คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ▪ HIT & RUN ▪
HIT & RUN
pairing l KRISHUN
summary | every end is a new beginning
:-)
แสงแดดสีทองสาดส่องเข้ามาสู่ห้องกว้าง...แต่ก็ได้ม่านสีหม่นช่วยกรองซับแสงบางส่วนไว้เพื่อมิให้รบกวนช่วงเวลานิทรา
อันแสนสงบของร่างที่ยังนอนอยู่บนเตียง เขาเพียงขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะซุกตัวเข้าหาสัมผัสอบอุ่นอันคุ้นเคย
รู้สึกได้ถึงฝ่ามือเรียวเล็กที่แตะสัมผัสอยู่บนใบหน้า
และไม่นานเปลือกตาของเขาก็เปิดออก
“เซฮุน....”
ริมฝีปากบางครางเพรียกชื่อนั้นเสมือนคนละเมอ เขาเผลอจดจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเป็นประกายคู่นั้นที่จ้องมองกลับมา
ด้วยความสงสัย ฝ่ามือเล็กที่วางทาบอยู่บนใบหน้าก็เริ่มขยับโยกศีรษะของเขาไปมา
“คุณพ่อคะ! คุณพ่อ! ตื่นแล้วได้แล้วค่ะ ตื่นนนนน...”
เสียงเล็กแหลมนั้นช่วยดึงสติของเขาให้หลุดจากภวังค์ ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไปมาพลางยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า
ทอดสายตาลงมองร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงเดียวกันด้วยดวงตาโศกเศร้า ก่อนคลี่ยิ้มออกมา
“ขอโทษนะคะ...คุณพ่อตื่นสายอีกแล้ว”
ฝ่ามือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มสลวยนั้นก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเอ็นดู
“ครั้งนี้ลูน่าให้อภัย แต่ต่อไปคุณพ่อต้องห้ามตื่นสายอีกรู้ไหมคะ?”
เด็กน้อยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับท่าทางที่เลียนแบบมาจากพวกผู้ใหญ่
“ค่ะ..คุณพ่อจะไม่ทำอีกแล้ว แต่ตอนนี้หนูควรจะไปอาบน้ำก่อนดีไหม?”
เขายิ้มขำก่อนอุ้มร่างเล็กลงจากเตียง แล้วเอียงคอมองผ่านประตูห้องนอนออกไปเพื่อมองหาใครคนหนึ่ง
“ไปอาบน้ำกันนะคะคุณหนู”
หญิงสาววัยกลางคนเดินเข้ามาอย่างรู้หน้าที่ หล่อนส่งยิ้มให้ชายหนุ่มหนึ่งครั้งก่อนหันกลับมาเตือน
“คุณหนูคนโตก็ควรจะไปอาบน้ำได้แล้วนะคะเดี๋ยวจะสาย...วันนี้จะไปเยี่ยมคุณเซฮุนไม่ใช่หรือคะ?”
“ครับป้า”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า ก่อนคว้าผ้าเช็ดตัวจากมือของหญิงสูงวัยเขาเรียกว่าป้าขึ้นมาถือไว้
ร่างสูงยืนรอส่งจนกว่าคนตัวเล็กของเขาจะเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนจะค่อยเดินไปยังห้องน้ำอีกห้องที่อยู่ใกล้กัน
“เซฮุน... นายชอบดอกอะไร?”
“คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้ชายเนี่ยนะครับ?”
“โธ่...ฉันก็แค่อยากรู้เรื่องของนายเท่านั้น...ว่าแต่ นายชอบดอกอะไร?”
“อืม…ไม่รู้สิครับไม่ว่าดอกอะไรก็สวยเหมือนกันหมดแหละ”
“ไม่มีที่สวยหรือชอบเป็นพิเศษเลยหรือ?”
“อืม...คงจะเป็น...ดอกลิลลี่มั้งครับ...”
x x x x x x x x x x x x x x x x
“คุณพ่อจอดรถทำไมคะ?”
เมื่อภาพร้านค้าและผู้คนที่เคยเห็นจากหางตาว่ากำลังเคลื่อนไปข้างหลังหยุดนิ่งลง
เด็กหญิงที่นั่งเล่นซนอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับรถก็เงยหน้าหันไปหาคนที่นั่งอยู่อยู่ข้างๆก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยทันที
“คุณพ่อต้องลงไปซื้อของนิดหน่อยค่ะเดี๋ยวคุณพ่อจะรีบมา.... หนูรออยู่บนรถนะคะ อย่าซนนะ เข้าใจไหม?”
เด็กหญิงพยักหน้ารับก่อนเบี่ยงเบนความสนใจกลับมาจดจ่ออยู่กับปืนของเล่นที่ได้เป็นของขวัญวันครบรอบ 6 ขวบ
จากบุคคลที่เธอมักจะเรียกว่าคุณอาจงแด
ช่วงเวลา 1 ปีที่เด็กหญิงได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวใหม่อีกทั้งยังเป็นครอบครัวใหญ่
ทำให้เธอสามารถเรียกบุคคลเหล่านี้ด้วยสรรพนามใกล้ชิดเสมือนญาติโดยสายเลือดได้โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ
ยิ่งความรักและความใส่ใจจากคนที่เธอเรียกเขาว่าคุณพ่อนั้น ก็สามารถทำให้เธอยอมรับเขาในฐานะพ่อคนใหม่ได้โดยไม่ยากเย็น
และเป็นจริงตามที่เขาว่า เพราะเพียงไม่นานชายหนุ่มก็เดินกลับมาพร้อมกับช่อดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือ
เขาเปิดประตูด้านหลังออกก่อนจะบรรจงวางช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ลงบนเบาะกว้าง และเดินอ้อมกลับมายังที่นั่งประจำคนขับ
ส่งยิ้มตอบให้ผู้โดยสารตัวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆก่อนจะออกรถไป
x x x x x x x x x x x x x x x x
เด็กหญิงตัวเล็กเดินฮัมเพลงเคียงข้างชายร่างสูงที่ยังคงกอบกุมมือของเธอไว้มั่น
ใบหน้าไร้เดียงสานั้นเอียงคอมองเจ้าของมือหนาที่เธอจับไว้อยู่ก่อนคลี่ยิ้มสดใสอย่างน่ารัก
และเธอก็ได้รับรอยยิ้มอันอบอุ่นตอบกลับมา
“คุณพ่อดูนั่นสิคะ”
เธอเอ่ยออกมาด้วยเสียงตื่นเต้น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ทำจากหิมะ
เขาเดาว่ามันน่าจะเป็นฝีมือการสรรสร้างของเด็กที่เล่นซนอยู่ในบริเวณนั้น
ชายหนุ่มทอดสายตามองพรมหิมะสีขาวหม่นที่ปูลาดตลอดทางเดินนั้นด้วยแววตาโศกเศร้า...
หิมะขาว...เหมือนอย่างวันนั้น…
ราวกับมีใครซักคนจงใจหมุนภาพเหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้นย้อนกลับมา
หากแต่ชายหนุ่มเองก็ไม่สามารถปล่อยตัวเองให้จมลึกไปกว่านั้นเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงดึงที่ชายเสื้อของฝ่ามือเล็ก
“คุณพ่อขา…”
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยความห่วงใย
“ว่ายังไงคะ?” เขาย่อตัวลงนั่ง เพื่อนให้ใบหน้าสดใสไร้เดียงสานั้นอยู่ในระดับสายตา
“เราจะไปที่ไหนกันคะ?”
“ไปหาคุณแม่...และครอบครัวของหนูค่ะ”
เขาว่าพลางช้อนร่างนั้นขึ้นมาอุ้มไว้ ก่อนจะค่อยๆเดินผ่านรั้วเหล็กขนาดใหญ่ที่กั้นพรมแดนระหว่างความมีชีวิตกับความไม่มีนั้น
เด็กน้อยมองภาพหลุมศพมากมายที่ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้และรูปแกะสลักประติมากรรมเหล่านั้นด้วยความสนใจ
เหมือนสวยงาม หากแต่ให้ความรู้สึกหมองหม่นและปวดร้าวในเวลาเดียวกัน
ฝ่ามือเล็กที่โอบรอบลำคอแกร่งเริ่มออกแรงกระชับมากขึ้น เมื่อเด็กน้อยรู้สึกอึดอัดใจอย่างไม่มีสาเหตุ
เพียงแค่เธอได้เข้ามาอยู่ในอาณาเขตดินแดนอันสงบนี้ ไม่ได้ยินแม้สรรพเสียงของสิ่งมีชีวิตใดๆ
แม้กระทั่งเสียงของคุณพ่อเธอเองก็ยังไม่ได้ยินตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาในนี้
“สวัสดีคุณแม่สิครับลูน่า...”
เขาว่าพลางคลายอ้อมกอดลงปล่อยให้เธอได้ยืนอยู่บนผืนหิมะด้วยตนเอง
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองไปยังรูปภาพที่ประดับอยู่บนแผ่นหินอ่อนนั้นด้วยความสงสัย
แต่ก็ยอมเอ่ยคำทักทายตามที่อีกคนบอกอย่างไม่อิดออดใดๆ
“สวัสดีค่ะ...คุณแม่”
เด็กหญิงว่าพลางเบือนสายตากลับไปมองยังรูปของอีกคนที่ถูกประดับไว้ข้างๆกัน
ก่อนหันมามองคนที่อยู่ข้างๆเหมือนพยายามจะถามไถ่อะไรบางอย่าง
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ก่อนวางช่อดอกลิลลี่ในมือลงบนแผ่นปูนที่ถูกก่อขึ้นเหนือพื้นดินนั้นด้วยท่าทางสงบนิ่ง
เสียงสายลมกรีดหวีดหวิวเข้ามายังโสตประสาทหากแต่ก็มิได้ทำให้เขารู้สึกรำคานใจ
ความเย็นเยียบที่แล่นริ้วแตะสัมผัสที่ใบหน้าคมสันกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
เขายังคงยืนจดจ้องกับรูปภาพทั้งสองนั้นโดยไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆที่จะเอื้อนเอ่ยออกมา
ฝ่ามือใหญ่กอบกุมกระชับฝ่ามือที่เล็กกว่าอันแสนสำคัญไว้มั่น
“ได้โปรดละทิ้งความกังวล...ผมจะดูแลครอบครัวที่เหลืออยู่ของพวกคุณเอง”
x x x x x x x x x x x x x x x x
ความคิดเห็น