คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หมายเลข 808 Code 1 : รหัสที่ ๑ หมายเลขที่ไร้ ชื่อ
เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้งก็มองเห็นเรื่องราวซ้ำเดิมที่คลับคล้ายเหมือนมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้งก็สังหรณ์ประหลาดก่อนจะที่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นจริง
เคยรู้สึกไหมว่าบางครั้งก็จับสัมผัสได้ว่ามีมากกว่าตัวคุณที่นั่งอยู่เพียงคนเดียวในห้อง
คลื่นพลังงานในรูปแบบหนึ่งที่ไม่อาจมองเห็นแต่บางเวลาคุณกลับรู้สึกได้ว่ามันอยู่ใกล้แค่เอื้อม
นานมาแล้วที่มนุษย์เริ่มศึกษาศาสตร์แห่ง ‘จิต’ และค้นพบสารพัดพรสวรรค์กับการดึงมันออกมาใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน เมื่อเริ่มฝึกฝนจึงเชี่ยวชาญก่อกำเนิดพลังมหาศาลให้แก่ผู้ครอบครอง หากมีสถานที่ซึ่งรวบรวมมนุษย์จากทั่วทุกมุมโลกเพื่อขัดเกลาให้สามารถดึงขุมพลังอันไร้ขอบเขตนี้ออกมาใช้ได้ถึงขีดสุด
องค์กรแห่งนั้นคงดำรงอยู่บนฉากม่านเบื้องหลังความเป็นไปในโลก...
เด็กทุกคนที่นี่มองเห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘จิต’
...
ตอนที่อายุได้เจ็ดขวบ ด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก ฉันได้วิ่งลอดชั้นวางโลงศพของคุณแม่ที่ถูกรถชนเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงเริ่มมองเห็นโลกในรูปแบบใหม่...
ทุกคนที่นี่ก็มีประสบการณ์ประหลาดๆ คล้ายคลึงกันเช่นหมายเลข 126 เขาเคยเล่าว่าตัวเองพยายามจะแขวนคอตาย ตอนที่เขาถีบโต๊ะออกให้พ้นขาแล้วปล่อยให้ทั้งร่างร่วงลงตามแรงโน้มถ่วงนั้นดวงตาของเขาร้อนวูบก่อนจะได้ยินเสียงน้องสาวและมารดาร้องตะโกน เมื่อตื่นอีกครั้งที่โรงพยาบาลหมายเลข 126 ก็มองเห็นโลกใหม่ในแบบเดียวกับที่ฉันมองเห็นตอนนี้
“หมายเลข 744 ข้อนี้เธอตอบว่าอะไร” เสียงครูประจำวิชาหมายเลข 5403 เอ่ยถามนักเรียนในห้องของฉัน เด็กหนุ่มร่างเล็กลุกขึ้นยืนก่อนกางหนังสือเล่มบางบนโต๊ะตอบคำถามอย่างฉะฉาน
ขณะที่ฉันเท้าคางมองตัวเลขสามหลักที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา
นี่คือหนึ่งในภาพที่ฉันเห็นหลังจากที่รู้สึกร้อนวูบที่ดวงตาทั้งสองข้างตอนมุดออกมาจากอีกฝั่งของโต๊ะวางโลงศพ ครั้งแรกที่แลเห็นฉันแปลกใจที่รหัสเหล่านั้นลอยอยู่เหนือหน้าผากของคนได้ราวกับแรงโน้มถ่วงไม่อาจไขว่คว้าแตะจับมัน ไม่ใช่เพียงแค่คนเท่านั้นที่มีรหัสเช่นนี้ สัตว์หรือแม้แต่สิ่งของก็มีเช่นเดียวกัน
ฉันคิดว่านั่นเป็นรหัสของโชคชะตา
สิ่งที่มีรหัสเหมือนกันจะมีความเกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นเป็นญาติ มีสายเลือดเดียวกัน เป็นคนรัก หรือแม้แต่จะกลายเป็นคู่แค้นกันในอนาคต รหัสเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงอยู่เกือบตลอดเวลา อย่างเช่นตอนนี้
ครูสาวมีรหัส 744 ไปเสียแล้ว ฉันเดาว่าเธอรู้สึกพิเศษอย่างน่าประหลาดกับนักเรียนหนุ่มที่เธอสั่งให้เขาตอบคำถามในบทเรียน แต่ความรู้สึกนั้นทุกคนในคลาสเรียนก็มองเห็นเช่นเดียวกัน
มันเป็นรหัสที่จะดึงดูดสิ่งที่มีตัวเลขเหมือนกันเข้ามาหา ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไร...
ฉันเคยเห็นรหัสที่ยาวที่สุดเกินหลักล้านล้าน มันคือตัวเลขที่ลอยอยู่เหนือพระพุทธรูปในวัดเก่าแก่จากประเทศที่ฉันจากมา ความยาวของรหัสยังหมายถึงสิ่งนั้นเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของรหัสอื่นๆ ด้วย อย่างเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างฉันตอนนี้ เธอเล่าว่าในโบสถ์ที่เธอเคยอยู่มีบาทหลวงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของตัวเลขยาวกว่ารหัสที่ฉันเคยเห็น
อย่างไรก็ตาม ความหมายของมันค่อนข้างซับซ้อน
บางครั้งไม่ได้หมายถึงความศักดิ์สิทธิ์แต่หมายถึงความเก่าแก่ บางครั้งไม่ได้หมายถึงความเกี่ยวข้องกันแต่หมายถึงการที่ควรจะอยู่ให้ห่างจากกันมากๆ ยกตัวอย่างศัตรูคู่อาฆาตบางคนในห้องนี้ก็มีตัวเลขเดียวกันทั้งที่ไม่เคยญาติดีกันได้เลย
แม้ตัวเลขนั้นจะเปลี่ยนแปลงแทบทุกวินาทีก็ตาม
แต่ในยามที่ถูกเรียกหมายเลขของตัวเอง ทุกคนที่นี่จะรู้สึกได้เองว่าเป็นชื่อของตัวเอง พวกเราเลิกเรียกชื่อตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามาแล้ว เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้ แถมการเรียกขานกันแบบนี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าเวลาที่ออกทำงาน ยังมีเรื่องความเสถียรของการเปลี่ยนแปลงตัวเลขอีกด้วย
พวกคนระดับสูงของที่นี่จะมีตัวเลขชุดเดียวต่อวัน หรืออาจนานกว่านั้น เพราะปัจจัยที่จะทำให้รหัสเปลี่ยนแปลงไปมายังขึ้นอยู่กับอารมณ์อีกด้วย
สาธยายมายาวขนาดนี้ ใช่ว่าฉันจะเข้าใจทุกรหัสหรอกนะ ไม่อย่างนั้นก็คงได้คะแนนเต็มวิชา ‘รหัสจิต’ ที่เพิ่งสอบไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่นี่คะแนนหลุดโผดิ่งสู่ขุมนรก ตอนยืนดูครั้งแรกยังแทบหน้าหงาย แถมยังโดนพี่รหัสสั่งกลับไปคัดบทเรียนทั้งหมดมาส่งโทษฐานที่ทำข้อสอบวิชาที่ง่ายที่สุดของที่นี่ได้คะแนนไม่ดี
มันง่ายตรงไหนกัน...
ฉันนั่งหมุนดินสอไปมาด้วยความเบื่อหน่ายขณะพยายามจดจ่ออยู่กับเสียงเจื้อยแจ้วของอาจารย์สาวหน้าชั้นเรียน แต่ไม่สามารถสงบใจให้หยุดฟุ้งซ่านได้ เพราะวันนี้ตำแหน่งเก้าอี้ตัวหลังสุดของห้องนั้นว่างเปล่า
“ทำไมวันนี้แม่นั่นขาดเรียนกันนะ” ฉันเปรยขึ้นกับเพื่อนหญิงที่นั่งอยู่ข้างเคียงกันพลางเลื่อนสายตาผ่านโต๊ะว่างทางด้านหลัง
ที่ตรงนั้นเป็นโต๊ะเรียนของนักเรียน ‘สุดห่วย’ ที่สุดในชั้นเรียนหรืออันที่จริง อาจจะกระจอกที่สุดในที่แห่งนี้ก็เป็นได้ เพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่มองไม่เห็นโลกในแบบที่ฉันหรือบุคลากรคนอื่นแลเห็น นับว่าเป็นเรื่องประหลาดที่สุดเท่าที่มีมาในหน้าประวัติศาสตร์ของโรงเรียน และด้วยความที่เจ้าหล่อนไร้พรสวรรค์ถึงเพียงนั้นแต่กลับได้เข้ามาเดินลอยชายในที่แห่งนี้ได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะถูกตราหน้าด้วยสารพัดคำนินทาเสียดสี เพราะนอกจากจะมองไม่เห็นแล้ว
ทุกคนต่างรู้ว่าเธอยังไร้พลังจิตอีกต่างหาก
“ถามอะไรแบบนั้น 71 เธอเองน่าจะรู้อยู่แล้วนี่ ว่ายัยนั่นก็คงโดนเพื่อนขโมย...” ขณะคู่สนทนายังไม่ทันกล่าวจบประตูห้องเรียนก็เลื่อนเปิดออก
-808-
หมายเลข 808
Code 1 : รหัสที่ ๑ หมายเลขที่ไร้ ‘ชื่อ’
ร่างของนักเรียนหญิงที่มาเข้าเรียนสายเกือบชั่วโมงยืนพิงขอบประตูอย่างเหน็ดเหนื่อย ก่อนก้าวเข้ามาด้วยอาการกระหืดกระหอบ กระเป๋าสพายข้างหลุดร่วงลงมาคล้องตรงข้อศอก เครื่องแบบนักเรียนสตรียับยู่ยี่มอมแมม เนคไทที่สวมอยู่หลุดลุ่ยราวกับเพิ่งกรำศึกหนักมาไม่นาน
เพื่อนในห้องแทบทุกคนสามารถเดาได้ว่าวันนี้เธอก็คงถูกคนในโรงเรียนสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้อีกตามเคย ความเงียบแผ่ขยายทั่วบรรยากาศในห้องเรียนขณะที่แทบทุกสายตาจับจ้องไปยังเด็กสาวร่างสูงหน้าชั้น
“นี่เธอ! หมายเลข...” ครูสาวชี้มือมายังคนเข้าเรียนสายอย่างโกรธเกรี้ยว แต่แล้วกลับหยุดชะงัก “เธอหมายเลขอะไร”
นักเรียนหญิงผู้มาใหม่เลิกคิ้ว “เอ๋! หมายเลขหรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำไมบนหัวเธอไม่มีหมายเลข”
คราวนี้คนถูกถามยิ่งงงหนักกว่าเดิม “ถ้าเป็นในห้องนี้ หนูเลขที่...”
“ไม่ใช่เลขแบบนั้น ครูหมายถึงหมายเลขที่อยู่บนหัวน่ะ” ผู้สอนเคาะปลายนิ้วลงบนขอบโต๊ะอย่างใช้ความคิดอย่างหนัก ความจริงแล้วเธอต้องสอนอยู่อีกห้องเรียนหนึ่ง แต่เนื่องด้วยวันนี้ครูประจำวิชาอีกคนไม่สบายกะทันหัน หญิงสาวจึงรับหน้าที่ดูแลห้องเรียนนี้เป็นครั้งแรก “แล้วแบบนี้เพื่อนในห้องเรียกเธอว่าอะไร”
เด็กสาวยิ้มแหยๆ ออกมาก่อนตอบคำถาม “หนู...เอ่อ ไม่ค่อยมีคนเรียกเท่าไหร่น่ะค่ะ”
“พิลึกคนจริงๆ พอถามเรื่องหมายเลขกลับงงเป็นไก่ตาแตก เธอเข้ามาเรียนที่นี่ได้ยังไงกัน” หญิงสาวถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะปัดมือไล่ให้คนเข้าสายไปนั่งที่อย่างขอไปที “แล้วครูจะถามคำถามให้เธอตอบได้ไง เธอชื่ออะไร”
“เอ๋! ชื่อเหรอคะ”
“ใช่ เอาเข้าไป คราวนี้จะงงทำไมอีกล่ะ ชื่อที่เธอใช้ตั้งแต่ตอนก่อนจะเข้ามาที่นี่น่ะ”
เด็กสาวมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยขณะกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด “แต่ว่าที่นี่ไม่มีใครเรียกชื่อกันนี่คะ หนูก็เลย...”
“ก็เพราะทุกคนเขามองเห็นหมายเลขของอีกฝ่ายน่ะสิ หรือเธอมองไม่เห็น”
เด็กสาวหัวเราะแห้งๆ ด้วยสีหน้ากระอักกระอวน “เอ่อ...”
“เอาละ เอาละ เดี๋ยวจะยาว หมดคาบกันพอดี” หญิงสาวตัดบท “วันนี้วันที่เท่าไหร่ล่ะ”
นักเรียนชายในห้องตอบคำถามอย่างฉับไว “วันที่ 5 เดือนสิงหาคม(August)ครับ”
“งั้นในคาบของครูจะเรียกเธอว่า (August) ออกัซ ก็แล้วกัน”
เด็กสาวยิ้มรับก่อนจะรีบสาวเท้าเดินไปยังโต๊ะหลังสุดของห้องเรียน หย่อนกายลงนั่งแล้วถอนหายใจ ชำเลืองมองที่นั่งว่างเปล่าทางด้านข้างของตัวเองก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วหยิบเอาหนังสือเรียนยับย่นของตัวเองขึ้นมาเปิดหาหน้าที่อาจารย์กำลังสอน แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกรอบเมื่อพบว่ากระดาษหน้านั้นขาดหายไปจากฝีมือของใครสักคนที่เธอไม่อาจจะรู้ได้
“ผมบอกให้เอาไหมครับว่าใครฉีกหนังสือของท่าน” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านข้างของเด็กสาว ขณะที่ร่างหนาของบุรุษผู้หนึ่งหย่อนกายลงนั่งช้าๆ อย่างสง่างาม “เพราะท่านคงมองไม่เห็นตัวเลขสิบตัวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ในวันที่ 12 เวลา 11 นาฬิกา 45 นาที ตอนท่านกับผมอยู่โรงยิม...”
เด็กสาวส่ายหน้า
“ไม่อยากรู้หรือครับ จะได้ไปเอาผิด”
ไม่เอาหรอก เธอตอบเขาโดยมิได้ปริปาก หากเพียงแค่คิดในใจเท่านั้นชายหนุ่มก็พยักหน้ารับ “รับทราบครับนายท่าน แต่คาบต่อไปท่านควรหลบออกไปจากห้องนะครับ”
ทำไมเหรอ เด็กสาวเบิกตาหันกลับไปจ้องมองคู่สนทนาที่อยู่ในท่าวางมือลงบนตักแล้วก้มหน้าปิดเปลือกตาอยู่ด้วยอาการสำรวม
บุรุษหนุ่มร่างสูงอยู่ในชุดคลุมสีขาวและเรือนผมเหยียดยาวตกเรี่ยอยู่บนพื้น เขามีเส้นผมละเอียดละมุนสีเดียวกับชุด ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องและกระจ่างด้วยผิวกายงามดั่งหิมะยามเหมันต์ สวมแว่นตาทรงกลมแต่มิอาจลดความคมคายบนโฉมหน้านั้นได้ ดั้งจมูกโด่งเป็นสันรับลาดคิ้วโก่งพองาม กลีบปากรูปสวยแดงดั่งโลหิต นัยน์ตาคมเรียวและโฉบเฉี่ยวกว่าหญิงใด เขาสวยกว่าอิสตรีที่ว่างามวิลาศแล้ว แม้ยามปิดเปลือกตาเฉยเมยอยู่เช่นนั้นยังชดช้อยดุจรูปสลักเทพีผู้เปี่ยมล้นเมตตา
เป็นผู้ชายที่สวยกว่าเธอหลายเท่า ออกัซถอนหายใจเป็นรอบที่สามของวัน
“เพราะว่า ผมเห็น...” ชายหนุ่มเปิดเปลือกตาขึ้นเชื่องช้า ดวงตาคู่นั้นเป็นสีโลหิตดุจเดียวกับกลีบริมฝีปากเลือดนก สีหน้านั้นสงบล้ำยามเอ่ย “12.03 นาฬิกา กับ หมายเลข 345 45 และ 45690 มนุษย์ 3 คนนี้จะรังแกท่านโดยการหลอกให้ท่านเข้าไปในโกดังเก่าของโรงเรียนแล้วถอดชุดครับ”
เห็นเป็นภาพเลยเหรอ? เด็กสาวไต่ถามในความคิด
“เปล่าครับ” ชายหนุ่มยิ้มบาง “เป็นตัวเลขต่างหาก”
นายนี่...แปลตัวเลขได้เก่งขึ้นรึเปล่านะ เด็กสาวพลิกหน้ากระดาษตามที่อาจารย์สั่ง พลางคิดต่อ ดีจังเลยแฮะ ถ้าฉันเก่งได้ขนาดนายบ้าง ป่านนี้ก็เป็นท๊อปคลาสไปแล้ว
“ท่านไม่ถามผมเองนี่ครับ”
“แต่นั่นมันโกงนี่นา...” เด็กสาวบ่นงึมงำขณะกดปากกาแล้วลงมือจดเนื้อหาจากกระดานดำลงใส่หน้ากระดาษ
“ไม่โกงหรอกครับ ถือซะว่าผมเป็นหนึ่งในความสามารถของท่าน ถึงยังไงผมก็เป็น ‘จิต’ อยู่แล้ว”
นายเป็นผีต่างหาก แถมเป็นผีสารพัดพรสวรรค์ ฉันล่ะซูฮกจริงๆ
“แต่ผมนับถือท่านมากกว่า”
เรื่องอะไรเหรอ? เด็กสาวเบิกตาฉงน
ครานี้ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับส่งรอยยิ้มใจดีกลับมาแทนแล้วเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อๆ “ถ้าท่านถามข้อสอบ ผมรับรองเรื่องคะแนนครับ ไม่มีใครจับได้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นทุกคนที่นี่ก็ต้องมองเห็นผมไปตั้งนานแล้วครับ”
ไม่เอาอ่ะ เด็กสาวขมวดคิ้วมุ่น บางอันฉันก็พอทำได้บ้าง
ชายหนุ่มยกมือป้องปากหัวเราะเบาๆ “มุ่งมั่นจังเลยนะครับ”
เสียงกริ่งบอกเวลาพักกลางวันเป็นสัญญาณให้นักเรียนในห้องทยอยกันออกไปเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ส่วนออกัสก็เก็บสัมภาระใส่กระเป๋าเตรียมตัวหนีภาระการถูกรังแกใหญ่หลวงอย่างที่สหายหนุ่มข้างกายออกปากเตือนก่อนหน้านี้ เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนรีบรุดหน้าไปยังประตู ทว่าระหว่างทางกลับเดินผ่านนักเรียนหญิงชายที่จับกลุ่มกันเพื่อเล่นเกมส์บิงโกริมระเบียง
บิงโก
เด็กสาวหยุดยืนมองตัวเลขบนแผ่นกระดาษที่ทุกคนต่างเลือกเพื่อเสี่ยงดวง
“อยากเล่นหรือครับ” สหายสารพัดพรสวรรค์เพียงคนเดียวของเธอเอ่ยถาม
แต่ออกัซไม่ได้เปิดปากตอบ ชายหนุ่มจึงอธิบายกติกาลอยๆ เพื่อกระตุ้นต่อมการพนันที่ฝังอยู่ในแกนกายหญิงสาว “กติกาก็วางตัวบิงโกลงบนตัวเลขในช่องตามเสียงขานของคนกลางครับ ถ้าวางได้สี่มุมหรือเรียงแถวแนวตรง นอนหรือทะแยงก็ได้ ถ้าวางครบแล้วก็บอกว่าบิงโกแล้วรับเงินครับ”
แต่เล่นของแบบนี้ที่นี่ก็โกงกันได้น่ะสิ บางคนก็มองเห็นอนาคตนี่นา อาจจะเห็นก็ได้ว่าแผ่นไหนจะบิงโกก่อนเพื่อน เด็กสาวยังคงยืนสำรวจคนกลุ่มใหญ่อย่างสงสัยใคร่รู้
ชายสวมชุดคลุมกวาดสายตามองหนึ่งคราก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “จากระดับความสามารถของคนในกลุ่มนี้ยังไม่มีใครที่มีตัวเลขถึงขั้นนั้นนะครับ”
หูว สมเป็นนายเลย รู้ด้วย ออกัซคิดอย่างอึ้งๆ แต่เพราะเป็นนายนี่นะ จะทำได้มากกว่าเห็นอดีต อนาคต หรือเรื่องพวกนี้ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ฉันจะตกใจทำไมนะ จริงๆ ต้องชินได้แล้ว
“ถ้าท่านจะเล่น ผมบอกให้ไหมครับว่าท่านควรเลือกแผ่นไหนถึงจะได้เงินในกองนั้น” ชายหนุ่มบอกพลางชี้มือไปยังกองเหรียญกับธนบัตรหลายใบ “จำนวนเงินนั้นมากพอที่ท่านจะ...”
ไม่เอาหรอก เด็กสาวถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่เธอก็จำไม่ได้เสียแล้ว ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างหน่ายๆ มันโกงนี่นา...
ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังของร่างบางก่อนจะยิ้มแล้วเคลื่อนร่างตามเธอไป
“ไม่โกงหรอกครับ นั่นคือความสามารถของท่านจริงๆ”
แค่เด็กที่มีผีในตำนานอย่างนายเป็นพรายกระซิบเนี่ยนะ?
“ถ่อมตัวอีกแล้วครับ ท่านออกัซ”
-808-
End/Code 1 : รหัสที่ ๑ หมายเลขที่ไร้ ‘ชื่อ’
-เปิดตัวอย่างกระทัดรัด สั้นพอเป็นพิธี-
ความคิดเห็น