คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : {KaiHun & HanChul}
โอเซฮุนในสภาพที่เปียกปอนอย่างรุนแรงกำลังลากกระเป๋าสัมภาระใบโตซึ่งภายในล้วนมีแต่เสื้อผ้าของเขาเดินเข้าไปตามทางปูอิฐสีขาวซึ่งไปสุดอยู่ที่คฤหาสน์สไตล์โกธิกหลังใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่บ้านของเขา รออีกสักสิบชาติครอบครัวเขาก็ไม่สามารถซื้อคฤหาสน์หลังนี้อยู่ได้หรอก
คฤหาสน์ที่อยู่ตรงหน้า(ไกลลิบๆ)แท้ที่จริงแล้วมันคือหอพักของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่แถบชานเมือง แล้วทำไมเขาถึงมีปัญญามาเรียนน่ะหรอ...มันก็ออกจะชัดเจนอยู่แล้วนะว่าผมน่ะฉลาดล้ำเลิศจนสอบชิงทุนเข้ามาเรียนที่นี่ได้น่ะสิ -..-
เสียงใครโห่วะครับ -0-!
เอาเถอะ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของผมในตอนนี้คือลากตัวเองและกระเป๋าใบใหญ่นี่ไปให้ถึงตัวคฤหาสน์โดยที่ไม่โดนฟ้าผ่าซะก่อน ฝนตกกระหน่ำบวกกับฟ้าดังเปรี้ยงปร้างอย่างนี้ไม่สมควรที่จะมาเดินอยู่กลางแจ้งเลยจริงๆ -*- ผมผิดเองแหละที่ปากเก่งบอกรุ่นพี่ที่รู้จักไปว่าจะเดินทางมาที่นี่เอง เป็นไงล่ะ...นอกจากจะอดนั่งรถคันหรูๆแล้ว ยังต้องมาเดินตากฝนเป็นพระเอกเอ็มวีอย่างตอนนี้อีก
ซวยคั่กๆ =w=
บรื้น น นน น นน ~~~~
เสียงเครื่องยนต์เพราะระรื่นหูที่ดังอยู่ด้านหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็พอจะเดาได้ว่ารถคันนั้นราคาแพงขนาดไหน เป็นโชคดีของผมแล้วล่ะ ! หวังว่าเขาคงจะไม่ใจร้ายทิ้งให้ผมเดินตากฝนต่อไปหรอกนะ...
หรือเขาจะใจร้าย =w=
โอเซฮุนสุดหล่อในท่าทางยื่นแขนออกไปจนสุดเตรียมจะโบกรถเต็มที่ถูกเจ้าของรถคันงามเหยียบคันเร่งจนมิดรีดเอาน้ำตามทางกระเด็นโดนเขาแบบจัดหนักชุ่มฉ่ำถึงใจ...
ไอเลวไร้ที่ติ =_____=
ผมยกมือข้างที่ยังคงว่างขึ้นปาดหยดน้ำที่เกาะตามใบหน้าออกถึงแม้ว่ามันจะดูไร้ประโยชน์ก็ตามในขณะที่ฝนตกหนักอยู่อย่างนี้ ผมมองตรงไปที่รถคันหรูสีดำปลอดทั้งคันอย่างเคียดแค้นก่อนจะฉุดกระชากกระเป๋าตรงดิ่งไปทางคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
แล้วจะไปคิดบัญชีแค้นนะคุณเจ้าของรถ =___=+
☁
คิมฮีชอลชายหนุ่มหน้าหวานในชุดกี่เพ้าสีแดงสดทั้งชุดกำลังยืนสั่นใต้ร่มคันเล็กซึ่งมีสีเดียวกับชุดที่เขาสวมอยู่ ตอนนี้เขายืนอยู่บริเวณทางเข้าหน้าหอฟักหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ หอพักเฮี้ยน ไม่ใช่ว่ามันมีประวัติน่ากลัวอะไรมากมายหรอก แต่บรรยากาศที่นี่มันออกจะน่ากลัวไปหน่อยแค่นั้นเอ๊งงงงงงง!!
คงจะสงสัยว่าทำไมเขาถึงมาแต่งตัวเป็นผู้หญิงจ๋ายืนตากละอองฝนอยู่ตรงนี้ แต่งหญิงมันก็แค่งานอดิเรกยามว่างซึ่งเขาถูกยัดเยียดให้ทำ...ไม่ได้เต็มใจเลยน้า~ ส่วนที่มายืนตากละอองฝนอยู่เนี่ยก็เพื่อที่จะมารอรับน้องชายตัวดีที่ดันอวดเก่งจะมาหอเอง แล้วไงล่ะ ออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้บ่ายกว่าๆแล้วก็ยังมาไม่ถึงทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้นเลย - -
บรื้นน นนน น น น ~ เอี๊ยด ~!
เขาปรายตามองรถกระป๋อง(?)คันหนึ่งที่เหยียบมาอย่างเร็วก่อนจะเบรกยาว ดริฟท์โชว์งามๆสักนิดสุดท้ายก็มาจอดเทียบตรงบันไดหินทางขึ้นสู่ตัวคฤหาสน์แบบพอดิบพอดี
ใครกันที่มันกล้ามาอวดรวยต่อหน้าคิมฮีชอล - -+
"เฮ้ ! น้องสาวคนนั้นน่ะ เอาร่มมารับพวกเราหน่อยสิ" คนในรถเปิดกระจกลงเผยให้เห็นโครงหน้างามๆที่ประดับด้วยแว่นกันแดดแบรนด์หรู (แดดก็ไม่มีมันจะใส่ทำเพื่ออะไร ?)
ก็งั้นๆแหละ เพราะยังไงคิมฮีชอลก็รวยที่สุด :)
แต่เมื่อกี๊นี้ไอบ้านั่นว่าไงนะ มันเรียกใครน้องสาว หันซ้ายแลขวารอบๆตัวก็ไม่มีใครนอกจากเขาและสายฝนพรำๆ -.-
"ใครน้องสาว ?" ถามออกไปด้วยโทนเสียงต่ำติดดิน รู้สึกเหมือนโดนหยามอย่างแรง !
คนถูกถามหน้าเหวอก่อนจะสำรวจเขาตั้งแต่เท้าจรดหัว...เฮ้ย .. มันมองจากเท้าขึ้นไปซะด้วย เดี๋ยวก็ฟาดด้วยร่มเลยนี่ กวนประสาทและมันคือใครฟะ !?!
"ฉันฮันเกิง ช่วยเอาร่มมารับเราหน่อยได้มั้ย" ผิดมั้ย ถ้าเขาจะคิดว่าคนตรงหน้าอ่านใจได้... ช่างเถอะ เคืองไม่หายเรื่องเรียกน้องสาวเนี่ย เขาจ้องคนตรงหน้านิ่งก่อนจะเบนสายตาไปมองผู้ชายอีกคนในรถที่ดูเหมือนจะมีความสุขกับการหลับมาก
"เดินมาแค่นิดเดียวคงไม่เปียกอะไรมากมายหรอก... อ๊ะ ! เซฮุน !" อีกคนกำลังจะเถียงแต่มีหรือที่เขาจะอยู่รอให้อีกฝ่ายต่อความยาวสาวความยืดอีก เขาวิ่งย่ำน้ำที่เริ่มจะเจิ่งนองเล็กน้อยตรงไปที่ชายหนุ่มร่างขาวบอบบางที่ตอนนี้สั่นไปทั้งตัวเพราะความเย็นจากน้ำฝน ปากที่เคยแดงสดอยู่ตลอดเวลาบัดนี้เริ่มซีดขาวอย่างน่าตกใจ
"พี่ฮีชอล" อีกฝ่ายทำหน้าอ้อนส่งมาให้ นี่คงคิดว่าเขาจะมาดุสินะ เด็กเอ๊ย ~ เขารีบกางร่มให้อีกคนทันทีแต่มันกลับกลายเป็นว่าเขาต้องเปียกแทนซะนี่ ! ร่มใหญ่เนอะ -.......-
"พี่เปียกหมดแล้ว พี่ไม่ชอบฝนนี่ครับ" เซฮุนพูดอย่างรู้สึกผิด ฮีชอลตีไหล่อีกคนแรงๆ อดไม่ได้ที่จะลงโทษ บอกแล้วว่าจะไปรับ แล้วไงล่ะสุดท้ายก็ต้องมาลำบากตัวเอง
"ใช่ ไม่ชอบเพราะฉะนั้นเรารีบเข้าไปข้างในดีกว่า" เขาช่วยเซฮุนลากกระเป๋าไปใบโตไปด้วยเพราะดูเหมือนว่าอีกคนจะหมดแรงแล้ว... ก็เล่นเดินเข้ามาระยะทางเกือบสองกิโลฯได้มั้งน่ะ เป็นเขาคงตายตั้งแต่อยู่ที่หน้าประตูรั้วแล้วล่ะ
ไม่ใช่คนที่อดทนอะไรได้มากมายขนาดนั้นนี่...
เดินผ่านคนบ้าสองคนที่ยังนั่งอยู่ในรถอีกรอบ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะขุดหาร่มที่อยู่สักซอกหลืบหนึ่งในรถเจอแล้วถึงได้ไม่เซ้าซี้เขาต่อ แต่ดูเหมือนว่าเซฮุนดูจะสนใจสองคนในรถเป็นพิเศษนะ
"มีอะไรหรอเซฮุน ? ? ?" อดถามไม่ได้เมื่อร่างบางข้างๆเริ่มเดินสำรวจไปรอบๆรถคันงามอย่างไม่สนใจสายฝนที่กำลังโปรยปรายอยู่แม้แต่นิด
"ไม่มีอะไรครับ เข้าข้างในกันเถอะครับ" เจ้าตัวบอกปัดด้วยน้ำเสียงสบายๆซึ่งขัดกับสีหน้าในตอนนี้อย่างสิ้นเชิง แต่ฮีชอลก็ไม่คิดจะถามต่อเดี๋ยวเรื่องมันจะยาวแล้วเขาคงต้องยืนตากละอองฝนอีกนานแน่ๆ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาโปรดปรานเลยแม้แต่นิด =_____=
"จงอิน.. เฮ้ย ตื่นสิวะไอขี้เซา ถึงหอแล้ว" ฮันเกิงละสายตาจากหนุ่มหน้าหวาน(ที่นิสัยแปลกๆ)ทั้งสองคนแล้วหันกลับไปปลุกน้องชายของรุ่นน้องคนหนึ่งที่เขากำลังตามจีบอยู่
เห็นว่ามาอ้อนขอร้องให้ไปรับน้องชายหรอกถึงได้ไปรับมาให้ -3-
"ถ้าไม่ตื่นฉันจะทิ้งนายไว้ในรถนี่แล้วนะ" คำขู่ดูเหมือนว่าเกือบจะได้ผล ใช้คำว่าเกือบเลยทีเดียวเพราะจงอินตอบสนองเสียงของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
"จุนมยอนรอนายอยู่นะ" เขาพูดอย่างเหนื่อยใจ ถึงแม้จุนมยอนจะเคยเล่าให้ฟังแล้วก็ตามว่าน้องชายคนนี้ขี้เซาขนาดไหน
อีกฝ่ายที่ได้ยินชื่อของพี่ชายตัวเองก็เปิดเปลือกตาขึ้นทีละน้อยก่อนจะกระพริบถี่ๆสองสามครั้งเพื่อปรับโฟกัสที่พร่าเบลอ
คิมจงอินเป็นผู้ชายที่ฮันเกิงยอมรับว่าดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว ใครจะเชื่อว่าเด็กผู้ชายที่มีสีผิวกร้านแดดคนนี้จะเป็นน้องชายแท้ๆของคิมจุนมยอนที่ได้ฉายาว่า 'โอโม่' แห่งปี 3 ดูจากท่าทางแล้วคงมีสาวๆตามติดเป็นพรวนเลยสินะ ท่าทางเพล์ยบอยอย่างนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย
"ขอโทษที่รบกวนนะครับ" พอตื่นเต็มตาแล้วเจ้าตัวก็หันมาโค้งให้เขาแล้วเปิดประตูลงไปทันทีโดยไม่สนร่มที่เขายื่นให้แม้แต่น้อย
งี้ก็เปียกหมดน่ะสิ !!
เบาะรถผมน่ะ !!
☁
เซฮุนหมุนควงกุญแจในมือเล่นไปพลางระหว่างที่เดินหาห้องพักของตัวเอง ไม่ได้อารมณ์ดีอย่างที่ทุกคนกำลังคิดอยู่หรอกนะครับ ตอนนี้ผมรู้สึกหงุดหงิดกับเสื้อผ้าที่เปียกโชกบนตัวมาก อยากจะรีบหาห้องให้เจอเร็วๆแล้วลงไปแช่ในอ่างน้ำอุ่นสักครึ่งชั่วโมง เพราะนอกจากความเย็นจากน้ำฝนจะทำให้ผมหนาวสั่นแล้วยังต้องเจอกับบรรยากาศเย็นยะเยือกของหอพักสไตล์สยองแห่งนี้อีกต่างหาก
สะท้านไปถึงกระดูกเลยทีเดียว =______=
แล้วเขาก็เจอ ประตูไม้เนื้อดีที่ดูเก่าเล็กน้อยที่ด้านข้างนั้นมีป้ายสีทองสลักไว้ว่า 1213 มันเป็นห้องที่อยู่ติดกับกระจกทรงสูงขนาดใหญ่ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลไปถึงบริเวณตึกเรียนเลยทีเดียว
แสงสว่างที่วาบขึ้นนอกหน้าต่างทำให้ผมต้องรีบยกมือทั้งสองข้างแนบกับหูไว้ให้สนิทที่สุดก่อนจะหลับตาแน่น ไม่นานเสียงฟ้าคำรามก็ตามมา ผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะความดังของมันดังพอที่สั่นกระจกบานใหญ่เกิดเสียงดังครืนเลยทีเดียว
ผมรีบไขกุญแจเข้าไปก่อนจะต้องอึ้งกับสภาพห้อง...
นี่มันหอพักหรือโรงแรมสิบดาววะครับ -0-!!!!
ผมอาจจะทำตัวเว่อร์จนทุกคนรู้สึกรำคาญและไม่เชื่อใช่มั้ย.. เชื่อเถอะว่าตอนนี้เหมือนผมได้อยู่ในโรงแรมระดับสิบดาวจริงๆ แน่ใจนะว่าให้นักศึกษาพักไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ที่ไหน !?!
ผมปิดห้องเบาๆด้วยอารมณ์ที่มึนงงเล็กน้อยก่อนจะกองของทุกอย่างซึ่งเปียกโชกไว้ใกล้ๆกับเตาผิงขนาดกลางที่จุดไฟเตรียมพร้อมไว้แล้ว หันไปมองเตียงขนาดคิงไซส์ที่ห่างออกไปเล็กน้อย อยากจะกระโจนเข้าใส่จริงๆแต่ดูจากสภาพตอนนี้แล้ว.. ไม่เอาดีกว่า
เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดถูกรื้อออกมาจากกระเป๋าเพื่อจัดเข้าที่อย่างเหมาะสม จัดไปจามไปนานทีเดียวกว่าผมจะได้ไปอาบน้ำ สื่อให้เห็นว่าของของผมนั้นเยอะขนาดไหน ส่วนใหญ่มันก็หนังสือทั้งนั้นล่ะครับ ช่วยไม่ได้นี่.. ถ้าผมอยากเรียนที่นี่ต่อผมก็ต้องขยันให้มากๆ
"ฮ้า.. ได้ไปอาบน้ำซะที" ผมบ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป และปฏิกิริยาหลังจากได้เปิดประตูก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
แม่เจ้าโว้ยย ยย ยยย จะหรูไปไหนวะครับ !!!
จงอินเดินผ่านห้องโถงกลางไปอย่างขยาดเล็กน้อย เพราะรู้สึกเหมือนจะมีแต่คนแปลกๆในที่แห่งนี้ คนกลุ่มหนึ่งนำทีมด้วยผู้ชายตัวสูงๆฟันเยอะๆ(?)กำลังพยายามทำร้ายเต่าตัวหนึ่งด้วยการปล่อยให้มันไถลลงมาตามราวบันไดโดยมีเพื่อนๆคอยเชียร์อยู่ข้างๆก่อนที่เขาจะโดนผู้ชายอีกคน(ที่น่าจะเป็นเจ้าของเต่า)กระโดดเอาถาดเงิน(จากไหนไม่รู้)ตบฉาดใหญ่เข้าที่ศีรษะ
และไม่ไกลจากตรงนั้นที่บันไดขั้นที่หนึ่งมีผู้ชายตัวเล็กอยู่สามคนกำลังพยายามเถียงกันด้วยเสียงร้องอันทรงพลัง(จริงๆแล้วฝึกร้องเพลงกันอยู่) เสียงเพราะนะครับแต่อยู่รวมกันอย่างนั้นมันเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก
แต่สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งมากที่สุดคือกลุ่มคนที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงซึ่งยืนโพสต์ท่าให้ผู้ชายแก้มป่องแว่นหนาเตอะถ่ายรูปให้อยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ อึ้งที่สุดของที่สุดเห็นจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆที่ใส่วิกผมสีแดงซึ่งต่างจากคนอื่นๆมาก แต่ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่เพราะสีหน้าดูย่ำแย่สุดๆ
ปุบ !
ผมหันไปมองเจ้าของมือที่ตบลงที่บ่าผมเบาๆ มันคือมือของพี่ฮันเกิงนั่นเอง
"ที่นี่.. ที่ไหนหรอครับ" สุดท้ายผมก็หลุดคำถามโง่ๆออกไป อาจจะเป็นสภาวะช็อกจัดละมั้งผมถึงพูดจาเลอะเทอะขนาดนี้ -0-!
"ก็หอพักไง" ฮันเกิงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงติดจะขบขันเล็กน้อย
จงอินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก.. ทำไมมันถึงดูวุ่นวายขนาดนี้นะ
"นี่ผมต้องอยู่ที่นี่จริงๆหรือครับเนี่ย"
"ก็ทำเป็นไม่สนใจไปซะก็จบ ลองมองดีๆสิ หอนี้น่าอยู่จะตาย" ผมมองไปรอบๆพลางจินตนาการว่าไม่มีคนพวกนั้นอยู่ภายในห้องนี้ก็ได้พบสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ หอนี้มันมีสภาพเป็นบ้านผีสิงดีๆนี่เอง
"ค..ครับ =_____=" แต่ผมก็ตอบไปอย่างเกรงใจ
"จงอิน ~~~~~!" เสียงใสๆที่ผมคุ้นเคยดังมาจากบันได เมื่อหันไปมองก็เจอกับร่างเล็กๆที่ขาวผ่อง(เกิน)ของพี่ชาย พี่คิมจุนมยอนกำลังวิ่งลงบันไดมาหาผมโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าขายาวๆของคนตัวสูงคนหนึ่งยื่นออกมาหวังจะขัดขาอีกคนให้ล้ม..
และก็ล้มจริงๆ =_____=
"ฮว้ากกกกกก =[ ]=!!" พี่จุนมยอนร้องหน้าตื่นก่อนที่ร่างทั้งร่างจะล้มลงแล้วกลิ้งลงมาจากบันไดขั้นที่สามจนในที่สุดก็มาหยุดอยู่แทบเท้าผมกับพี่ฮันเกิงแบบพอดิบพอดี
ทั่วทั้งห้องโถงที่เคยคลาคล่ำไปด้วยเสียงต่างๆมากมายตอนนี้กลับเงียบสงัดราวกับป่าช้า จะมีก็แต่เสียงฟ้าร้องและฝนตกจากภายนอกเท่านั้นที่ไม่ทำให้ที่นี่เงียบจนเกินไปแต่กลับกลายเป็นว่าเสียงเหล่านั้นทำให้บรรยากาศมันแย่ลงซะนี่
"อู๋ฟาน !!!!" เมื่อลุกขึ้นได้ก็หันไปตวาดคนตัวสูงที่ก่อนหน้านี้กำลังปล่อยเต่าลงจากราวบันได คนที่พี่ชายผมเรียกว่าอู๋ฟานเลิกคิ้วเข้มๆขึ้นสูง ทำหน้าราวกับไม่รับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะเดินไปแท็กมือกับเพื่อนข้างๆอย่างถูกใจ
หลังจากที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่นานผมก็ตัดสินใจเข้าไปพยุงพี่จุนมยอนให้ลุกขึ้น พี่จุนมยอนจึงเปลี่ยนความสนใจมาที่ผมแทน รอยยิ้มกว้างที่สว่างสดใสไม่แพ้ผิวของเจ้าของถูกส่งมาให้ก่อนที่พี่ชายตัวเล็กจะกระโดดกอดมาแบบทุ่มทั้งตัวเล่นเอาผมแทบหงายหลังไปนอนกองอยู่กับพื้น
"นายคล้ำขึ้นอีกแล้ว" พี่ชายที่แสนจะหวานแหววของผมทำปากโค้งขึ้นอย่างน่าเอ็นดูแต่คำพูดของพี่นี่กลับทำให้ผมอยากจะจับทุ่มทิ้งซะตรงนั้น
ผมขาวนะ -______-
"ขอเปลี่ยนเรื่องครับ" อีกคนหัวเราะเสียงใสก่อนจะเบนความสนใจไปที่อีกคนหนึ่งซึ่งเกือบจะถูกลืมแล้วและดูเหมือนอีกฝ่ายจะคิดว่ามันไม่ยุติธรรมซักนิด
"ขอโทษที่ต้องรบกวนนะครับรุ่นพี่ฮันเกิง" ฮันเกิงมองสายตารู้สึกผิดของรุ่นน้องแล้วแทบจะหน้ามืดคว้าอีกคนเข้ามากอดเสียตรงนั้น
"พี่เต็มใจ" จงอินมองสายตาหวานเยิ้มของรุ่นพี่ที่ชื่อว่าฮันเกิงแล้วอดที่จะดึงพี่ชายมากอดไว้แน่นไม่ได้ พอดีว่าอาการหวงพี่มันดันกำเริบกะทันหัน
"จงอิน....... พี่หายใจไม่ออก" ผมยอมปล่อยพี่จุนมยอนหลังจากที่ปล่อยให้เจ้าตัวโอดครวญอยู่นาน และก็ได้รับฝ่ามือหนักๆฟาดเข้าที่ต้นแขนหนึ่งทีเป็นรางวัล =______=
"เจ็บนะ !" ลูบแขนตัวเองพลางส่งสายตาและสีหน้าที่คิดว่าน่าเอ็นดูที่สุดแต่ก็กลับโดนหยิกกลับมาอีกทีซะนี่ !
"ขึ้นไปเก็บของเลย 6 โมงเย็นเจอกันที่โรงอาหารนะ" ก้มลงมองนาฬิกาแบรนด์หรูที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อปีที่แล้วก็พบว่าเขาจะมีเวลาจัดการกับตัวเองประมาณชั่วโมงครึ่ง ดีล่ะ.. ขึ้นไปนอนเอาแรงสักหน่อยล่ะกัน
"รับทราบครับ" จงอินเบะปากให้หนึ่งทีแล้วเดินลากเท้าขึ้นบันไดหาทางไปสู่ห้อง 1213 ห้องพักของเขาที่ต้องอยู่ร่วมกับรูมเมทอีกคน
จะเป็นใครนะ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ตอนแรกมาแล้ว !!!! จริงๆมันยาวมากๆเลยล่ะแต่เราตัดมาแค่นี้ 555+ #โดนตบ
ไม่รู้ว่าจะสนุกมั้ย ฮือ แต่ก็เอามาลงแล้วนะ มาอ่านกันเยอะๆล่ะ ㅠㅠ
ส่วนตรงไหนที่ผิดหรืออ่านแล้วมันแปลกๆก็ติได้เลยนะ ไรเตอร์ไม่ดราม่าฮํบ .____.
ความคิดเห็น