คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แฟนเด็ก (ครึ่งแรก)
Title: แฟนเด็ก
Pairing: Daimao
Author: Jampremiumshop
ผมมั่นใจว่าสาววายเกินครึ่งล้านต้องรู้จักผม หากคุณเคยชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า Takumi-Kun Series ภาค 2 และ 3 แล้วล่ะก็ เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่รู้จัก กีย์ พระเอกของเรื่อง หรือ วาตานาเบะ ไดสุเกะคนนี้ ไปได้หรอกใช่มั้ยล่ะครับ
ชายวัย 27 ปีที่แสนโชคดีที่ได้มีสิทธิ์แอ้มหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักอายุน้อยกว่าตัวเองเกือบรอบ ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นแค่เพียงบทบาทในหนังก็ตาม แต่ผมเองก็อดที่จะแอบดีใจลึกๆไม่ได้
และในปีนี้ผมก็อายุ 28 แล้ว มันเป็นปีที่ผมตัดสินใจคบกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนๆเดียวกับที่ผมเคยได้แอ้มเขาในบทนั่นล่ะครับ
แต่ในชีวิตจริง ประสบการณ์อย่างว่ากับมาโอะจังที่น่ารักของผมยังเป็น 0 อยู่เลย
คิดๆไปแล้วก็นึกสงสารตัวเองขึ้นมาติดหมัด แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะครับ ก็มาโอะจังเขาอุตส่าห์ใช้สายตาแบ๊วๆของเขาขอร้องเอาไว้นี่นา ไม่อย่างนั้น ผมก็คงไม่สามารถข่มใจตัวเองไม่ให้เผลอจับกดมาโอะจังได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้หรอกครับ
“ ไดสุเกะซัง รอนานมั้ยฮะ ”
เสียงใสๆเรียกชื่อผม ก่อนที่เจ้าของเสียงจะหอบร่างบางๆของตัวเองวิ่งโร่นำออกมาจากกองถ่ายก่อนใครเพื่อน
จะว่าไป ผมชักเหมือนพ่อที่มารอรับลูกชายคนเล็กกลับจากโรงเรียนอนุบาลเข้าไปทุกทีแล้วสิ
“ อืม ไม่นานหรอก แล้วเป็นไง ถ่ายโจ๋เรนเจอร์สนุกมั้ย ” ผมแกล้งแซว
“ Goseiger ต่างหาก ไดสุเกะซังอย่ามาล้อกันนะ ”เอาอีกแล้วสิครับ ตาโตๆ กับแก้มป่องๆ นี่ของคู่กันกับเวลาที่มาโอะจังเขางอนจริงๆเลยสิ ..... น่ารักสุดยอด
“ เป็น Gosei Black ทั้งทีทำหน้าแบบนี้ได้ไงเนี่ย ” น่าแกล้งเกินไปแล้วนะ มาโอะจัง
“ ครับๆ เอาล่ะ ไดสุเกะซัง วันนี้เราจะไปร้านไหนกันดี ” มาโอะจังตัดบทโดยการเลิกต่อล้อต่อเถียง ก่อนออกเดินนำไปที่รถของผมที่จอดเอาไว้ข้างๆกองถ่ายทันที
“ งอนเหรอ ” ผมตะโกนถามก่อนเดินตามที่รักของผมที่ก้าวนำไปไกลลิ่วๆจนเกือบจะถึงตัวรถอยู่แล้ว
ไม่ยักรู้ว่า ขาสั้นๆ จะเดินได้ไวขนาดนี้
“ เปล่า ก็ผมหิวแล้วนี่ฮะ ”
“ งั้นไปกินที่บ้านฉันมั้ย ”
“ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวไดสุเกะซังก็จับผมกดลงกับเตียงอีก ” เฮ้ย พูดเรื่องบัดสีออกมาได้หน้าตาเฉยอะไรแบบนั้นเล่า มาโอะจังจ๋า
“ อ่า ก็มาโอะจังไม่ยอมให้สักทีนี่นา ”
“ ไม่ได้หรอกครับ ผมยังเรียนอยู่เลย รอให้เรียนจบก่อนแล้วกัน ” ลองคำนวณดู มาโอะจังเพิ่งขึ้นปี 1 กว่าจะเรียนจบก็รออีกแค่ 3 ปีกว่าๆเอ๊งงงงงง มันไม่มากไม่มายเลยจริงๆ (กัดฟันพูด)
ถึงในเรื่อง Takumi เขาจะเล่นบทแบบถึงเนื้อถึงตัวขนาดนั้น แต่มาโอะจังตัวจริงกลับเป็นพวกเคร่งครัดในเรื่องประเพณี และระเบียบวินัยต่างๆอย่างเหลือเชื่อ ถึงจะเป็นแฟนกันแล้ว แต่จะโอบจะกอดก็ไม่ได้ จูบก็ห้าม อะไรก็ห้าม ทุกวันนี้ยังได้แค่จับมือ แถมยังมีการบอกให้จับได้ครั้งละไม่เกิน 3 นาทีด้วยแน่ะ
ถ้าไม่รักก็คงไม่ทนให้โง่หรอกนะเนี่ย รู้มั้ย มาโอะจัง
“ ผมหิวจริงๆนะ ไดสุเกะซัง เมื่อไหร่จะออกรถสักทีล่ะฮะ ” เสียงใสที่เริ่มขุ่นเพราะความหิวร้องเตือน
“ จ้าๆ ” ยอมให้ทุกอย่างล่ะครับ แม่ทูนหัว
///////////////////////////////////////////////////////////////////
หลังจากทะเลาะกันเรื่องร้านอยู่นานสองนาน สุดท้ายพวกเราก็พากันมาลงเอยกันที่ แมคโดนัลด์ ร้านเดียวกับเมื่อ 2 วันก่อนอีกจนได้
ว่าแต่ วัยรุ่นนี่เขาโปรดปรานพวกฟาสต์ฟูดกันจริงๆเลยน้อ
“ กินแต่แมคไม่เบื่อเหรอ ” ผมมองเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟรายบนถาดด้วยสายตาหน่ายๆ
“ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ” คนหุ่นดีก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่ผมนี่สิ ตั้งแต่คบกับมาโอะจังมา ก็เที่ยวกินแต่พวกฟาสต์ฟูดตามแฟชั่นวัยรุ่นจนใกล้จะเป็นตาแก่ลงพุงอยู่รอมร่อ
“ ทำอะไรอยู่เหรอ ” สังเกตมาตั้งแต่เข้าร้านแล้ว เห็นมาโอะจังเอาแต่ขีดๆเขียนๆรูปบนกระดาษสมุดมาได้พักใหญ่ ไม่ยอมเปิดปากคุยเล่นกับผมสักคำ ทั้งที่ปกติต้องมีเรื่องนู้นนี้นั้นมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอแท้ๆ
“ งานกลุ่มน่ะฮะ ”
“ ช่วยทำมั้ย ” เป็นห่วงครับ เพราะช่วงนี้มาโอะคุงงานเยอะจริงๆ หักโหมมาก เดี๋ยวจะไม่มีเวลาพักผ่อนไปเสียฉิบ
“ ไดสุเกะซังไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับผมสักหน่อย จะให้มาช่วยทำได้ไง ” นั่นไง มาอีกแล้ว นิสัยเจ้าระเบียบ คนหวังดีอย่างผมก็เลยได้แต่รู้สึกเก้อๆไปนิด
“ เด็กดีเกินไปแล้วน้า มาโอะจังเนี่ย ”
“ พี่ชายบอกเสมอว่า คนเราต้องรู้จักพึ่งพาตัวเอง อะไรที่ผมทำได้ ผมก็จะทำด้วยตัวเองให้ถึงที่สุด ” ขณะพูด ดวงตากลมโตนั่นดูเอาจริงเอาจังจนผมอดนึกชื่นชมไม่ได้
“ ไง มาโอะจัง ยังไม่เสร็จอีกเหรอ พอดีส่วนของฉันเสร็จแล้ว ให้ฉันช่วยนายทำก็ได้น้า ” จู่ๆคนที่ผมพอจำได้ลางๆว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของมาโอะจังก็เปิดประตูร้านเข้ามาทัก ก่อนที่เจ้านั่นจะหย่อนก้นลงบนที่นั่งด้านข้างที่รักของผมอย่างเนียนๆ
“ จริงเหรอ อ่ะนี่ ” ฉวยกระดาษโบ้ยงานให้เพื่อนรักแถมรอยยิ้มละไมตบท้ายเสร็จสรรพ จนทำเอาผมเกือบหน้าทิ่ม
แล้วอุดมการณ์หรูๆเมื่อ 3 บรรทัดก่อนนั่นล่ะจ๊ะมาโอะจังจ๋า
“ ขอบคุณมากเลยนะ เคนจัง ฉันรักนายที่สุดเลย ” แล้วมาโอะจังที่น่ารักของผมก็กระโดดกอดคอเพื่อนรักเป็นรางวัลล่วงหน้า ก่อนที่เจ้าเคนนั่นจะทำหน้าแดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นท่าทางที่ชวนตลก แต่ขัดใจผมชะมัด
“ ไม่เป็นไรหรอก ก็เราอยู่กลุ่มเดียวกันนี่นา ” อิโธ่ ถ้าฉันอายุน้อยกว่านี้สัก 9 ปีก็คงได้อยู่กลุ่มเดียวกับมาโอะจังเหมือนกันล่ะน่า
“ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย ” เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อล่ะสิไม่ว่า หมั่นไส้โว้ย
“ อืม.. นายก็..ดีที่สุดสำหรับฉันเหมือนกัน ” เฮ้ย อย่ามาป้อแฟนคนอื่นเขาง่ายๆสิฟะ ไอ้เด็กนี่
“ นายกินอะไรมารึยัง กินด้วยกันมั้ย ” อ่าว ชวนคนอื่นร่วมวงซะงั้น นี่เราไม่ได้มาเดทกันหรอกหรืออย่างไร วานช่วยตอบทีเถอะ มาโอะจัง
“ ไม่เป็นไรหรอก ” อ่า ตอบได้ดีมากไอ้หนูเอ๋ย “ วันหลังเราค่อยไปนัดกินด้วยกัน 2 คนดีกว่า ” เฮ้ยๆๆ ประโยคหลังนี่มันชักยังไงอยู่นะเฟ้ยเฮ้ย
“ อื้ม ” อย่าตกลงไปกับเขาง่ายๆสิ มาโอะจัง T^T
///////////////////////////////////////////////////////////////////
“ งานก็โบ้ยให้เพื่อนทำแล้ว งี้ก็ว่างน่ะสิ ” ผมถามขณะเดินออกมาจากร้าน
“ ซะที่ไหนล่ะ ผมยังต้องกลับไปท่องบทอีก ”
“ งั้นช่วยต่อบทให้ก็ได้ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกฮะ ไม่อยากรบกวนไดสุเกะซัง ” มาโอะจังส่ายหน้า
“ รบกวนที่ไหน เราเป็นอะไรกัน นายลืมรึไง!?! ” ชักเคืองหน่อยๆแฮะ เขาพูดเหมือนผมเป็นพวกพึ่งพาไม่ได้อย่างนั้นแหละ
“ แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงใส่ผมด้วยเล่า ” มาโอะทำหน้างอหงิกไปเลยครับ
“ ขอโทษๆ แต่นายน่าจะพึ่งพาฉันให้มากกว่านี้หน่อยนะ ถ้าทำได้จะดีใจมากเลย ” อาจจะฟังดูแปลกๆที่ผมขอร้องอะไรแบบนี้ แต่นั่นก็เป็นความต้องการจากใจของผมจริงๆ
ก็เวลามาโอะจังเวลาอ้อนเนี่ย น่ารักอย่าบอกใครเชียวล่ะ แต่หลังๆไม่ค่อยโดนอ้อนแล้ว ก็ชักเหงาๆแฮะ
“ แต่ผมอยากพึ่งพาตัวเองให้ได้มากกว่า ” นั่นไง สวนกระแสความคิดของผมอีกแล้ว อายุ 19 ปี นี่มันเป็นวัยต่อต้านรึยังไงกันนะ
“ เอาเถอะๆ งั้นเดี๋ยวฉันจะรีบไปส่งที่บ้านก็แล้วกัน จะได้ท่องบทเร็วๆ ” ไม่ขัดศรัทธาครับ อยากทำอะไรก็ทำเถ๊อะ
///////////////////////////////////////////////////////////////////
ทุกเช้าผมจะเป็นคนขับรถมารับมาโอะไปส่งที่กองถ่ายเสมอๆ แล้ววันนี้ก็เช่นกันที่ผมยังคงทำหน้าที่เป็นสารถีที่ดีขับรถมารับที่รักของผมในตอนเช้าตรู่เช่นเดิม
“ อ่าว ทำไมมานั่งอยู่หน้าบ้านล่ะ ” ผมตะโกนถามอย่างสงสัยเพราะเห็นมาโอะนั่งคู้ตัวกอดเข่าอยู่บนม้านั่งหน้าบ้านทั้งที่ลมหนาวออกจะแรงถึงปานนี้ พลางรีบเปิดประตูรถออกไปรับเจ้าตัวดีที่ปั้นหน้าเครียดตั้งแต่เช้าขึ้นมาบนรถทันที
“ ก็ผมกลัวสายนี่นา ” พูดมาได้ ทั้งที่ปกติผมกดกริ่งแค่ครั้งเดียว เจ้าตัวก็วิ่งโร่ออกมาจากในบ้านแล้ว วันนี้อุตส่าห์ทนนั่งหนาวอยู่หน้าบ้านเพื่อให้ไปทำงานได้เร็วขึ้นซักนาที สองนาที มันจะคุ้มกันมั้ยเนี่ย
“ ไหน ขอดูหน้าหน่อยซิ สีหน้าไม่ดีเลยนะ มาโอะจัง ” ผมทัก พร้อมกับใช้หลังมือแตะเข้าที่ขมับเจ้าตัว “ ตัวรุมๆนะ แวะคลินิกก่อนดีมั้ย ”
“ ผมไม่เป็นไร ออกรถเถอะฮะ ไดสุเกะซัง เดี๋ยวจะไปทำงานสาย ”
“ เด็กดื้อ ” ผมแยกเขี้ยวใส่ ก่อนบีบจมูกเจ้าเด็กความรับผิดชอบสูงอย่างหมั่นไส้
“ ไดสุเกะซัง ผมไม่เล่นนะ!!!! ” มาโอะตวาดใส่เสียงกร้าว พลางปัดมือผมออก เป็นกิริยาที่ผมไม่เคยได้พบเห็นจากเขามาก่อนเลยในชีวิต
“ เครียดอะไรมารึไง ถึงได้มาพาลใส่กันแบบนี้น่ะ หื้ม!?! ” ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่สนใจแล้ว แต่สำหรับมาโอะจัง ผมเลือกที่จะเซ้าซี้ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทน
“ อะ...ฮึก..ผมขอโทษ...ฮืออ ” มาโอะเริ่มหลุดสะอื้นออกมา ทำเอาผมงงหนัก
“ อย่าร้องไห้สิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ” ผมใช้มือลูบหัวเจ้าตัวดีอย่างต้องการจะปลอบใจ
“ ……………… ” มาโอะไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าลงจนคางแทบชิดกับอกแล้วร้องไห้เงียบๆ
“……………... ” หมดแล้วซึ่งคำพูดเช่นกัน ไม่รู้จะง้ออย่างไร เพราะไม่รู้ว่าปัญหามันเกิดจากอะไร
อะไรทำให้มาโอะจังที่น่ารัก สดใส ร่าเริง ลั้ลลาของผมเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้น้า ไม่เข้าใจเด็กวัยรุ่นเลยจริงๆสิเรา
///////////////////////////////////////////////////////////////////
ฝั่งตรงข้ามของกองถ่าย Goseiger เป็นร้าน Coffee Shop เล็กๆร้านหนึ่งที่ให้ผมสามารถมาใช้ซุ่มเฝ้าดูการถ่ายทำของวันนี้ได้
เหตุเพราะอาการของมาโอะน่าเป็นห่วงเกินกว่าผมจะวางใจปล่อยเขาไว้คนเดียวได้ นั่นเป็นที่มาที่ทำให้ผมต้องมานั่งทำเนียนเป็นลูกค้าร้านกาแฟปะปนไปกับแฟนคลับที่ตั้งใจมาให้กำลังใจนักแสดง Goseiger ในวันนี้
งานการไม่ต้องทำ เพราะภารกิจเฝ้าภรรยา(ในอนาคต) มันสำคัญกว่ากันเห็นๆ (เรอะ!!)
“ วันนี้มาโอะคุงน่ารักชะมัด ” เสียงเด็กผู้หญิงวัยมัธยมต้นคนหนึ่งในร้านพูดถึงที่รักของผม
“ แต่ฉันว่า วันนี้หน้าเขาดูซีดๆนะ ” เด็กคนที่นั่งตรงข้ามเถียง
“ อย่ามาว่าที่รักของฉันนะ ฉันชอบเขามาก่อนเธอซะอีก ” อ่าวๆ มีการข่มซะด้วยแน่ะ
“ ฉันก็ชอบเขามาตั้งแต่เขาเล่นทาคุมิ 2 แล้วนะ ”
“ แต่ฉันชอบตั้งแต่ที่เขาเล่นเป็น คิคุมารุ เอจิ ในเทนิมิวแล้วนะ ” เหมือนผมเลยแฮะ ผมก็ชอบมาโอะจังมาตั้งแต่ที่เราแสดงเทนิมิวด้วยกันแล้ว
“ ก่อน-หลังไม่เห็นเกี่ยว สำคัญที่รักของฉันมีมากกว่าของเธอ ” โอ้ว คมนะเนี่ย
“ แต่ฉันก็ชอบเขาจริงๆนะ ”
“ ฉันก็ด้วย ” อ่า ผมด้วยๆ
“ งั้นเรามาทำป้ายเชียร์มาโอะคุงกันเถอะ ” เอ้า บทจะดีก็ดีกันง่ายๆอย่างนั้นเลย
ถึงจะรู้สึกแปลกๆกับบทสนทนาของสาวๆไปบ้าง แต่ผมก็อดที่จะดีใจอยู่ลึกๆไม่ได้ที่มาโอะจังมีคนที่ชื่นชอบเขาถึงขนาดนี้
การถ่ายทำในช่วงแรกดูจะเป็นไปด้วยความราบรื่น มาโอะยังคงเล่นได้ดีเหมือนครั้งก่อนๆจนมองแทบไม่ออกเลยว่า เจ้าตัวกำลังไม่สบายอยู่
แต่ช่วงหลังๆนั้นกลับน่าโมโหนิดๆที่ผู้กำกับเอาแต่สั่งคัทแล้วคัทอีกในซีนของมาโอะ ทั้งที่ที่รักของผมเริ่มมีอาการหอบออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนก็หลายครั้งอยู่ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อเจ้าตัวเลือกที่จะปกปิดอาการป่วยของตัวเองไม่ให้ทีมงานรู้ ซ้ำยังบอกไม่ให้ผมเข้าไปก้าวก่ายเรื่องงานของเขาอีก
ไม่อยากตามใจหรอก แต่หัวรั้นขนาดนี้ คงต้องให้เรียนรู้ความลำบากด้วยตัวเองนั่นแหละดีที่สุด
///////////////////////////////////////////////////////////////////
ครึ่งวันผ่านไป ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงสู่ผืนดิน การซุ่มติดตามกองถ่ายของผมก็เป็นอันสิ้นสุดลงเสียที เมื่อผู้กำกับประกาศเลิกกองเสียงดังลั่น พร้อมๆกับเสียงผลัดกันขอบคุณของเหล่าทีมงานและนักแสดง
“ เป็นไง มาโอะจัง ” ผมเดินเข้าไปทักคนตัวบางที่แบกเป้ขึ้นบ่าเดินสะโหลสะเหลออกมาจากฝูงชน
“ ก็ดีฮะ ” ไอ้ท่าทางจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่นั่นมัน ก็ดี ตรงไหนฟะ
“ ไปหาหมอหน่อยเหอะนะ ขอร้องล่ะ ”
“ ไม่!!! ” คนป่วยจอมดื้อปฏิเสธหน้าตาขึงขังมากถึงมากที่สุด จะอะไรกันนักหนาน้า เจ้าเด็กนี่
“ งั้นก็กลับบ้าน กินยาแล้วนอนซะนะ รู้มั้ย ”
“ ผมต้องไปทำงานกลุ่มที่บ้านเคนจังอีก ยังกลับไม่ได้หรอกฮะ ”
“ บ้าไปแล้ว!! สภาพแบบนี้ยังคิดจะไปทำงานกับเพื่อนอีกเรอะ!?! ” ผมชักเริ่มโมโหกับความคิดเด็กๆของมาโอะขึ้นมาตะหงิดๆแล้วสิ
“ ก็มันเป็นงานกลุ่มนี่ฮะ ผมจะไม่ไปอยู่คนเดียวได้ไง ”
“ ฉันไม่มีทางพานายไปส่งที่นั่นแน่ กลับบ้าน!!! ” ผมฉุดข้อแขนเรียวพร้อมเปิดประตูรถ ก่อนจะเหวี่ยงร่างบางๆเข้าไปทางฝั่งด้านข้างที่นั่งคนขับทันที
มาโอะนั่งมึนอยู่ได้สักพักก็รีบเปิดประตูออกมายืนนอกตัวรถแล้วผลักผมเสียจนเกือบกระเด็น ก่อนจะสาวเท้าเดินหนีไปอีกทางทันที
“ จะไปไหน ” ผมตะโกนถามอย่างหงุดหงิด
“ จะโบกแท็กซี่ไปบ้านเคนจัง ” เขาตอบกลับมาเสียงแข็ง
“ กลับขึ้นรถเดี๋ยวนี้!!! ” ผมกระชากข้อมือมาโอะเข้ามาประชิดตัว จ้องใบหน้าหวานที่ใช้ดวงตากลมโตของตัวเองจ้องผมกลับมาเช่นเดียวกัน
“ ไม่ อย่ามายุ่งเรื่องของผม!!! ” มาโอะพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากการเกาะกุมของผมเต็มที่
“ อย่าดื้อน่า ฟังกันบ้างได้มั้ย ” ผมตวาด พลางเขย่าร่างนั้นแรงๆให้ได้สติ เผื่อจะได้มีเหตุผลกับเขาบ้าง
“ อุ๊บ!! ” จู่ๆมาโอะก็ใช้มือปิดปากตัวเอง ส่วนอีกข้างที่เหลือก็ใช้กุมท้องเอาไว้แน่น สีหน้าดูเหมือนกำลังได้รับความทรมานจากอะไรบางอย่าง
“ มาโอะจัง เป็นอะไร บอกฉันสิ ” ผมเอ่ยเร่งด้วยความตกใจ จากเดิมที่เคยใช้มือบีบหัวไหล่เล็กนั่นก็เปลี่ยนมาใช้ประคองช่วงเอวคอดของอีกฝ่ายเอาไว้แทน
“ แฮ่กๆๆ ม..ไม่เป็น...อ..อะไร ..ฮะ..แฮ่ก ” มาโอะสูดหายใจลึกพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะระงับอาการที่เกิดขึ้น
“ เป็นถึงขนาดนี้ยังจะให้ฉันเชื่อว่านายไม่เป็นไรได้อีกเหรอ ” ผมถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ
“ ………………… ” มาโอะเอาแต่ก้มหน้า ไม่พูด ไม่ตอบอะไรผมสักคำ ซึ่งนั่นก็สามารถกระตุกเส้นความอดทนของผมให้ขาดผึงได้เหมือนกัน
“ ได้ จะเอาอย่างนั้นก็ได้ ขึ้นรถสิ จะไปส่งที่บ้านเคนจังให้ แล้ววันหลังฉันจะไม่ถาม ไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับนายอีกทั้งนั้น ต้องการอย่างนั้นใช่มั้ย ” ผมโพล่งออกไปด้วยความน้อยใจล้วนๆ
“ ........................ ” พอได้ฟังประโยคตัดพ้อของผมเข้าไป เจ้าจอมดื้อก็เริ่มเงยหน้าขึ้นมอง
“ เร็วสิ ไม่กลัวงานไม่เสร็จเหรอ ” ผมแกล้งทำทีเป็นเดินหนีไปขึ้นรถฝั่งคนขับอย่างเฉยเมย ไม่มีบริการเปิดประตูให้เจ้าตัวดีเหมือนอย่างปกติ
“ ไดสุเกะซัง ” มาโอะตะโกนเรียกชื่อผม ก่อนวิ่งเข้ามากอดจากทางด้านหลัง
“ ไม่กลัวเจ้านั่นจะรอรึไง ” แกล้งประชดเข้าไปอีก
“ ไดสุเกะซัง... ผม... สงสัยว่าตัวเองอาจจะท้อง ” มาโอะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดชีวิตจนผมรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะล้อเล่นแต่อย่างใด
“ หา!!!! ” ผมร้องลั่นด้วยความตกใจจนสติแทบหลุด คำถามต่างๆวิ่งกระแทกหัวสมองน้อยๆของผมให้สับสนอลหม่านกันไปหมด
มาโอะบอกว่าตัวเองท้อง ถ้าเป็นงั้นจริง หน้าไหนมันเป็นพ่อเด็ก เพราะในชีวิตจริง ผมไม่เคยได้อย่างว่ากับมาโอะเหมือนอย่างในหนังเลยสักครั้ง
แล้วที่สำคัญจากที่ได้ลูบๆคลำๆในบท ทำให้ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ฮามาโอะ เคียวสุเกะ คนนี้ เป็นผู้ชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม แล้วผู้ชายสมัยใหม่นี่มันมีมดลูกกันด้วยเหรอ?? เฮ้ย หรือมาโอะจะเป็นทอม
สรุปว่า ท้องจริงเหยอ มาโอะจ๊างงงงง เฮ้ย บ้าไปแล้วววววว
TBC
ความคิดเห็น