ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : งานเทศกาลก่อนเปิดเทอม
ซันซ่านั่งอยู่ที่หลังกลองชุด บนเวทีไม่ใหญ่เท่าไหร่ที่ตั้งอยู่ในโรงยิมที่ใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัย ในที่นี้..... มืด.... มีแต่ความมืด นอกจากมืดแล้่วยังมีความรู้สึกเย็นยะเยือก เขาคิดอยู่ในใจ อากาศเย็นแฮะ แล้วนั่น ควันอะไร...อ้อ... เครื่องพ่นควัน
"เซ็ททุกอย่างเรียบร้อยเหมือนตอนซาวด์เช็คดีมั้ย" เสียงอู้ๆ แหบๆ ดังมาจากด้านหลัง
"หือ..." ซันซ่าแปลกใจกับเสียงที่ดังขึ้น แต่แล้วสิ่งที่เรียกสติเขากลับคืนมา
"ต่อไปขอเชิญพบกับวง ซาลาตั้นนนนน!!!!" เสียงประกาศออกไมค์พร้อมกับไฟฟอลโล่ว์ที่ฉายส่องมาปะทะหน้าเขาสุดแรง สิ่งที่เร็วกว่าสติสัมปัญชัญญะทั้งหมดก็คือมือทั้งสองข้าง เขาชูมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วเคาะไม้กลองที่อยู่ในมือสี่ครั้งเป็นจังหวะ
1 2 3 4........
เสียงกีต้าร์หนักแน่นกดคอร์ทพาวเวอร์เสียงโหด ทันใดนั้นเสียงลีดส์กีต้าร์ท่อนขึ้นที่หนักหน่วงแต่รวดเร็วก็ดังรับขึ้นมา เบสทุ้มหนักกำลังกดตาม ซันซ่าไม่รอช้าในจังหวะนั้น เท้าขวาเหยียบกระเดื่องเข้าจังหวะที่คุ้นเคยราวกับเท้านั้นสั่งจังหวะได้
"สวัสดีน้องใหม่ทุกคน!!!" เสียงของชายผู้เป็นดั่งพระเอกของวงที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของเวที ไฟฉายไปที่เขาเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่เขาจะแสดงพลังเสียงกับเพลงร็อคที่ทำให้ผู้ชมด้านล่างที่เป็นนิสิตมหาวิทยาลัย ทั้งรุ่นพี่และน้องใหม่ พากันโยกเต้นไปตามเพลง
ตึกตึกตึกตึกโป๊ะ ตึกตึกตึกตึกตึกตึกตึก โป๊ะ
เสียงรัวสองกระเดื่องอย่างไม่คิดชีวิต และทุกจังหวะที่เขาตีลงไปบนกลอง นั่นคือสิ่งที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกทั้งสิ้น
..................
............
........
จบไปแล้วหนึ่งเพลง ไฟสว่างทั้งเวที ภาพข้างหน้าของเขาคือหลังของสมาชิกวงซาลาตั้น กีต้าร์ชั้นเชิงสูงดุโหดแต่เจ้าของเสียงกีต้าร์เป็นชายหนุ่มที่ดูสุภาพใส่แว่นตา ชื่อของเขาคือฉัทวันนี้เขาแต่งตัวร็อคเกินบุคลิกจริง ด้วยเสื้อกั๊กยืนแขนกุด กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบขาด
แน่นอนว่าโดน แจ๊ค มือเบสรุ่นพี่จอมเฮฮา หนุ่มผมยาวที่แต่งตัวอย่างพิถีพิถันสรรหาทุกครั้งที่ขึ้นเวที วันนี้ใส่เสื้อแจ็คเก็ตยาวประดับอาร์มโลหะแวววับ เหมือนวงวิชวลญี่ปุ่น แถมไม่ติดกระดุมเสื้อไม่รู้ว่าอยากจะโชว์ซิกแพคหรือว่าอะไร กางเกงเดปยีนส์ของเขาสีน้ำเงินสดมาก และรองเท้าหนังหัวแหลมแบบนักดนตรีร็อคแอนด์โรลด์อังกฤษเป็นสีหนังน้ำตาลออกแดง
กีต้าร์อีกคนเป็นสาวสวยแต่งหน้าแรง ผมตัดบ๊อบเท แถมย้อมสีขาวเฉพาะด้านหน้ากระจุกเดียว เธอคือจิ๊ด เธอสวนเสื้อยีนครึ่งตัว ข้างในเป็นเสื้อกล้ามลายขวางสีแดงดำ เลคกิ้งสีดำ และรองเท้าคอนเวิร์สกึ่งบู้ท
นักร้องนำเป็นรุ่นพี่จอมโหดเสียงดี กาจ ชายผู้ดูเหมือนปีศาจ ทั้งด้วยหน้าตา นิสัยโหดๆ และชุดการแต่งตัววันนี้ เสื้อหนังแบบสิงห์มอเตอร์ไซต์ สีดำ กางเกงยีนส์เดปสีเข้ม รองเท้าบู้ทดอคเตอร์มาร์ติน
ส่วนตัวเขา ซันซ่า วันนี้สวมหมวกหนังปีกสั้นๆ รอบหัว แต่ใส่แบบกวนๆ เปิดให้เห็นผมทรงไถอันเดอร์คัตซ้ายข้างเดียวแบบพังค์ เสื้อยืดสีดำที่มีรอยการเพ้นท์เองแบบหยาบๆ ดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไรเลย ผูกผ้าพันคอลายสก๊อตสีแดง กางเกงเดปยีนส์ และรองเท้ายี่ห้อแวนรุ่นคลาสสิคลายตารางหมากรุก
นี่คือรูปลักษณ์ของศิลปินในวงสลาตันที่ใครๆ เรียกว่าซาลาตั้นนนนน เป็นวงดังประจำมหาวิทยาลัยที่อยู่ห่างไกลแห่งนี้ ซึ่งจริงๆ ก็มีอยู่ไม่กี่วง ประมาณหกวงได้ แต่ที่ดังสุดๆ แค่สามวงนั้น สลาตั้นกำลังเป็นที่จับตาว่ากำลังไต่ขึ้นอันดับหนึ่ง ด้วยสโลแกนว่าเป็นวงที่ เล่นแนวไหนก็ได้ แล้วเล่นมันส์ทุกแนว
.............
จิ๊ดหันมาหาซันซ่าด้วยสายตาโมโหสุดๆ ปากขยับ
"มึง เมาเหรอ"
"เปล่านะเว่ย! ก็กินอยู่ด้วยกันไม่ใช่รึไงวะ" เขาตะโกนกลับ แต่ไม่ทันจะเถียงอะไรต่อ ฉัทก็ขึ้นกีต้าร์เพลงต่อไป ซันซ่าก็เช่นเดิม เขาตีกลองตามจิตใต้สำนึกได้อย่างเมามันส์ จะว่าไป จิ๊ดนั้นพูดถูก เขาเมา มันถึงมันส์สุดๆ อยู่อย่างนี้
..............
............
.......
วงสลาตั้นเล่นประมาณสี่เพลง เพลงที่สาม จิ๊ดเป็นคนร้อง เธอเป็นสาวที่มีคะแนนนิยมทั้งจากชายและหญิง นอกจากจะเป็นมือกีต้าร์แล้ว บางทีเธอก็เป็นนักร้องด้วย บางเพลงก็สลับให้กาจไปเล่นกีต้าร์เพราะเขาก็เล่นได้เก่งเหมือนกัน เพลงสุดท้ายพวกเขาเล่นกีต้าร์กันสามตัวและเพลงนี้ก็เป็นการดัดแปลงทำนองใหม่ของวงพวกเขาโดยเฉพาะ แต่เป็นเพลงดังพอที่จะให้ทั้งยิมร้องตาม ก่อนจบโชว์สกิลของนักดนตรีทั้งวง โดยซันซ่าก็ตีกลองแบบลุกขึ้นมายืนตีโชว์ลูกบ้า เขาทำโดยไม่ได้มีการคำนึงนึกคิดอะไรทั้งสิ้น เอาจริงๆ เขาไม่มีสติเลยด้วยซ้ำ
..............
..........
.....
หลังเวที ในขณะที่เสียงเพลงของวงต่อไปดังอยู่บนเวที ซันซ่าลงมานั่งที่กล่องอุปกรณ์ ดั๊มเพื่อนร่างยักษ์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ยกของอยู่ข้างล่างส่งขวดขุ่นๆ ใส่มือมือกลองหนุ่ม เขายกดื่มอย่างคนหิวน้ำจัดๆ แต่มีมือเหวี่ยงมาฟาดเข้าที่หัวเขาเต็มแรง น้ำมีฟองกระฉอกออกจากขวด เลอะเสื้อที่ดูเลอะแล้วของเขาอย่างหนัก
"จิ๊ดบอกว่าซ่าเมาก่อนขึ้นไปเล่นเหรอ แล้วนี่ยังจะกินอยู่อีก" เสียงของหญิงสาวที่เขาคุ้นเคย
"ง่ะ ที่รักคับ เราก็เล่นได้เหมือนไม่เมาน่ะแหละ ยังจะมันส์กว่าด้วยนะ อย่างอนเลยนะครับ นะฟองนะ" เขาแก้ตัวก่อนจะยกขวดดื่มอีกอย่างไม่เข็ด
"เล่นเร่งจังหวะนะซ่า คนดูฟังไม่ออกแต่กูรู้นะมึง" จิ๊ดสาวสวยที่ป๊อบที่สุดในวงเดินมาคว้าขวดในมือซันซ่าไป
"เหย อย่าบ่นไปเลยน่า กูขอโทษ มันไม่ได้เร็วกว่ากันเท่าไหร่หรอก" ซ่ายกมือทำท่าไหว้ประหลกๆ
"เอาจริงๆ นะซ่า จิ๊ดมันพูดถูก คนอื่นไม่เป็นไรหรอก แต่จิ๊ดมันต้องโซโล่เขบ็ดหลายชั้น มันลำบาก" ฉัทถอดแว่นตามาเช็ด
"อะไรอะ กูก็แดกเหมือนกับทุกคนนะเว่ย มาว่ากูคนเดียวได้ไง" ซ่าโวยวาย
"เอาๆ พอๆ ลงเวทีแล้วจะเมาก็เมา ไม่เมาก็จะถีบให้คราวนี้ ซ่ามึงอะต้องยอมรับนะ ถึงมึงจะตีกลองได้อยู่ในจิตใต่สำนึก เมายังไงก็ตีได้ แต่เร่งจังหวะมึงไม่รู้ตัวหรอก คราวหน้าอย่าดื้ออีก" แจ๊คเข้ามาแย่งหมวกซันซ่าไปใส่เองแล้วยีหัวซันซ่าเล่น สักพักเขาหันไปสะกิดเถ ซาวด์เอ็นจิเนียร์รุ่นเดียวกับซันซ่า
เถหยิบบุหรี่ส่งให้แจ๊คอย่างรู้กัน แจ๊คคาบบุหรี่ ยังไม่ทันเรียกใคร กาจก็เดินมาถึงแล้วยกไฟแช๊คจุดให้เพื่อน
"วงเราดูเหมือนเรทติ้งขึ้นนะ รุ่นน้องท่าจะชอบยัยจิ๊ดมากเลยหวะ พวกน้องงุ๊งงิ๊งคงจะเยอะแน่เลยเว้ย!ปีนี้ อีจิ๊ดมึงเตรียมรับจดหมายเทคลึกลับได้ เพียบแน่" กาจยิ้่มเจ้าเล่ห์
"พวกพี่ๆ นี่ชวนคุยเปลี่ยนประเด็นกันเฉยเลยนะ เอาจริงๆ ก็โอ๋ไอ้ซ่ามันทุกที มันถึงได้เป็นอย่างนี้ไง" จิ๊ดท่าทางจะหมั่นไส้ซันซ่ามาก
.......................
................
............
"เซ็ททุกอย่างเรียบร้อยเหมือนตอนซาวด์เช็คดีมั้ย" เสียงอู้ๆ แหบๆ ดังมาจากด้านหลัง
"หือ..." ซันซ่าแปลกใจกับเสียงที่ดังขึ้น แต่แล้วสิ่งที่เรียกสติเขากลับคืนมา
"ต่อไปขอเชิญพบกับวง ซาลาตั้นนนนน!!!!" เสียงประกาศออกไมค์พร้อมกับไฟฟอลโล่ว์ที่ฉายส่องมาปะทะหน้าเขาสุดแรง สิ่งที่เร็วกว่าสติสัมปัญชัญญะทั้งหมดก็คือมือทั้งสองข้าง เขาชูมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วเคาะไม้กลองที่อยู่ในมือสี่ครั้งเป็นจังหวะ
1 2 3 4........
เสียงกีต้าร์หนักแน่นกดคอร์ทพาวเวอร์เสียงโหด ทันใดนั้นเสียงลีดส์กีต้าร์ท่อนขึ้นที่หนักหน่วงแต่รวดเร็วก็ดังรับขึ้นมา เบสทุ้มหนักกำลังกดตาม ซันซ่าไม่รอช้าในจังหวะนั้น เท้าขวาเหยียบกระเดื่องเข้าจังหวะที่คุ้นเคยราวกับเท้านั้นสั่งจังหวะได้
"สวัสดีน้องใหม่ทุกคน!!!" เสียงของชายผู้เป็นดั่งพระเอกของวงที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของเวที ไฟฉายไปที่เขาเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่เขาจะแสดงพลังเสียงกับเพลงร็อคที่ทำให้ผู้ชมด้านล่างที่เป็นนิสิตมหาวิทยาลัย ทั้งรุ่นพี่และน้องใหม่ พากันโยกเต้นไปตามเพลง
ตึกตึกตึกตึกโป๊ะ ตึกตึกตึกตึกตึกตึกตึก โป๊ะ
เสียงรัวสองกระเดื่องอย่างไม่คิดชีวิต และทุกจังหวะที่เขาตีลงไปบนกลอง นั่นคือสิ่งที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกทั้งสิ้น
..................
............
........
จบไปแล้วหนึ่งเพลง ไฟสว่างทั้งเวที ภาพข้างหน้าของเขาคือหลังของสมาชิกวงซาลาตั้น กีต้าร์ชั้นเชิงสูงดุโหดแต่เจ้าของเสียงกีต้าร์เป็นชายหนุ่มที่ดูสุภาพใส่แว่นตา ชื่อของเขาคือฉัทวันนี้เขาแต่งตัวร็อคเกินบุคลิกจริง ด้วยเสื้อกั๊กยืนแขนกุด กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบขาด
แน่นอนว่าโดน แจ๊ค มือเบสรุ่นพี่จอมเฮฮา หนุ่มผมยาวที่แต่งตัวอย่างพิถีพิถันสรรหาทุกครั้งที่ขึ้นเวที วันนี้ใส่เสื้อแจ็คเก็ตยาวประดับอาร์มโลหะแวววับ เหมือนวงวิชวลญี่ปุ่น แถมไม่ติดกระดุมเสื้อไม่รู้ว่าอยากจะโชว์ซิกแพคหรือว่าอะไร กางเกงเดปยีนส์ของเขาสีน้ำเงินสดมาก และรองเท้าหนังหัวแหลมแบบนักดนตรีร็อคแอนด์โรลด์อังกฤษเป็นสีหนังน้ำตาลออกแดง
กีต้าร์อีกคนเป็นสาวสวยแต่งหน้าแรง ผมตัดบ๊อบเท แถมย้อมสีขาวเฉพาะด้านหน้ากระจุกเดียว เธอคือจิ๊ด เธอสวนเสื้อยีนครึ่งตัว ข้างในเป็นเสื้อกล้ามลายขวางสีแดงดำ เลคกิ้งสีดำ และรองเท้าคอนเวิร์สกึ่งบู้ท
นักร้องนำเป็นรุ่นพี่จอมโหดเสียงดี กาจ ชายผู้ดูเหมือนปีศาจ ทั้งด้วยหน้าตา นิสัยโหดๆ และชุดการแต่งตัววันนี้ เสื้อหนังแบบสิงห์มอเตอร์ไซต์ สีดำ กางเกงยีนส์เดปสีเข้ม รองเท้าบู้ทดอคเตอร์มาร์ติน
ส่วนตัวเขา ซันซ่า วันนี้สวมหมวกหนังปีกสั้นๆ รอบหัว แต่ใส่แบบกวนๆ เปิดให้เห็นผมทรงไถอันเดอร์คัตซ้ายข้างเดียวแบบพังค์ เสื้อยืดสีดำที่มีรอยการเพ้นท์เองแบบหยาบๆ ดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไรเลย ผูกผ้าพันคอลายสก๊อตสีแดง กางเกงเดปยีนส์ และรองเท้ายี่ห้อแวนรุ่นคลาสสิคลายตารางหมากรุก
นี่คือรูปลักษณ์ของศิลปินในวงสลาตันที่ใครๆ เรียกว่าซาลาตั้นนนนน เป็นวงดังประจำมหาวิทยาลัยที่อยู่ห่างไกลแห่งนี้ ซึ่งจริงๆ ก็มีอยู่ไม่กี่วง ประมาณหกวงได้ แต่ที่ดังสุดๆ แค่สามวงนั้น สลาตั้นกำลังเป็นที่จับตาว่ากำลังไต่ขึ้นอันดับหนึ่ง ด้วยสโลแกนว่าเป็นวงที่ เล่นแนวไหนก็ได้ แล้วเล่นมันส์ทุกแนว
.............
จิ๊ดหันมาหาซันซ่าด้วยสายตาโมโหสุดๆ ปากขยับ
"มึง เมาเหรอ"
"เปล่านะเว่ย! ก็กินอยู่ด้วยกันไม่ใช่รึไงวะ" เขาตะโกนกลับ แต่ไม่ทันจะเถียงอะไรต่อ ฉัทก็ขึ้นกีต้าร์เพลงต่อไป ซันซ่าก็เช่นเดิม เขาตีกลองตามจิตใต้สำนึกได้อย่างเมามันส์ จะว่าไป จิ๊ดนั้นพูดถูก เขาเมา มันถึงมันส์สุดๆ อยู่อย่างนี้
..............
............
.......
วงสลาตั้นเล่นประมาณสี่เพลง เพลงที่สาม จิ๊ดเป็นคนร้อง เธอเป็นสาวที่มีคะแนนนิยมทั้งจากชายและหญิง นอกจากจะเป็นมือกีต้าร์แล้ว บางทีเธอก็เป็นนักร้องด้วย บางเพลงก็สลับให้กาจไปเล่นกีต้าร์เพราะเขาก็เล่นได้เก่งเหมือนกัน เพลงสุดท้ายพวกเขาเล่นกีต้าร์กันสามตัวและเพลงนี้ก็เป็นการดัดแปลงทำนองใหม่ของวงพวกเขาโดยเฉพาะ แต่เป็นเพลงดังพอที่จะให้ทั้งยิมร้องตาม ก่อนจบโชว์สกิลของนักดนตรีทั้งวง โดยซันซ่าก็ตีกลองแบบลุกขึ้นมายืนตีโชว์ลูกบ้า เขาทำโดยไม่ได้มีการคำนึงนึกคิดอะไรทั้งสิ้น เอาจริงๆ เขาไม่มีสติเลยด้วยซ้ำ
..............
..........
.....
หลังเวที ในขณะที่เสียงเพลงของวงต่อไปดังอยู่บนเวที ซันซ่าลงมานั่งที่กล่องอุปกรณ์ ดั๊มเพื่อนร่างยักษ์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ยกของอยู่ข้างล่างส่งขวดขุ่นๆ ใส่มือมือกลองหนุ่ม เขายกดื่มอย่างคนหิวน้ำจัดๆ แต่มีมือเหวี่ยงมาฟาดเข้าที่หัวเขาเต็มแรง น้ำมีฟองกระฉอกออกจากขวด เลอะเสื้อที่ดูเลอะแล้วของเขาอย่างหนัก
"จิ๊ดบอกว่าซ่าเมาก่อนขึ้นไปเล่นเหรอ แล้วนี่ยังจะกินอยู่อีก" เสียงของหญิงสาวที่เขาคุ้นเคย
"ง่ะ ที่รักคับ เราก็เล่นได้เหมือนไม่เมาน่ะแหละ ยังจะมันส์กว่าด้วยนะ อย่างอนเลยนะครับ นะฟองนะ" เขาแก้ตัวก่อนจะยกขวดดื่มอีกอย่างไม่เข็ด
"เล่นเร่งจังหวะนะซ่า คนดูฟังไม่ออกแต่กูรู้นะมึง" จิ๊ดสาวสวยที่ป๊อบที่สุดในวงเดินมาคว้าขวดในมือซันซ่าไป
"เหย อย่าบ่นไปเลยน่า กูขอโทษ มันไม่ได้เร็วกว่ากันเท่าไหร่หรอก" ซ่ายกมือทำท่าไหว้ประหลกๆ
"เอาจริงๆ นะซ่า จิ๊ดมันพูดถูก คนอื่นไม่เป็นไรหรอก แต่จิ๊ดมันต้องโซโล่เขบ็ดหลายชั้น มันลำบาก" ฉัทถอดแว่นตามาเช็ด
"อะไรอะ กูก็แดกเหมือนกับทุกคนนะเว่ย มาว่ากูคนเดียวได้ไง" ซ่าโวยวาย
"เอาๆ พอๆ ลงเวทีแล้วจะเมาก็เมา ไม่เมาก็จะถีบให้คราวนี้ ซ่ามึงอะต้องยอมรับนะ ถึงมึงจะตีกลองได้อยู่ในจิตใต่สำนึก เมายังไงก็ตีได้ แต่เร่งจังหวะมึงไม่รู้ตัวหรอก คราวหน้าอย่าดื้ออีก" แจ๊คเข้ามาแย่งหมวกซันซ่าไปใส่เองแล้วยีหัวซันซ่าเล่น สักพักเขาหันไปสะกิดเถ ซาวด์เอ็นจิเนียร์รุ่นเดียวกับซันซ่า
เถหยิบบุหรี่ส่งให้แจ๊คอย่างรู้กัน แจ๊คคาบบุหรี่ ยังไม่ทันเรียกใคร กาจก็เดินมาถึงแล้วยกไฟแช๊คจุดให้เพื่อน
"วงเราดูเหมือนเรทติ้งขึ้นนะ รุ่นน้องท่าจะชอบยัยจิ๊ดมากเลยหวะ พวกน้องงุ๊งงิ๊งคงจะเยอะแน่เลยเว้ย!ปีนี้ อีจิ๊ดมึงเตรียมรับจดหมายเทคลึกลับได้ เพียบแน่" กาจยิ้่มเจ้าเล่ห์
"พวกพี่ๆ นี่ชวนคุยเปลี่ยนประเด็นกันเฉยเลยนะ เอาจริงๆ ก็โอ๋ไอ้ซ่ามันทุกที มันถึงได้เป็นอย่างนี้ไง" จิ๊ดท่าทางจะหมั่นไส้ซันซ่ามาก
.......................
................
............
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น