อของเขาวิ่งตัดถนนสายฮอกส์มี้ด พลางโบกไม้โบกมือมาทางเขา

         แฮร์รี่ตกใจเป็นอย่างมาก กิลเดอรอย ล็อกฮาตส์ พ่อมดไม่เอาไหนที่เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดของเขาที่ฮอกวอตส์เมื่อตอนที่เขาอยู่ปีสอง ที่เคยโดนคาถาลบความทรงจำย้อนกลับเข้า จนถึงกลับต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเซนต์มังโก แฮร์รี่ได้พบเขาอีกครั้งเมื่อสองปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมนายวิสลีย์ ซึ่งล่าสุดเขาพบว่าอาการของล็อกฮาตส์ยังไม่สามารถฟื้นฟูความทรงจำอะไรได้เลย

         ก่อนที่ใครจะได้ทันทำอะไร ทันทีที่ล็อกฮาตส์มาถึงตัว แฮร์รี่ตวาด “ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณเป็นตัวจริง”

         “ตั้งคำถามสิ หรือถ้าเธอมี จะใช้สัจจะเซรุ่มก็ยังได้” เขายักคิ้ว

         “ถ้าอย่างนั้น เมื่อตอนที่คุณเคยเป็นอาจารย์ คุณเคยปล่อยสัตว์อะไรออกมาเพ่นพ่านจนโกลาหนไปหมด” แฮร์รี่ถามเสียงเย็น

         “พิกซี่” ล็อกฮาตส์ตอบยิ้ม ๆ “อันที่จริง ฉันไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายนะ ฉันอยากให้พวกเธอได้มีประสบการณ์จริง” เขายิ้มเขิน ๆ

         “ผมยังไม่แน่ใจว่าคุณเป็นตัวจริง - - แล้วคาถาที่คุณเสกเพื่อหยุดพิกซี่ละ”

         “เพสกิพิกซี่ เพสเตอร์โนมี่” เขาพูดพร้อมกับทำท่าโบกไม้กายสิทธิ์โง่ ๆ เหมือนตอนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน

         “โอเค แล้วตอนที่คุณรักษาแขนให้โอลิเวอร์วู้ดที่ถูกลูกบลัดเจอร์ทำให้บาดเจ็บที่แขนซ้ายล่ะฮะ คาถาอะไร” แฮร์รี่พูดจบทันทีที่รอนกับเฮอร์ไมโอนี่หันขวับอย่างรวดเร็วมามองหน้าเขา

         “อันที่จริง ถ้าฉันจำไม่ผิดนะแฮร์รี่ เธอไม่ใช่หรือที่เป็นคนโดนลูกบลัดเจอร์ไล่ล่า แล้วก็รู้สึกจะไม่ใช่แขนซ้ายด้วย แต่เป็นแขนขวานะ” ล็อกฮาตส์ขมวดคิ้วตอบ

         “โอเคครับ ผมเชื่อแล้วว่าคุณเป็นตัวจริง” แฮร์รี่ยิ้ม “แต่ขอโทษนะครับ คุณไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร… เอ่อ ผมหมายถึง - -”

         “โถ แฮร์รี่ แฮร์รี่ แฮร์รี่ เธอคงไม่คิดนะว่าฉันเป็นเหมือนฉันคนเดิมเมื่อห้าปีที่แล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี่ - - หลังจากฉันฟื้นฟูความทรงจำเมื่อปีที่แล้ว ฉันก็เร่งร่ำเรียนคาถา แล้วไปสอบเป็นมือปราบมารของกระทรวง จะบอกอะไรให้แฮร์รี่ ตอนนี้ฉันเป็นหนี่งในสิบของกองมือปราบมารขั้นพิเศษเชียวนะ อย่าดูถูกกัน” ล็อกฮาตส์บอก “แล้วฉันว่าจะขอเข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์ด้วย แต่หลังจากเรากลับมาจากธุระของเธอที่ฉันขอติดไปด้วยดีกว่านะ ว่าแต่ว่าเธอจะไปที่ไหนหรือ”

         “เราจะไปกริงกอตส์และกระทรวงเวทย์มนต์ครับ เอ่อ ไม่ทราบว่ากองมือปราบมารขึ้นพิเศษคืออะไรหรือครับ” แฮร์รี่ถามด้วยน้ำเสียงงุนงง

         “กองมือปราบมารขั้นพิเศษก็คือ เอ่อ… มันก็เหมือนคิงคลาสของมือปราบมารน่ะ หวังว่าเธอคงจะเข้าใจนะ” เขาถามแฮร์รี่ ซึ่งพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว แล้วเขาก็พูดต่อ “กองนี้จะคัดเลือกมือปราบมารที่เก่งที่สุดที่กระทรวงมีสิบคนให้มาอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับหน้าที่ลำบาก ๆ กว่ามือปราบมารขั้นธรรมดา ที่ฉันรู้จักในกองตอนนี้ก็มีแม้ดอาย-มู้ดดี้คนหนึ่งละ วิลเลียม ไฮน์ และเอลเบริก คอลสลอฟว์ก็ด้วย”

         “หวังว่าการที่คุณมาเข้าร่วมภาคีคงจะไม่ใช่คำสั่งของกระทรวงนะครับ” แฮร์รี่ถามอย่างเย็นชา

         “ไม่ใช่แน่นอน แฮร์รี่ แฮร์รี่ ที่ฉันมาเข้าร่วมนี่เป็นความลับสุดยอด ฉันเข้าร่วมเพราะแม้ดอาย-มู้ดดี้มาติดต่อให้ฉันเข้าร่วม ฉันรู้นะ จนบัดนี้ก็มีสมาชิกภาคีจำนวนหนึ่งที่คอยติดต่อ และดึงตัวพ่อมดที่กระทรวงมาเข้าร่วมภาคีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ - - เอ่อ แล้วไม่ทราบว่าคุณคือใครหรือครับ” ล็อกฮาตส์เอ่ยขึ้นเมื่อกวาดสายตาไปประจักษ์กับชายแก่แปลกหน้าเข้าเป็นครั้งแรก ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าอาเบอร์ฟอร์ดยืนอยู่ตรงนี้

         “ผมคืออาเบอร์ฟอร์ด ดัมเบิลดอร์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ถึงจะแสดงความไม่พอใจที่ถูกละเลยอยู่บ้าง แต่เขาก็ยื่นมือมาเพื่อที่จะจับทักทายอย่างสุภาพ แต่ทว่า ล็อกฮาตส์ยังไม่ยื่นมือไปจับด้วย

         “คงเป็นการระมัดระวังอย่างดีเยี่ยม ถ้าผมยื่นมือไปจับกับผู้เสพความตายที่ปลอมตัวเป็นคนสำคัญของภาคีนกฟีนิกซ์ - - ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณเป็นอาเบอร์ฟอร์ดตัวจริง หรือว่าเป็นตัวจริง แต่อาจเป็นสายลับของเจ้าแห่งศาสตร์มืดก็ได้ ผมพูดถูกไหม”

         อาเบอร์ฟอร์ดหัวเราะร่า “คุณนี่สุดยอดจริง ๆ - - เมื่อสักครู่ ผมขอให้ดัมเบิลดอร์ใช้สัจจะเซรุ่มกับผมแล้ว คงไม่มีปัญหาใช่ไหม”

    ล็อกฮาตส์พยักหน้า แล้วยื่นมือมาจับทักทายกันอย่างเป็นมิตร

         “เอาละ ผมคิดว่าเราเสียเวลากันมามากแล้ว ไปกันเสียทีเถอะ คุณล็อกฮาตส์ คุณต้องหายตัวตามเราไปที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว ตกลงไหม ผมจะไปกับแฮร์รี่ คุณไปกับรอน ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ เธอมีใบอนุญาติแล้ว ตามเราไปโอเคไหม” อาเบอร์ฟอร์ดว่า

         ทุกคนพยักหน้ารับ และเตรียมพร้อม แฮร์รี่ยื่นมือไปจับที่แขนของอาเบอร์ฟอร์ด แล้วทันใดนั้น เขามีความรู้สึกแบบเดิมผุดวาบขึ้นมาอีกแล้ว มันไม่เหมือนการใช้กุญแจนำทางหรือไม้กวาดที่ดูจะสบายกว่ามากเอาเสียเลย ดูเหมือนว่าอวัยวะภายในของเขาจะถูกบีบและถูกกระชากอย่างแรง และเหมือนว่ามันจะแหลกเหลวไปในนาทีใดนาทีหนึ่ง สักพัก ความรู้สึกนั้นก็มลายหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับตอนมันปรากฏ เท้าของเขาแตะพื้นในสถานที่ที่ต่างออกไป เขารู้ทันทีว่าบัดนี้เขามายืนอยู่ที่ร้านหม้อใหญ่รั่วแล้ว

         ร้านหม้อใหญ่รั่วในครานี้ไม่เหมือนที่แฮร์รี่เคยมาครั้งแรกที่ดูคึกคัก สับสน และเต็มไปด้วยพ่อมดแม่มดมากหน้าหลายตา  หลังจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเช่นทุกวันนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาหาความสำราญนอกบ้านอีกต่อไปแล้ว บัดนี้ร้านนี้ดูเก่าพอ ๆ กับร้านหัวหมูเลยทีเดียว

    ทุกคนมากันครบแล้ว ทอมไม่ได้อยู่ที่บาร์ซึ่งแฮร์รี่นึกสงสัยยิ่งนักว่าเขาไปไหน แต่ก็มิได้สนใจมากนัก เพราะเขามีหน้าที่สำคัญกว่าต้องไปทำ

         “เอาละ ตามฉันมา ล็อกฮาตส์ คุณระวังหลังนะ” อาเบอร์ฟอร์ดบอก

         “ตกลง นำไปเลย ดัมเบิลดอร์ (ผมไม่ชินกับเรียกชื่อคนดัมเบิลดอร์อย่างนี้เลย)”

         อาเบอร์ฟอร์ดนำหน้า ส่วนล็อกฮาตส์ก็ช่วยไล่ต้อนเด็ก ๆ ไปหลังร้าน อาเบอร์ฟอร์ดชักไม้กายสิทธิ์ออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วเคาะที่อิฐก้อนหนึ่ง ทันใดนั้นประตูสู่ตรอกไดแอกอนจึงเปิดออก

         ตรอกไดแอกอนไม่แออัดมากเหมือนตอนที่แฮร์รี่เคยมาในช่วงโรงเรียนใกล้เปิดเทอม มีพ่อมดแม่มดเพียงสองสามคนเท่านั้นที่กำลังเดินอย่างเร่งร้อนบนถนนที่แสนจะว่างเปล่า เหตผลที่ตรอกแทบจะว่างเช่นนี้เป็นเพราะเหตุผลสองประการ หนึ่งคือสถานการณ์ในโลกพ่อมดยามนี้ไม่เหมาะเลยที่จะมาเดินเล่นซื้อของไปปิคนิกนอกบ้านอย่างสบายใจ ซึ่งเหตุผลประการนี้มิควรจะทำให้ตรอกว่างเท่าใดนัก แต่เป็นเพราะเหตุผลอีกประการต่างหาก นั่นคือนี่ไม่ใช่ช่วงที่ใกล้เปิดเทอมจึงไม่มีเด็ก ๆ มาซื้อของตามปกติซึ่งเป็นลูกค้าหลักของตรอกไดแอกอน แต่ถึงว่านี่จะเป็นช่วงเปิดเทอม ตรอกก็ยังคงว่างอยู่ดี เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มาเป็นเด็กนักเรียนจากฮอกวอตส์  แต่บัดนี้ ฮอกวอตส์มิใช่โรงเรียนอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นปราการที่ยืนหยัดต่อต้านโวลเดอมอร์อย่างโจ่งแจ้ง

         พวกเขาทั้งห้าเร่งฝีเท้าผ่านทางเดินปูหินอย่างรวดเร็ว แฮร์รี่เหลือบมองเข้าไปในร้านรวงต่าง ๆ แต่ก็พบว่าบางร้านโทรมมากจนถึงขนาดต้องปิดกิจการบ้างก็มี ส่วนร้านโอลิแวนเดอร์ กับร้านไอศกรีมของฟลอเรียน ฟอเตสคิวนั้นร้างว่างเปล่ามาหนึ่งปีแล้ว

         พวกเขาเดินขึ้นบันไดหินอ่อนของธนาคารกริงกอตส์ ธนาคารของพ่อมดที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ผ่านประตูเข้าไปและพบว่ายังคงมีก็อบลินจำนวนหนึ่งทำงานอยู่ แต่จำนวนก็ลดน้อยลงไปมาก  พ่อมดบางคนหอบเอกสารเดินไปเดินมาอย่างเร่งรีบจนครั้งหนึ่งแทบจะชนกับแฮร์รี่เข้าระหว่างที่เขาเดินไปยังก็อบลินที่ประจำโต๊ะตัวในสุดที่ใช้ติดต่อการเอาของที่เป็นความลับออกจากธนาคาร แฮร์รี่เห็นว่าเป็นโต๊ะและก๊อบลินตัวเดียวกับที่แฮร์รี่เคยมาเอาเงินออกตอนปีหนึ่ง ครั้งที่แฮกริดมาเอาศิลาอาถรรพ์ออกไปตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์

    เมื่อถึงโต๊ะ อาเบอร์ฟอร์ดยื่นซองจดหมายสีน้ำตาลซองหนึ่งให้ก็อบลินตัวนั้น มันรับไปพิจารณาอยู่นานพอควร แล้วทำสายตาแปลก ๆ พลางพูดด้วยเสียงแหลม ๆ ว่า “มีหลักฐานอะไรหรือเปล่าว่าเป็นของศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ เขาตายไปแล้วนี่”

         อาเบอร์ฟอร์ดหน้านิ่วพร้อมก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง “มีลายเซ็นต์อาจารย์ที่ฮอกวอตส์สี่คนในนั้น รูเบอัส แฮกริด อาจารย์สอนวิชาดูแลสัตว์วิเศษ, ฮอเรส ซลักฮอร์น อาจารย์สอนวิชาปรุงยา, ฟีเลียส ฟลิตวิก อาจารย์สอนวิชาคาถา และมิเนอร์ว่า มักกอลนากัล อาจารย์สอนวิชาแปลงร่าง และรองอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์, และฉัน อาเบอร์ฟอร์ด ดัมเบิลดอร์ น้องของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ตัวจริง”

         “ฮอกวอตส์ปิดไปแล้วนี่ จะมีอาจารย์ได้อย่างไร”

         “อดีตน่ะ” อาเบอร์ฟอร์ดบอกอย่างรำคาญ

         มันใคร่ครวญอยู่สักพัก แล้วถามว่า “จะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณเป็นคุณอาเบอร์ฟอร์ดตัวจริง”

         “โถ โถ โถ ถ้าฉันเป็นผู้เสพความตายปลอมตัวมา ฉันใช้คำสาปสะกดใจแกไปแล้ว” เขาบอกอย่างสบายอารมณ์

         “ก็จริง เอาละ ฉันจะนำทางให้ ตามมา” มันพูดคำสุดท้ายพร้อมกระโดดลงจากโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปทางข้างใน ทางเข้าสู่รถมหาโหดที่นำทางสู่ตู้นิรภัยต่าง ๆ ของกริงกอตส์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่ขรุขระและไม่น่าอยู่เอาเสียเลย

        ทั้งคณะนั่งรถรางสองคันติดกันและออกเดินทาง แฮร์รี่ไม่รู้จุดหมายที่จะไปว่าเป็นตู้นิรภัยหมายเลขเท่าใด หรือไม่รู้ไม่กระทั่งว่าเรกูลัสเอาลางแทงมาซ่อนไว้ที่นี่จริงหรือเปล่า เขารู้แต่เพียงว่ามีตู้นิรภัยที่เรกูลัสใช้บริการอยู่เท่านั้น

         รถรางพาเขานั่งวนเวียนและจมลึกเข้าสู่ใต้ดินของมหานครลอนดอนมาเป็นเวลานานแล้ว แฮร์รี่นึกถึงตอนที่เขาเคยมาที่นี่ครั้งแรกกับแฮกริด ซึ่งดูเหมือนจะไม่ชอบรถรางนี่เอาเสียเลย นึกถึงตอนที่พูดถึงเรื่องข่าวลือว่ามีมังกรอยู่ภายใต้ห้วงลึกของกริงกอตส์และแฮกริดดูเหมือนจะชอบใจมาก - - แฮร์รี่คิดอยู่เพลินจนกระทั่งรถรางพาเขามาหยุดอยู่หน้าตู้นิรภัยแห่งหนึ่ง

         ก็อบลินตัวนั้นกระโดดออกจากรถราง แล้วเดินนำหน้าไปยังหน้าตู้นิรภัยที่ไม่มีช่องสำหรับใส่รูกุญแจ แฮร์รี่รู้ว่าตู้นิรภัยประเภทนี้ได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นหนามาก สามารถเปิดได้โดยก็อบลินจากริงกอตส์เท่านั้น แฮร์รี่แหงนหน้าดูและพบว่านี่เป็นตู้นิรภัยหมายเลขเจ็ดร้อยสิบสองซึ่งเป็นตู้ข้าง ๆ ตู้ที่ดัมเบิลดอร์เคยใช้เก็บศิลาอาถรรพ์เมื่อหกปีที่แล้วนั่นเอง

         ก็อบลินตัวนั้นเคาะนิ้วกับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นพนังใต้หมายเลขแกะสลักหมายเลขตู้นิรภัย แล้วพนังนั้นก็ละลายหายไปในอากาศ ซึ่งแฮร์รี่มองดูข้างในและเขาพบว่าข้างในมีกระดาษอยู่แผ่นหนึ่ง แฮร์รี่ก้าวเข้าไปข้างหน้าหมายที่จะหยิบขึ้นมา แต่อาเบอร์ฟอร์ดมาขวางไว้ก่อน

         “ช้าก่อน แฮร์รี่ มันอาจมีการลงคาถาอะไรไว้ก็ได้ ให้ฉันตรวจสอบดูก่อน” เขาบอกพลางเดินไปข้างหน้า เข้าไปในตู้และใช้สายตาพิจารณากระดาษแผ่นนั้นอยู่หนึ่งถึงสองนาทีอย่างใกล้ชิดโดยไม่ได้หยิบมันขึ้นมา แฮร์รี่จำสิ่งที่ดัมเบิลดอร์เคยพูดเกี่ยวกับร่องรอยของเวทย์มนต์ ซึ่งนั่นคงเป็นสิ่งที่อาเบอร์ฟอร์ดกำลังตรวจสอบอยู่ในขณะนี้

         เขาชักไม้กายสิทธิ์ออกมาอย่างรวดเร็วโดยมิได้ละสายตาจากแผ่นกระดาษแม้เสี้ยววินาที ราวกับกลัวว่าวินาทีที่เขาละสายตาจากมันมันอาจจะมากัดเขาก็เป็นได้ - - เขาใช้ไม้กายสิทธิ์แตะที่แผ่นกระดาษแล้วพึมพำอะไรบางอย่างราวกับบทสวดอะไรสักอย่างของชนเผ่าโบราณหรือคาถาที่ซับซ้อน แล้วเกิดแสงสีเหลืองสว่างขึ้น ณ จุดที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของเขาแตะกับแผ่นกระดาษครู่หนึ่งแล้วจางหายไป

         อาเบอร์ฟอร์ดหยิบกระดาษขึ้นมา อ่าน แล้วส่งต่อให้แฮร์รี่





                                ถึงผู้ค้นพบ ตัวข้า หรือเจ้าแห่งศาสตร์มืด

           ข้าได้ค้นหาฮอร์ครัชของจริงของเจ้าแห่งศาสตร์มืดทั้งสิ้นสี่อันและได้ซ่อนไว้ในที่ที่ปลอดภัย และจะทำลายทันทีที่ข้ามีโอกาส  แต่ถ้าหากว่ากระดาษแผ่นนี้ยังอยู่ดี ก็หมายความว่าข้ายังทำไม่สำเร็จ และขอฝากผู้ที่ค้นพบ ช่วยสานต่อเจตนารมณ์ของข้าด้วย

           ฮอร์ครัชที่ข้าขโมยไปได้แก่ จี้ของสลิธีลิน, แหวนของมาโวโล่กอนต์, ถ้วยของฮัฟเฟิลพัฟ และต่างหูของเรเวนคลอ - - ถึงอย่างไรก็ตาม ข้าเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่หามันได้ไม่ครบ แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต่อต้านเจ้าแห่งศาสตร์มืด

           ที่อยู่ของฮอร์ครัชอยู่หลังกระดาษแผ่นนี้ ผู้ที่อ่านมันได้จะมีเพียงผู้ที่ต่อต้านเจ้าแห่งศาสตร์มืดเท่านั้น กล่าวคือ เขาหรือเธอผู้นั้นจะต้องไม่มีตรามาร และที่สำคัญต้องไม่ใช่ตัวเจ้าแห่งศาสตร์มืดเองด้วย - - ให้เขาหรือเธอเหล่านั้นใช้คาถาที่ใช้แสดงหมึกล่องหนหลังกระดาษแผ่นนี้ แล้วที่ซ่อนจะปรากฏแก่ท่าน

                           ขอแสงสว่างจงบังเกิดแก่ชุมชนผู้วิเศษ ร.อ.บ.





         แฮร์รี่ใจหาย ถ้าเรกูลัสขโมยแหวนไปด้วย ก็หมายความว่าแหวนที่ดัมเบิลดอร์ทำลายไปแล้วก็เป็นแหวนต้องคำสาปของปลอมน่ะสิ แฮร์รี่รู้สึกแย่มาก ๆ นี่มันเท่ากับว่าสิ่งที่ดัมเบิลดอร์ทำไปเมื่อปีที่แล้ว แทบจะสูญเปล่าทั้งหมด

         เขาพลิกกระดาษดูด้านหลังอย่างรวดเร็ว แน่นอน มันไม่มีอะไรเขียนอยู่แม้แต่อย่างเดียว แฮร์รี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่กระดาษ

         “เดี๋ยวก่อนแฮร์รี่ ฉันคิดว่าเราไปดูที่ฮอกวอตส์ดีกว่านะ เอามาให้ฉันเก็บไว้ก่อนดีกว่า แล้วเราจะกลับโรงเรียนกันหลังจากแวะให้เธอกับรอนสอบหายตัวเสร็จ ตกลงไหม” อาเบอร์ฟอร์ดถาม

         “ตกลงครับ” แฮร์รี่บอกเรียบ ๆ และส่งกระดาษให้อาเบอร์ฟอร์ด เขาแทบจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบหายตัว หรือแม้ว่าสิ่งใด ๆ เขารู้แต่เพียงว่าดัมเบิลดอร์ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ มือข้างนั้นของเขาเสียไปโดยสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง แต่ก็อีกนั่นละ มันเทียบไม่ได้เลยกับแผนการของเขาที่เขายอมสละกระทั่งชีวิตของตนเองเพื่อที่จะดำเนินตามแผนต่อ

         หัวสมองของแฮร์รี่มึนชา ขณะที่เดินตามอาเบอร์ฟอร์ดกลับสู่แสงสว่างยามเย็นที่สาดส่องลงมาสัมผัสทุกย่างก้าวบนบันไดหินอ่อนของกริงกอตส์ ทุกอย่างในโลกนี้ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แฮร์รี่คิดแต่เพียงว่า สาเหตุที่เขาสูญเสียสิ่งสำคัญแทบจะทั้งหมดที่เขามีไป ทั้งหมดนั่น เป็นเพราะลอร์ดโวลเดอมอร์เพียงผู้เดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×