คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 อสูรคลั่งจอมเฉื่อย อิสระ
ตอนที่ 1 อิสระ อสูรคลั่ง จอมเฉื่อย
ครืดด ตึก!!! 5
เสียงบานเลื่อนของประตูดังขึ้นพร้อมส้นสูงสีแดงแปร๊ดที่กระแทกลงพื้นแทบจะพร้อมๆกัน เจ้าของส้นสูงกวาดตามองรอบๆห้องด้วยสายตาดุดันราวกับราชินีก็ไม่ผิดนัก เหนือประตูมีป้ายสี่เหลี่ยมที่เขียนไว้ว่า ห้อง B-2
“นี่ๆวันนี้เลิกเรียนไปกินซิกิจิ่ป่ะ” เสียงเด็กนักเรียนสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
“เอาดิ่ ไปด้วยกันน่ะยัยบี” เพื่อนสาวอีกคนตอบอย่างลิงโลด
“โอเค !!!!” ว่าแล้วยัยบีก็ตามน้ำอีกคนดังลั่น
และนี้คือบรรยากาศบางส่วนในห้องเรียน B-2 หรือก็คือมัธยมปลายปีสองห้อง สองนั่นเอง นักเรียนหลายคนหันมาจับกลุ่มคุยโดยไม่สนว่านี้คือหนึ่งใน ชม.เรียน ส่วนกลุ่มผู้ชายก็เอาแต่นั่งล้อมวงเล่นสูงต่ำกันอย่างไม่กลัวคุกกลัวตารางกันเลยทีเดียว โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้อาจารย์สาวสุดโหดได้มาเยือนยังห้องเรียนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อาจารย์สาวที่ว่าก็คือเจ้าของส้นสูงสีเปรี้ยว ที่ทุกคนให้ฉายาว่า เจ๊สี่ เพราะเธอใส่แว่นตาตลอดเวลาจนเหมือนจอมมารสาวสี่ตาอะไรเทือกนั้น
และตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าประตู ดวงตาหลังกรอบแว่นนั้นกรีด อไลน์เนอร์คมกริบ ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงที่ตอนนี้เม้มเข้าหากันแน่นด้วยอารมณ์ฉุนสุดขีด เธอกระชับแฟ้มหนังสือที่เหน็บไว้แน่นพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปทั่วห้องพร้อมกับตะโกนลั่นว่า
“เงียบ เดี๋ยวนี้ !!!!!!!!!!”
พลัน เด็กนักเรียนทั้งห้องเงียบกริบราวกับเมื่อไม่กี่วินาทีนี้เป็นเสียงรถหวอที่วิ่งผ่านไป และเพียงอึดใจทุกคนในห้องก็วิ่งกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง จนตอนนี้ห้องเรียนดูกลับเป็นระเบียบเรียบร้อยราวกับหน้าเท้าเป็นหลังมือ
อาจารย์สาวเดินกระฟัดกระเฟียตตรงไปที่โต๊ะประจำตัวที่ตั้งอยู่หน้าห้อง เธอทิ้งตัวกระแทกเก้าอี้ดึงตึง เล่นเอานักเรียนหลายๆคนกลืนน้ำลายเอื้อกอย่างเสียวสันหลัง ในขณะที่เธอบ่นกระปอดกระแปดอย่างหัวเสีย จนนักเรียนบางคนได้ยินคร่าวๆว่า
“ไอ้พวกเด็กบ้าเอ๊ย พ่อแม่ส่งมาให้เรียนแท้ ๆ ทำเป็นแ_ดจะไปกินนู่นกินนี่ คอยดูเถอะได้สอบตกกันระนาวแน่ แม่จะหัวเราะให้ฮากลิ้ง ฮึ่มม” อะไรประมานนี้ล่ะน่ะ
“เอาล่ะๆ ตอนนี้ก็ชั่วโมงโฮมรูมก่อนเลิกเรียน เดี๋ยวอาจารย์จะเช็คชื่อล่ะ” เธอว่าพลางเปิดแฟ้มของตนอย่างรวดเร็ว หน้าแรกของแฟ้มเป็นเอกสารอะไรบางอย่างที่มีข้อมูลกรอกไว้เป็นแถวๆ ข้างกันมีรูปคู่ของเธอและหนุ่มร่างกำยำคนหนึ่งที่ทำท่ายกมือเอามาชนกันเป็นรูปหัวใจดูสวีทดีแท้
เธอจ้องรูปนั้นอยู่ครู่หนึ่งแล้วหน้าเธอก็ขึ้นสีจัด จนนักเรียนแถวหน้าสังเกตเห็น เธอกลบเกลื่อนท่าทีด้วยการกระแอมในคอเบาๆก่อนจะทำทีเปลี่ยนเป็นหน้าถัดไปอย่างบรรจง หน้านี้เป็นรูปและรายชื่อของนักเรียนประจำห้องบีสองนั่นเอง
“เอาล่ะ อาจารย์ไม่อยากมากความอะไรนัก เรียกชื่อใครก็รีบยกมือล่ะ” เธอว่าพลางหยิมปากกาที่เหน็บอยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมา
เสียงขานเรียกชื่อดังขึ้นเรื่อยๆจากเลขที่หนึ่งไปสองและสามตามลำดับจนมาหยุดอยู่ที่ชื่อๆหนึ่ง
“นาย อิสระ ชนะสงคราม” เสียงอาจารย์สาวขานเรียกอย่างเรียบเฉย แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากผู้ใด จนเธอต้องทวนซ้ำอีกรอบ
“นายอิสระ ชนะสงคราม” รอบนี้เธอเน้นเสียงหนักจนคนฟังได้ยินเป็นเสียงคำรามของสัตป่ายังไงยังงั้น และเช่นเคยไม่มีใครขานรับ อาจารย์สาวหันไปที่นักเรียนเคราะห์ร้ายคนหนึ่งซึ่งนั่งเยื้องๆกับโต๊ะของเธอ
“นายอิสระไม่มาหรือไง หึ” เธอถามเสียงเครียด
“มะ..มาน่ะครับ ‘จารย์ แต่ตั้งแต่ คาบที่สี่ไปผมก็ไม่เห็นเขาแล้วอ่ะ ครับ” นักเรียนผู้เคราะห์ร้ายตอบอย่างกระอักกระอวน อาจารย์สาวลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวอย่างอารมบูด เธอหันไปมองรอบห้องจนหยุดสายตาที่เก้าอี้เรียนว่างเปล่าหลังห้องตัวหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวเหยียดเหมือนกับปลงๆในเรื่องของเด็กนักเรียนคนนี้แล้ว
“เอาอีกแล้วน่ะเด็กคนนี้ โดดเรียนเป็นว่าเล่นจะทำให้ชั้นกลุ้มใจไปถึงไหนก้านนนน เวรก้ามมม เวนกรรมม”
ในเวลาเดียวกันนั้นบนดาดฟ้าของตึกเรียนหลัก
เด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนฉีกแข้งฉีกขาอย่างสบายใจบนคอนกรีตเย็นชืด เขาใช้กระเป๋านักเรียนของตนเป็นที่หนุนหัวแทนหมอน บนกระเป๋ามีสติ๊กเกอร์ทำเองที่อ่านว่า
My name อิสสสส สุดจะบรรยายจริงๆ
ผมสีน้ำตาลประบ่าของเขาที่ทอแสงแดดคล้ายสีช็อคโกแลตเลิกขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าอ่อนวัย ที่ตรงมุมปากมีน้ำลายไหลยืด เขาพลิกตัวไปมาหลายสิบตลบราวกับว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่มชั้นดีอะไรอย่างนั้นแหละ
ตี้ดๆ ตี้ดๆ ตี้ดๆ เสียงสัญญาณอะไรบางอย่างดังขึ้นไม่หยุด จนเจ้าของผมสีช็อคโกแล็ตต้องกวาดมือคลำหา เขาคว้าไปมารอบตัวอยู่พักหนึ่ง จนนึกขึ้นได้ว่าของสิ่งนั้นอยู่ในกระเป๋านักเรียนของตัวเอง จึงล้วงไปที่กระเป๋าหน้าและคว้ามันออกมา
ตอนนี้เขาปรือตามองไปที่ของสิ่งนั้น ในขณะที่พยายามปรับโฟกัสสายตาของตัวเองด้วยการกระพริบตาถี่ๆหลายครั้ง จนมองเห็นวัตถุทรงกลมสีเงินวาววับที่มีหน้าปัดบอกเวลา มันคือนาฬิกาปลุกประจำตัวเขานั่นเอง
“อา สามโมงครึ่งแล้วหรอเนี่ย เจ๊สี่บ่นแน่เลย” เขาลุกขึ้นบิดขี้เกียจและหาววอดในเวลาเดียวกัน นัยตาสีฟ้าครามของเขากวาดตามองไปรอบตัวและพบว่ามีเพียงกระเป๋าเป้ของตัวเองที่วางไว้ข้างหลัง
และนี่คือพระเอกของนิยายเรื่องนี้ เจ้าของนามอันสะเทือนเลือนลั่น(โรงเรียน) นาย อิสระ ชนะสงคราม นามสกุลอาจจะอลังการไปบ้างแต่ก็นะมันตกทอดกันมารุ่นสู่รุ่น อายุอานามก็สิบห้าย่างสิบหก สูงร้อยเจ็ดสิบ หนักหกสิบเอ็ดเรียกว่าเจ้าเนื้อพอสมควร หน้าตาจัดได้ว่าหล่อถึงขนาดติดหนึ่งในสิบของโรงเรียนแห่งนี้เลยด้วย หมอนี่คือจอมขี้เบื่อขี้เกียจและจอมเฉื่อยชารักสบายและอะไรอีกร้อยแปดที่คนๆนึงจะรักสบายได้
และเขายังมีอีกฉายาหนึ่งที่นักเรียนชายทุกคนตั้งให้ (แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้เต็มจะรับนัก) นั่นคือ "อสูร คลั่งจอมเฉื่อย อิสระ" ฉายาที่ได้มาจากการเป็นนักวิวาทอันดับหนึ่งในโรงเรียนนั่นเอง และเหตุที่ทำให้เขาเป็นชายผู้ไร้เทียมทานนั้นมาจากลุงของเขานั่นเอง เพราะตั้งแต่เด็กนายอิสก็โตมากับโรงยิมมวยปล้ำของลุง เรียกได้ว่าความเป็นนักสู้เข้าเส้นเลือดเลยก็ว่าได้
เด็กหนุ่มนั่งขยี้ผมยุ่งของตัวเองพร้อมหาววอดอีกครั้งด้วยความเคยชิน ขนาดตื่นมานายอิสยังยืนเหม่อมองไปในท้องฟ้าเหมือนกับคนไม่มีวิญญาณ หรือจะบอกว่าไม่ได้เอาวิญญาณมาเรียนด้วยก็ได้
ไม่ต้องถามเลยว่าทำไมหมอนี่ไม่เข้าเรียน ก็เพราะเจ้าตัวเบื่อสภาพเดิมๆที่ต้องมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมๆที่เดิมๆ สู้มาหลับสบายๆตากลมบนดาดฟ้ามันดูสบายกว่าเป็นไหนๆ
แอ๊ดดด ปึง!!!!!
เสียงประตูดาดฟ้าเปิดดังลั่นส่งให้จอมโดดเรียนต้องหันไปมองยังต้นเสียง และหลังประตูนั่นมีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขายืนอยู่ ผมสีม่วงตัดรองทรงชี้ตั้งด้วยเจลเซทผมของเขาดูเด่นสดุดตา
“เฮ้ย โดดเรียนอีกแล้วหรอว่ะเพื่อน” ผู้มาเยือนว่า เด็กหนุ่มคนนี้คือเพื่อนสนิทของอิสระมีนามว่า แชมป์ ทั้งสองคนคบกันมาตั้งแต่อนุบาลก็ว่าได้ เรียกได้ว่าเป็นพี่น้องโตมาด้วยกันเลย
“เออ เบื่ออ่ะ ตอนแรกก็ว่าจะโดดคาบเดียว แต่ดันหลับเพลินอ่ะดิ่” อิสระตอบอย่างสบายๆจนเพื่อนสนิทอย่างแชมป์ได้แต่ถอนหายใจกับท่าทีเฉื่อยชาของเพื่อนจอมขี้เกียจคนนี้
นายอิสระคว้าเป้บนพื้นขึ้นมาสะพาย ก่อนจะบิดขี้เกียจไปมาอีกระลอก เขาหันมายิ้มให้แชมป์ก่อนจะเดินเอื่อยๆเหมือนคนหมดแรงมาที่ประตูดาดฟ้า
“ทำไรดีว่ะ ปิดเทอมใหญ่นี้เพื่อน”เขาว่าพลางเอามือตบไหล่เพื่อนซี้
“ไม่รู้ว่ะ วันนี้วันสุดท้ายเทอมสองแล้วด้วย นายปิดเทอมจะทำไรว่ะ”แชมป์ถามกลับ ส่งให้คนขี้เกียจตอบอย่างขี้เกียจอีกตามเคย
“ไม่รู้ว่ะ มันเบื่อๆ ”
“ให้มันได้อย่างนี้ซิ่ว่ะ เองเนี่ย เอ้อ สนใจเล่นเกมป่ะว่ะพวก” แชมป์ถามเหมือนกับพยายามจะหาทางเลือกให้เพื่อนจอมขี้เกียจมีกิจกรรมร่วมกับเขา เพราะปิดเทอมที่แล้วพอบอกเจ้าอิสไปว่า ไม่รุ้เหมือนกัน มันเล่นหายหน้าไป จนมารู้ที่หลังว่ามันกินๆนอนๆแล้วก็ไปคลุกอยู่โรงยิมมวยปล้ำแถวบ้าน ตลอดปิดเทอม ก็รู้สึกเซงแทนยังไงชอบกล
“เกม ไรว่ะ”อิสถามอย่างสงสัย
“ก็เกมที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้ไงเพื่อนไอ้ที่ว่า บริษัท Unlimited (อันลิมิตเต็ด) อะไรนั่นสร้างอะ น่าเล่นมากน่ะเว้ยเผื่อจะแก้เบื่อนายได้” แชมป์ตอบพลางยักคิ้วและมองไปยังตึกด้านหน้าที่ไกลออกไปจากตึกเรียน ส่งให้นายอิสต้องเหลียวหลังหันไปมองตามอย่างช่วยไม่ได้
ทิวทัศบนตึกดาดฟ้านั้นช่างสวยงามยิ่งนัก เนื่องจากตึกเรียนมีความสูงกว่ายี่สิบชั้น ทำให้สามารถมองเห็นเมืองรอบๆจากมุมสูงได้ง่าย และในบรรดาตึกสำนักงานต่างๆในเมืองกรุงที่มีมากมาย มีเพียงตึกเดียวที่สูงที่สุดและดูสวยงามที่สุด
ตึกทรงกลมที่พุ่งสูงเสียดฟ้า กะด้วยสายตาคงสูงไม่น้อยกว่าร้อยชั้นเป็นแน่ บนยอดตึกมีปติมากรรมขั้นเทพ(ในความคิดของอิสอ่ะน่ะ) ที่แกะสลักเป็นรูปตัวยูขนาดมหึมาที่เพิ่งสร้างเสร็จไปเมื่อไม่นานนี้เอง
“ไอ้เจ้าของตึกอลังๆ นั่นอ่ะน่ะ” อิสว่าพลางชี้ไปที่ตึงดังกล่าว เขาหัวเราะหึๆราวกับเห็นเป็นเรื่องขบขัน
“ก็เออดิ่ ไอ้บริษิทนี้เป็นเจ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าแทบจะทั่วโลกและดังที่สุดด้วยน่ะเว้ย” แชมป์กล่าวอย่างกระตือรือร้น เพราะถ้าจะคุยเรื่องอิเรคโทรนิคหรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์โรบอทอะไรพวกนี้แล้วล่ะก็ต้องเจ้าหมอนี่เลย
การันตีด้วยการที่หมอนี่เป็นแฟนพันแท้ของคนเล่นเครื่องใช้ไฟฟ้าเพราะแม้แต่ปากกาประจำตัวยังมีระบบเขียนเองอัตโนมัติ (ซึ่งไม่รุ้ว่ามันไปหามาได้ไงอ่ะน่ะ:อิสระ) ซึ่งอิสขอยืมมาใช้ในห้องเรียนก็ได้คำตอบจากเพื่อนรักว่า
‘เองจะเอาไปทำเบื๊อกไรว่ะในเมื่อเองโดดเรียนมันแทบทุกวิชา’ (จำไว้เลยเจ้าเพื่อนเวรเอ้ยย:อิส)
“แล้วแต่ว่ะก็ลองดูล่ะกัน ถ้าน่าเบื่อ ข้าก็เลิกเล่นน่ะเพื่อน” อิสว่าพลางเลิกสนใจตึกดังกล่าว เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอก่อนจะเดินลงบันไดมา ปล่อยให้นายแชมป์ยืนมองตึกระฟ้านั่นด้วยประกายตาแวววับ
“อ่าวเฮ้ยรอด้วย ทีจะชิ่งกลับบ้านนี่รีบเลยน่ะ แล้วเองไม่อยากรู้หรอว่ามันชื่อเกมอะไร” นายแชมป์วิ่งตามไล่หลังอิสมาอย่างเร่งรีบ เขารู้อยู่แล้วว่าหมอนี่เป็นพวกไม่สนใจอะไรเท่าไหร่นอกจากเรื่องมวยปล้ำกับทะเลาะวิวาท แต่ถ้าทำให้ชีวิตที่น่าเบื่อของหมอนี่หมดไปได้มันคงจะทำให้เขาสบายใจมากขึ้น
“ว่า.......” จอมเฉื่อยถามพยางค์สั้นๆเพื่อรอคำตอบของแชมป์ จนเพื่อนซี้ต้องตอบอย่างเซงๆกับท่าทีไม่ยี่หระของเจ้าอิสระ
“Under Word Online ไงเพื่อน ”
ผู้เขียน : ช่วยติชมคอมเม้นต์ด้วยน่ะครับ ฝากด้วยครับนิยายของผมมือใหม่หัดแต่งน่ะ
ความคิดเห็น