ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] แฟนเด็ก (ไดสุเกะ x ฮามาโอะ)

    ลำดับตอนที่ #1 : แฟนเด็ก (ครึ่งแรก)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 935
      5
      20 ส.ค. 55

     

    Title: แฟนเด็ก

    Pairing: Daimao

    Author: Jampremiumshop

     

     

     

     

     

    ผมมั่นใจว่าสาววายเกินครึ่งล้านต้องรู้จักผม หากคุณเคยชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า Takumi-Kun Series ภาค 2 และ 3 แล้วล่ะก็ เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่รู้จัก กีย์ พระเอกของเรื่อง หรือ วาตานาเบะ ไดสุเกะคนนี้ ไปได้หรอกใช่มั้ยล่ะครับ

     

    ชายวัย 27 ปีที่แสนโชคดีที่ได้มีสิทธิ์แอ้มหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักอายุน้อยกว่าตัวเองเกือบรอบ ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นแค่เพียงบทบาทในหนังก็ตาม แต่ผมเองก็อดที่จะแอบดีใจลึกๆไม่ได้

     

    และในปีนี้ผมก็อายุ 28 แล้ว มันเป็นปีที่ผมตัดสินใจคบกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนๆเดียวกับที่ผมเคยได้แอ้มเขาในบทนั่นล่ะครับ

     

    แต่ในชีวิตจริง ประสบการณ์อย่างว่ากับมาโอะจังที่น่ารักของผมยังเป็น 0 อยู่เลย

     

    คิดๆไปแล้วก็นึกสงสารตัวเองขึ้นมาติดหมัด แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะครับ ก็มาโอะจังเขาอุตส่าห์ใช้สายตาแบ๊วๆของเขาขอร้องเอาไว้นี่นา ไม่อย่างนั้น ผมก็คงไม่สามารถข่มใจตัวเองไม่ให้เผลอจับกดมาโอะจังได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้หรอกครับ

     

    ไดสุเกะซัง รอนานมั้ยฮะ

     

    เสียงใสๆเรียกชื่อผม ก่อนที่เจ้าของเสียงจะหอบร่างบางๆของตัวเองวิ่งโร่นำออกมาจากกองถ่ายก่อนใครเพื่อน 

     

    จะว่าไป ผมชักเหมือนพ่อที่มารอรับลูกชายคนเล็กกลับจากโรงเรียนอนุบาลเข้าไปทุกทีแล้วสิ

     

    อืม ไม่นานหรอก แล้วเป็นไง ถ่ายโจ๋เรนเจอร์สนุกมั้ย ผมแกล้งแซว

     

    “ Goseiger ต่างหาก ไดสุเกะซังอย่ามาล้อกันนะ เอาอีกแล้วสิครับ ตาโตๆ กับแก้มป่องๆ นี่ของคู่กันกับเวลาที่มาโอะจังเขางอนจริงๆเลยสิ ..... น่ารักสุดยอด

     

    “ เป็น Gosei Black ทั้งทีทำหน้าแบบนี้ได้ไงเนี่ย ” น่าแกล้งเกินไปแล้วนะ มาโอะจัง

     

    ครับๆ เอาล่ะ ไดสุเกะซัง วันนี้เราจะไปร้านไหนกันดี มาโอะจังตัดบทโดยการเลิกต่อล้อต่อเถียง ก่อนออกเดินนำไปที่รถของผมที่จอดเอาไว้ข้างๆกองถ่ายทันที

     

    งอนเหรอ ผมตะโกนถามก่อนเดินตามที่รักของผมที่ก้าวนำไปไกลลิ่วๆจนเกือบจะถึงตัวรถอยู่แล้ว

     

    ไม่ยักรู้ว่า ขาสั้นๆ จะเดินได้ไวขนาดนี้

     

    เปล่า ก็ผมหิวแล้วนี่ฮะ

     

    งั้นไปกินที่บ้านฉันมั้ย

     

    ไม่เอาหรอก เดี๋ยวไดสุเกะซังก็จับผมกดลงกับเตียงอีก เฮ้ย พูดเรื่องบัดสีออกมาได้หน้าตาเฉยอะไรแบบนั้นเล่า มาโอะจังจ๋า

     

    อ่า ก็มาโอะจังไม่ยอมให้สักทีนี่นา

     

    ไม่ได้หรอกครับ ผมยังเรียนอยู่เลย รอให้เรียนจบก่อนแล้วกัน ลองคำนวณดู มาโอะจังเพิ่งขึ้นปี 1 กว่าจะเรียนจบก็รออีกแค่ 3 ปีกว่าๆเอ๊งงงงงง  มันไม่มากไม่มายเลยจริงๆ (กัดฟันพูด)

     

    ถึงในเรื่อง Takumi เขาจะเล่นบทแบบถึงเนื้อถึงตัวขนาดนั้น แต่มาโอะจังตัวจริงกลับเป็นพวกเคร่งครัดในเรื่องประเพณี และระเบียบวินัยต่างๆอย่างเหลือเชื่อ ถึงจะเป็นแฟนกันแล้ว แต่จะโอบจะกอดก็ไม่ได้ จูบก็ห้าม อะไรก็ห้าม ทุกวันนี้ยังได้แค่จับมือ แถมยังมีการบอกให้จับได้ครั้งละไม่เกิน 3 นาทีด้วยแน่ะ

     

    ถ้าไม่รักก็คงไม่ทนให้โง่หรอกนะเนี่ย รู้มั้ย มาโอะจัง

     

    ผมหิวจริงๆนะ ไดสุเกะซัง เมื่อไหร่จะออกรถสักทีล่ะฮะ เสียงใสที่เริ่มขุ่นเพราะความหิวร้องเตือน

     

    จ้าๆ ยอมให้ทุกอย่างล่ะครับ แม่ทูนหัว

     

    ///////////////////////////////////////////////////////////////////

     

    หลังจากทะเลาะกันเรื่องร้านอยู่นานสองนาน สุดท้ายพวกเราก็พากันมาลงเอยกันที่ แมคโดนัลด์ ร้านเดียวกับเมื่อ 2 วันก่อนอีกจนได้

     

    ว่าแต่ วัยรุ่นนี่เขาโปรดปรานพวกฟาสต์ฟูดกันจริงๆเลยน้อ

     

    กินแต่แมคไม่เบื่อเหรอ ผมมองเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟรายบนถาดด้วยสายตาหน่ายๆ

     

    ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ คนหุ่นดีก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่ผมนี่สิ ตั้งแต่คบกับมาโอะจังมา ก็เที่ยวกินแต่พวกฟาสต์ฟูดตามแฟชั่นวัยรุ่นจนใกล้จะเป็นตาแก่ลงพุงอยู่รอมร่อ

     

    ทำอะไรอยู่เหรอ สังเกตมาตั้งแต่เข้าร้านแล้ว เห็นมาโอะจังเอาแต่ขีดๆเขียนๆรูปบนกระดาษสมุดมาได้พักใหญ่ ไม่ยอมเปิดปากคุยเล่นกับผมสักคำ ทั้งที่ปกติต้องมีเรื่องนู้นนี้นั้นมาเล่าให้ฟังอยู่เสมอแท้ๆ

     

    งานกลุ่มน่ะฮะ

     

    ช่วยทำมั้ย เป็นห่วงครับ เพราะช่วงนี้มาโอะคุงงานเยอะจริงๆ หักโหมมาก เดี๋ยวจะไม่มีเวลาพักผ่อนไปเสียฉิบ

     

    ไดสุเกะซังไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับผมสักหน่อย จะให้มาช่วยทำได้ไง นั่นไง มาอีกแล้ว นิสัยเจ้าระเบียบ คนหวังดีอย่างผมก็เลยได้แต่รู้สึกเก้อๆไปนิด

     

    เด็กดีเกินไปแล้วน้า มาโอะจังเนี่ย

     

    พี่ชายบอกเสมอว่า คนเราต้องรู้จักพึ่งพาตัวเอง อะไรที่ผมทำได้ ผมก็จะทำด้วยตัวเองให้ถึงที่สุด ขณะพูด ดวงตากลมโตนั่นดูเอาจริงเอาจังจนผมอดนึกชื่นชมไม่ได้

     

    ไง มาโอะจัง ยังไม่เสร็จอีกเหรอ พอดีส่วนของฉันเสร็จแล้ว ให้ฉันช่วยนายทำก็ได้น้า จู่ๆคนที่ผมพอจำได้ลางๆว่าเป็นเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของมาโอะจังก็เปิดประตูร้านเข้ามาทัก ก่อนที่เจ้านั่นจะหย่อนก้นลงบนที่นั่งด้านข้างที่รักของผมอย่างเนียนๆ

     

    จริงเหรอ อ่ะนี่ ฉวยกระดาษโบ้ยงานให้เพื่อนรักแถมรอยยิ้มละไมตบท้ายเสร็จสรรพ จนทำเอาผมเกือบหน้าทิ่ม    

     

    แล้วอุดมการณ์หรูๆเมื่อ 3 บรรทัดก่อนนั่นล่ะจ๊ะมาโอะจังจ๋า

     

    ขอบคุณมากเลยนะ เคนจัง ฉันรักนายที่สุดเลย แล้วมาโอะจังที่น่ารักของผมก็กระโดดกอดคอเพื่อนรักเป็นรางวัลล่วงหน้า ก่อนที่เจ้าเคนนั่นจะทำหน้าแดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นท่าทางที่ชวนตลก แต่ขัดใจผมชะมัด

     

     “ ไม่เป็นไรหรอก ก็เราอยู่กลุ่มเดียวกันนี่นา อิโธ่ ถ้าฉันอายุน้อยกว่านี้สัก 9 ปีก็คงได้อยู่กลุ่มเดียวกับมาโอะจังเหมือนกันล่ะน่า

     

    นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อล่ะสิไม่ว่า หมั่นไส้โว้ย

     

    อืม.. นายก็..ดีที่สุดสำหรับฉันเหมือนกัน เฮ้ย อย่ามาป้อแฟนคนอื่นเขาง่ายๆสิฟะ ไอ้เด็กนี่

     

    นายกินอะไรมารึยัง กินด้วยกันมั้ย อ่าว ชวนคนอื่นร่วมวงซะงั้น นี่เราไม่ได้มาเดทกันหรอกหรืออย่างไร วานช่วยตอบทีเถอะ มาโอะจัง

     

    ไม่เป็นไรหรอก อ่า ตอบได้ดีมากไอ้หนูเอ๋ย วันหลังเราค่อยไปนัดกินด้วยกัน 2 คนดีกว่า เฮ้ยๆๆ ประโยคหลังนี่มันชักยังไงอยู่นะเฟ้ยเฮ้ย

     

    อื้ม อย่าตกลงไปกับเขาง่ายๆสิ มาโอะจัง T^T

     

    ///////////////////////////////////////////////////////////////////

     

    งานก็โบ้ยให้เพื่อนทำแล้ว งี้ก็ว่างน่ะสิ ผมถามขณะเดินออกมาจากร้าน

     

    ซะที่ไหนล่ะ ผมยังต้องกลับไปท่องบทอีก

     

    งั้นช่วยต่อบทให้ก็ได้

     

    ไม่เป็นไรหรอกฮะ ไม่อยากรบกวนไดสุเกะซัง มาโอะจังส่ายหน้า

     

    รบกวนที่ไหน เราเป็นอะไรกัน นายลืมรึไง!?! ชักเคืองหน่อยๆแฮะ เขาพูดเหมือนผมเป็นพวกพึ่งพาไม่ได้อย่างนั้นแหละ

     

    แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงใส่ผมด้วยเล่า มาโอะทำหน้างอหงิกไปเลยครับ

     

    ขอโทษๆ แต่นายน่าจะพึ่งพาฉันให้มากกว่านี้หน่อยนะ ถ้าทำได้จะดีใจมากเลย อาจจะฟังดูแปลกๆที่ผมขอร้องอะไรแบบนี้ แต่นั่นก็เป็นความต้องการจากใจของผมจริงๆ

     

    ก็เวลามาโอะจังเวลาอ้อนเนี่ย น่ารักอย่าบอกใครเชียวล่ะ แต่หลังๆไม่ค่อยโดนอ้อนแล้ว ก็ชักเหงาๆแฮะ

     

    แต่ผมอยากพึ่งพาตัวเองให้ได้มากกว่า นั่นไง สวนกระแสความคิดของผมอีกแล้ว อายุ 19 ปี นี่มันเป็นวัยต่อต้านรึยังไงกันนะ

     

    เอาเถอะๆ งั้นเดี๋ยวฉันจะรีบไปส่งที่บ้านก็แล้วกัน จะได้ท่องบทเร็วๆ ไม่ขัดศรัทธาครับ อยากทำอะไรก็ทำเถ๊อะ

     

    ///////////////////////////////////////////////////////////////////

     

    ทุกเช้าผมจะเป็นคนขับรถมารับมาโอะไปส่งที่กองถ่ายเสมอๆ แล้ววันนี้ก็เช่นกันที่ผมยังคงทำหน้าที่เป็นสารถีที่ดีขับรถมารับที่รักของผมในตอนเช้าตรู่เช่นเดิม

     

    อ่าว ทำไมมานั่งอยู่หน้าบ้านล่ะ ผมตะโกนถามอย่างสงสัยเพราะเห็นมาโอะนั่งคู้ตัวกอดเข่าอยู่บนม้านั่งหน้าบ้านทั้งที่ลมหนาวออกจะแรงถึงปานนี้ พลางรีบเปิดประตูรถออกไปรับเจ้าตัวดีที่ปั้นหน้าเครียดตั้งแต่เช้าขึ้นมาบนรถทันที

     

    ก็ผมกลัวสายนี่นา พูดมาได้ ทั้งที่ปกติผมกดกริ่งแค่ครั้งเดียว เจ้าตัวก็วิ่งโร่ออกมาจากในบ้านแล้ว วันนี้อุตส่าห์ทนนั่งหนาวอยู่หน้าบ้านเพื่อให้ไปทำงานได้เร็วขึ้นซักนาที สองนาที มันจะคุ้มกันมั้ยเนี่ย

     

    ไหน ขอดูหน้าหน่อยซิ สีหน้าไม่ดีเลยนะ มาโอะจัง ผมทัก พร้อมกับใช้หลังมือแตะเข้าที่ขมับเจ้าตัวตัวรุมๆนะ แวะคลินิกก่อนดีมั้ย

     

    ผมไม่เป็นไร ออกรถเถอะฮะ ไดสุเกะซัง เดี๋ยวจะไปทำงานสาย

     

    เด็กดื้อ ผมแยกเขี้ยวใส่ ก่อนบีบจมูกเจ้าเด็กความรับผิดชอบสูงอย่างหมั่นไส้

     

    ไดสุเกะซัง ผมไม่เล่นนะ!!!! มาโอะตวาดใส่เสียงกร้าว พลางปัดมือผมออก เป็นกิริยาที่ผมไม่เคยได้พบเห็นจากเขามาก่อนเลยในชีวิต

     

    เครียดอะไรมารึไง ถึงได้มาพาลใส่กันแบบนี้น่ะ หื้ม!?! ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่สนใจแล้ว แต่สำหรับมาโอะจัง ผมเลือกที่จะเซ้าซี้ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแทน

     

    อะ...ฮึก..ผมขอโทษ...ฮืออ มาโอะเริ่มหลุดสะอื้นออกมา ทำเอาผมงงหนัก

     

    อย่าร้องไห้สิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ผมใช้มือลูบหัวเจ้าตัวดีอย่างต้องการจะปลอบใจ

     

    “ ……………… ” มาโอะไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าลงจนคางแทบชิดกับอกแล้วร้องไห้เงียบๆ

     

    “……………... ” หมดแล้วซึ่งคำพูดเช่นกัน ไม่รู้จะง้ออย่างไร เพราะไม่รู้ว่าปัญหามันเกิดจากอะไร

     

    อะไรทำให้มาโอะจังที่น่ารัก สดใส ร่าเริง ลั้ลลาของผมเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้น้า ไม่เข้าใจเด็กวัยรุ่นเลยจริงๆสิเรา

     

    ///////////////////////////////////////////////////////////////////

     

    ฝั่งตรงข้ามของกองถ่าย Goseiger เป็นร้าน Coffee Shop เล็กๆร้านหนึ่งที่ให้ผมสามารถมาใช้ซุ่มเฝ้าดูการถ่ายทำของวันนี้ได้

    เหตุเพราะอาการของมาโอะน่าเป็นห่วงเกินกว่าผมจะวางใจปล่อยเขาไว้คนเดียวได้ นั่นเป็นที่มาที่ทำให้ผมต้องมานั่งทำเนียนเป็นลูกค้าร้านกาแฟปะปนไปกับแฟนคลับที่ตั้งใจมาให้กำลังใจนักแสดง Goseiger ในวันนี้

     

    งานการไม่ต้องทำ เพราะภารกิจเฝ้าภรรยา(ในอนาคต) มันสำคัญกว่ากันเห็นๆ (เรอะ!!)

     

    วันนี้มาโอะคุงน่ารักชะมัด เสียงเด็กผู้หญิงวัยมัธยมต้นคนหนึ่งในร้านพูดถึงที่รักของผม

     

    แต่ฉันว่า วันนี้หน้าเขาดูซีดๆนะ เด็กคนที่นั่งตรงข้ามเถียง

     

    อย่ามาว่าที่รักของฉันนะ ฉันชอบเขามาก่อนเธอซะอีก อ่าวๆ มีการข่มซะด้วยแน่ะ

     

    ฉันก็ชอบเขามาตั้งแต่เขาเล่นทาคุมิ 2 แล้วนะ

     

    แต่ฉันชอบตั้งแต่ที่เขาเล่นเป็น คิคุมารุ เอจิ ในเทนิมิวแล้วนะ เหมือนผมเลยแฮะ ผมก็ชอบมาโอะจังมาตั้งแต่ที่เราแสดงเทนิมิวด้วยกันแล้ว

     

    ก่อน-หลังไม่เห็นเกี่ยว สำคัญที่รักของฉันมีมากกว่าของเธอ โอ้ว คมนะเนี่ย

     

    แต่ฉันก็ชอบเขาจริงๆนะ

     

    ฉันก็ด้วย อ่า ผมด้วยๆ

     

    งั้นเรามาทำป้ายเชียร์มาโอะคุงกันเถอะ เอ้า บทจะดีก็ดีกันง่ายๆอย่างนั้นเลย

     

    ถึงจะรู้สึกแปลกๆกับบทสนทนาของสาวๆไปบ้าง แต่ผมก็อดที่จะดีใจอยู่ลึกๆไม่ได้ที่มาโอะจังมีคนที่ชื่นชอบเขาถึงขนาดนี้

     

    การถ่ายทำในช่วงแรกดูจะเป็นไปด้วยความราบรื่น มาโอะยังคงเล่นได้ดีเหมือนครั้งก่อนๆจนมองแทบไม่ออกเลยว่า เจ้าตัวกำลังไม่สบายอยู่

     

    แต่ช่วงหลังๆนั้นกลับน่าโมโหนิดๆที่ผู้กำกับเอาแต่สั่งคัทแล้วคัทอีกในซีนของมาโอะ ทั้งที่ที่รักของผมเริ่มมีอาการหอบออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนก็หลายครั้งอยู่ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ก็ในเมื่อเจ้าตัวเลือกที่จะปกปิดอาการป่วยของตัวเองไม่ให้ทีมงานรู้ ซ้ำยังบอกไม่ให้ผมเข้าไปก้าวก่ายเรื่องงานของเขาอีก

     

    ไม่อยากตามใจหรอก แต่หัวรั้นขนาดนี้ คงต้องให้เรียนรู้ความลำบากด้วยตัวเองนั่นแหละดีที่สุด

     

    ///////////////////////////////////////////////////////////////////

     

    ครึ่งวันผ่านไป ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงสู่ผืนดิน การซุ่มติดตามกองถ่ายของผมก็เป็นอันสิ้นสุดลงเสียที เมื่อผู้กำกับประกาศเลิกกองเสียงดังลั่น พร้อมๆกับเสียงผลัดกันขอบคุณของเหล่าทีมงานและนักแสดง

     

    เป็นไง มาโอะจัง ผมเดินเข้าไปทักคนตัวบางที่แบกเป้ขึ้นบ่าเดินสะโหลสะเหลออกมาจากฝูงชน

     

    ก็ดีฮะ ไอ้ท่าทางจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่นั่นมัน ก็ดี ตรงไหนฟะ

     

    ไปหาหมอหน่อยเหอะนะ ขอร้องล่ะ

     

    ไม่!!! คนป่วยจอมดื้อปฏิเสธหน้าตาขึงขังมากถึงมากที่สุด จะอะไรกันนักหนาน้า เจ้าเด็กนี่

     

    งั้นก็กลับบ้าน กินยาแล้วนอนซะนะ รู้มั้ย

     

    ผมต้องไปทำงานกลุ่มที่บ้านเคนจังอีก ยังกลับไม่ได้หรอกฮะ

     

    บ้าไปแล้ว!! สภาพแบบนี้ยังคิดจะไปทำงานกับเพื่อนอีกเรอะ!?! ผมชักเริ่มโมโหกับความคิดเด็กๆของมาโอะขึ้นมาตะหงิดๆแล้วสิ

     

    ก็มันเป็นงานกลุ่มนี่ฮะ ผมจะไม่ไปอยู่คนเดียวได้ไง

     

    ฉันไม่มีทางพานายไปส่งที่นั่นแน่ กลับบ้าน!!! ผมฉุดข้อแขนเรียวพร้อมเปิดประตูรถ ก่อนจะเหวี่ยงร่างบางๆเข้าไปทางฝั่งด้านข้างที่นั่งคนขับทันที

     

    มาโอะนั่งมึนอยู่ได้สักพักก็รีบเปิดประตูออกมายืนนอกตัวรถแล้วผลักผมเสียจนเกือบกระเด็น ก่อนจะสาวเท้าเดินหนีไปอีกทางทันที

     

    จะไปไหน ผมตะโกนถามอย่างหงุดหงิด

     

    จะโบกแท็กซี่ไปบ้านเคนจัง เขาตอบกลับมาเสียงแข็ง

     

    กลับขึ้นรถเดี๋ยวนี้!!! ผมกระชากข้อมือมาโอะเข้ามาประชิดตัว จ้องใบหน้าหวานที่ใช้ดวงตากลมโตของตัวเองจ้องผมกลับมาเช่นเดียวกัน

     

    ไม่ อย่ามายุ่งเรื่องของผม!!! ” มาโอะพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากการเกาะกุมของผมเต็มที่

     

    อย่าดื้อน่า ฟังกันบ้างได้มั้ย ผมตวาด พลางเขย่าร่างนั้นแรงๆให้ได้สติ เผื่อจะได้มีเหตุผลกับเขาบ้าง 

     

    อุ๊บ!! จู่ๆมาโอะก็ใช้มือปิดปากตัวเอง ส่วนอีกข้างที่เหลือก็ใช้กุมท้องเอาไว้แน่น สีหน้าดูเหมือนกำลังได้รับความทรมานจากอะไรบางอย่าง

     

    มาโอะจัง เป็นอะไร บอกฉันสิ ผมเอ่ยเร่งด้วยความตกใจ จากเดิมที่เคยใช้มือบีบหัวไหล่เล็กนั่นก็เปลี่ยนมาใช้ประคองช่วงเอวคอดของอีกฝ่ายเอาไว้แทน

     

    แฮ่กๆๆ ม..ไม่เป็น...อ..อะไร ..ฮะ..แฮ่ก มาโอะสูดหายใจลึกพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะระงับอาการที่เกิดขึ้น

     

    เป็นถึงขนาดนี้ยังจะให้ฉันเชื่อว่านายไม่เป็นไรได้อีกเหรอ ผมถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “ ………………… ” มาโอะเอาแต่ก้มหน้า ไม่พูด ไม่ตอบอะไรผมสักคำ ซึ่งนั่นก็สามารถกระตุกเส้นความอดทนของผมให้ขาดผึงได้เหมือนกัน

     

    ได้ จะเอาอย่างนั้นก็ได้ ขึ้นรถสิ จะไปส่งที่บ้านเคนจังให้ แล้ววันหลังฉันจะไม่ถาม ไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับนายอีกทั้งนั้น ต้องการอย่างนั้นใช่มั้ย ผมโพล่งออกไปด้วยความน้อยใจล้วนๆ

     

    ........................ พอได้ฟังประโยคตัดพ้อของผมเข้าไป เจ้าจอมดื้อก็เริ่มเงยหน้าขึ้นมอง

     

    เร็วสิ ไม่กลัวงานไม่เสร็จเหรอ ผมแกล้งทำทีเป็นเดินหนีไปขึ้นรถฝั่งคนขับอย่างเฉยเมย ไม่มีบริการเปิดประตูให้เจ้าตัวดีเหมือนอย่างปกติ

     

    ไดสุเกะซัง มาโอะตะโกนเรียกชื่อผม ก่อนวิ่งเข้ามากอดจากทางด้านหลัง

     

    ไม่กลัวเจ้านั่นจะรอรึไง แกล้งประชดเข้าไปอีก

     

    ไดสุเกะซัง... ผม... สงสัยว่าตัวเองอาจจะท้อง มาโอะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังสุดชีวิตจนผมรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะล้อเล่นแต่อย่างใด

     

    หา!!!! ผมร้องลั่นด้วยความตกใจจนสติแทบหลุด คำถามต่างๆวิ่งกระแทกหัวสมองน้อยๆของผมให้สับสนอลหม่านกันไปหมด

     

    มาโอะบอกว่าตัวเองท้อง ถ้าเป็นงั้นจริง หน้าไหนมันเป็นพ่อเด็ก เพราะในชีวิตจริง ผมไม่เคยได้อย่างว่ากับมาโอะเหมือนอย่างในหนังเลยสักครั้ง

     

    แล้วที่สำคัญจากที่ได้ลูบๆคลำๆในบท ทำให้ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ฮามาโอะ เคียวสุเกะ คนนี้ เป็นผู้ชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม แล้วผู้ชายสมัยใหม่นี่มันมีมดลูกกันด้วยเหรอ?? เฮ้ย หรือมาโอะจะเป็นทอม

     

    สรุปว่า ท้องจริงเหยอ มาโอะจ๊างงงงง เฮ้ย บ้าไปแล้วววววว  

     

    TBC

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×