คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : #Mission : 2 โบสถ์ทางตอนเหนือ (ตัวละคร : กลิ่นชา)#
ชมรมหลังเลิกเรียน
‘Mission #2’
Survey to dark side
‘โบสถ์ทางตอนเหนือ’
กลิ่นชา Part
เมื่อได้รู้ว่าสถานที่ที่จะต้องไปนั่นคือ โบสถ์ทางตอนเหนือที่อยู่ไม่ไกลไปจากชมรมเท่าไร เล่นเอาฉันถึงกับใจเต้นไม่เป็นส่ำ ดีนะที่ยังมีเพื่อน ๆ ในบ้านเป็นเพื่อนร่วมทางไปด้วยค่อยอุ่นใจขึ้นมาบ้าง เมื่อพวกเรามาถึง พี่พลอยได้จัดแจงสถานที่แยกย่อยที่พวกเราต้องไปกันต่อ ชื่อของฉันอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า ‘ห้องสารภาพบาป’
ฉันกำไฟฉายในมือไว้แน่นราวกับว่าจะไม่ปล่อยมันไปไหน แสงไฟส่องไปอย่างอยู่ไม่สุขเพราะมืออันสั่นเทาของฉัน บัดนี้ฉันเหลือเพียงตัวคนเดียวหลังจากที่แยกกับคนอื่น ๆ สำรวจแล้ว ถ้าตอนนี้ยังมีซีลอนอยู่ด้วยคงดี แสงไฟนำทางให้ฉันมาหยุดชะงักอยู่ที่ห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง ประตูนั้นเปิดอ้าออกรอให้ฉันเข้าไปหามัน สองเท้าของฉันเดินเข้าไป ด้านในมีเพียงเก้าอี้ไม้เก่า ๆ และอยากไย่ที่ขึ้นสกปรกอยู่บนเพดาน ด้านข้างของผนังด้านหนึ่งมีช่องว่างไม่ใหญ่ไม่นัก ซึ่งผนังตรงนั้นจะเชื่อมกับห้องเล็ก ๆ ที่อยู่ถัดไป
ฉันมาถึงแล้ว ห้องสารภาพบาป
“มีเพียงแค่เก้าอี้ตัวเดียวในห้องนี้ ไม่มีอะไรนอกจากนั้น อ้อ ... ยังมีฝุ่นหนาเตอะขึ้นเกาะเพดานเต็มไปหมด กลับห้องไปฉันต้องอาบน้ำล้างตัวให้เกลี้ยง” เธอพูดพรางจดลงไปในสมุดโน้ตที่เพิ่งได้ติดตัวมาจากรุ่นพี่ของบ้าน เธอสาดไฟฉายไปรอบ ๆ ห่อนที่ถอนหายใจเพราะนอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว ออกไปรอเพื่อน ๆ ด้านนอกจะดีกว่า
ฉันคิดได้ดังนั้นจึงเริ่มก้าวเท้าออกไป ระหว่างที่มือกำลังจะบิดลูกบิดประตูให้เปิดออกนั้น
ฮือออออ....
จู่ ๆ ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นจนฉันต้องหยุดเคลื่อนไหวในทันที
ฮือออออ....
มันเหมือนเสียงร้องไห้ของใครสักคนที่ดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากฉันเท่าไรเลย ฉันคิดมาเสมอว่าบนโ,กใบนี้เรื่องของผีสางหรือวิญญาณมันเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกเด็ก แต่ตอนนี้ฉันเริ่มจะไม่แน่ใจแล้ว .....
ฮือออออ....
เอาอีกแล้ว! เสียงนั้นดังขึ้นมาอีกแล้ว คราวนี้มันดังชัดเจนกว่าเดิม ฉันคงไม่รอให้มาจ๊ะเอ๋กับใครหรืออะไรที่ฉันไม่อยากจะเจอหรอกนะ ฉันรีบเปิดประตูออกจนแทบจะทันที แต่จู่ ๆ ประตูห้องสารภาพบาปกลับเปิดไม่ออกซะงั้น
“เฮ้! มีใครอยู่ข้างนอกไหม ฉัน ....”
“ฉันทำอะไรผิดเหรอ?” เสียงร้องไห้เมื่อครู่หยุดลงพร้อมกับเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันคิดว่าเสียงนั้นคงจะเปิดใครไม่ได้นอกจากปลา เสียงเธอช่างแสนเศร้าและดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย เสียงแบบนี้ เธอคงไม่คิดจะหลอกฉันใช่ไหม?
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้ฉันตัดสินใจหันกลับไป และมันก็เป็นความจริง สิ่งที่ฉันคิดเอาไว้ บนเก้าอี้ที่เคยว่างเปล่าตรงนั้นกลับมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งนั่งงอตัวอยู่บนเก้าอี้ ร่างกายของเธอดำสนิทจนฉันมองไม่เห็นว่าร่างนั้นยังอยู่ครบส่วนไหม เธอผงกหัวพร้อมกับเสียงร้องไห้ที่ฟังดูแล้วสงสารจับใจ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องมารับกรรม พวกมันไม่ใช่เหรอ พวกมันไม่ใช่เหรอที่ทำร้ายฉัน” หญิงสาวตาแดงก่ำเงยหน้ามองมาตรงที่ฉัน เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากจะหวีดร้องออกมากับภาพตรงหน้า เธอคนนั้นดูน่าสยดสยอง ใบหน้าและร่างกายเกรียมไหม้ ผิวหนังเริ่มกร้าน นัยน์ตาแดงก่ำ หากแต่น้ำเสียงนั้นมันน่าสงสารมากกว่า
“ฉัน....” ฉันลังเลอยู่พักใหญ่ การสนทนากับวิญญาณคงจะไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่อย่างน้อย ....
“ฉันเข้าใจนะ...คนเลวพวกนั้นสมควรได้รับโทษมากกว่าที่เธอควรจะได้ ไม่ใช่เธอที่จะต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้ แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ... ฉันว่าเราควรจะ .. เอ่อ ... ปล่อยวางและทำใจให้สบาย กฎหมายจะเป็นคนลงโทษพวกต่ำทรามเอง ฉันเชื่อว่าเมืองไทยน่ะยังเป็นเมืองแห่งความยุติธรรมเสมอ” ฉันร่ายยำไปหยุดไปบ้าง อย่างน้อย ...
เธอก็คงอยากจะระบายสิ่งที่อัดอั้นมานานเหมือนกัน
นัยน์ตาแดงก่ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ผิวพรรณเริ่มกลับคืนมาเหมือนตอนที่เธอยังมีชีวิต เธอยืนขึ้นก่อนที่จะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าฉัน วินาทีนั้น ฉันได้สัมผัสถึงฝ่ามือของวิญญาณสาวที่จับมือฉันเบา ๆ แต่หากว่ามันก็เจ็บอยู่ใช่เล่น
“ขอบใจมากนะที่มาคุยเป็นเพื่อนฉัน” สิ้นเสียงนั้นราวกับว่าทุกอย่างเป็นสีขาวสว่างจ้า แสงนั้นเริ่มจางหายไปก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ฉันมายืนอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าห้องสารภาพ คราวนี้ประตูเปิดอ้าออกเองอย่างช้า ๆ
เรื่องมันกี้มันความฝันหรอกเหรอ!?
แม้จะไม่เข้าใจนักแต่ฉันก็ก้าวเดินออกมาเจอเพื่อน ๆ ที่รอฉันอยู่ที่หน้าโบสถ์
“กลิ่นชานี่ช้าจังเลยนะ เดี๋ยวปล่อยให้อยู่คนเดียวซะเลย” หนึ่งพันแซว ฉันยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะเริ่มจดบันทึก ในตอนนั้นที่ฉันเพิ่งสังเกตเห็น
ข้อมือฉันเป็นรอยเหมือนคนบีบเอาไว้แน่น!
ฉันไม่บอกเรื่องนี้กับใคร หวังว่าพี่พลอยเองก็คงไม่บอกนะ และนี่คือรูปภาพที่ฉันถ่ายมาได้ตอนที่อยู่ในห้องสารภาพบาปค่ะ
จบการบันทึก
RH02003 ชาลิศรา เศษฐพรพรม (กลิ่นชา) บ้านรัตนากร
ความคิดเห็น