คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ` Never let u Go -- 1 {wonkyu}
ผมเคยคิดว่าความแข็งแกร่ง
เอาชนะความอ่อนแอได้เสมอ..
ไฟในห้องทุกดวงถูกปิดเหลือแต่แสงจากจอ LCD ขนาดใหญ่ เสียงเพลงยอดฮิตจากโทรทัศน์ในรายการรอบดึกส่งเสียงดังทั่วห้องแต่เสียดายที่มีเพียงตุ๊กตาสิงห์โตขนปุยที่ได้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่นั่งดู ส่วนคนก็ผลอยหลับพลางกอดหมอนอิงไว้แนบอกและมืออีกข้างที่ถือรีโมท
คยูฮยอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู้ห้อง รูมเมทของเขากลับมาแล้ว..เพราะเสียงเสียงโทรศัพท์ปริศนาดังขึ้นขณะที่เรากำลังนั่งดูเกมโชว์ด้วยกันเป็นเหตุทำให้เขาออกไปข้างนอก ผมไม่ใคร่อยากอยู่เรื่องส่วนตัวของเขาหรอก แต่ผมไม่ชอบที่เขาใส่ใจคนๆ นั้นมากกว่า..
ครับ...ผมกำลังหึงเขา
ซีวอนเดินมายังโซฟาที่ผมนอนอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องแกล้งหลับไม่จำเป็นเลยสักนิด นายกำลังทำตัวเหมือนคนไร้เหตุผลนะ โจคยูฮยอน!
“คยูฮยอนอ่า..ลุกไปนอนที่เตียงเถอะ จะได้นอนสบายตัว..”
“....”
จุ้บ..
ผมลืมตาขึ้นเพราะสัมผัสที่หน้าผาก หน้าของซีวอนชิดกับผมมากจนรู้สึกถึงลมหายใจของเขา อา..อะไรของหมอนี่นะ...
“แกล้งหลับเหรอ?”
“ทำไมกลับดึก?” ผมตอบเขาด้วยคำถามเพราะไม่อยากยอมรับว่าแกล้งทำจริงๆ
“หิวไหม?” ซีวอนถามผมกลับด้วยคำถามอีก
“จะอาบน้ำหรือเปล่า?”
“นอนเลยไหม?”
“พรุ่งนี้เรียนกี่โมง?”
“ไม่ง่วงแล้วเหรอ? หืม?”
เรานั่งจ้องตากันแทบไม่กระพริบเป็นเกมเชิงประสาทที่เป็นมาตลอดจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว และสุดท้ายคนที่ต้องแพ้ก็คงหนีไม่พ้น...
ผมยืนขึ้นจากโซฟาตรงไปที่ห้องนอนเพราะอาการง่วงเริ่มตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง ซีวอนเดินตามผมมาติดๆ แล้วสเต็ปเดิมของซีวอนก็คือ..แก้ผ้านอน -_-
“อา...คืนนี้อากาศเย็นเนอะ”
ซีวอนที่เปลือยท่อนบนและกำลังถอดกางเกงสแลกสีดำออกหันมาถามผมที่พลิกตัวไปอีกทาง คือถ้าอากาศเย็นก็ใส่เสื้อผ้านอนสิครับ ไม่ต้องเปลือกผ้าห่มหัดนอนแบบคนธรรมดาบ้างถึงจะบอกว่าชินตอนอยู่ที่เมืองนอกก็เถอะ..
จำได้ว่าครั้งแรกที่เข้ามาเป็นรูมเมทกันผมแทบจะวิ่งไปบอกลุงยามที่เฝ้าหอให้ลากตัวไอ้โรคจิตไปหาตำรวจ ก็ใครมันจะนิ่งเป็นท่อนไม้อยู่ได้ล่ะ เล่นถอดซะหมดแล้วมานอนเตียงเดียวกัน เป็นใครก็ตกใจเป็นธรรมดา
“นี่..คยูฮยอน ทำไมต้องหันหน้าหนีไปทางนั้นทุกทีเลย แฟนนายคิดถึงอยู่นะ” ซีวอนกอดเอวของผมจากด้านหลังทำให้ทั้งเขาและผมตัวติดกันจนเหลือที่ว่างของเตียง
“ปล่อย ฉันอึดอัด”
“ไม่อ่อนหวานเลยแฮะ”
“....” ฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วซีวอน
“อากาศเย็นๆ ต้องกอดให้ความอบอุ่นไง นายไม่เคยเรียนลูกเสือหรือไงนะ..” ผมได้แต่นอนให้ซีวอนกอดได้ตามใจและเมื่อตาของผมกำลงจะปิดลงอะไรบางอย่างมันก็กำลังทิ่มอยู่ที่หลัง
ซีวอนพลิกตัวผมให้หันกลับไปผมมองไม่เห็นเลยว่าเขากำลังทำหน้าแบบไหนแต่ผมพอจะรู้ว่าซีวอนต้องการอะไร ผมพลิกตัวขึ้นไปคร่อมอยู่ด้านบนพร้อมกับก้มลงจูบปากของอีกคน ความร้อนระอุในตัวผมกำลังเพิ่มขึ้น จูบที่เร่าร้อนของเขากำลังทำให้หัวใจของผมละลายลงไปในชั่วพริบตา ซีวอนเปลี่ยนมาเป็นอยู่ด้านบนแทน เสื้อผ้าแต่ละชิ้นของผมเขาถอดมันออกแล้วโยนทิ้งไปบนพื้น
“หัวใจนายเต้นเร็วมากเลย..” เสียงแหบพร่านั้นดังก้องอยู่ใกล้ๆ หูของผม...อา..ผมชอบเสียงของซีวอนเวลานี้ที่สุดเลย
ส่วนกลางลำตัวเสียดสีกันให้ความรู้สึกวาบหวาม ผมบิดเร้าตามอารมณ์ที่ซีวอนเป็นผู้สร้างขึ้น มือหนานั่นบีบเค้นที่สะโพก เขากำลังปรุกอารมณ์ของผมต้องการคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น แท่นเนื้อแข็งขืนกำลังลุกเข้ามาจนผมอึดอัดแทบแย่ แต่พอซีวอนขยับมันความเสียวซ่านก็ทวีขึ้น
“อา..ซีวอน ซี..วอน”
เพราะมืดเกินไปผมมองไม่เห็นหน้าของเขาเลยเอื้อมมือไปทาบที่หน้าของซีวอน เขากำลังยิ้มแน่ๆ... ลักยิ้มที่บุ๋มลงไปผมสัมผัสได้ นั่นยิ่งทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้ ผมมีความสุขที่เราอยู่ด้วยกัน
เป็นแบบนี้ตลอดไปเถอะ...
+++++++++++++++++
“เยส! ถึงวันหยุดซะที แทบจะรอไม่ไหวแล้ว~” ร่างผอมบางโพล่งขึ้นเสียงดังเมื่อวิ่งมาถึงกลุ่มเพื่อนที่นั่งรออยู่ที่ลานม้าหินหน้าคณะ
“มาช้านะฮยอกแจ” ร่างสูงทักในมือก็หยิบคุ๊กกี้เจ้าโปรดเข้าปากไม่หยุด
“แฮ่ะๆ ^^” ถ้าไม่ใช่เพราะลืมของคงมาก่อนนายแล้วล่ะอีทงเฮ..
“ว่าแต่วันหยุดนี้ใครมีทริปจะไปทะเลบ้างไหมวะ? พอดีพ่อกูชวนไปเที่ยวเกาะอยู่”
“นายมีครอบครัวกับเค้าด้วยเหรอ มินโฮ” คยูฮยอนพูดพรางเงยหน้าขึ้นจากนวนิยายฆาตกรรมสยองขวัญ ซีวอนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ถึงกับทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ
“อูย...โดนแล้วมึง ฮ่าๆๆๆ”
“จริงขององค์หญิงเขาว่ะ กร๊ากกกก”
“มินโฮมึงเจ๋งว่ะ ทำให้องค์หญิงของเรายอมเงยหน้าขึ้นมาพูดได้ขณะที่จับหนังสือ.. เมพสัด” พูดพร้อมยกนิ้วโป้งให้
“แฟนกูครับ ใครองค์หญิงของมึง” ซีวอนมองคาดโทษไปทางชางมินแถมด้วยลูกถีบใต้โต๊ะสักดอก
“เงียบเลยพวกมึงอ่ะ” มินโฮหน้ามุ่ยมองคยูฮยอนอย่างง่อยงอน ถ้านายจะเงียบแล้วอ่านหนังสือต่อไปก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้หรอกครับ.. -_-
“ก็น่าสนนะ ฉันอยากไป” แทมินยกมือแสดงความเห็นทำให้หน้าง่อยๆ ของมินโฮยิ้มกว้างขึ้น จนคนอื่นหมั่นไส้อยากจะเดินไปเอามือเที่ยงออก
“มีใครสนใจอีกไหม?” ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“กูกับคยูฮยอนขอผ่าน เรามีนัดอยู่แล้ว” ร่างสูงบอกพร้อมกับยิ้มกริ่มวาดมือไปโอบเอวร่างโปร่งแสดงความสัมพันธ์อย่างเด่นชัด
“จะนอนกกกันอยู่ที่หอว่างั้นเถอะ” ทงเฮเห็นหน้ากวนบาทาแล้วเกิดหมั่นไส้ เสมองไปทางฮยอกแจที่เอาแต่เล่น PSP แล้วมันงิด จะได้หวานกับมันทีก็ต่อเมื่อแบตหมด คนหล่อเพลีย..
“แม่ง.. มึงทำกูอดเห็นคยูฮยอนใส่ชุดว่ายน้ำ....เฮ้ย!”
ดั่งสุภาษิตที่ว่า ‘ปลาหมอตายเพราะปาก’ นี่คงเป็น ‘คนตายด้วยตีน’ ล่ะมั้ง? ร่างสูงลุกขึ้นวิ่งไล่เตะเพื่อนจอมกวนไปทั่วลานม้าหินโทษฐานคิดอกุศลกับแฟนสุดรักสุดหวงของตน ท่ามกลางเสียงหัวเราะสะใจ และสายตาของฮยอกแจที่สงสารชางมินอยู่นิดๆ
ก็นะ..แอบชอบเขามาตั้งหลายปีสุดท้ายก็กลายเป็นแฟนเพื่อนตัวเองซะงั้น จะแสดงออกก็คงไม่ดีทั้งกับคยูฮยอนและซีวอน คิดแล้วก็แอบสงสารชางมิน....ฮ่ะๆ
“ถ้าเกิดเปลี่ยนใจก็โทรมานะ จะรอ” ทงเฮพูดให้คยูฮยอนได้ยินชัดๆ อีกคนก็ไม่มีทีท่าจะสนใจสักเท่าไหร่
“ไม่จำเป็น”
++++++++++++++
“ขอโทษนะอึนจี คืนนี้คงไปหาไม่ได้..”
ร่างสูงลอบมองอีกคนที่นอนหลับเอาแรงอยู่บนเตียงจากนอกระเบียง กลัวว่าคยูฮยอนจะตื่นขึ้นมาตอนที่เขากำลังคุยอยู่กับคนอื่น เหตุผลคือคยูฮยอนมักจะคิดมากและชอบน้อยใจเงียบ (น้อยใจแต่ไม่ยอมบอก) ระวังไว้ก่อนจะดีกว่า
(ซีอวอน.. ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว ฮึก..ฉัน..ฉันอยากให้ซีวอนอยู่ข้างๆ ฉันนะ...) หญิงสาวสะอื้นไห้เรียกร้องความสงสารจากอดีตคนรัก เธอต้องการคนที่จะอยู่ข้างกายในสภาวะโดนทิ้ง
จะเรียกว่ากรรมตามสนองคงใกล้เคียงที่สุด แวบแรกในความคิดของซีวอนที่รู้เรื่องมีคำนั้นขึ้นมาในสมอง ตอนโดนทิ้งเนี่ยมันเจ็บใช่เล่น เขาก็เคยเป็นแบบที่อึนจีกำลังรู้สึก การถูกทอดทิ้ง การถูกทรยศมันเจียนตายแค่ไหนชเวซีวอนเข้าใจดี เพราะเข้าใจ..เลยอดสงสารหญิงสาวไม่ได้ อึนจีไม่มีใครทั้งครอบครัวก็อยู่ญี่ปุ่น เขาเพียงแค่โชคดีที่วันนั้นมีคยูฮยอนเข้ามาในชีวิต
และตอนนี้สิ่งที่ควรทำคืออยู่กับปัจจุบันแม้จะรู้สึกผิดที่ปฏิเสธไปแต่ทว่าตอนนี้คยูฮยอนต้องมาก่อนเรื่องอื่นเสมอ “..อึนจีคืออย่างนี้นะ...”
(ซีวอน..ฮือออ ยังโกรธฉันใช่ไหม? เกลียดฉันใช่ไหม? ถึงเฉยชาแบบนี้ ฉันเสียใจที่เคยทำร้ายซีวอนแต่ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครแล้ว ฮึก..ฮือออ มาหาฉันเถอะนะ) พยายามพูดหว่านล้อมให้ร่างสูงยอมมาหาอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่เป็นผล ซีวอนกำลังพยายามออกห่างจากเธอ
“ซีวอน? ทำอะไรอยู่ยังไม่นอนอีก” ร่างโปร่งงัวเงียยันตัวขึ้นมองไปยังระเบียง ถ้าพรุ่งนี้ตื่นสายพ่อจะถีบตกหอชั้น 7 ให้ไอ้ตึกตรงข้ามดูเป็นขวัญตา
“อ้อ รู้แล้ว” ยื่นหน้าไปพูดให้คยูฮยอนได้รู้แล้วกดตัดสายไปทันที
คยูฮยอนเอนตัวนอนตามเดิมในใจก็แอบหงุดหงิดร่างสูง ไหนใครนะที่บอกว่าพรุ่งนี้จะตื่นก่อนให้ได้ป่านนี้ยังไม่นอน
ร่างสูงเดินกลับมาที่เตียง โยนโทรศัพท์ไว้หัวเตียงอย่างไม่ใส่ใจดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวแล้วค่อยถอดบ็อกเซอร์ตัวสุดท้ายออก ดึงคนตัวนุ่มข้างๆ มากกอดไว้อย่างเคย จูบที่แก้มนวลพร้อมกับบอกราตรีสวัสดิ์แล้วก็หลับไป..
++++++++++++
Rrrrrrrrrrr!!
ฟ้าใกล้สางเสียงเรียกเข้ากับเสียงสั่นครืดปลุกให้ดวงตาเรียวปรือขึ้น ร่างโปร่งยันตัวนั่งพรางมองไปทางมือถือของร่างสูง หน้าจอสี่เหลี่ยมแสดงชื่อคนที่เขาไม่รู้จัก และเมื่อสายถูกตัดไปก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง คยูฮยอนต้องลุกไปหยิบมากดรับสายซะเอง
ใครจะตายหรือไงโทรรัวขนาดนี้?
(ซีวอน..ฉันอยู่หน้าห้อง เปิดประตูให้ฉันเข้าไปได้ไหม..?)
ร่างโปร่งชะงักเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวกรอกมาตามสาย เธอเป็นใคร? คยูฮยอนไม่มั่นใจว่านี่เป็นการแกล้งยั่วประสาทธรรมดาหรือเรื่องจริง ขายาวเดินออกไปดูที่ตาแมวเพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน
เป็นอย่างที่พูดมีผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักยืนถือโทรศัพท์อยู่หน้าประตู ใบหน้าอิดโรยเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาหลายคืน
แต่แปลกนะ..ถ้าจะมาหาก็ควรจะกดออดสิ..
หรือเมื่อคืน...
หึ..น่าขำจริงๆ คยูฮยอนแค่นยิ้มสมเพสตัวเอง
เสียงหญิงสาวพูดขอร้องผ่านเครื่องสื่อสารในขณะที่คยูฮยอนกำลังชั่งใจว่าควรจะทำยังไง.. เปิดประตูเชิญเข้ามาแล้วถามเหรอว่าเป็นใครทำไมต้องเรียกหาซีวอนราวจะขาดใจ หรือจะออกปากไล่ทั้งๆ ที่ยังคาใจแบบนี้...
เอาไง..?
(ได้โปรด..ซีวอน ฉันต้องการคุณ...)
คลิ๊ก...
เมื่อประตูเปิดมาแล้วไม่ใช่ร่างสูงที่ต้องการพบรอยยิ้มก็หุบลง ห้องนี้เป็นของซีวอน ไม่มีทางที่ร่างสูงจะย้ายออกแน่ในเมื่อซีวอนชอบวิวที่มองจากห้องนี้
“นายเป็นใคร?” อึนจีถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ผมก็อยากถามคุณแบบนั้น..” ยืนมองร่างบางตรงหน้าแววตานิ่ง
“ซีวอนอยู่ไหนฉันต้องการเจอเขา”
อึนจีทำท่าจะก้าวเข้ามาในห้องคยูฮยอนเลยยกแขนกั้นประตูไว้ หญิงสาวชักสีหน้าไม่พอใจมองเหยียดร่างโปร่งตรงหน้า คิดว่าตัวเองเป็นใครกันแววตาแบบนั้นเหมือนหมาเฝ้าบ้านไม่มีผิด
“เขาหลับอยู่และผมคงให้คุณเข้ามาไม่ได้ เพราะงั้น...” ผายมือออกไปทางลิฟที่อยู่อีกด้านของทางเดิน “เชิญ”
การกระทำที่เสียมารยาทของคยูฮยอนทำให้เธอไม่พอใจ ยังไงก็ตามจะต้องเจอกับซีวอนให้ได้
“..อืม...เช้าแล้วหรอ ห้าว...หิวจัง นี่คยูฮยอนทำไรกินก่อนไป.........อึนจี..!”
ร่างสูงหัวใจหล่นวูบที่เห็นอึนจียืนอยู่หน้าประตูไม่คิดว่าอึนจีจะมาที่นี่ และแววตาที่คยูฮยอนมองมามันจุกอกมากกว่าหลายเท่า ส่วนอึนจีเมื่อเห็นซีวอนก็รีบปรีเข้ามากอดไว้ด้วยความคิดถึงและโหยหาคนตรงหน้าพร้อมกับพรั่งพรูน้ำตาออกมาเป็นสายต่างจากที่เจอคยูฮยอนเมื่อครู่มากราวกับนักแสดงที่มีหลายหน้า
“ซีวอน ฮือออ ซีวอน..”
รายการตลกร้ายรอบเช้าสินะ...ยิ่งมองก็ยิ่งปวดใจไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ชื่ออึนจีเป็นใคร เกี่ยวข้องยังไงกับคนรักของเขาและดูเหมือนความสัมพันธ์ของสองคนนั้นอาจจะมากกว่าที่คิด
ซีวอนยืนให้ร่างบางกอดไว้ไม่ได้กอดตอบไม่ใช่เพราะสายตาผิดหวังของคยูฮอยนแต่ส่วนหนึ่งเขาก็ไม่อยากจะถล่ำเข้าไปมีเยื่อใยกับอึนจีอีก ในฐานะเพื่อนก็มากพอ ร่างโปร่งละสายตาจากภาพตรงหน้าเดินเข้าไปห้องน้ำไปล้างเผื่อจะหายจากอารมณ์ตอนนี้
เหลือเพียงร่างสูงกับอึนจีที่ยังสะอื้นไห้อยู่ ซีวอนพูดปลอบใจทำให้หญิงสาวสงบลง ถอนหายใจออกมาอย่างอย่างเสียมิได้ วันนี้น่าจะเป็นวันที่คยูฮยอนและเขามีความสุขแต่ทำไมเรื่องมันพลิกได้ขนาดนี้วะ.. จะโกรธอึนจีที่มาขัดก็ใช่เรื่อง...ตอนนี้คยูฮยอนจะคิดมากไปถึงไหนแล้วยิ่งคิดชเวซีวอนก็ยิ่งอยากเอาหัวโขกพื้น พอบอกว่าจะลุกไปหยิบน้ำมาให้ก็ถูกรั้งตัวไว้ด้วยแรงกอดของอีกฝ่าย
“ซีวอน อย่าไปไหนนะอยู่กับฉัน..ได้โปรด ฮึกกก..”
เคราะห์ของร่างสูงที่คยูฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำและมาเจอภาพกอดรัดของร่างบาง คยูฮยอนทำเป็นไม่ใส่ใจเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่ม ทั้งที่อยากจะเดินไปกระชากร่างบางนั่นออกไปจากคนของตัวเอง
เหอะ...คิดเหมือนตัวร้ายไม่มีผิดเลยโจคยูฮยอน...
มือเรียวรินน้ำใส่แก้วเดินถือไปวางไว้บนโต๊ะให้แขกที่ไม่ต้องการจะรับเชิญแล้วบอกให้ซีวอนไปอาบน้ำ ทีแรกอึนจีไม่ยอมปล่อยแต่พอเจอสายตาดุของร่างโปร่งซีวอนจึงรีบแกะมือเล็กออกจากเอวของตนแล้วไปอาบน้ำ
อึนจีมองมองร่างโปร่งที่ยืนจ้องตัวเองอยู่ แล้วยังหน้าตาที่จองหองนั้นอีก เห็นแล้วก็ชวนโมโห เป็นแค่รูมเมทกันแล้วยุ่งอะไรกับซีวอนนักหนาแล้วทำไมซีวอนต้องเชื่อฟังผู้ชายคนนี้ด้วย
ก็เป็นแค่เพื่อน!
“ไม่ร้องไห้ต่อแล้วเหรอครับ? ผมมีทิชชูพอสำหรับคุณนะ” คยูฮยอนหยิบกล่องกระดาษทิชชูใต้โต๊ะกระจกขึ้นมาวางไว้ข้างบนให้หญิงสาวได้เห็น
“ฉันเป็นคนสำคัญของซีวอน นายก็ควรจะให้เกียรติฉันด้วยเหมือนกัน” แขนเล็กกอดอกอย่างวางเชิง
“แต่คุณไม่ได้สำคัญสำหรับผม”
“ปากดี”
“..ผมจะถือว่าเป็นคำชม”
เมื่อเห็นว่าต่อกรกับผู้ชายคนนี้แล้วไม่สำเร็จมือเล็กเลยหยิบน้ำบนโต๊ะมาดื่มแล้วกระแทกลงกับโต๊ะที่ทำจากกระจก
“มารยาทในการมาพบเจ้าบ้านของคุณเป็นแบบนี้เสมอเหรอครับ?”
อึนจียักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “ฉันแบ่งการใช้มารยาทกับแค่คนที่จำเป็นจะต้องใช้”
“...กับซีวอน...เรียกว่ามารยาหรือเปล่า?” ปากเรียวแสยะยิ้มมองใบหน้าถมึงทึงของหญิงสาวไม่วางตา เขาพูดตรงไปหรือเปล่านะ...ถึงได้ปฏิกิริยาตอบสนองกลับมาแบบนั้น..
“หยาบคาย! ซีวอนทนอยู่กับรูมเมทแบบนายได้ยังไงนะ แย่จริงๆ”
“เขาบอกคุณเหรอว่าเราเป็นแค่รูมเมท?”
“...”
“หึ...”
ไม่ใช่รูมเมทแล้วเป็นอะไร คงจะไม่ใช่... ไม่! เป็นไปไม่ได้หรอก
คิ้วเรียวขมวดจนผูกเป็นปมได้ พยายามบอกกับตัวเองว่าความคิดที่สองคนนี้จะเป็นมากกว่าเพื่อนนั้นไม่จริง ทว่ายิ้มของคยูฮยอนทำให้เธอคิดไม่ตก
.
.
เสร็จกิจในห้องน้ำแล้วรีบแต่งตัวเปิดประตูออกมาก็โล่งอกที่อึนจีเลิกร้องไห้แล้ว คยูฮยอนเห็นซีวอนเดินเข้าไปห้องนอนจึงเดินตามไปขณะเดียวกับที่อึนจีกำลังจะเดินตามไปร่างโปร่งหันกลับมาจ้องเชิงออกคำสั่งให้นั่งอยู่ที่เดิมอึนจีจึงนั่งลงอย่างขัดใจ ร่างโปร่งเห็นแบบนั้นแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องนอนปิดประตูล็อคไม่ให้ร่างบางเปิดเข้ามา ซีวอนงงที่คยูฮยอนทำแบบนั้น แต่พอเดาออกว่าอีกฝ่ายคงอยากฟังคำอธิบายเรื่องทั้งหมด
ซีวอนนั่งลงบนเตียงแล้วเล่าให้คยูฮยอนฟัง เรื่องที่อึนจีอกหักและเหตุที่นำให้อึนจีมาที่นี่ ซีวอนเลือกจะไม่ลงรายละเอียดในความสัมพันธ์ที่จบไปแล้วและหวังว่าคยูฮยอนจะเข้าใจและไม่คิดมากอีก
ถามว่าเชื่อที่ซีวอนพูดไหม? เขาเชื่อ.. แต่ไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้น อาจฟังดูไร้สาระแต่ไม่มีใครตายด้านขนาดที่แฟนตัวเองถูกแฟนก่ากอดต่อหน้าแล้วจะไม่หึง ต่อให้ซีวอนยืนยันว่าจบกันไปแล้วคยูฮยอนไม่อาจวางใจได้ทั้งหมด
จะเป็นได้ไหมที่ถ่านไฟเก่าจะถูกจุดขึ้นอีกครั้ง...?
“..ยังอยากไปด้วยกันอยู่ไหม?” มือเรียวทั้งสองข้างบีบเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเสมองไปทางกระเป๋าเดินทางสองใบที่วางใกล้กันข้างประตูแล้วถอนหายใจ ...ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นมาเป็นห่วงคล้องซีวอนอยู่ตอนนี้ ซีวอนจะยังอยากไปเที่ยวด้วยกันกับเขาไหม แล้วถ้าซีวอนตอบว่าไม่ไปแล้วเขาควรจะทำหน้ายังไงดี..
“ไม่ว่านายจะหมายถึงอะไร เราจะไปด้วยกัน” มือแกร่งกำชับมืออีกฝ่ายไว้ให้มั่นใจคำพูดนั้น คยูฮยอนยิ้มจางๆ ให้ร่างสูงที่ยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า
.
.
“ซีวอนจะไปไหน ทำไมต้องเอากระป๋าไปด้วย” มองกระเป๋าในมือร่างสูงสลับกับมองไปทางคยูฮยอน
“เราจะไปเที่ยววันหยุดน่ะ อึนจีกลับไปเถอะเราจะไปหลายวัน” ซีวอนอธิบายและพยายามเน้นคำว่าเราแต่อีกฝ่ายไม่ฟังเอาแต่กอดแล้วเริ่มร้องไห้อีกครั้ง คยูฮยอนปล่อยให้ซีวอนจัดการกับอึนจีเองส่วนเขาจะเดินเช็คบ้านให้เรียบร้อยก่อนจะออกไป
“แต่...แต่ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว ซีวอนอย่าทิ้งฉันนะ อย่าทิ้งฉัน!”
“อึนจีอย่าทำแบบนี้สิ” ซีวอนแกะแขนเล็กออกแต่ร่างเล็กก็เข้ามากอดอีก
“ขอร้องล่ะ ฮือออ อยู่กับฉันเถอะ”
คยูฮยอนมองอึนจีที่เอาแต่ร้องไห้รั้งไม่ให้คนในอ้อมกอดไปไหน สิ่งที่ทำมันทำให้เธอดูน่าสมเพส น่ารำคาญ...
Rrrrrrrrrrr!!
(เอ่อ...คยูฮยอนใช่ไหม?)
“ใช่ นั่นใคร?”
(ฉันแทมินนะ ทงเฮให้ฉันโทรมาถามว่านายจะเปลี่ยนใจแล้วไปเที่ยวด้วยกันหรือเปล่า?)
(เฮ้! เจ้าเตี้ยคยูฮยอนบอกว่าไง)
(มึงสิเตี้ยไอ้ปลาจวด!)
เสียงพูดแซกดังเซ็งแซ่จนร่างโปร่งต้องยื่นมือถือออกห่างจากหู มองไปทางสองคนที่ยืนโอ๋กันจนน่าหมั่นไส้.. เอาสิ ไหนๆก็เป็นปลิงแล้ว ก็เป็นมันให้ตลอดละกัน..
มือเรียวบีบโทรศัพท์แน่นจนมือสั่นเทาพร้อมกับเปล่งเสียงออกมาพยายามคุมไม่ให้มันสั่นจนอีกคนรู้
“อืม ฉันเปลี่ยนใจแล้ว พวกนายอยู่ไหนฉันจะขับไป”
(จริงหรอ?! เย้!! งั้นนายขับมาที่....)
คยูฮยอนฟังสถานที่นัดพบจากแทมินเสร็จก็กดวางสายไป นัยตาเรียวสบเข้ากับซีวอนพอดีและสายตาจากบุคคลที่คยูฮยอนนึกรังเกียจ...
นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่อึนจีต้องการเหรอ..?
“..เรากำลังจะเที่ยวเกาะ คุณสนใจจะไปพวกเราไหมล่ะครับ? คุณอึนจี..”
+++++++++++++++++++++++
แบบว่าเค้าแต่งฉากเอ็นซีไม่ค่อยเก่งด้วยสิ
ไม่ว่ากันเนอะ ._ . พาทต่อไปคยูคงเหนื่อยกว่านี้แน่ๆ 555555
ความคิดเห็น