ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลุ่มเศรษฐกิจโลก (เศรษฐศาสตร์)

    ลำดับตอนที่ #1 : สาเหตุการรวมกลุ่มทางการค้า

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 56


     

               การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเกิดจากความไม่เท่าเทียมกันในทางการค้าระหว่างประเทศ  เนื่องจากข้อจำกัดหลายๆอย่าง  ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ กำลังการผลิต และศักยภาพด้านเทคโนโลยี   อีกทั้งแต่ละรัฐย่อมพยายามเจรจาทางการค้าเพื่อประโยชน์ของตน  จึงเกิดนโยบายและมาตรการบิดเบือนทางการค้า ทำให้เกิดการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของตน   เช่น การพยายามตั้งกำแพงภาษี  การกำหนดโควตาสินค้านำเข้า  หรือการคุ้มครองสินค้าที่ผลิตภายในประเทศ ทำให้ประโยชน์ที่จะได้จากการค้าระหว่างประเทศลดน้อย  ส่งผลให้เศรษฐกิจระหว่างประเทศขาดความเป็นธรรมและเสรีภาพ มีการได้เปรียบและเสียเปรียบกัน  จากปัญหาทั้งหลายในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ  ทำให้รัฐต่างๆพยายามรวมตัวกันเข้าเป็นกลุ่ม  จึงเกิดเป็นการรวมกลุ่มเศรษฐกิจขึ้นภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกันในหลายๆด้าน

     

     

       การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Integration)  หมายถึง การรวมตัวของประเทศต่างๆ ร่วมมือกันเพื่อการบรรลุเป้าหมายทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรมร่วมกัน โดยขจัดการเลือกปฏิบัติ (Discrimination) เพื่อเสริมสร้างและรักษาผลประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ   โดยเฉพาะการขยายขอบเขตทางการค้าระหว่างกันให้กว้างขวางยิ่งขึ้น  โดยการลดหรือยกเลิกอุปสรรคทางการค้าต่างๆ ทั้งในรูปมาตรการทางภาษีศุลกากร และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร (tariff and non-tariff barriers)   เช่น อัตราภาษีศุลกากร โควตา เป็นต้น  เพื่อพัฒนาและขยายลู่ทางการค้าระหว่างกันในระดับสูงขึ้นไป

     

     การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจมีข้อตกลงที่สำคัญดังนี้

     

    ๑. ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ ทุน และปัจจัยการผลิตระหว่างประเทศ

    ๒. ข้อตกลงเพื่อการปฏิบัติอย่างเสมอภาคกันภายในกลุ่ม

    ๓. เพื่อการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่สมบูรณ์ โดยเห็นได้จากสินค้าที่มีลักษณะเหมือนกันจนสามารถทดแทนกันได้ และระดับราคาระหว่างประเทศสมาชิกก็จะเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด

    ๔. จะต้องทำให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและมีการจ้างงานอย่างเต็มที่ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของกลุ่มเดียวกันเสมอ

    ๕. กรอบข้อตกลงจะมีอยู่ ๕ กรอบ คือ พหุภาคี  (Bilateral)  ทวิภาคี (Multilateral)   ภูมิภาคและอนุภูมิภาค

      

        การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจมีได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบมีระดับของความสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน 

     

    ๑. เขตการค้าเสรี ( Free Trade Area-FTA) เป็นข้อตกลงเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าให้เหลือน้อยที่สุด เปิดการค้าเสรีระหว่างประเทศคู่สัญญาเพื่ออำนวยความสะดวกทางการ ลดข้อจำกัดทางการค้าด้านโควตาหรือปริมาณนำเข้า ไม่สร้างอุปสรรคทางการค้าเพิ่มต่อประเทศนอกกลุ่ม ร่วมมือกันแสวงหาตลาดส่งออกและลดต้นทุนการผลิตสินค้า   เช่น ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement-NAFTA), เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area-AFTA) เป็นต้น

    ๒. สหภาพศุลกากร (Customs Union-CU) เป็นการเปิดเสรีการค้าโดยนอกจากจะขจัดการกีดกันทางการค้าออกไปแล้ว ยังมีตกลงเกี่ยวกับภาษีศุลกากร กำหนดอัตราภาษีในอัตราเดียวกันสำหรับประเทศสมาชิกนอกกลุ่มร่วมกัน (Common External Tariff) ไม่มีกำแพงภาษีระหว่างประเทศสมาชิกกลุ่มเศรษฐกิจสหภาพศุลกากร เช่น คณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council-GCC) สหภาพศุลกากรของแอฟริกาใต้ (Southern African Customs Union-SACU)

    ๓. ตลาดร่วม (Common Market) เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจตั้งแต่สองประเทศขึ้นไปที่เหมือนกับสหภาพศุลกากร  แต่มีนโยบายให้สามารถเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิต  คือ แรงงาน ทุน วัตถุดิบ และเทคโนโลยี ระหว่างประเทศสมาชิกได้อย่างเสรี  มีนโยบายต่อประเทศนอกกลุ่มในทางเดียวกัน และมีการปรับปรุงกฎหมายให้มีลักษณะเหมือนกัน ได้แก่ ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง (Southern Common Market หรือ MERCOSUR)กลุ่มประชาคมและตลาดร่วมแคริบเบียน (Caribbean Community and Common Market-CCCM)ตลาดร่วมอเมริกากลาง (Central American Common Market-CACM)และกลุ่มแอนเดียน (Andean Group)

    ๔. สหภาพทางเศรษฐกิจ หรือสหภาพทางการเงิน( Economic Union or Monetary Union) นอกจากจะเป็นการค้าเสรีแล้ว ยังมีนโยบายเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิต สินค้า และบริการอย่างเสรี และมีการประสานความร่วมมือกันในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายการเงิน การคลัง การภาษีอากร และการใช้จ่ายของรัฐ รวมทั้งมีการใช้สกุลเงินเดียวกัน กลุ่มสหภาพเศรษฐกิจ ได้แก่ สหภาพยุโรป (European Union-EU)

    ๕. สหภาพเศรษฐกิจสมบูรณ์แบบ (Total Economic Union) เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่เข้มข้นระดับสูงสุด มีนโยบายทางเศรษฐกิจ และการเงินเป็นแบบเดียวกัน มีการจัดตั้งรัฐบาลเหนือชาติ (Supranational Government) โดยกำหนดนโยบายทางการเมืองและสังคมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

                          

      การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างประโยชน์ทางการค้าให้แก่ประเทศ เพื่อเป็นการกระจายการค้า และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจแก่ภูมิภาค โดยประเทศไทยเองก็ได้เข้ารวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ดังนี้

     

    ๑. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC)
    ๒.   สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Association of South East Asian Nations-ASEAN)    มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญคือ

            ๑. เขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟต้า (ASEAN Free Trade Area-AFTA)

           ๒. โครงการอุตสาหกรรมอาเซียน ( ASEAN Industrial Project -AIP) 

           ๓.  ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน (ASEAN Industrial Cooperation Scheme-AICO)

           ๔. เขตการลงทุนอาเซียน (ASEAN Investment Area-AIA)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×