ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เบื้องหลัง ม่านมายา

    ลำดับตอนที่ #1 : เบื้องหลัง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 29
      0
      26 มี.ค. 55

    เรื่อง เบื้องหลัง

    ระติกานต์

                   

     

                    มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า ปลายดาว  ดาวอยู่กับมารดาสองคน มารดาของดาวมีอาชีพขายของหาบเร่ วัน ๆ หนึ่งมีรายได้เพียงแค่พอซื้อข้าวกินไปวัน ๆ เท่านั้น ฐานะทางบ้านของดาวจัดได้ว่าอยู่ในระดับยากจนมาก

                    ในวันหนึ่งๆ แม่จะออกไปขายของหาบเร่เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้เลี้ยงชีพ ส่วนดาวนั้นจะมาช่วยเฉพาะตอนเช้าแล้วก็ไปเรียน ดาวเบื่อกับชีวิตแบบนี้มาก เธออยากไปให้พ้นกับชีวิตยากลำบากแบบนี้ เธอมีความฝันที่อยากจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง และมีเงินทอง จะได้ไม่ต้องมาทำทำงานตากแดดหน้าดำเหมือนทุกวันนี้

                    วันหนึ่งดาวออกไปช่วยแม่ขายของในตอนเช้า และเธอก็ไปโรงเรียน

    แม่ดาวไปนะ เย็นนี้ดาวไม่มาช่วยแม่นะ นัดกับเพื่อนติวหนังสือ ดาวมักจะใช้ข้ออ้างว่าจะไปติวหนังสือกับเพื่อนบ่อยมาก แต่ที่จริงแล้วเธอนั้นจะแอบไปหนีเรียนไปเที่ยวห้าง ไปดูหนังตามภาษาเด็กวัยรุ่น

    และในวันนี้ได้มีแมวมองมาหาเด็กสาวที่หน้าตาใช้ได้ไปเป็นดารา และแมวมองก็ได้มาเจอกับดาวแล้วก็ถูกใจในความสวย และสาวของเธอมาก

    พี่พี่ ดูทางโน้นซิ น่าสนมั้ย แมวมองคนหนึ่งบอกกับรุ่นพี่ที่มาหาสาวสวยไปเป็นดาราด้วยกัน

    ไหนวะ เฮ้ยจริงด้วย แบบนี้ต้องถูกใจพี่พัฒแน่ แมวมองอีกคนดีใจมาก เพราะคิดว่าวันนี้ต้องเหลวแน่ๆ เดินหามาตั้งแต่เช้าแล้วยังไปเจอคนที่หน้าตาอย่างที่เจ้านายต้องการ

                    พอมาพบกับดาวเข้าจึงทำให้พวกเขาเริ่มมีหวังขึ้นมาบ้าง

                    แมวมองสองคนรอโอกาสที่จะเข้าไปหาดาวเพื่อพูดคุยและตกลงกัน และโอกาสนั้นก็มาถึง

    พี่ทันต์ น้องเค้าอยู่คนเดียวแล้ว ผมว่าเราเข้าไปกันเถอะ

    ดีเหมือนกันไอ้ตี่ จะได้รีบรายงานพี่พัฒเค้า

                    สองแมวมองเดินเข้าไปหาดาวที่ตอนนี้กำลังเลือกซื้อของอยู่คนเดียว เพื่อน ๆ ของเธอนั้นขอไปเข้าห้องน้ำ

    น้อง น้อง...... ดาวรู้สึกเหมือนมีคนมาเรียกจึงหันไปตาเสียงนั้น

              แต่ใครกัน  ไม่เห็นจะรู้จัก เลย

    น้องนั้นแหละ แมวมองที่ชื่อทันต์ช่วยเตือนว่าเธอนั้นแหละที่ฉันเรียก

    ค่ะ พี่สองคนมีอะไรกับฉันเหรอค่ะ ดาวตอบอย่างประหม่าเพราะไม่ค่อยไว้ใจคนพวกนี้

    น้องไม่ต้องกลัวพวกพี่หรอก เรามาดี

    ดาวยังมองชายแปลกหน้าทั้งสองคนด้วยสายตาไม่ค่อยไว้วางใจ แต่เธอก็อยากรู้ว่าสองคนนี้เข้ามาทักเธอทำไม และแอบมองหาทางหนีทีไล่ถ้าเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ขึ้น

    คือพี่สองคนเป็นแมวมองมาหาเด็กสาวที่หน้าตาดีอย่างน้องไปเป็นดาราน่ะ

    ดาวหูพึ่งทันที่ที่ได้ยินคำว่า ดาราออกมาจากชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้นจนพูดไม่ออก ความฝันของเธอเป็นจริงแล้วใช่มั้ย

    ว่าไง น้องสนใจมั้ย

    ดาวครุ่นคิด เพราะไม่แน่ใจว่าเค้าจะหลอกหล่อนหรือเปล่า

    ไม่ต้องให้คำตอบพี่วันนี้ก็ได้ เอาเป็นว่า อีก 3 วัน เราสองคนจะมาเอาคำตอบนะทันต์ให้เวลาดาวตัดสินใจ 3 วัน

    อ่ะนี่เป็นนามบัตรของพวกเรา ถ้ายังไงก็ติดต่อมานะตี่ส่งนามบัตรให้ดาว

              ก่อนที่สองหนุ่มแมวมองจะกลับไปได้หันกลับมาถามหญิงสาวว่า คุยกันตั้งนาน พี่ยังไม่รู้จักชื่อน้องเลย พี่ชื่อ ทันต์ ไอ้นี่ชื่อตี่ ทันต์และตี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรกับหญิงสาว

    ฉันชื่อ ปลายดาว เรียกว่าดาวก็ได้คะ

    ชื่อน่ารักจัง อย่าลืมเก็บข้อเสนอของพี่ไปใช้นะ พี่สองคนไปก่อนนะแล้วสองแมวมองก็จากไป ทิ้งให้ดาวได้คิดเพ้อฝันถึงตอนที่ตนเองได้เป็นดาราดัง มีแฟนคลับมาตามขอลายเซ็น

              เย็นวันนั้นดาวนั่งคิดแต่เรื่องของสองแมวมองที่พบกันที่ห้างสรรพสินค้า มารดาเห็นบุตรสาวนั่งเหม่อลอยข้าวปลาไม่ยอมกินก็เดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง

                    “ดาวนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ถ้าแม่หิวก็กินก่อนเลย ดาวไม่หิว”

                    และเวลาที่ดาวต้องให้คำตอบกับสองหนุ่มแมวมองก็มาถึง คำตอบของดาวเป็นคำว่าตกลงตั้งแต่วันแรกที่เธอกลับมาคิด แต่เธอไม่รู้จะบอกกับแม่ยังไงว่าเธอจะไปเป็นดารา และถ้าบอกไปตรง ๆ แม่ต้องไม่ยอมให้เธอไปแน่ ๆ แต่แล้วดาวก็เลือกที่จะไปพบสองหนุ่มแมวมองตามนัด

                    ว่าไง จะน้องดาว มีคำตอบให้พี่หรือยัง นายพี่เค้าเร่งมาแล้วนะ ทันต์ไม่รอช้ายิ่งคำถามแบบตรงประเด็น

                    ดาวเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบว่า.......... ตกลงค่ะ

    ดาวได้ตอบตกลงเลือกที่จะไปเป็นดาราตามที่ตัวเองฝันไว้ เธอคิดว่าโอกาสดีดีแบบนี้คงจะไม่มาหาเธอได้ง่ายๆ และนี่มันก็มาถึงแล้วเธอจึงเลือกที่จะคว้ามันไว้  แม่ต้องเข้าใจเธอ

    งั้นวันพรุ่งนี้น้องมาหาพี่ที่นี่ตอน 9 โมงนะ พี่จะรออยู่ที่นี่

    “พรุ่งนี้เลยเหรอคะ”

    “ใช่ คุณพัฒน์เจ้านายพี่เค้าอยากเห็นน้องดาวจะแย่อยู่แล้ว”

    “ตกลงค่ะ ดาวจะมารอพี่ที่นี่”

    “พี่เกือบลืมไป น้องดาวต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพเลยนะ”

    “กรุงเทพ!!!

    “ตกใจอะไรเหรอ ถ้าน้องดาวอยากจะเป็นดาราน้องดาวต้องลืมทุกอย่างที่นี่ และตั้งแต่วันพรุ่งนี้น้องดาวจะไม่ใช่ยัยดาวเด็กบ้านนอกอีกต่อไป น้องดาวจะเป็น คุณปลายดาว วัชระอานนท์  ดาราสาวดาวรุ่ง ดีกรีนักเรียนนอก”

    “แต่ดาวยังเรียนไม่จบมอปลายเลยนะคะ”

    “เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา วงการมายาใครเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น เตรียมตัวให้พร้อม วันนี้พี่ไปก่อนละ ต้องรีบไปรายงานข่าวดีให้คุณพัฒน์ทราบ”

                    ปลายดาวเดินคิดกาวิธีบอกับแม่อยู่พักใหญ่ แต่เธอก็คิดไม่ออกสักที แต่จะให้เธอยอมเสียโอกาสนี้ไปเธอก็ยอมไม่ได้ ปลายดาวตัดปัญหาเรื่องแม่รีบกลับมาที่บ้านเพื่อมาเตรียมของ ปลายดาวเลือกที่จะไม่บอกกับมารดาว่าหล่อนจะไปไหน จึงได้วางแผนหนีออกมาตั้งแต่คืนนี้

                    ในเช้าวันรุ่งขึ้นดาวมาตามนัดที่ให้ไว้กับแมวมองทั้งสอง

    มาตรงเวลาดีนี่ แบบนี้ต้องดังแน่นอน ดาวยิ้มแก้มปริกับคำชมที่ได้รับ

     ปลายดาวแทบจำไม่ได้ว่าสองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอนั้นจะเป็นคนเดียวกับที่เธอเจอเมื่อวานนี้ เพราะวันนี้สองคนนี้แต่งตัวค่อนข้างภูมิฐานมาก

    พร้อมหรือยังดาว

    ค่ะ

    งั้นเราก็ไปกันเลย

                    ดาวได้เดินทางเข้ากรุงเทพมากับสองหนุ่มแมวมองและ ช่างแต่งหน้าในกองถ่ายอีกสองคน ไม่นานนักทั้งหมดก็เดินทางถึงในกรุงเทพมหานคร

                    ช่างสองคนที่นั่งรถมาด้วยจัดการแปลงโฉมของปลายดาวให้ดูเฉงกระเดะขึ้น แต่ด้วยรูปลักษร์ที่ดูดีอยู่แล้วทำให้ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากแค่ได้เสื้อผ้าที่ดูดี เครื่องประดับอีกนิดหน่อย และการเสริมแต่งอีกเล็กน้อยก๋ทำให้เธอนั้นดูสายราวกับนางฟ้าจุติ

    สายมากเลยค่ะคุณน้อง ช่างแต่งหน้าที่เป็นกระเทยกล่าวชมหญิงสาว

              ทันต์และตี่ได้พาดาวมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขานัดกับผู้กำกับไว้ที่นี่

    ตามมาทางนี้เลย เรารอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่พัฒน์ก็คงจะมา ไม่ทันที่จะสิ้นเสียงของทันต์พี่พัฒน์ที่ถูกกล่าวถึงก็มา

    ไหนไอ้ทันต์เด็กที่พามาให้ฉันดู ดาวได้ยินแบบนั้นชักเริ่มหวั่นใจ จึงเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นท่าเดียว

    คนนี้ไงพี่ ถูกใจพี่มั้ยละ ทันต์โบกมือเรียกพัฒนาผู้กำกับชื่อดังให้เดินเข้ามาหา

    ไหนว่ะ

    นี่ไงพี่ ทันต์ชี้มาที่สาวน้อยที่นั่งก้มหน้าหงุดอยู่ “ดาวสวัสดีพี่พัฒน์สิ”

                    ดาวคอย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองพัฒนา “สวัสดีค่ะคุณพัฒน์”

                    “ไม่ต้องเรียกคงเรียนคุณหรอก เรียกพี่พัฒน์เหมือนทุกคนนั่นแหละ” พัฒนาพูดเพื่อให้สาวสวยตรงหน้ารู้สึกหายจากอาการประหม่า

                    “เป็นไงพี่ ตามที่พี่ต้องการมั้ย”

              ใช้ได้เลยเว้ย พรุ่งพี่ไปที่สตูดีโอ ลองแคสบทได้เลย

    หญิงสาวยิ้มแก้มแทบปริกับคำตอบที่ได้รับ เธอกำลังจะได้เป็นดาราอย่างที่ฝันไว้แล้ว

    ผมบอกแล้วว่าเชื่อมือผม

                    ผู้กำกับถูกใจกับสาวน้อยคนนี้มาก และมั่นใจว่าจะปั้นเธอให้เป็นดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิงเมืองไทยได้แน่นอน

                    เวลาผ่านไปเพียงครึ่งปี ปลายดาวเด็กสาวบ้านนอกคนเดิมไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงคุณปลายดาว ดาราสาวดาวรุ่งที่เปิดตัวมาในบทนางเอกเจ้าน้ำตา มีแฟนคลับมากมาย และนั่นทำให้ปลายดาวหลงระเริงกับชื่อเสียงที่เธอมี ลืมวันที่เธอเคยเป็นเพียงเด็กสาวบ้านนอก หลังจากมีชื่อเสียงปลายเลือกรับงานที่เธอพอใจเท่านั้น และเธอก็จะชอบไปกองถ่ายสายจนทำให้บรรดาผู้กำกับสายหัวถ้าละครเรื่องไหนปลายดาวแสดง แต่ในเมื่อเธอเป็นที่ต้องการของประชาชนทุกคนเลยต้องยอม             

    วันหนึ่งปลายดาวมีคิวถ่ายละครที่ต่างจังหวัด เธอขอเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำเพราะที่ที่ต้องไปถ่ายทำเป็นบ้านเกิดของเธอ เธอไม่อยากไปเหยียบที่นั่นอีก แต่ทีมงานเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วทำให้ปลายดาวปฏิเสธไม่ได้และถ้าเธอขอถอนตัวจะละครเรื่องนี้กลางคันเธอจะต้องโดนทางช่องเพ่งเลงแน่ ๆ

                    เวลานี้เป็นเวลาที่ปลายดาวพักเที่ยงเธอเดินเข้าไปนั่งพักที่ห้องพักส่วนตัว รอบกายมีพวกช่างแต่งหน้ามาลุ่มล้อมทำนู้นนี่ให้ เพราะทุกคนไม่อยากเจอกับพายุของนางร้ายนอกจอ

    นี่ฉันหิวข้าว ไปเอามาให้หน่อยซิช่างแต่งหน้าคนหนึ่งจึงออกไปเอาข้าวกล่องมาให้ดาราสาว

    นี่ค่ะคุณดาวเธอส่งกล่องข้าวมาให้

    นี่มันอะไรกัน ฉันสั่งให้เธอไปเอาข้าวมาให้ฉัน แต่นี่เธอเอาอะไรมาให้ฉันก็ไม่รู้สกปรก อย่างฉันมันต้องอาหารพวกสเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ ไม่งั้นสลัดผักย่ะดาวทำหน้าบูดเพราะว่าเธอถูกขัดใจ และเพื่อระบายอารมณ์เธอก็ปัดกล่องข้าวนั้นตกลงพื้น จนหกเลอะเทอะไปหมด

    แต่ของที่คุณดาวต้องการเราจะไปหาได้ที่ไหนละคะ เรามาถ่ายทำกันนอกเมืองขนาดนี้

    เอ๊ะ! ฉันบอกให้ไปหามาไง ถ้าภายในครึ่งชั่วโมงฉันยังไม่ได้ทานอาหารที่ต้องการ วันนี้กองถ่ายก็ไม่ต้องทำงานต่อ

    ในขณะที่ปลายดาวกำลังโวยวายอยู่นั้น ข้างนอกได้มีนักข่าวจะมาขอสัมภาษณ์ดาราสาวที่ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าเธอเป็นนางเอกแต่ในจอเท่านั้น และยังมีกระแสออกมาอีกว่าเธอไม่ได้เป็นเด็กนักเรียนนอกอย่างที่ให้ข่าวไป สองเรื่องทำให้นักข่าวหลายสำนักยอมลงทุนเดินทางมาขอสัมภาษณ์ดาราสาวถึงกลางท้ายที่ต่างจังหวัด

    คุณดาวค่ะ มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ค่ะ สตาฟในกองถ่ายคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาบอกปลายดาวที่ห้องพัก

    ปลายดาวได้ยินดังนั้นจึงรีบปรับเปลี่ยนอารมณ์ทันที และรีบคว้าข้าวกล่องของช่างแต่งหน้าคนหนึ่งมาเปิดทาน บรรดาช่างแต่งหน้าต่างพากันส่ายหัวด้วยความระอา ได้เวลาแสดงบทนางเอกแล้วสินะ ยัยนางร้ายนอกจอ

    อุ๊ย น้องดาว ทานได้เหรอคะแบบนี้ ถ้าเป็นดาราคนอื่นนะคะเค้าทานกันไม่ได้หรอกคะนักข่าวที่เข้ามาสัมภาษณ์นั้นเอ่ยเมื่อเห็นปลายดาวกำลังนั่งทานข้าวกล่องเหมือนกับคนอื่น ๆ ในกองถ่าย ไม่เห็นเป็นแบบที่มีข่างวงในออกมา

    ทานได้สิคะ ดาวก็เป็นคนเรียบง่าย อาหารพวกนี้ก็ทานแล้วอิ่มเหมือนกัน คนอื่นในกองทานได้ดาวก็ทานได้ค่ะ พี่ ๆ จะมาสัมภาษณ์ดาวเหรอคะ เชิญทางนี้เลยคะ”

    “เดี๋ยวพวกพี่รอน้องดาวทานข้าวอิ่มก่อนก็ได้จ๊ะ”

    “มาเป็นไรคะ เดี๋ยวดาวค่อยมาทานทีหลังก็ได้”

    นักข่าวยิงคำถามที่สงสัยไปที่นางเอกสาว ปลายดาวแสดงละครเต็มที่ ปีบน้ำตาเสแสร้งแสดงละครว่าเธอทั้งเสียใจเสียความรู้สึกที่ถูกกล่าวหาว่าร้าย บรรดานักข่าวหลงเชื่อไปกับมารยาของนางเอกสาว  

                   

                    ฝ่ายมารดาของปลายดาวตั้งแต่ที่ลูกสาวหนีไปนางก็ต้องทำงานเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ หนำซ้ำโรคร้ายยังเข้ามาทำร้ายร่างกาย จิตใจที่อ่อนแอทำให้โรคร้ายยิ่งผลาญชีวิตของนางไปเร็วมากขึ้น นางได้ข่าวว่าบุตรสาวไปเป็นดาราดังอยู่ที่กรุงเทพ แต่นางไม่มีปัญญาจะไปตามหา ได้แต่เฝ้ารอว่าสักวันลูกจะกลับมา แต่ความหวังของนางก็ริบรี่ลงทุกวัน ไม่รู้ว่านางจะมีเวลาอยู่บนโลกนี้ได้อีกนานแค่ไหน แต่ความหวังสุดท้ายก่อนตายจากโลกนี้ขอให้นางได้พบกับลูกสาวอีกสักครั้ง แค่พบกันไม่ต้องทักทายนางก็ยอม

     แล้ววันนี้แม่ของปลายดาวก็ออกมาขายของตามปกติ แต่วันนี้นางได้ข่างว่ามีกองถ่ายละครมาถ่ายทำเลยคิดที่จะไปขายของที่นั่น เพราะน่าจะขายดี นางจันทราไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางเอกละครเป็นบุตรสาวของตน

              นางจันทราเห็นสาวสวยคนหนึ่งกำลังแสดงบทบาทตามที่ผู้กำกับสั่ง นางจำได้ดีว่าสาวสวยคนนั้นเป็นใคร นางไม่มีวันลืมลูกตัวเอง แม้ว่าวันนี้ปลายดาวจะเปลี่ยนไปจากปลายดาวลูกสาวที่นางเลี้ยงมาก็ตาม นางดีใจมากที่ได้พบลูกสาวของนางอีกครั้ง ความหวังของนางเป็นจริงแล้ว จันทราขอแค่ได้มองลูกสาวของเธออยู่ห่าง ๆ แบบนี้

    ปลายดาวเห็นมารดาหาบของเข้ามาขายในกองถ่ายก็ทำให้เธอเสียสมาธิ  เพราะความกลัวว่าจะมีคนรู้ว่าเธอเป็นแค่ลูกสาวแม่ค้าหาบเร่ แต่ปลายดาวไม่มีวันยอมให้ใครรู้ความจริงเรื่องนี้เป็นอันขาด เธอทำเป็นไม่รู้จัก ไม่สนใจ แต่เพื่อความปลอดภัยต่อชื่อเสียงที่เธอสร้างมาเธอต้องไปพูดกับมารดาของเธอให้รู้เรื่องดาวแอบออกมาพบแม่โดยที่ไม่ให้ใครเห็น

    แม่ แม่มาที่นี่ทำไม แม่กลับไปซะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก ปลายดาวโวยวายเสียงดังใส่มารดา

    “ดาว ดาวฟังแม่ก่อนลูก”

    “แม่ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แม่กลับไปเดี๋ยวนี้ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก แล้วนี่เงิน มันน่าจะพอกับค่าน้ำนมของแม่” ปลายดาวยัดเงินก้อนโตใส่มือมารดาแล้วเตรียมจะเดินจากไป

    คำพูดของบุตรสาวมันช่างเชือดเฉือนดวงใจของคนเป็นแม่ยิ่งนัก บุตรสาวคนเดียวมองเห็นคุณค่าความรักความห่วงใยของนางเป็นเงินตรา น้ำตาแห่งความเสียใจไหลออกมาเป็นสาย

    “ดาวเอาเงินของดาวคืนไปเถอะ แม่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายขนาดนี้หรอก แม่จะไปจากที่นี่ แล้วก็ไม่กลับมาอีกแน่นอน” จันทราส่งเงินคืนให้บุตรสาว “แต่แม่ขอกอดสักครั้งได้ไหมลูก ครั้งเดียว และครั้งสุกท้าย แม่คิดถึงลูกมากนะ” นางจะเข้ามากอดลูกสาวแต่ที่สิ่งที่ได้รับกลับคือ....

    “แม่อย่าเข้ามานะ เนื้อตัวแม่สกปรก อย่ามาโดนตัวหนูนะ อี้ ดาวแสดงท่าทางรังเกียจแม่ของตัวเองเต็มประดา

                    แต่จันทราไม่ได้ถือโทษโกรธลุกเลยแม่แต่น้อย นางกลับเข้าใจความคิดของลูกและยอมเดินจากลูกไปด้วยน้ำตา ทำใจยอมรับ เด็กสาวคนนั้นไม่ใช่ปลายดาวลูกสาวของเธออีกต่อไป

    ดาว ดาว ดาวได้เวลาถ่ายฉากต่อไปแล้วนะ” พัฒนาผู้กำกับชื่อดังที่ใครรู้จักหรือผู้กำกับนักเครมที่คนวงในต่างรู้เพียงแต่ไม่มีใครอยากพูดเท่านั้น

    “ดาวมาทำอะไรตรงนี้

    “ดาวแค่มาเดินสูดอากาศนิดหน่อย ไปถ่ายละครต่อเถอะคะ ดาวอยากกลับไปนอนพักที่โรงแรมจะแย่อยู่แล้ว”

    “แต่พี่อยากกลับไปทำอย่างอื่นมากกว่านะ”

                    ปลายดาวเข้าใจความหมายของผู้กำกับจอมหื่นดี เส้นทางนางเอกของเธอไม่ได้สวยงามโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนเข้าใจ เธอแลกมันมาด้วยชีวิตนั่นเลยทำให้เธอยอมเสียมันไปง่าย ๆ ไม่ได้

                    ผ่านไปสองสัปดาห์ ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของปลายดาวหายไป เธอยังเป็นนางเอกในใจประชาชนเหมือนเดิม

                    และเช้าวันนี้ปลายดาวกำลังจะเข้าไปถ่ายทำรายการรายการหนึ่งที่สตูดิโอ เนื่องจากตอนนี้เลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงทำให้เธอรีบเดินไม่ทันได้มองว่ามีใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงทางที่เธอเดินมา

                    “โอ๊ย ใครมายืนขวางทางเนี่ย คนกำลังรีบ”

                    “ดาว ดาวจริง ๆ ด้วย พี่ดีใจจริง ๆ ที่เธอดาวที่นี่” นิตยาเป็นคนบ้านเดียวกับปลายดาว เธอรับอาสามาตามหาปลายดาวเพื่อให้ได้กลับไปทำหน้าที่ลูกครั้งสุดท้าย

                    “เธอเป็นใคร ฉันไม่รู้จักเธอ หลบไป ฉันรีบ”

                    “ดาวพี่นิดไง บ้านเราอยู่ใกล้ ๆ กัน จำพี่ไม่ได้เหรอ”

                    “นิดไหนฉันก็ไม่รู้จักทั้งนั้น ไปให้พ้น ๆ อยากได้ลายเซ็นเหรอ เอากระดาษมาสอเดี๋ยวจะเซ็นให้”

                    “พี่ไม่ได้อยากได้ลายเซ็นของดาราดังอย่างเธอหรอก เธอจะจำพี่ได้หรือเปล่าพี่ไม่สนใจ แต่วันนี้ที่พี่มา พี่มีเรื่องสำคัญจะมาบอกดาวเท่านั้น น้าจันทร์เสียแล้วนะ ดาวกลับไปกราบแม่สักครั้งนะ พรุ่งนี้จะถึงกำหนดฌาปนกิจแล้ว”

                    ปลายดาวอึ้งไปกับข่าวร้ายที่ได้รับรู้ เธอเสียใจกับการจากไปของมารดา แต่ถ้าเธอไปชีวิตของเธอต้องจบลงแน่ ๆ

                    “พี่กลับไปเถอะพี่นิด ฉันไปกับพี่ไม่ได้จริง ๆ” ปลายดาวเดินหนีไป

                    “ดาว อย่าเพิ่งไป พี่ขอร้องกลับไปกราบศพแม่สักครั้งเถอะนะ น้าจันทร์รักดาวมากนะ”

                    “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไปไม่ได้”

                    “แล้วดาวจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

                                   

                    เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับล้วนเป็นข่าวของปลายดาวดาราสาวดวงรุ่ง ที่ตอนนี้ได้ฉายานามใหม่ว่าดาราสาวจอมลวงโลก ปลายดาวเครียดจนต้องพึ่งยานอนหลับ เธอโดดสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

    นี่มันอะไรกันดาว ทำไมไม่ระวังตัว ให้ข่าวแบบนี้ออกมาได้ยังไง ทันต์ที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของปลายดาวต่อว่าหญิงสาวทันที

    ดาวไม่รู้ว่าข่าวมันออกมาแบบนี้ได้ยังไง

    แล้วที่นี้จะเอายังไง เธอดับแน่ดาว ดาวจะตกก็คราวนี้แหละ

    ไม่นะคะพี่ทันต์ พี่ต้องช่วยดาวนะ กว่าดาวจะมีวันนี้ดาวต้องแลกมันมาด้วยอะไรพี่ก็รู้ หญิงสาวน้ำตาอาบแก้ม

    พี่จะพยายามแล้วกัน แต่ไม่รับปากหรอกนะ ดาวก็รู้ว่าพี่พัฒน์เป็นคนยังไง

                    บ่ายวันนั้นทันต์ได้สั่งให้ตี่โทรนัดนักข่าวมาฟังการแถลงข่าวจากปากของปลายดาว ก่อนหน้านั้นก็ได้ซักซ้อมบทพูดกันเรียบร้อยแล้ว

    เรื่องที่เกิดขึ้นน้องดาวจะว่ายังไงคะ ครั้งนี้มีหลักฐานเป็นคลิปเสียงด้วยนะคะ

    คลิปเสียงนี้ดาวไม่รู้นะคะว่ามีใครที่ต้องการใส่ร้ายดาวเขาทำขึ้นมาหรือเปล่าปลายดาวเล่นละครบทนางเอกเจ้าน้ำตาต่อหน้านักข่าวเรียกคะแนนความสงสาร

                    เมื่อดาวตอบไปเช่นนั้น นักข่าวอีกคนจึงถามขึ้นมาอีก “แล้วน้องดาวพอจะบอกได้มั้ยคะว่าแม่ของน้องดาวเป็นใคร แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน”

                    “แม่ดาวเสียชีวิตไปนานแล้วคะ ตอนนี้ครอบครัวของดาวไม่เหลือใครอีกแล้ว” นางเอกสาวกล่าวความจริงเพียงครึ่งกับนักข่าว

                    นักข่าวถามคำถามกับนางเอกสาวอีกหลายคำถาม เธอสามารถตอบได้ทุกข้อกล่าวหาและยังทำให้นักข่างเบนประเด็นความสนใจไปที่ดาราที่เป็นคนให้ข่าวจนเธอต้องหลบหน้าไม่กล้าออกมาพบใครไปหลายวัน ดาราสาวคนนั้นโกรธและเกลียดปลายดาวมากขึ้น จึงคิดที่จะหาวิธีเปิดเผยความจริงนั้นให้ได้

     และโอกาสของเธอก็มาถึงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจอีกครั้ง

              นิตยากลับมาหาปลายดาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอมาพร้อมกับโกศบรรจุอัฐิมารดาของปลายดาว

                    “มาที่นี่อีกทำไม ฉันบอกพี่แล้วไงว่าฉันกลับไปบ้านไม่ได้”

                    “ดาวไม่ต้องกลับไปไหนทั้งนั้น พี่พาน้าจันทร์มาหาดาวแล้ว”

                    ปลายดาวเห็นโกศบรรจุอัฐิทรงเจดีในมือนิตยาก็ยืนนิ่ง ยืนมองนิ่ง แต่แล้วเธอก็ตัดใจกล่าวออกไป “พี่พาแม่กลับไปเถอะ แล้วลืมไปว่ามีนังดาวคนที่พี่เคยรู้จักเสีย” ปลายดาวเตรียมจะเดินออกไป แต่เมื่อมองไปที่หน้าประตูทางออกก็พบกับกองทัพนักข่าวกำลังเดินตรงมาที่เธอ “นักข่าว” ปลายดาวคิดหาทางหนี แต่สายไปแล้วนักข่างรุมล้อมเธอจนไม่มีทางหนี

                    “พี่ ๆ คะ ทางนี้ค่ะ พี่จะได้รู้ความจริงกันเสียที”

                    “น้องดาวมีอะไรจะอธิบายมั้ยคะ”

                    นิตยางงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอมาที่นี่เพียงต้องการให้ปลายดาวได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีสักครั้งเท่านั้น แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น

                    “คุณเป็นญาติกับน้องดาวหรือเปล่าคะ”

                    “เปล่าคะ เราแค่บ้านใกล้กันเท่านั้น”

                    “บ้านใกล้กัน หมายความว่ายังไงคะ ไหนน้องดาวบอกว่าโตที่เมืองนอกไงคะ”

                    “เมืองนอกที่ไหนละคะ บ้านนอกต่างหาก”

                    ปลายดาวหน้าซีดเผือด ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวไหนมาบอกกับนักข่าว นิตยาพอได้ฟังเรื่องราวก็พอจะจับใจความได้บ้าง เธอไม่เคยรู้เรื่องการโกหกชาติกำเนิดของปลายดาวมาก่อน ข่าวบันเทิงเธอก็แทบไม่ได้ติดตาม

                    “ใช่คะ ดาวโกหก ดาวเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่มีความฝันว่าสักวันจะเป็นดารา...” ปลายดาวเบื่อที่ต้องโกหก เธอรู้แล้วว่าวางการนี้เป็นวงการมายาจริง ๆ เธอผิดที่หลงระเริงกับชื่อเสียงเงินทางที่ได้มา เธอผิดที่เห็นความรักความห่วงใยของแม่เป็นค่าเงิน

                    และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ปลายดาวคิด เธอถูกปลดออกจากพีเซ็นเตอร์ทุกรายการ ละครที่ติดต่อมาแต่ยังไม่ได้เริ่มการถ่ายทำก็ถูกบอกเลิก พัฒนาก็ขาดการติดต่อ ปลายดาวไม่เหลือใครเลย เธอเหมือนอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวในโลกใบใหญ่

                    “ดาวกลับบ้านเราเถอะ ที่นั่นทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยดาวนะ”

                    “พี่นิด” ปลายดาวร้องไห้โฮโผเข้ากอดนิตยาไว้แน่น

                    “กลับบ้านเรานะ ที่นี่ไม่เหมาะกับเราหรอก”

                    ปลายดาวตัดสินใจกลับบ้าน กลับไปอยู่ในที่ที่เธอควรจะอยู่

                    ประชาชนหลายคนที่รักและชื่นชอบในฝีมือการแสดงของปลายดาวรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของดาราสาว แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะให้อภัยเมื่อนาวเอกสางออกมาขอโทษกับการกระทำของเธอ และทุกก็รู้สึกเสียใจที่ดาราในดวงใจตัดสินใจลาออกจากวงการมายา

                    ปลายดาวพาแม่กลับมาที่บ้าน สร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ แต่มันคงจะสายไปเพราะวันนี้แม่ของเธอคงไม่มีโอกาสได้อยู่บ้านหลังนี้อีกแล้ว

                    “แม่จ๋า ดาวขอโทษที่ดาวเป็นลูกที่เลว แม่ยกโทษให้ดาวนะ”

                    วิญญาณของจันทร์ทรากำลังจ้องมองบุตรสาวด้วยสายตาห่วงหาอาทร นางไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดบุตรสาวของนางเลยแม่แต่น้อย หลังจากหมดห่วงวิญญาณของจันทร์ทราก็ค่อย ๆ เลือนหายไปกับอากาศ

                    “ดาวคิดดีแล้วเหรอที่จะบวชชี”

                    “ดาวคิดดีแล้วพี่นิด ดาวอยู่กับความโลภ โกรธ หลงมานานแล้ว ดาวอยากจะอยู่อย่างสงบบทเส้นทางสายธรรม พี่นิดย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้นะ ดาวยกให้พี่ แล้วนี่เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ดาวมี ดาวฝากให้พี่ไว้ใช้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งพี่ช่วยเอาไปทำบุญที่ไหนก็ได้”

                    “ดาว แต่...”

                    “พี่อย่าขัดฉันเลย ให้ฉันได้ทำตามที่ฉันต้องการเถอะ ฉันรู้ว่าบาปที่ฉันทำ ไม่มีมันลบล้างด้วยบุญที่ฉันทำได้หรอก แต่ฉันก็อยากจะทำอะไรดี ๆ สักอย่างเพื่อตัวเอง เพื่อแม่บ้าง”

                    “งั้นพี่ก็ขออนุโมทนาด้วยนะดาว”

                    เส้นทางชีวิตใหม่ที่ปลายดาวเลือกช่วยชำระล้างจิตใจของเธอให้สงบมากขึ้น เธอมีความสุขกับชีวิตทางธรรม และเข้าใจสัจธรรมมากขึ้น

     

    “กรรมดี ไม่สามารถลบล้าง กรรมชั่ว ที่ก่อได้”

     

    ...จบ...

     

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×