ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Only love set

    ลำดับตอนที่ #1 : Prettiness sense

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 55


    © Tenpoints !

     
    prettiness sense

    chapter 1 #

    Ron & Fangkao

    ไว้เจอกันนะฟางข้าว พรุ่งนี้มาเอางานด้วยล่ะอย่าลืมน้า เสียงเพื่อนคนหนึ่งบอกแล้วโบกมือให้ฉัน

           ฟางข้าว นั่นแหละคือชื่อฉันเอง ผู้หญิงที่หน้าตาไม่สวยแต่ก็มีความน่ารักอยู่ไม่น้อย ใครๆก็บอกฉันมาแบบนั้น ฉันทั้งบ๊อง ทั้งซื่อ แถมมึนๆอีกต่างหากฉันจึงไม่รู้ว่าฉันน่ารักอย่างที่คนอื่นบอกจริงหรือเปล่า ฮ่า ๆ

     

                หลังจากที่ฉันเดินออกมาจากมหาวิทยาลัยโอแอลยูที่ฉันเรียนแล้วก็กำลังจะไปร้านอาหารใกล้ๆที่ฉันทำงานพาร์ทไทม์อยู่   แต่ก็ต้องหยุดกึกและหันไปมองใครคนหนึ่งที่กำลังจับต้นแขนฉันอยู่

    เอ่อ...มีอะไรเหรอค่ะ?ฉันถามผู้ชายร่างสูงที่จับแขนฉันอยู่อย่างสงสัย...ถ้าจำไม่ผิดเขาคือ รอน นักกีฬาสุดฮอตของมหาลัย แต่ช่างเถอะ! แล้วเขามาจับแขนฉันทำไมล่ะ

    กรี๊ดดดดด !!” เสียงกรีดร้องของฉันดังขึ้นเมื่ออยู่ๆเขาก็ดึงตัวฉันเข้าไปกอด เขาทำอะไรข้าวอ่ะ...แงๆ

     

               รอนเลื่อนใบหน้าต่ำลงมาจนชิดและประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากเล็กๆของฉัน เขาจูบข้าวอ่ะ...งอแง

    อื้อออ...”  ฉันหายใจไม่ออกและพยายามดันอกแข็งๆของรอนออก เพียงแต่มันไม่ขยับเลย

     

                 ฮู่....ฉันถอนหายใจออกเบาๆหลังจากที่ขาดอากาศอยู่ราวห้านาที ให้ตายสิหน้าฉันร้อนวูบวาบไปหมด หัวใจก้เต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมา ฉันโกรธเขากรือกำลังเขินเขากันแน่  แต่ที่รู้ๆตอนนี้เขาหายวับไปไหนแล้วไม่รู้  แง...เขาขโมยจูบฟางข้าวไปแล้วง่ะ...ฮือ...ฟางข้าวอยากร้องไห้

     

    หลังจากที่เมื่อวานฉันโดนนักกีฬาสุดฮอตของมหาลัยขโมยจุบฉันไปฉันก็พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แต่มันน่าใจหายนะจูบแรกที่ฉันรักษาไว้ให้สำหรับคนที่รักฉันมันจากไปแล้ว...ฉันอยากร้องไห้อีกแล้วล่ะ

     

    เด็กน้อยของฉันเป็นอะไรรึเปล่าเสียงแฟรงก์ผู้จัดการหนุ่มแซว ฉันจึงหลุดจากความคิดของตัวเอง

    เปล่าค่ะ...ผู้จัดการค่ะข้าวจะไปเอารายงานที่มหาลัยน่ะค่ะจะอนุญาติไหมค่ะ

     

                 ฉันยิ้มให้แฟงก์บางๆ แฟรงก์ก็ยิ้มและพยักหน้ากลับมา ที่จริงแล้วแฟรงก์ก็เป็นนักศึกษาปีสามเหมือนกับฉันนี่แหละ แต่เรียนคนละที่กัน  ฉันถือว่าเขาเป็นเจ้านายเลยต้องเรียกเขาว่าผู้จัดการเรียกชื่อเขาเฉยๆมันคงดูไม่ดี

    อ๋อได้สิ ฉันจะไปมหาลัยพอดี  เดี๋ยวฉันไปส่งนะแฟรงก์บอกแล้วยิ้มให้ ฉันก็พยักหน้ากลับไป เพราะไม่กล้าปฏิเสธ ขืนปฏิเสะเขาก็ต้องอ้อนวอนฉันให้ไปจนได้นั่นแหละ

     

             เมื่อฉันเข้ามานั่งในรถแล้วฉันก็นั่งนิ่งๆเป็นเด็กดี และแฟรงก์ก็สตาร์ทรถออกทันที

    ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าเรียกแฟรงก์เฉยๆก็ได้น่ะ แฟรงก์บอกและฉันก็ได้แต่ยิ้มให้เขา

    ก็แฟรงก์เป็นผู้จัดการของข้าวยี่เนอะ จะเรียกแฟรงก์เฉยๆได้ไง ฉันบอกแล้วทำหน้าทะเล้นใส่ เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ

            ไม่นานแฟรงก์ก้ยื่นมือมาขยี้ผมฉันเบาๆ เขาเป้นอะไรเหรอถึงได้แต่ยิ้มอย่างนั้นน่ะ

    ผู้จั...เอ่อ...แฟรงก์เป็นอะไรค่ะแล้วจับมือข้าทำไม ฉันหันไปถามเขาอย่างงุนงง ปกติเขาก็ยิ้มอยู่แล้วมันไม่น่าแปลกนี่ แล้วฉันถามทำไมล่ะเนี่ย

    ก็เธอมันน่ารักนี่ฉันหมั่นเขี้ยวจนอยากจะงับเธออยู่แล้วน่ะเฮือก! ขนาดนั้นเลยเหรอค่ะแฟรงก์ ข้าวกลัวนะเนี่ย...งอแง

     

              เมื่อถึงหน้ามหาลัยฉันก็เปิดประตูรถเพื่อรีบไปเอางานแต่แฟรงก์ก็จับแขนฉันไว้ซะก่อน

    เดี๋ยวฉันกลับมารับนะ แล้วจะโทรหาแฟรงก์ยิ้มให้และฉันก็ยืนตะลึงอยุ่พักใหญ่ ก่อนจะนึกได้ว่ามีงานต้องไปเอา

     

         หลังจากที่เอางานเรียบร้อยฉันก็ลงลิฟต์เพื่อไปรอแฟรงก์ที่หน้ามหาลัย แต่ลิฟต์ก็หยุดอยู่ที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นฟิตเนสของพวกนักกีฬา หวังว่าคนที่จะลงลิฟต์ไปกับฉันคงไม่ใช่รอนนะ

          ไม่ทันขาดคำเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกก็เผยให้เห็นโฉมหน้าของผู้ชายที่ขโมยจุบแนไปเมื่อวานนี้  พระเจ้าแกล้งลูกใช่ไหม...แง

     

    ครั้งแรกใช่ไหมน่ะเขาถามขึ้น เขาหมายความว่ายังไงไม่เห็นเข้าใจเลย

    จูบเมื่อวานน่ะเขาบอกฉันเลยอึ้งไป หน้าร้อนฉ่าจนจะทะลุสี่สิบองศาเซลเซียสแล้วมั้งเนี่ย ทำไมเขาต้องพูดเรื่องนี้ด้วย

    เฮ้ย! เธอร้องไห้ทำไมเสียงรอนอุทานขึ้น ฉันจึงเอามือปาดที่แก้มดูก็พบว่าน้ำตาไหลจริงๆ ฟางข้าวอึดอัดนะ อยากออกไปจากลิฟต์นี้เต้มทีแล้ว ลิฟต์นี่ก็ช้าจริงเชียว...งอแง

                  ติ๊ง! เหมือนเสียงสวรรค์เมื่อลิฟต์เปิดออกฉันก็รีบวิ่งจู๊ดออกมาทันที  แต่ทว่าก็เหมือนโลกหมุนติ้วๆนะ รู้สึกตัวอีกมีฉันก็นั่งอยู่ที่พื้นแล้ว ฉันตกบันไดขั้นเล้กๆนั่นล่ะสิ


    รอน...ช่วยฉันหน่อยนะ...ฮือฉันร้องขอความช่วยเหลือจากรอนเพราะเขาเดินผ่านมาทางนี้พอดี

                 รอนมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะปรับให้มันราบเรียบตามเดิมและเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ

    ฉันเจ็บขามากเลยล่ะ...ฉันบอกและเขาก็อุ้มฉันพาดบ่า

          เขาจะพาฉันไปไหนอ่ะ  ไม่ไปนะ ไม่ไป ม่ายยยยยยยยยยยยย !!

    =Ron talk=

        ผมล่ะอยากตาย เธอคนนี้ท่าจะเพี้ยนบอกว่าให้ผมช่วย ผมก็ช่วยแล้วยังจะโวยวายอีกแถมทุบหลังจนซะเจ็บไปหมด ตัวเล็กนิดเดียวมือหนักเป็นบ้า  ครั้งแรกที่เราเจอกันไม่รู้ว่าน่าประทับใจหรือเปล่าที่อยู่ๆผมก็จูบเธอซะงั้นอ่ะ ฮ่าๆ แต่เธอน่ารักมากๆเลยนะ ผมผ่านผู้หญิงมาไม่รู้กี่คนแต่เธอเป็นคนแรกเลยที่ผมถูกใจ

           ตอนนี้ผมพาเธอมาที่ห้องของผมเพราะผมก็ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน จะทิ้งไว้ที่มหาลัยก็อันตราย ให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อนล่ะกัน  ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยแม้แต่ชื่อเธอก็ยังไม่รู้ จะถามก็ไม่ได้เพราะเธอเผลอหลับไปตั้งแต่ทุบหลังผมจนเหนื่อยแล้ว  ผมคิดว่าควรจะไปหาอะไรทำดีกว่าไม่งั้นผมอาจจะห้ามตัวเองไม่อยู่แล้วลักหลับเธอเข้า ฮะๆๆ

    -End Ron’s talk –

            

             ฉันลืมตาขึ้นก็ต้องกระพริบตาถี่ๆเพราะแสบตาจากแสงไฟที่สว่างจ้าอยู่เบื้องบน แต่เมื่อปรับสายตาได้แล้วก็รู้ตัวว่าที่นี่ไม่ใช่ในมหาลัยหรือร้านของแฟรงก์แต่เป็นห้องของใครสักคน

           ฉันลุกขึ้นนั่งและทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านๆมา  เขาคนนั้นคือคนที่ช่วยฉันตอนหกล้ม เขาคนนั้นคือคนที่อุ้มฉันออกมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจ เขาคนนั้นที่ทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะเขาจูบฉัน....

             รอน....

             เขาไงที่นี่ต้องเป็นห้องของเขาแน่ๆ...ฮือ...เจ้าป่าเจ้าเขาช่วยข้าวด้วย ข้าวโดนฉุดอ่ะ...แง

             ฉันนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่ จนมีคนเปิดประตูเข้ามา แต่ฉันมองไม่เห็นว่าเขาเป็นใครเพราะน้ำตาคลอซะจนพร่าเบลอไปหมด

    เธอร้องไห้ทำไมน่ะ ใครตายเหรอเสียงนี่คุ้นๆจัง แล้วทำไมต้องพูดแบบนั้นด้วยเล่า

    แฟรงก์เหรอ...ฉันลองเรียกดูไม่แน่อาจจะใช่ก็ได้

    แฟรงก์...ไอบ้านั่นมันไม่มาที่นี่หรอกน่าเขาก่นด่าออกมาเหมือนไม่พอใจในคำพูดของฉัน แสดงว่าเขาไม่ใช่แฟรงก์ ต้องเป็นรอนแน่ๆ

                ฉันปาดน้ำตาออกจนเริ่มมองอะไรๆชัดขึ้นและคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็คือรอนนั่นเอง

    โอ๊ย! มันเจ็บนะเธอนี่รอนอุทานขึ้นเมื่อฉันหยิบหมอนข้างฟาดหน้าเขาครั้งหนึ่ง

    พาฉันมาที่นี่ทำไมอ่ะ...ฮือฉันฟูมฟายแต่เขาก็ทำหน้าเรียบเฉยและถอนหายใจออกมาเบาๆ

    ใครมันจะทะอะไรเธอฮะ ยัยเพี้ยนดูเขาด่าฉันสิ คนบ้า!

               รอนเดินออกไปจากห้อง และไม่นานก็มีเสียงก๊องแก๊งดังขึ้นมา...ฉันจึงเดินตามออกไปและเสียงนั่นก็ดังมาจากในครัว ใช่! รอนกำลังทำอาหารล่ะ....เขาทำอาหารเป็นด้วยเหรอเนี่ย

    เมื่อฉันเดินเข้ามาในครัวก็ได้แต่กลิ่นหอมๆของอาหารที่อยู่ในกระทะ ฉันจึงไปยืนข้างๆเขา และคอยดูเขาทำอาหารไปเรื่อยๆ

     

    แล้วนี่เธอชื่ออะไร? รอนถามขณะที่ฉันกำลังตะกละตะกลามกับอาหารรสเลิศอยู่ อิอิ

    อางอ้าว...(ฟางข้าว)ฉันพยายามพูดออกไปให้ชัดเจนเพียงแต่มันไม่เป็นแบบนั้น เพราะข้าวเต็มปากฉันจนพูดไม่ออก

    ฮะ....!?” เหมือนเขาจะไม่รู้เรื่องนะ ฉันจึงชีนิ้วลงที่ถ้วยข้าวแล้วจัดการอาหารตรงหน้าต่อ

    ข้าว...เหรอฉันชูนิ้วokกลับไป เขาก็ยิ้มนิดหน่อยแล้วก็กินข้าวบ้าง

     

             เมื่อฉันกินข้าวและช่วยรอนล้างจานแล้วเขาก็ให้ฉันนั่งดูถ่ายทอดสดฟุตบอลเป็นเพื่อน แล้วฉันดูฟุตบงฟุตบอลอย่างนี้เป็นซะที่ไหนเล่า

    พรุ่งนี้ไปวิ่งจ็อกกิ้งเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิเขาหันมองหน้าฉันด้วยสายตาแปลกๆ ฉันเลยรีบหลบสายตาคู่นั้นทันที

    เอ่อ...ฉันต้องไปทำงานนะ  คราวนี้เขาขยับเข้ามาใกล้ฉันกว่าเดิม

    เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเองแหละน่า ฉันคิดไปคิดมา ว่าแต่...เขารู้เหรอว่าฉันอยู่ท่ไหนน่ะ ถึงจะไปส่ง

    งั้นโอเคตามนั้นเขาพูดเองเออเองเลยอ่ะ แงๆ

     

     

                เมื่อวานฉันฉันรู้สึกสบายใจมากที่รอนยังใจดีมาส่งที่คอนโด  จริงๆแล้วฉันว่าเขาก็ใจดีออกถึงแม้เขาจะชอบมองด้วยสายตาดุๆก็เถอะ  รอนบอกว่าอีกไม่นานก็จะโทรมาเพื่อให้ฉันเตรียมตัวที่จะไปวิ่งกับเขา  แต่ตอนนี้ฉันกลุ้มใจมากเลยคือแฟรงก์จะโกรธหรือเปล่าเพราะเมื่อวานเขาจะไปรับฉัน แต่ฉันก็ไปกับรอนซะก่อน แถมยังไม่ได้ทำงานเลยด้วย ฉันโดนเขาฆ่าแน่เลยอ่ะ....ฮือๆ

          ครืดดดดด !! เสียงไอโฟนสั่น ฉันจึงหยิบขึ้นมาดู

    #FRANK

    ฮัลโหล...ฉันกรอกเสียงลงไปอย่างแผ่วเบา

    (เมื่อวานไปไหนมาข้าว ฉันรอตั้งนานแน่ะ)นั่นไง แฟรงก์โหมดดาร์กมาแล้ว...แงๆ

    เอ่อ...ข้าวตกบันไดค่ะเลยไม่ได้กลับไปทำงาน ขอโทษนะคะฉันบอกเสียงเรียบ

    จริงเหรอ  แล้วเป็นอะไรมากมั้ยเจ็บตรงไหรรึเปล่า แฟรงก์ถามอย่างตกใจ อารมณ์เขาเปลี่ยนเร็วจริงๆนะ

    ไม่เป็นไรแล้วค่ะฉันบอก และฉันก็ได้ยินเสียงแฟรงก์ถอนหายใจออกมา

    งั้นก็ดีแล้ว ว่าแต่เธอกลับบ้านยังไงน่ะเขายังถามด้วยความเป็นห่วง

    รอนมาส่งที่คอนโดน่ะค่ะฉันบอกตามจริง แล้วอยู่ๆแฟรงก์ก็ตัดสายไป

                  ฉันนั่งเกาศรีษะอยู่นานสองนานที่งงกับแฟรงก์ว่าเขาอยุ่ในโหมดไหนกันแน่ เดี๋ยวดุเดี๋ยวเป็นห่วง เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย

     

           ครืดดดดดดดด !! ไอโฟนสั่นขึ้นมาอีกครั้ง

    #081-135579XX

    ฮัลโหล...ฉันพูดเสียงเรียบ

    (นี่! เดี๋ยวฉันไปรับเธอเตรียมตัวด้วยล่ะ) ปลายสายนั่นเสียงรอนล่ะ

    อื้ม...ฉันตอบไปและวางสาย

     

           ฉันนั่งรอรอนมานานกว่าชั่วโมงหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มาซะที ถ้าเขายืนอยู่หน้าห้องอตนนี้คงจะเป็นสวรรค์มากเลยล่ะ...

           ไม่ทันขาดคำ ฉันได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเดินออกไปดูและภาพที่ฉันเห้นตรงหน้าคือรอนยืนหอบแฮ่กๆเอาแขนทาบประตูอยู่ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยแผลฟกช้ำดำเขียว และมีเลือดซึมออกมาหน่อยๆด้วย ไม่นะ! ใครกันที่กล้าทำกับเขาแบบนี้




    มาพูดคุยกันดีกว่านะจ้ะ ตอนนี้ฟางข้าวของเราน่ารักเกินบรรยาย คิคิ
    ส่วนรอนก็หื่นรับเปิดฤกษ์กันเลยทีเดียว ฮ่าๆ ทำไมแต่งออกแนวนี้ก็ไม่รู้นะเออ ว่าแต่มันสนุกมั้ยนะ ?
    ช่วยคอมเมนต์บอกหน่อยละกันค่ะ ไม่อยากบังคับเลยนะแต่ถ้ายอกวิวน้อยแล้วจำนวนเมนต์ก็ยิ่งน้อยนี่
    แพรวก็หมดอารมณ์จะแต่งอ่ะ (งอแงT^T) งั้นขอร้องนะค่ะ แพรวอยากรับรู้จริงๆว่านักอ่านแต่ละคน
    คิดเห็นอย่างไรบ้าง และฝากติตามด้วยนะจ้ะ
    ด้วยรักจากพะแพรว
     



      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×