คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
- ได้เป็นตัวแทนแข่งยิงธนู
- แข่งการสอบจีเนียส เวิลด์ ได้ชนะเลิศ
- และเป็นคนหล่อ ก๊ากๆ (หลงตัวเองมาก:คนแต่ง)
“พี่เชนค่ะขอลายเซ็นได้ไหมค่ะ” สาวน้อยตัวเล็กน่ารักกำลังยืนปกซีดีของวงผมให้พร้อมปากกา “ได้ครับ^^” ผมรับมาแล้วยิ้มบางๆให้เธอ สาวน้อยได้แต่ก้มหน้าม้วนอายไม่สบตา “นี่ครับ” ผมยืนให้พร้อมเดินจากไปปล่อยให้สาวน้อยคนเมื่อกี้วิ่งแจ่นไปที่กลุ่มเพื่อนๆของเธอที่กำลังยืนกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ ตอนนี้ผมอยู่ เกรด 12 ถ้าเทียบกับโรงเรียนไทยก็ มัทยมปลายปีที่ 6 วันนี้ผมกลับบ้านดีกว่าผมสังเกตเห็นป้ายจัดงานที่โรงเรียนวันนี้มีกิจกรรมนอกห้องเรียนผมละเบื่อกิจกรรมพวกนี้ที่สุดเลย ขณะที่ผมกำลังเดินออกจากโรงเรียนและกำลังคิดจะโทรเรียกคนขับรถมารับอยู่นั้นเองก็ได้ผมรถเก๋ง สีแดงคันคุ้นตาของเพื่อนผม “ไงเชน!” ชายหนุ่มผมสีทองตาสีน้ำข้าวทักทายผมด้วยความคุ้นเคยกัน “ว่าไง คริส คิดถึงหรอจ๊ะ^^” ผมพูดแล้วยิ้มกวนอารมณ์ “- -โห
มาแบบนี้ไปไม่ถูกเลยวะขึ้นมาดิเราไปส่งมีเรื่องจะคุยด้วย” “ได้สิ” ตอบรับเสร็จผมก็ขึ้นรถไปกับมันทันที “ตกลงมีธุระอะไรหรอวะ” ผมถามมันเมื่อเราขับรถออกมาสักพัก “พ่อฉันไม่สบายและมีปัญหาที่ต่างประเทศเชนก็รู้ว่าน้องเราอยู่คนเดียวกับเราตั้งแต่แม่แต่งงานใหม่จะไปฝากใครก็ไม่ได้แถมธุระมันด่วนมากเลนเราต้องไปวันนี้เลยอยากฝากบ้านกับน้องสาวด้วยน้องเราแค่ 11 ขวบ” “เห้ย! เรายังไม่เคยเจอน้องนายเลยนะแล้วต้องไปวันนี้หรอตอนไหน” “ตอนนี้แหละ!!” “เห้ย! จริงดิ” “เราเคยล้อเล่นด้วยหรอ” จู่ๆมันก็จอดรถแล้วก็ลงไปเปิดท้ายรถพร้อมหยิบกระเป๋าออกมาหนึ่งใบพอมองชัดๆ “กระเป๋าฉัน!!!” “ถึงแล้วนี้บ้านเราน้องเรากลับมาจากโรงเรียนแล้วนี้กระเป๋าเสื้อผ้าแม่บ้านที่บ้านนายจัดมาให้เรียบร้อยแล้วฝากบ้านด้วยนะบะบาย” “เห้ย!! ! ! ! คริสสสสสสสสสสสสส
เอ่อ
..” พูดจบมันก็ขับรถออกไปทันทีโดยปล่อยให้ผมยืนงงหน้าเอ๋อเหมือนความยิ้มที่สุพรรณบุรีหันไปรอบๆก็พบว่าผมยืนอยู่ที่หน้าบ้านของเพื่อนรัก ผมเลิกทำหน้าเอ๋อน้ำลายยืดและกำลังเรียกสติกลับมาและมองดูจากภายนอกก็ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่มากมายแต่ดูประดับตกแต่งไว้อย่างดีมีรูปปั้นโรมันโบราณประดับอยู่ที่สวนเล็กมากมายต้นไม้และดอกไม้ที่เน้นสีชมพูเป็นหลักให้ความรู้สึกแบบวิหารของเทพธิดาน้อยน่ารักน้องของคริสเพื่อนสุดที่รักนิสัยดีคบกันมาตั้งแต่ประถมก็คงต้องเป็นเด็กน่ารักพูดจาไพเราะฉลาดแน่ๆเลยคงเหมือน เทพธิดาน้อยละนะ คิดปลอบใจตัวเองไดสักพักจากนั้นผมก็ตัดสินใจเข้าในบ้านของ คริส ด้วยกุญแจที่มันให้ไว้เพราะเดี๊ยวไม่มีคนเปิดประตูเพราะที่บ้านมันไม่มีคนใช้และคนดูแลก่อนหนานี้มันอยู่กับน้องมันแค่สองคนมาตลอดตั้งแต่เด็กเพราะพ่อมันทำงานต่างประเทศนานๆกลับมาทีตอนแรกแม่ก็อยู่แต่พอน้องมันเกิดได้ 3 ปีแม่มันก็ทนอยู่กับการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ได้จนไปมีสามีใหม่และแต่งงานมีลูกกับชายที่เธอคิดว่าจะมีเวลาให้กันและกันทิ้งให้สองพี่น้องใช้ชีวิตกันลำพังโดยมีพ่อเป็นคนส่งเงินประทังชีวิตมาให้เดือนต่อเดือนแต่เงินนั้นก็เป็นจำนวนที่ทำให้อยู่กันได้แบบราชาราชินิที่เดียวเชียวแต่ก็อย่างว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ คริสเป็นคนซึมเศร้ามากเมื่อก่อนด้วยความที่เป็น ฝรั่งเลยไม่มีเพื่อนผมเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของมันและไม่นานพอเราสนิทกันเลยทำให้มันป๊อบตามไปด้วยและมีเพื่อนมากขึ้นมันก็เลยกลายมันคนสนุกสนานไม่คิดมากและคอยดูแลน้องสาวเป็นอย่างดีตามใจน้องทุกอย่างเพราะกลัวน้องมีปมด้อยและคอยโทรหากันคุยกันตลอดเวลาจนสาวๆที่โรงเรียนคิดว่ามีภรรยารออยู่บ้านกันเลยทีเดียว
ในบ้านถูกตกแต่งแบบอังกฤษโบราณไว้ผสมกับความน่ารักของลูกไม้เพดานสูงเหมือนวิหารกำแพงที่ขาวเหมือนอยู่ในสรวงสรรค์พรมสีแดงที่ตัดออกมาทำให้ห้องดูสดใส เสียงเพลงคลาสสิกที่ได้ยินเบาๆลอยมากระทบกับหูทำให้รู้สึกปล่อดโปร่งอย่างบอกไม่ถูกผมตัดสินใจเอากระเป๋าวางไว้ที่ห้องรับแขกและเดินสำรวจไปรอบๆจนเข้าไปพบกับสาวน้อยที่นั่งหันหลังให้ผมอยู่ในห้องสีชมพูที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น เกมต่างๆมากมายเมื่อมองดูดีๆพบก็พบว่าเธอกำลังวาดรูปอย่างมีสมาธิจนผมไม่อยากรบกวนแต่คงเป็นการเสียมารยาท “ขอโทษนะครับ” ผมพูดพร้อมยิ้มแบบเป็นธรรมชาติที่สุด(รอยยิ้มนี้กระชากใจสาวมานักต่อนักและนะครับ ก๊ากๆ) สาวน้อยสะดุ้งเล็กๆพร้อมค่อยๆหันมาช้าๆดวงตาสีน้ำข้าวแบบพี่ชายเธอกระพิบปริบๆและมองมาที่ผมเธอค่อยๆยืนขึ้นทำให้เห็นการสะบัดอย่างกับทวงทำนองดนตรีของผมสีน้ำตาลประกายทองลอนยาวถึงเอวทุกอย่างช่างเข้ากับผิวขาวอมชมพูและหน้าตาดั่งเทวดาปั้นมาอย่างตั้งใจที่สุดใบหน้าสวยดังเทพธิดาลงมาจุติลูกครึ่ง อังกฤษ-ลาว สวยขนาดนี้เลยรึไงนะผมรีบสะบัดความคิดทั้งหลายออกไปทันทีเมื่อคิดได้ว่านี่คือเด็กอายุแค่ 11 ขวบ เท่านั้น ฉะนั้น ผมควรสะบัดความคิด ทั้งหลายแหล่ ออกไปก่อน ที่ผมจะพูดต่อ ริมฝีปากสี ซากุระเล็กๆ ก็ เริ่ม ขยับ “มองอะไรยะ! !! ! น่าหงุดหงิดจริงๆน้ำลายไหลแล้วไอ้หื่นเชอะ! นี้หรอพี่เลี้ยงเด็ก สถุนตั้งแต่หน้าตาจนหน้าแต่งตัวไร้สกุลดูสถุนรุนชาติจริงๆ ดูหน้าก็รู้ว่าสมองคิดอะไรอัปรีย์อยู่ละสิ หยุดความคิดเลยนะยะคุกตารางมีไว้ขังคนลามกแบบแกนี้แหละ เหอะ!! ! !” โอ้ว! พระเจ้า นี่คือประโยคทักทายของน้อง เพื่อนรัก (แต่น้ำลายไหลจริงๆด้วยเช็ดๆ>,<) เราหรือนี่ช่างต่างกับคุณเพื่อนที่นิสัยแสนดีของเราจริงๆอยากจับแก้ผ้าแล้วหัวเราะใส่หน้าจริงๆว่าหน้าอกแบนๆ แบ๊น แบน แบ็น ไม่เกิดอารมณ์หรอก เฟ้ย! อุ วุ ฮ ะ ฮา ฮ ะ แต่ไม่เป็นไรๆแม่เคยสอนว่าอย่าตัดสินคนจากภายนอกลองกันใหม่อีกที “- - เอ่อ.. ผมเป็นเพื่อนของ คริสครับไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กและก็ไม่คิดจะทำอะไรน้อง เอ็มมี่ ที่น่าร๊ากน่ารักด้วยนะครับ^^” ผมแอบแซว ไปเล็กน้อย ด้วยความมั่นไส้ ผมไม่อยากเชื่อเลยเจอกันครั้งแรกก็เริ่มประโยคไม่น่ารักเอาซะเลยแต่เราเป็นผู้ใหญ่กว่าฉะนั้นต้องให้อภัยเด็ก
ยุบหนอพองหนอ
. “งั้นเหรอขอให้จริงละกันนะคำพูดกับสายตาหื่นๆของนายมันช่างไม่เข้ากันซะเลย” ผมทำหน้าหื่นตอนไหน หะ!! (น้ำลายไหลเชียวนะโว้ย อิอิ :คนแต่ง) ยัยเด็กผีหลงตัวเอง ได้แต่คิดไม่พูดออกไป ”ช่างเถอะๆตอนนี้ฉันหิวข้าวแล้วละนะฉะนั้นเราอย่าทะเลาะกันจะดีกว่านายก็ไปโทรสั่งอาหารมาให้ฉันซะสิมองหน้าอยู่ได้และก็เสียงกัดฟันกรอกๆฉันได้ยินนะอย่าทำบ่อยละเดี๊ยวจะติดเป็นนิสัยเอานะคุณพี่เลี้ยง” ร่างเล็กสั่งแบบยิ้มเยาะแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาหยิบรีโมท กดทีวีดู อย่างสบายใจเชิบนั่งไขว้ห้างด้วยน่าหมั่นไส้โว้ย!! ทำไมมารยาททรามจังก็บอกว่าเพื่อนพี่ชาย(อยากพูดหยาบๆว่ากูเพื่อนพี่มึงนะโว้ย!!) ใช้เหมือนผมเป็นพี่เลี้ยงจริงๆเลย ไม่เป็นไรๆเด็กหนอเด็กใจเย็นไว้ ทำให้ก็ได้
ยุบหนอพองหนอ
“งั้นเดี๊ยวพี่โทรสั่งนะครับอยากกินอะไรพิเศษไหมครับน้องเอ็มมี่” ผมทำใจดีสู้เสือ(น้อย)(ไม่)น่ารัก “ไม่หรอกฉันไม่เรื่องมากอะไรก็ได้แต่ฉันไม่กินผักไม่ชอบอาหารที่มีผลไม้ผสม ไม่กินของ เผ็ด ไม่กินของ มัน เค็มเกิน เปรี้ยวเกิน ก็ไม่เอาจริงๆแล้วฉันก็ไม่เรื่องมากนักหรอกนะอะไรก็ได้จะทอดหรือต้มก็ได้แต่อย่างเป็นแบบที่ฉันไม่ชอบก็พอแล้ว” โห
ไม่เรื่องมากยังยาวขนาดนี้ถ้าเรื่องมากผมไม่ต้องกลายร่างเป็นปุโรหิตเขียนพระบัญชาเลยรึไงนะ ไม่เป็นไร น่าโมโหโว้ย!
ยุบหนอต่อยให้ดั้งยุบเลยหนอเอ้ยๆๆไม่ใช่ๆ
“รอแปปละกันนะครับ น้องเอ็มมี่” ผมพูด พร้อมยิ้มแบบกัดฟันแล้วเดินไปหยิมโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ระหว่างที่ผม กำลังจะกดเบอร์ก็มีเสียงจากซาตานน้อยโผล่มา
“เรียกว่า คุณ เอ็มมี่สิไม่มีความนอบน้อมถ่อมตนเอาซะเลยนะ” ร่างเล็กพูดแบบไม่หันมาสนใจแถมยังดูทีวีไปเรื่อยๆ
“ผมเป็นเพื่อนพี่ชายหนูนะครับไม่ใช่คนใช้นะครับ เรียกว่าน้องถูกแล้ว”
ยุบหนอพองแน่หน้าแกเอ้ยไม่ได้ๆ
“แต่ฉันไม่สนิทกับนายนี่เรียกว่าคุณ เอ็มมี่ สิ” ร่างเล็กหมุนคอเอาคางมาพาดโซฟาแล้วมองมาทางผมแบบกวนๆ
“แหมยังไงเราก็คงได้อยู่ด้วยกันอีกยาวพี่ชายเรากับพี่สนิทกันม้ากมากเลยนะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักสนิทชิดเชื้อกันดีกว่าไหม
เพราะถ้าให้เรียกคุณมันจะห่างเหินกันเกินไปน้องคริสก็เหมือนน้องพี่นะแหละ” ผมพูดแบบยิ้มกัดฟันให้ตายสิเส้นเลือดในสมองผมมันจะแตกออกมาอยู่แล้วนะ
“ใครอยากเป็นน้องนายไม่ทราบ เหอะ พี่ชายหื่นๆแบบนี้ไม่เอาหรอก” ร่างเล็กพูดแล้วนอนลงที่โซฟาเอาหัวหนุนกับที่พักแขนและเอาขาพาดด้านบนของโซฟา
“ฮะฮะๆ เข้าใจล้อเล่นนะแต่พอได้แล้วมั้งครับ” ผมยังทำใจดีสู้ยัยปีศาจน้อยนี่อยู่
“ใครเพื่อนเล่นนาย ยะ!” เธอพูดแบบจริงจัง
ให้ตายสิกูแก่กว่านะโว้ยกุเพื่อนเล่นมุงหรออิเด็กเวร
“พอได้แล้วมั้งครับ”
“ทำไมยะไอ้จิต หื่น สถุล กาม”
“พอเถอะครับ” ผมเริ่มกัดฟันแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้โง่ ไอ้คนสมองนิ่ม”
“พอเถอะนะครับ+ +” ผมสาบานได้ว่าตอนนี้อาการผมเหมือนคนเลือดไปเลี้ยงไม่ถึงสมองมึนตึบไปหมดเลย
“ไอ้..ห๊า!!! !! !..นาย!!
กรี๊ด!! !! !! ! !” ยังไม่ทันรอให้คำพูดด่าทอมาต่อจู่ร่างกายผมก็ขยับไปเองผมจับร่างเล็กยกขึ้นสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วเดินขึ้นไปที่หน้าต่างชั้นสอง
“ปล่อยๆนะๆๆๆๆ ปล่อยฉันลงนะ คนบ้า” ร่างเล็กดิ้นไปมา
“ดิ้นมากเดี๊ยวก็ตกลงไปคอเล็กๆหักตายห่าค่าที่ซะหรอก ฮะ ฮะ ฮ่า ช่วยไม่ได้บอกให้พอได้แล้วก็ไม่เชื่อที่นี่จะขอโทษฉันได้รึยัง” พอทำชั่วแบบนี้ แล้วผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยเหอะๆ จะว่าไปหน้าต่างชั้นสองนี่ก็สูงเอาการนะนี่ลมโกรกมาเย็นได้ใจจริงๆ เย็นจดผมกำลังรู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรลงไป พอตั้งสติได้ก็มีหยดน้ำหยดลงมาที่หน้าของผม น้ำตาแน่ๆเลย โอ้วน่าสงสาร ไม่น่ามาอวดดีกับเราคงจะสำนึกแล้วละสิ -,.- O0o!! เห้ย! ไม่ใช่นิหว่า! ร่างเล็กช็อกมากน้ำลายฟูมปากสลบไปเลย ชิบหายแล้วกู อ๊ากๆๆๆๆ ทำไงดี ไม่น่าเลยเรา เอาไปที่ห้องนอนก่อนแล้วกันหวังว่าคงไม่เป็นไรมากนะ
เฮ้อ
แค่หลับไปสักพักก็คงตื่นไม่น่าทำเลยเราแต่ยัยเด็กนี่ก็น่าหมั่นใส้จริงๆนี่น่า แต่
เวลาหลับนี่น่ารักดีจังเลย ^^ เหมือนตุ๊กตาเลยเนอะ ดึกแล้วด้วยกว่าจะตื่นก็พรุ่งนี่เดี๊ยวเช็ดตัวซะหน่อยและก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนละกัน ไปเอาอุปกรณ์ก่อนดีกว่าเฮ้อ
ยัยเปี๊ยกเอ้ย ถ้าทำตัวน่ารักเหมือนเวลานอนคอยน่าเอ็นดูหน่อย
เอาละเริ่มจากถอดเสื้อ
เอิ่ม
มันจะเป็นการไม่เหมาะสมรึเปล่านะ นั่นสิ - -+
ความคิดฝ่ายอธรรม: ไม่มองก็พอแล้วถึงเห็นนิดเห็นหน่อยก็ถือว่าทำโทษที่ปากดีไงเหล่าคิดมากทำไหม
ความคิดฝ่ายธรรมะ: แต่ถ้าเขารู้คงเป็นปมเล็กๆในใจเขานะ
ความคิดฝ่ายอธรรม: สนใจทำไมทียัยนี่ด่าเราไม่เห็นคิดถึงจิตใจเราเลย
ความคิดฝ่ายธรรมมะ: นั่นเพราะเขาอายุน้อยกว่าแม่สอนว่าต้องให้อภัยคนนะ
ความคิดฝ่ายอธรรม: แต่การสั่งสอนเป็นสิ่งจำเป็นและถ้าเราไม่ดูแลเขาตอนเจ็บป่วยเราต่างหากที่ไม่ดีถ้าเราไม่เช็ดตัวเขา เขาอาจจะถูกเชื้อโรคทำร้ายแถมเสื้อชุดเก่าก็มีคราบสีครามน้ำลายนี่เรากำลังทำความดีอยู่ต่างหากละ!
แก๊ง!! ! ! k o ความคิดฝ่ายอธรรมชนะขาดลอย
ผมวางผ้าชุบน้ำ ที่ ลำคอของร่างเล็กแล้วค่อยๆซับไปถึงใบหน้า เส้นผมที่ปรกหน้าดูบดบังผิวแก้มเนียนผมจึงรวบผมของเธอให้ด้านบน ผมเอาผ้าเช็ดที่แขน และ ขา ของร่างเล็ก แม้กระทั่งเท้าของเธอ “เอาละที่นี้ก็เช็ดด้านใน -\\\- เอ่อ
.เริ่มปอดแหกซะแล้วสิ อื้ม,
เอาละ .////. กระดุมเม็ดแรกอยู่นี้แกะเลย” ผมเริ่มลงมีปลดกระดุมเสื้อเธอออกที่ละเม็ดด้วยความอายสุดๆ ได้แต่ภาวนาว่า เด็กๆน้องเขาเป็นเด็กอย่าใส่ใจรีบเช็ดรีบไปนอน กางเกงเป็นยางยืดเอาละนะค่อยๆดึงผมยกขาเล็กๆขึ้นเพื่อจะถอดกางเกงออก “อื้ม
.” อ๊ากๆๆๆอย่าตื่นนะซาตานนอนจงหลับอยู่ในนิทราต่อไปเถอะสาธุๆๆ ร่างเล็กเพียงแค่ครางในลำคอแล้วค่อยๆขดตัวมือเหมือนจะคว้าอะไรสักอย่างคงจะหนาวก็แน่สิโดนถอดเสื้อผ้าแถมเอาน้ำมาเช็ดตัวในหน้าหนาวแบบนี้ก็น่าอยู่หรอก ไม่ทันคิดอะไรต่อเธอก็คว้าโดนเสื้อผม “เฮ้ย
เดี๊ยวๆยัยเปี๊ยก อ๊าก
>///< ตายแล้วๆ” ผมโดนยัยนี่ดึงผมก็ไม่กล้าชักตัวหนีเพราะเดี๊ยวยัยนี่ตื่นมาโว้ยวายอยู่แบบนี่สักพักละกันผมเอาแขนอีกข้างขึ้นมากายหน้าพาก เพราะตอนนี้ผมปวดหัวจะตายแล้ว เปิดก็โอกาศให้ร่างเล็กเขามาซุกไซ้หาอุ่นไอจากผม ฮืม
.ตัวขาวแบบนี้เคยโดนแดดหรืออากาศข้างนอกไหมนะ ยัยเปี๊ยกนี่ เฮ้อ
วันนี่เหนื่อยเหหมือนกันนะ ขอหลับตาสักแปปหนึ่งคงไม่เป็นไรนะ
เช้าต่อมา บ้านของเอ็มมีเลีย(เอ็มมี่)
“อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เมื่อแสงตะวันขึ้นทำให้ใครต่อหลายคนตื่นแต่คงหายงัวเงียเพราะเสียงที่ดังมาจากบ้าน นิรนาม (แต่เราคงรู้กันดีว่าบ้านไหน) “นะ
นะ
นายทำอะไรลงไป..อยากตายใช่ไหม..ได้เลย” สาวน้อยน่ารักเมื่อวานตอนนี้ได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวไปซะแล้วตาแดงก่ำโตพอๆกับไข่ไก่กำลังมองมาทางผมยังกับจะถล้นออกมา ในมือมีรีโมททีวีเป็นอาวุรและชี้มาทางผมไม่ต้องบอกก็รู้ผมคงไม่รอด เป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายแน่เลย T^T แม่จ้าช่วยด้วยยยยย พรุ่งนี้ตอนเช้าคงมีหัวข่าวหน้าหนึ่ง ‘หนุ่มน้อยวัยใสตายในบ้านหลังหนึ่งอย่างน่าเวทนา สภาพศพโดนของแข็งทุบตาย ข้างมีรีโมทท้วมด้วยเลือดวางอยู่ ยังไม่ทราบตัวคนร้าย พบแต่เด็กน้อยน่ารักนั่งร้องไห้บอกว่าตัวเองโดนทำร้าย (เอ็มมี่:ฮ่าๆๆๆใครจะมาบังอาจสงสัยว่าคนฉันเป็นคนร้ายกันยะฮ่าๆๆๆๆๆ)’ แง้ๆผมตายแน่ “หยุดก่อนพี่อธิบายได้นะ!” “ตายซะเถอะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! !! !! !!” “ไม่นะ!โอ้ย! อ๊อก! อ๊ากกกกกก! โอ้ยโอ้ยๆๆๆ ! เจ็บแล้วๆๆ ToT แม่เจ้าแรงปีศาจชัดๆเลย” “ +o+*อารายน๊า! หน๊อย!!!!แบบนี้นายได้ตายยังเขียดแน่โว้ย!!!!”
ขออนุญาตเซ็นเซอร์ความรุนแรงระดับ S นะค่ะ ด้วยความเคารพ :ผู้แต่ง “อย่าบังอาจมาเซ็นเซอร์ฉันนะยัยบ้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ขอโทษค่ะๆๆๆ>/\<เชิญกระทื้บแบบไม่มีเซ็นเซอร์เลยค่ะ :ผู้แต่ง “ม่ายนะช่วยผมด้วยยยยยยยย” กรรมใดใครก่อก็รับเองละกันนะค่ะลาก่อน(ไปดื้อๆเลย):ผู้แต่ง
“นายมันสถุนและถ่อยจริงๆด้วยบังอาจมากเลยที่จับสาวสวยอย่างฉันทำเรื่องน่าอายแบบนี้นายต้องชดใช้ด้วยชีวิตนาย” ร่างเล็กหายใจติดขัดด้วยความเหนื่อยจากการกระทื้บผมอย่างเมามัน “ฉันขอโทษจริงๆต่อไปนี้จะให้ฉันทำอะไรก็ยอมแล้วเป็นการไถ่โทษไม่ว่าเธอต้องการอะไรฉันจะทำให้เธอเอง!!!” “แน่ใจนะว่านายจะรับปาก”
“แน่ใจสิในระยะเวลาที่อยู่นี้ฉันจะตามใจเธอดูแลเธอหาของที่เธออยากได้ทำกับข้าวล้างห้องน้ำฉะนั้นอย่าฆ่าฉันเลยนะT^T” ผมพูดแล้วเอามือกุบหัวที่มีเลือดไหลซิบๆลงมาที่หน้า “อืม
งั้นนายกำลังจะบอกว่ายอมเป็นสุนัทรับใช้ของฉันสินะ” “ใช่ๆฉันยอมหมดแล้ว” ผมรีบตอบตกลงกันทุกอย่างในวินาทีนี้เพื่อเอาตัวรอดไม่ว่าอะไรก็ตาม “นายผิดสัญญาเมื่อไรต้องโทษประหารนะรู้ตัวใช่ไหม!!” ร่างเล็กพูดขณะที่ยืนคล่อมบนตัวผมและมีรีโมททีวีชี้หน้าผมอยู่ “อะ
อืม” “ต่อไปนี้ นายจงเรียก ฉันว่า องค์ราชินี เดี๊ยวนี้!”
ความคิดเห็น