Fic Thorki 7-9 (ภาค 2)

ลำดับตอนที่ #1 : thorki series 7: After Post Final:Odin's POV

มันคือตอนอวสาน ผีอะไรก็ไม่รู้ค่ะเพราะมันจะมีตอนต่ออีก แต่นี่คือตอนอวสานแบบมีสาระหน่อยๆ คนมาอ่านก็งงสิว่า อวสาน แล้วไหนตอนแรกๆอะ อยู่นี่ค่ะตอนแรก ๆ หกตอน http://writer.dek-d.com/concuben/writer/view.php?id=824583 (ก๊อปลิงค์ตรงนี้ไม่ได้ ไปดูตรงแนะนำเรื่องมันจะก๊อปได้ ไม่อ่านตรงนี้ไม่ว่า แต่ตรงนั้นน่าอ่านกว่า เพราะมันตลกอะ)

โลกิรีบลุกหลังจากก้นกระแทกเบาะในห้องซ้อมฟันดาบ  ธอร์ฉุดแขนน้องไว้แล้วกระซิบอย่างกับพี่เลี้ยงนักมวย โลกิก็ลุกขึ้นมาฟาดฟัน จนครูฝึกมีสีหน้าตื่นเต้น แต่แล้วก็ล้มลงไปอีก อย่างไรเสียเขาก็เอ่ยชมว่าโลกิชนะด้านยุทธ แพ้ครูแต่ประสบการณ์และแรงเท่านั้น ขอให้ท่านพยายามต่อไป

ก่อนหน้านี้ โลกิแทบไม่เคยเฉียดมาห้องนี้เลย แต่ตั้งแต่โดนลงโทษให้ตัวติดกับธอร์มาเป็นเวลาสองสัปดาห์ เลยต้องเข้ามาในห้องด้วย เข้ามาไม่เข้าเปล่าก็ได้ตั้งใจเรียนฟันดาบ มวยปล้ำ ยิงธนู ตีเหล็ก จนร่างกายล่ำสันขึ้น แน่หละโอดีนไม่โง่ขนาดจะไม่รู้ว่าลูกชายคนเล็ก ได้กลายเป็นเขยหรือสะใภ้ไปแล้วอย่างลับๆ แหมเข้ายิมสองวี้ค ถ้าไม่มีออกกำลังนอกรอบมีหรือจะหนาขึ้น….

 แม้จะไม่มีใครรู้ แต่มีหรือโอดีนจะไม่สังเกตอากัปกิริยาระหว่างกันของลูกทั้งสอง ที่ชอบยืนสีกันจนจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว ไม่ใช่ผัวเมียแล้วจะอะไร ธอร์เองก็ท่าทางไม่ค่อยกล้าแสดงความรู้สึกมากกลัวพ่อแม่จะช็อกห้ามปราม แทนที่จะไปนั่งจุ๊กจิ๊กกิ๊กกั๊กกันสองคนตามสุมทุมพุ่มไม้เลยพากันมาเข้าคลาสออกแรงเรียนยุทธวิธีรบตัวต่อตัวก่อนจะไปดวลกันเงียบๆตอนกลางคืน

แต่เอาจริงๆก็ไม่เงียบนักหรอก มหาดเล็กที่นอนห้องข้างล่างแอบมาขอลาออกเนื่องจากโสดและทนเสียงผีผ้าห่มที่ชื่อธอร์ไม่ไหว ร้องอยู่ได้ โอยยยยโลกิ อย่า อย่า อย่าหยูดดดดดดดดดด…ไอ้หนุ่มมหาดเล็กก็ลาออกไปร้องไห้ไป บอกว่าผมอยากมีเมียคุมเกมมั่ง ผมหาไม่ได้!!!ผมอยากตาย!! โอดีนจึงจำต้องให้ห้องนั้นว่างไป ก่อนจะหามหาดเล็กกับนางกำนัลที่เป็นผัวเมียกันมาอยู่แทนจะได้ไม่เครียด…แต่เรื่องอายสองคนนี้ได้กันหนะไม่มีหรอก… เสียหายตรงไหน พี่น้องก็พี่น้องไม่แท้ แถมตอนนี้โลกิไมได้อยู่ในฐานะน้องชายธอร์อีกแล้ว

อย่าว่าแต่โลกิ ….ธอร์เองก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน จากไม่เคยจะอ่านตำรับตำรา แต่ตอนนี้เวลาโลกิเข้าไปสอน อาฮะ ถูกแล้วไม่ได้เป็นนักเรียน แม้จะยังต้องเรียนปรัชญาอยู่ ก็ถือเป็นอาจารย์ที่เก่งที่สุดในด้านมนต์คาถา แต่ด้วยความดื้อด้านเลยอุบไม่ยอมสอนวิชาใหม่ๆกับลูกศิษย์ เพราะกั๊กไว้ด้วยแค้นที่คนไม่ยอมรับ แต่ตอนนี้แม้พูดไม่ได้ ก็เขียนบอกพวกลูกมืออย่างหมดเปลือกสร้างความตกใจตื่นเต้นปลาบปลื้มให้แก่จอมเวทย์ทั้งแผ่นดิน อาจารย์ประจำแต่ละวิชาให้สอนกันไป ส่วนโลกิก็ไปทำหน้าที่คุมการสอน

ธอร์แทนที่จะมาดูเฉยๆอย่างปกติก็ไปเข้าคลาสพื้นฐาน แถมยังไปสร้างเสียงฮาแซวครูใหญ่ให้เด็กกรี๊ดกร๊าดกันลั่นห้อง ทำให้เด็กอยากเข้าเรียน ส่งผลต่อเนื่องคือเด็กผลการเรียนขึ้นเกือบทั้งโรงเรียน …ครูใหญ่โลกิจากที่เคยขี้โมโหเวลาธอร์มาป่วน  เมื่อก่อนป่วนแค่นอกห้องเช่นสอนๆอยู่ก็ปากระดาษเข้ามาแซวแล้วเป่าปากปี๊ดปิ้วบ้าง ปาขนมผูกจดหมายเข้ามาบ้าง โลกิยังอาละวาดซะแหลกลาน วันนี้ธอร์เข้ามาป่วนถึงในห้อง แถมยังแซวทำกรุ้มกริ่มให้ครูใหญ่มือไม้สั่น เขินไปคุมไป ครูใหญ่ก็ไม่โกรธซักนิด แต่ก็ไม่ได้ทำแย่อะไรไปกว่านั้น เพราะธอร์ก็ตั้งใจเรียน แถมตอนนี้ธอร์แยกออกแล้วระหว่างเวทวิทยามนต์ กับมนต์ดำเป็นอย่างไร แถมเวลาใครโดนมนต์ดำซอฟท์ๆ ธอร์ก็พอจะทำปฐมพยาบาลได้ก่อนส่งมาให้ครูใหญ่โลกิเป็นคนแก้ไข

โอดีนในฐานะพ่อ และกษัตริย์ที่รักประชาชน ดีใจอย่างยิ่ง …สองพันหกร้อยปีมาแล้ว อา เพิ่งผ่านวันเกิดชาวมิดการ์ดผู้นั้นมาไม่กี่วัน เขายังจำได้ ว่าวันนั้น ท่านผู้นั้นได้ตอบปัญหาแก่สาธารณชนที่มาฟังคำปราศรัย ว่าบุรุษอาชาไนยเป็นเช่นไร ท่านผู้นั้นตอบว่า บุรุษอาชาไนย จะเกิดในสองตระกูลเท่านั้น เช่นเดียวกับสัตว์อาชาไนย ถ้าเป็นช้างจะเกิดในตระกูลฉัททันต์ ส่วนช้างจะเกิดในตระกูลม้าสินธพ หากเป็นคนจะเกิดแค่ในตระกูลกษัตริย์ กับตระกูลพราหมณ์เท่านั้น และคำว่ากษัตริย์ไม่ได้หมายถึงพระราชา แต่หมายถึงบุคคลที่มีนิสัยอย่างนักปกครอง เอาง่ายๆคือคนดีที่เป็นอัลฟ่าเมล ส่วนตระกูลพราหมณ์นั้นไมได้หมายถึงคนเกิดมาในตระกูลวิชาการ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีความคิดลึกซึ้งแยบคาย แปลว่าคนดีที่มีความคิดละเอียดละออหลากหลายแง่มุม สุขุมรอบคอบ และมีความรู้กว้างขวางเป็นบัณฑิตนักปราชญ์ รู้อุบายทั้งความเสื่อมความเจริญ คิดสอนตนเองและผู้อื่นได้

ณ วันที่โอดินเดินทางไปฟัง เขาได้แต่ขนลุกไปทั่วตัว เพราะรู้ดีว่าลูกชายของตนมีคุณสมบัติเช่นนั้นทั้งคู่ แต่เป็นคนละอย่าง ธอร์มีทั้งซื่อและสัตย์ กล้าหาญ ใจกว้าง เด็ดขาด และชอบที่จะเป็นผู้นำ ส่วนโลกิเป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวางไม่พอยังจะคิดอะไรลึกซึ้งสร้างสรรค์ น้อยคนจะคิดได้ทั้งสามอย่าง เจรจาพาทีหากคิดมาดีแล้วจะทำได้ทั้งสร้างความสำราญและโน้มน้าวจิตใจคน  แต่ทั้งคู่ไม่ได้เกิดมาแค่รับใช้ราชสำนักในตำแหน่งขุนนาง ดังนั้นแค่เป็นบุรุษอาชาไนยด้านใดด้านหนึ่งแม้จะเป็นเบอร์หนึ่งในด้านนั้นๆก็จริงๆ แต่นั่นยังไม่พอ เป็นกษัตริย์ ในดินแดนที่ไม่มีประชาธิปไตย มีแต่บุญญาธิปัตย์ ใครบุญ บารมี รัศมี กำลังฤทธิ์มากกว่าย่อมได้อำนาจสิทธิเฉียบขาดเป็นเจ้า คนที่ใครๆจะยอมให้เป็นผู้นำจะต้องเป็นพระราชาผูกขาดเพียงหนึ่งเดียว ดังนั้นจะมีเพียงอย่างเดียวอย่างเสนาอำมาตย์ที่ล้วนเป็นบุรุษอาชาไนยนั้นก็ไม่ได้ จะต้องมีอย่างครบถ้วนเพราะจะต้องเป็นคนที่คนทั้งอาณาจักรพึ่งพาได้อย่างไม่รู้มีทางจนแต้ม และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญไม่รู้จักหมดรักประชาชน

พ่อจำต้องหนุนธอร์ทั้างที่ตอนบอกลูกทั้งสองว่ามีสิทธิ์ทั้งคู่ก็คิดจริง เพราะโอดีนเป็นทั้งบุ๋นและบู๊ กษัตริย์จะต้องเป็นเอนกนิกรสโมสรสมมติ ดังนั้น ถ้าคนชอบธอร์เขาก็ต้องให้ธอร์เป็นรัชทายาท แต่ก็ยังต้องให้กำลังใจโลกิและจริงๆก็แอบคิดลุ้นโลกิเพราะสังคมอาจเปลี่ยนไม่แน่ว่าประชาชนต้องการพระราชาอีกแบบในอนาคตก็เป็นไปได้

ทว่าโอดีนประมาทน้ำใจโลกิเกินไป เนื่องจากโอดีนถ้านักเลงมองก็จะว่าเป็นนักเลงที่มีสมอง รบเมื่อจำเป็น ตอนไม่รบก็ผูกใจคนเก่ง ไม่งั้นนักเลงนักรบก็คงไม่มอบตำแหน่ง “พ่อทุกสถาบัน” ให้จนเป็นคำติดปากว่า โอดินออลฟาเธอร์… และถ้ามองในแง่บุ๋น พวกนักปราชญ์ก็จะมองว่าโอดีนเด็ดเดี่ยว กล้าหาญเกินนักปราชญ์ทั่วไป ดังนั้นคนอย่างโอดีนจึงสอนลูกผิดได้เนื่องจากมีครบก็คิดว่าเชื้อจะไม่ทิ้งแถว ประเมินว่าธอร์ไม่ซื่อจนคล้ายโง่ และประเมินว่าโลกิน่าจะใจกว้างกว่านี้ แต่กลายเป็นว่า โลกิเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนไหวเกินบุรุษทั่วไป เจอแบบนี้เข้าไป แทนที่จะมีพลังฮึดสู้แต่ดันสับสน ฟูมฟาย และไม่รู้สึกท้าทายว่าจะพิสูจน์ตนเองอย่างใสซื่อ มีน้ำใจนักกีฬาแต่อย่างใดดันไปหลอกธอร์ที่ไว้ใจไร้ความเฉลียวซะอีก

ธอร์เองก็เป็นนักเลงมากกว่ากษัตริย์ โลกิแยบคายแต่ใจดวงเล็กเกินไป อยากได้ความรักทั้งที่กษัตริย์มันต้องอยากให้มากกว่าอยากได้…ก็ จะว่าไปแล้วก็ผิดก็พร่องกันทั้งสามพ่อลูก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะสร้างความวุ่นวาย แต่ถ้าโอดีนไม่ได้ประเมินผิด เรื่องนี้กลับไปสร้างแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้โอดีนไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม…

หลังการลงทัณฑ์ลูกทั้งสองเปลี่ยนไปในแง่ดี จากคนขาดๆ ตอนนี้เต็มขึ้น ความรักครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปเติมในส่วนที่ขาด

 แต่ไปสร้างแรงบันดาลใจ ให้สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีให้มีขึ้นในตัวเองกันทั้งคู่

ฟี้ทเชอริ่งกันสักกี่อัลบั้มก็ได้…ขอให้เพราะแล้วกัน…

โอดีนมองออกไปข้างนอกเห็นโลกิกำลังหัดยิงธนู จากที่เคยทำหน้านิ่ว ตอนนี้หลับตาอย่างผ่อนคลายก่อนค่อยๆเล็งไปที่เป้า ธอร์ก็ยืนยิ้ม แววตาระริก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตื่นเต้น แล้วก็ยิงไปโดนเป้าแม้จะไม่ตรงตำแหน่งที่ดีที่สุด พี่น้อง??? ดีใจกระโดดกอดกัน ก่อนธอร์จะยื่นศรอีกเล่มให้โลกิเอาไปเล็งก่อนง้างให้หนักปล่อยใจให้ว่าง แล้วค่อยยิงอีกที

โอดีนมองไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะคิดแผนขัดเกลาลูกทั้งสองต่อไป ในเมื่อธอร์ ประชาชนกำหนดแล้วว่าเป็นหัวใจของอาณาจักรในอนาคต แต่โลกิหละ จะเป็นเพียงหัวใจของธอร์อย่างที่ฟริกก้าเป็นหัวใจของโอดีน

หรือจะเป็นหัวใจอีกดวงของแอสการ์ด….