คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : โลกเบื้องหลัง
Ghost Story
... ผมชื่อ ซากางาวะ เร็นจิ เป็นแค่เด็กหนุ่ม ม.ปลายเหมือนคนทั่วไป แต่สิ่งที่มีไม่เหมือนคนอื่นนั้นคือความสามารถของผม ที่สามารถมองเห็นวิญญาณได้ และผมสามารถรับรู้ได้ถึงอดีตของสิ่งต่างๆรอบตัวได้ ตั้งแต่ สถานที่ สิ่งของ หรือมนุษย์....
ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
“นี่ๆ โคตะชั้นมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังด้วยหล่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับรุ่นพี่ที่โดนฆ่าตายอะนะ” เสียงของเด็กหนุ่มคนนึงเดินเข้ามาคุยกับเพื่อนของเค้า
“หา ไรของแกฟระ จู่ๆ ก็อยากจะเล่าเรื่องสยองขึ้นมารึไงกันหน่ะ” โคตะหนุ่มเสียงห้าวประจำห้องพูดกับโอดะ
“นี่ๆ คุยอะไรกันอยู่หรอ ให้ชั้นฟังด้วยคนซิ” โมกิเด็กสาวที่เป็นเพื่อนของ โอดะ และโคตะ ก็เข้ามาร่วมคุยด้วย
หลังจากที่ทั้ง 3 คนมารวมตัวกันแล้วโอดะก็เริ่มเล่าเรื่องของรุ่นพี่ที่ถูกฆ่าตาย
…นี่ รู้รึป่าวว่าเมื่อ 3 ปีก่อนหน่ะ มีรุ่นพี่คนนึงได้รับจดหมายรัก ในจดหมายเขียนบอกให้รุ่นพี่ไปหาที่หลังโรงพละเก่า พอรุ่นพี่ไปก็เจอผู้ชายคนนึงกำลังยืนเหมือนรอใครซักคนออยู่ เค้าหันมาเจอรุ่นพี่ ผู้ชายคนนั้นก็ทักรุ่นพี่แล้วบอกว่า เค้าคือเจ้าของจดหมายที่ส่งมาให้รุ่นพี่นั่นเอง หลังจากนั้นผู้ชายคนนั้นก็สารภาพรักกับรุ่นพี่ แต่รุ่นพี่พูดว่า “ชั้นรับรักนายไม่ได้หรอกนะ นายไม่ใช่คนที่ชั้นชอบหรอก” เมื่อผู้ชายถูกปฏิเสธเลยหยิบท่อนไม้ที่ตกอยู่ใกล้ๆนั้นมาตีใส่รุ่นพี่อย่างแรง ตีจนเลือดของรุ่นพี่กระเด็นไปติด สิ่งของบริเวณรอบๆ และสุดท้ายรุ่นพี่ก็ทนบาดแผลไม่ไหวและก็ตายในที่สุด...
“โหดร้าย...” โมกิพูดขึ้นมา ด้วยความกลัว
“โมกิอย่าพึ่งขัดชั้นเล่าซิ ยังไม่จบนะ” โอดะพูดด้วยอารมณ์ไม่พอใจที่โดนโมกิขัดจังหว่ะการเล่าเรื่อง และเริ่มเล่าเรื่องต่อ
…หลังจากที่รุ่นพี่ตายแล้วผู้ชายคนนั้นก็ถูกตำรวจจับตัวไป แต่ถึงผู้ชายคนนั้นถูกจับตัวไปแล้วก็ตาม แต่วิญญาณของรุ่นพี่ก็ยังคงอยู่ในโรงเรียนต่อไป เพราะผู้ชายคนนั้นเอาศพของรุ่นพี่ไปซ่อนแล้วยังไม่มีใครหาเจอ บางครั้งก็มีวิญญาณของรุ่นพี่ออกมาให้เห็น บางครั้งเวรทำความสะอาดตอนเย็นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดิน หรือล่าสุดมีคนเข้ามาลองดี แล้วเจอผีหลอกจนเสียสติไปเลย...
“โห น่ากลัวดีแฮะ เรื่องที่แกเล่าก็มีเรื่องนี้แหล่ะมั้งที่กลัวที่สุดหน่ะ” โคตะพูดพรางหยอกล้อโอดะ
“อย่าดูถูกนักซิ ชั้นหน่ะนะเป็นเซียนเรื่องสยองขวัญเลยนะ” โอดะพูดอวดตัวเอง
“หรอ.. ถ้ายังงั้นคืนนี้มาลองของกันหน่อยมั้ยหล่ะ กล้ารึป่าวเจ้าเซียนเรื่งสยองขวัญ” โคตะพูดใส่โอดะเชิงดูหมิ่น
“ชั้นหน่ะกล้าอยู่แล้วหล่ะ” โอดะตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจและหันไปหาเร็นจิที่นั่งนิ่งอยู่โต๊ะข้างๆ และฟังบทของพวกโอดะได้ซักพักแล้ว
“เห้ เร็นจินายก็จะมาใช่มั้ยหล่ะคืนนี้หน่ะ” โอดะถามเร็นจิด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“ชั้นขอไปด้วยนะ” โมกิพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เร็นจิจะตอบ และหันไปถามเร็นจิซ้ำ
“เร็นจิคุง ตกลงมาด้วยกันมั้ย?” ในขณะนั้นเสียงของโคตะก็ดังขึ้น “เร็นจิ มันป๊อดจะตายมันไม่มาหรอก” เร็นจิได้ยินแบบนั้นจึงโมโหเลือดขึ้นหน้าและเอามือทุบโต๊ะอย่างแรงทำให้มีเสียงดังไปทั่วทั้งห้องเรียน “ชั้นจะไปด้วย” เร็นจิตอบด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็ง
หลังจากเร็นจิพูดจบโอดะก็พูดขึ้นมา “ถ้าหยั่งงั้นหลังเลิกเรียนมาเจอกันอีกทีตอน 2 ทุ่ม ที่หน้า โรงเรียนนะ” หลังจากที่พวกนัดกันเสร็จออดโรงเรียนก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณเลิกเรียน ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน และรอเวลานัด
เวลา 20.00 น.
“พร้อมกันแล้วใช่มั้ยพวกเราได้เวลาสำรวจโรงเรียนตอนกลางคืนแล้ว” โอดะพูดด้วยท่าทางร่างเริง
หลังจากโอดะพูดจบทุกคนก็ปีนรั้วโรงเรียนเข้าไปข้างใน โรงเรียน“ชั้นว่าพวกเราไปสำรวจตึกเรียนของพวกเราก่อนมั้ย?” โมกิแสดงความคิดเห็น “เอางั้นก็ได้ชั้นก็อยากเห็นอาคารเรียนของพวกเราตอนกลางคืนเหมือนกัน” โอดะวางมาดแล้วตอบโมกิไป “นั่นซิชั้นก็อยากเห็นเหมือนกัน แล้วเร็นจินายไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรอ” โคตะตอบโมกิและหันไปถามเร็นจิที่ยืนข้างหลัง “ ไม่หล่ะชั้นไม่มีอะไรจะพูด” เร็นจิตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่อจบบทสนทนาพวกเร็นจิก็เดินขึ้นไปสำรวจอาคารเรียนของพวกตน
“ กรี๊ดดดดดดด!!!!!! ” เสียงของโมกิร้องดังลั่นไปทั่วทั้งอาคารเรียน ทำให้โคตะ โอดะและเร็นจิ
สะดุ้งและหันไปมองโมกิที่กำลังอยู่ในสภาวะตกใจและหน้าซีด
“เห้ โมกิเป็นไรไปหน่ะ” โคตะถามโมกิด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อตะกี้ชั้นส่องไฟฉายเข้าไปในห้องเรียน ชั้นก็เห็นผู้หญิงคนนึง โผล่ขึ้นมาตรงกระจกหน่ะ เธอหน้าตาหน้ากลัวมากเลยหล่ะ” โมกิเล่าเหตุการณ์ที่พบเจอให้พวกโคตะฟัง โดยที่ตัวของโมกิเองนั้นยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เร็นจิและโอดะเลยลองเข้าไปดูในห้องเรียนที่โมกิพูดถึงแต่ก็ไม่เจอใคร “ไม่เห็นจะมีใครเลยนี่หน่า” โคตะพูดขึ้นมา “สงสัยชั้นจะคิดมากไปเองหน่ะ ขอโทดนะทุกคนที่ทำให้เป็นห่วงหน่ะ” โมกิพูดกับเพื่อนๆด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด
“ชั้นว่าพวกเราแยกกันไปดีกว่านะ” โอดะแสดงความเห็น กับเพื่อนๆ
“ชั้นว่าก็ดีนะ ถ้าอย่างงั้น ชั้นจะไปกับโอดะ ส่วนโมกิไปกับเร็นจิละกันนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ส่งเสียงเรียกแล้วกันนะ” เมื่อโคตะพูดจบ พวกโคตะกับโอดะก็เดินจากไปในความมืดมิด โดยทิ้งเร็นจิและโมกิไว้ข้างหลัง “ถ้าอย่างงั้นพวกเราก็ไปสำรวจกันดีกว่านะ” โมกิพูดกับเร็นจิด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหวเหมือนกำลังกลัว “อืม...” เร็นจิพยักหน้าตอบ และเดินไปสำรวจอาคารเรียนซักพักหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงโอดะกับโคตะร้องด้วยความตกใจ “อ๊ากกกกกกกกกกก” เสียงร้องนั่นดังสนั่นไปทั่วทั้งอาคารเรียน เร็นจิได้ยินเสียงนั้นเลยวิ่งไปดูโดยที่ลืมนึกถึงโมกิที่มากับเค้าด้วย
“เร็นจิคุง รอชั้นด้วยซิ” โมกิตะโกนเรียกเร็นจิที่วิ่งตามเสียงของโคตะและโอดะไป โดยที่ไม่ได้ยินเสียงของเธอ เมื่อเร็นจิวิ่งมาถึงจุดที่โอดะกับโคตะ ตะโกนก็ไม่พบใครอยู่แม้แต่คนเดียว “โคตะ โอดะ พวกนายอยู่ไหนกันหน่ะ” เร็นจิส่งเสียงเรียกเพื่อนของเค้าที่หายไปไหนกันก็ไม่รู้
“กรี๊ดดดดด!!!!” เสียงร้องของโมกิดังขึ้นมาจากด้านหลังของเร็นจิ เร็นจิจึงพยายามวิ่งไปหาเจ้าของเสียงแต่ระหว่างทางนั้น เร็นจิวิ่งมาบริเวณทางเดินอาคารและพบร่างของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ เร็นจิเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าใครมานั่งร้องไห้ตอนกลางที่โรงเรียนคนเดียว แต่เพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ เร็นจิจึงเดินเข้าไปแตะที่ไหล่ของผู้หญิงที่นั่งร้องไห้อยู่ เพื่อจะถามหาเพื่อนของเค้าที่หายไป เร็นจิเอื้อมมือไปยังไม่ได้แตะตัวเธอก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาสีเลือด และใบหน้าที่ดูโทรมเหมือนศพที่ตายมานาน “เห้ย!!!” เร็นจิอุทานขึ้นด้วยความตกใจเค้าสะดุ้ง ถอยหลังไปและสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น ร่างของหญิงสาวนั่น ก็ได้หายไป
เร็นจิที่จึงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ “ทำไมถึงไม่ทำร้ายเรา แต่แค่มานั่งร้องไห้ หรือว่าต้องการให้เราช่วยอะไรกันแน่? ” เร็นจิจึงพยายามเดินหาวิญญาณของหญิงสาวคนนั้นจนไปถึงโรงพละเก่า
ที่อยู่หลังโรงเรียน เร็นจิได้พบกับวิญญาณของหญิงสาวคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง “ตามชั้นมาซิ ” วิญญาณของหญิงสาวนั้นพูดกับเร็นจิด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เร็นจิที่กำลังกลัวอยู่นั้น เกิดนึกในใจขึ้นมาว่า “เค้าอาจจะมีอะไรให้เราช่วยจริงๆก็ได้” เมื่อคิดได้อย่างนั้นเร็นจิจึงเดินตามดวงวิญญาณเข้าไปในโรงพละเก่า เมื่อเร็นจิเข้ามาในโรงพละก็ได้กลิ่นสาบเหมือนกับมีอะไรตายอยู่ในนี้ เร็นจิข่มความกลัวของตนไว้และเดินมุ่งหน้าเข้าไปในความมืด ที่มีเพียงแสงของพระจันทร์สลัวๆที่สอดส่องเข้ามาทาง หลังคาที่แตกหักของโรงพละเก่า เร็นจิเดินไปจนจะสุดทาง “ทำไมกลิ่นมันแรงขึ้นหล่ะ” เร็นจิที่ได้กลิ่นสาบนั้นรู้สึกว่ากลิ่นจะแรงขึ้น เมื่อเดินไปซักพักหนึ่ง เร็นจิก็พบกับตู้ล็อกเกอร์ ที่ใส่กุญแจวางอยู่สุดทางเดิน เร็นจิจึงเดินไปที่ตู้ล็อคเกอร์ และลงสัมผัสดู ด้วยความสามารถของเค้าเค้าสามารถรับรู้ถึงอดีตของสถานที่นี้ได้ เร็นจิเห็นภาพของผู้ชายคนนึงกำลังลากร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนตน เข้าไปเก็บไว้ในตู้ล็อคเกอร์ และล็อกกุญแจ ไว้ เมื่อเร็นจิเห็นภาพในอดีตที่เกิดขึ้นจึงหาอะไรมาเปิดตู้ล็อคเกอร์
ขณะที่เร็นจิกำลังหาอะไรมาเปิดตู้ล็อคเกอร์อยู่นั้น เร็นจิก็ได้ยินเสียงของเหล็กที่ตกลงมากระทบกับพื้นทำให้เกิดเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งโรงพละ เร็นจิจึงหันไปมองและพบว่ามีแท่งเหล็กวางอยู่ข้างหลังของเค้าทั้งๆที่ตอนแรกไม่มีอะไรวางอยู่เลย “ขอบคุณนะ” เร็นจิพูดขึ้นมาเพราะคิดว่าดวงวิญญาณของหญิงสาวคนนั้นนำแท่งเหล็กมาให้ตน เร็นจิจึงนำแท่งเหล็กนั้นมาทำการปลด
ล็อก ล็อกเกอร์ละก็ตีไปที่ลูกกุญแจ หลังจากนั้นก็ลูกกุญแจก็หลุดและเมื่อเปิดเข้าก็พบโครงกระดูกของมนุษย์ ถูกวางท่าอยู่ในลักษณะถึงงอเข่า อยู่ในล็อคเกอร์
“ขอบคุณมากนะ ที่ช่วยปลดปล่อยเด็กคนนั้น” เสียงของหญิงสาวดังมาจากข้างหลังของเร็นจิ เร็นจิจึงรีบหันไปมอง แล้วก็เห็นร่างของหญิงสาวคนนั้นค่อยๆเรือนรางหายไป พร้อมในใจที่คิดขึ้นมาว่าทำไมต้องพูดว่า “เด็กคนนั้น” หรือว่าโครงกระดูกนี่ไม่ใช่ของเธอ ?
หลังจากนั้นเร็นจิก็เดินออกมาจากโรงพละแล้วพบเพื่อนของเค้านอนหมดสติอยู่ใต้ต้นไม้
“โอย!!! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เสียงของโคตะที่ตื่นก่อนคนอื่นพูดขึ้นมา เร็นจิจึงตอบไปว่า
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เหมือนชั้นเจอผู้หญิงนั่งร้องไห้น้ำตาเป็นเลือด” โคตะพูดเหมือนกับว่าตนเองจำเรื่องราวที่เจอได้
“นายก็แค่ฝันหน่ะ โคตะ” เร็นจิพูดกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากให้เพื่อนของตนเข้ามาพัวพันกับเรื่องราวของโลกเบื้องหลัง....
..To Be Continued..
ความคิดเห็น