ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Celebs แบบรักฉบับคนดัง

    ลำดับตอนที่ #1 : Gossipy 1: หายนะ

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 54


     

     

     

     

    มิคาเอล เวสต์ ราชาเพลงร็อคผู้ล่วงลับเซ็นยกทรัพย์ทั้งหมด

    ให้องค์กรการกุศล

     

    พินัยกรรมราชาเพลงร็อค

    ตกชื่อลูกสาวขาเที่ยว

     

     

    “หัวเน่า ?”

     

     

     

     

     

    ปารีส เวสต์ เซเลบริตี้สาวคนดังกำลังเดินทางฝ่าฝูงสื่อมวลชนออกจากสำนักงานกฎหมายอีสเทิร์นด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าบอดี้การ์ดซึ่งเป็นไปอย่างทุลักทุเลหลังจากเข้าร่วมเปิดพินัยกรรมของ มิคาเอล เวสต์ ผู้เป็นบิดาเมื่อเวลา 12.45

     

    ดวงตาสีฟ้าจัดไล่ตัวอักษรที่อวดหราบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับแล้วนึกอยากล้วงปืนออกมาจากลิ้นชักแล้วจ่อขมับดับชีวิตตัวเองไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไม่ใช่เพราะพ่อของเธอไม่ยกมรดกให้หรอกนะแต่มันเป็นถ้อยคำที่เหมือนจะเยาะเย้ยออกหน้าออกตานั่นต่างหาก เผื่อว่าไอ้การจ่อขมับโดยมีหนังสือพิมพ์พวกนี้กองซับเลือดอยู่ตรงหน้ามันจะทำให้พาดหัวข่าวพรุ่งนี้มันเปลี่ยนมามีกระแสเห็นอกเห็นใจกันบ้าง

     

     

     

     

                    แต่ก็นั่นแหล่ะ...มันไม่มีทางเกิดขึ้นเมื่อเธอคือ ปารีส เวสต์ ปาร์ตี้นิสต์ขาวีน

     

     

     

                    ผมสีน้ำตาลอ่อนเหลือบทองยุ่งเหยิงถูกทำให้ยุ่งยิ่งขึ้นเมื่อเธอสอดนิ้วเรียวเข้าไปขยี้ระบายความเครียดเมื่อนึกถึงการเปิดพินัยกรรมเมื่อวานที่ทำให้เธอช็อคจนชาไปทั้งตัว มันเทียบไม่ได้หรอกกับความรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเธอสูญเสียบิดาที่เธอรักที่สุดไป เทียบไม่ได้เลยแม้ซักกระผีกแต่ถ้าความรู้สึกอึ้งน่ะ...มันเหมือนถูกต่อยใต้เข็มขัดจนร่วงไปกองกับพื้น

     

     

     

                    ทรัพย์สินทั้งหมดของข้าพเจ้า นาย มิคาเอล เวสต์ ขอยกให้องค์กรการกุศลทั้งหมด

     

     

     

                    “ทั้งหมด?” ปารีสจำได้ว่าเธอย้อนถามไปเสียงเบาแค่ไหนแต่ทนายประจำตระกูลของเธอก็ยังได้ยิน เขายิ้มให้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเลือดเย็นที่ซ่อนลึกเอาไว้หลังหน้ากากแห่งสุภาพชน ก็ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ...ทนายของพ่อของเธอนี่

     

                    “ครับ ทั้งหมด ถ้าอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเชิญดูเอกสารแนบในซองสีน้ำตาลที่แจกไปพร้อมด้วยกันเมื่อครู่” มือที่ถือซองสั่นจนควบคุมไม่อยู่ ปารีสสูดลมหายใจเข้าไปลึกสุดขั้วปอดก่อนจะผ่อนออกมายาวๆและยิ้มย้อนกลับไปอย่างเยือกเย็นเมื่ออ้าปากถามต่อ

     

                    “ฉันไม่สนหรอกว่ามันจะกระจัดกระจายจ่ายแจกไปที่ไหนบ้างน่ะ...ที่ฉันสนคือเหลือที่ฉันเท่าไหร่?” ฝ่ามือขาวที่สวมกำไลของชาแนลทุบโต๊ะปังแต่ทนายหน้าตายก็ไม่ได้สะดุ้งสะเทือน เขายิ้มและ...

     

                    “ทั้งหมดก็คือทั้งหมดครับ”

     

                    “เพนท์เฮาส์ของฉันด้วยเหรอ?” ริมฝีปากสวยที่เคลือบลิปกลอสสีนู้ดดูอวบอิ่มเปล่งเสียงแหลมจนฟังดูเหมือนกรีดร้องของคนที่ถูกบังคับข่มขืนใจถามย้ำถึงเพนท์เฮาท์ส่วนตัวบนตึกบีนสตอล์ค( Beanstalk) นัยน์ตาสีฟ้าแปลกเหมือนสีตาของแมวสยามสั่นระริกขณะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีฮาเซล

     

                    “ใช่ครับ...แต่ในพินัยกรรมกล่าวถึงเพียงแค่อสังหาริมทรัพย์เท่านั้นครับซึ่งเราจะนำเอาทรัพย์สินเหล่านั้นมาตีราคาและเปิดประมูลหรือแสวงหาหนทางให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทรัพย์ชิ้นนั้นๆก่อนจะนำเอาเงินทุกบาททุกสตางค์หลังหักค่าใช้จ่ายบริจาคให้องค์กรทางการกุศลดังที่ระบุเอาไว้ในพินัยกรรม”

     

                    “แต่นั่นมันบ้านฉันนะ...ที่ซุกหัวนอนน่ะ ไม่อยู่ที่นั่นแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหน”

     

                    “ทางเราทราบดีในเรื่องนั้นครับ ดังนั้นเราจะให้เวลาคุณในการขนย้ายทรัพย์สินที่ไม่ได้ระบุเอาไว้ในพินัยกรรมออกไปภายในหนึ่งเดือน”

     

                    “หนึ่งเดือน!?!

     

                    “แน่นอนว่าทางเราจะรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการขนย้ายให้...”

     

                    “แต่ฉันไม่มีที่จะไปโว้ย!

     

     

     

     

     

                   

     

    แล้วหลังจากนั้นก็เป็นภาพข่าวที่หรากลางหน้าหนึ่งของทุกเล่มตรงหน้าเรื่อง มิคาเอล เวสต์ บริจาคทรัพย์สินให้เป็นสาธารณะประโยชน์ทั้งหมดสมกับเป็นราชาเพลงร็อคผู้ที่ทั้งโลกให้ความรักแต่ในกรอบของหัวเรื่องเดียวกันกลับพูดถึงลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาในอีกความหมายหนึ่งที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง

     

     

     

                    นัยว่าฟากพ่อนั้นจรดปากกาเขียนถึงด้วยความแสนรักแต่ในรายลูกเขี่ยส่งๆอย่างแสนชัง

     

     

     

                    แต่เพราะ ปารีส เวสต์ ก็คือ ปารีส เวสต์  เซเลบริตี้ผู้เฉิดฉายเสมอท่ามกลางแสงสปอตไลท์ที่สาดพุ่งมาที่เธอทันทีที่ปรากฏตัว ณ.สถานที่ใดๆในฐานะลูกสาวเพียงคนเดียวที่มิคาเอล เวสต์ กล่าวเสมอว่าเธอคือโลกทั้งใบของเขา แสงสว่างอันอบอุ่นเพียงลำเดียวท่ามกลางแสงสีอันหลอกลวงของวงการมายา

     

                    นับแต่วันที่มิคาเอลพูดประโยคนั้นออกไปครั้งแรกมันก็เปลี่ยนชีวิตของเด็กทารกที่นักร้องหนุ่มอุ้มมาเปิดตัวในรายการทอล์คโชว์รายการดังหลังจากที่สื่อโหมข่าวนักร้องนำวง เลดี้ บั๊กส์ (Lady Bugs) ย้ายออกจากย่านฮาเร็มที่เจ้าตัวเคยปฏิเสธการโยกย้ายจากอพาร์ทเมนท์เก่าๆเสมอมาไปยังย่านอัปเปอร์ เวสต์ ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่มีราคาสูงมากและยังเป็นย่านที่แตกต่างจากย่านฮาเร็มราวกับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

     

                    เพื่อนในวงเลดี้ บั๊กส์หลายๆคนเลือกย่านหรูอย่างเบเวอรี่ ฮิลส์ มายืนยันฐานะการเงินที่เปลี่ยนไป คฤหาสน์หลังใหญ่บนพื้นที่กว้างขวางที่เป็นได้ทั้งสระว่ายน้ำรูปเต่าทองหรือลานจอดเครื่องบินเล็กส่วนตัว แต่ มิคาเอล เวสต์เลือกเพนท์เฮ้าส์หรูที่อยู่ด้านบนสุดทาวเฮาส์สุดเก่าแก่ในย่านอัปเปอร์ เวสต์ ที่ต่อมานักข่าวก็คุ้ยเคยกับที่นั่นดีในชื่อ “บีนสตอล์ค” ต้นถั่วยักษ์ที่เหล่าแจ๊คอยากจะปีนขึ้นไปให้ถึงยอดบนสุดให้ได้

     

                    ก็ข่าวหรือว่าภาพของเพนท์เฮาส์ชั้นบนสุดนั่นน่ะก็ไม่ต่างจากสมบัติที่แจ๊คในนิทานเจอหรอก ในเมื่อถ้าเอามันลงมาข้างล่างได้คำว่า “เศรษฐี” ก็นอนกระดิกนิ้วเรียกอยู่  ก็ที่นี่จัดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมขนาดที่ยุงสักตัวจะบินเข้าไปยังต้องตรวจแล้วตรวจอีกแต่ยิ่งยากเหล่าเหยี่ยวข่าวหรือปาปารัซซี่ยิ่งชอบเพราะค่าตอบแทนมันสูงดีนัก

     

                    ภาพชุดแรกที่หลุดมาคือภาพทารกในอ้อมกอดของนักร้องหนุ่มรูปงามกับทรงผมทรงสิงโตอันเป็นเอกลักษณ์ ภาพแรกนั้นเขากำลังจะก้าวเดินเข้าทาวเฮาส์ด้วยสีหน้าเหรอหราสองแขนเกี่ยวตะกร้าสานและถุงพลาสติกห้างใหญ่ที่ขายทุกอย่างเอาไว้ ภาพที่สองคือหญิงสาวที่ยื่นกระป๋องนมให้เขา และภาพที่สี่คือภาพชายหนุ่มผู้ได้ฉายา “เสือยิ้มยาก” ยิ้มให้สาวผมบลอนด์ทั้งสีหน้าและดวงตา

     

                    “ข้าวใหม่ปลามัน?”

     

                    พาดหัวใหญ่ที่เล่นโดยหนังสือแทปลอยด์เจ้าหนึ่งที่ทุ่มสุดตัวถึงขนาดยอมให้พื้นที่หน้าปกทั้งหน้าเป็นภาพของมิคาเอลเพียงคนเดียว รูปที่มิคาเอลยิ้มให้สาวผมบลอนด์นั่นเอง ตีกระแสนักร้องหนุ่มขวัญใจชาวประชาซุ่มเงียบครองคู่กับสาวบลอนด์คนสวยจนมีพยานรักมาฟ้องโลกสั่นคลอนความอยากรู้อยากเห็นให้เกิดขึ้นถ้วนทั่วทุกซอกทุกซอย หนังสือเล่มดังกล่าวก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนพิมพ์ออกมาไม่ทัน หนังสือพิมพ์เจ้าใหญ่ก็เทหมดหน้าตักเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ภาพมาเผยแพร่ต่อ สำนักข่าวต่างเล่นข่าวนี้จนกลบแม้กระทั่งข่าวการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่กร่อยไปทันตา

     

                    การฟาดฟันเพื่อให้ได้มาซึ่งข่าวที่สังคมเรียกร้องอยากล่วงรู้นั้นเริ่มลุกลามบานปลายจนใกล้จะเกินควบคุม ผู้คนมากมายแห่แหนมาที่บีนสตอล์คจนถนนคราคร่ำไปด้วยหญิงชายต่างวัยหลากเชื้อชาติ ทั้งหมดมาเพื่อหาคำตอบให้กับความสงสัยของตัวเองแต่ก็พบเพียงความเงียบงันของทาวเฮาส์สี่ห้องที่เรียงตัวดั่งเป็นปราการด้านหน้าให้กับเพนท์เฮาส์ที่ตั้งอยู่ด้านบนสุด

     

                    คืนนั้นเอง มิคาเอล เวสต์ ได้เดินทางไปออกรายการ “ดีส ไนท์” พร้อมเพื่อนในวงทั้งหมดโดยที่ในอ้อมกอดที่ประคับประคองทารกหญิงตัวน้อยอย่างระมัดระวัง

     

                    “สวัสดียามค่ำเหล่าบั๊กส์ทั้งหลาย แน่นอนคุณรู้จักผมดี...ผมมิคาเอล เวสต์ แห่งวง เลดี้ บั๊กส์ แต่คุณคงไม่รู้จักเธอ...” ดวงตาสีฟ้าจัดทอดลงมองทารกตัวกระจ้อยอย่างหลงใหลขณะเขี่ยปลายนิ้วแข็งๆไปที่แก้มนิ่มเหมือนมาชเมลโล่ ดวงตาที่ปิดอยู่ลืมขึ้นก่อนจะกรอกไปทางซ้ายและไล่ไปทางขวา นัยน์ตาสีแปลกที่ถอ

     

                    “ขอแนะนำสมาชิกอีกคน...นี่คือเลดี้ บั๊กส์จอมแสบของเรา ปารีส เวสต์”

     

                    ความสงสัยถูกแก้ไขพร้อมๆกับที่ดาวดวงใหม่เจิดจรัสขึ้น นับแต่นั้นมาชื่อ ปารีส เวสต์ ก็ไม่เคยเลือนหายไปจากหน้าข่าวหนังสือพิมพ์แม้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ข่าวในเชิงบวกสักเท่าไหร่และคนที่ตกเป็นข่าวก็ไม่ปลื้มใจสักนิด

     

     

     

     

                    ปารีสขยับกรรไกรตัดภาพข่าวของตัวเองอย่างประณีตแต่ไม่ใช่เพราะหลงใหลการอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์เหล่านี้แต่เธอกำลังสานต่องานอดิเรกของพ่อของเธอต่างหาก นั่นก็คือการตามเก็บข่าวของลูกสาวคนดีสะสมลงอัลบั้มวีรกรรม จำนวนก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่แค่สร้างหอจดหมายเหตุแห่ง ปารีส เวสต์ได้อะไรประมาณนั้น

     

                    เมื่อข่าวใหญ่แห่งศตวรรษถูกบันทึกอยู่ในที่ๆมันควรจะอยู่ บันทึกตราตรึงลงไปในประวัติศาสตร์ว่า นักร้องชื่อดังตัดหางปล่อยวัดนังลูกสาวตัวแสบ งามหน้ามั้ยล่ะ?

     

                    ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดทำให้เก้าอี้ทำงานที่ทำจากหนังเกรดเอดูกระด้างและร้อนรุ่มจนนั่งติดได้ไม่นาน ร่างสูงด้วยหุ่นที่เพรียวราวกับนางแบบแต่อุดมด้วยคุณลักษณะของสตรีครบครันจนหนึ่งในข่าวที่หนังสือพิมพ์เคยพาดหัวถึงเธอเมื่อตอนอายุสิบเจ็ดว่า

     

                    “ยกเครื่องฉลองวัยสาว” สำหรับหุ่นอันอวบอึ๋ม มันแปลกตรงไหนกับการที่เด็กโตเป็นสาวเต็มที่แล้วบังเอิญช่วงนั้นเธอเองก็หลงใหลกับเหล่าชีสชั้นดีจากโรงงานของแม่ม่ายสาวที่มาติดพันมือกลองบ้าระห่ำของวงเลดี้ บั๊กส์น่ะ ละเลียดเคียงไปกับไวน์ที่เพื่อนสนิทขาปาร์ตี้จัดมาปรนเปรอตอนก่อนนอนน่ะเหมือนขึ้นสวรรค์ชัดๆ...สวรรค์ที่ทำให้เด็กอายุสิบเจ็ดแทบคลั่งไปเลย

     

                    “อะนอแรกเซีย หรือ บูลีเมีย?” นี่คืออีกครึ่งปีต่อมาที่รูปร่างอันเคยอวบอัดยุบหายไป...ก็ใครจะทนโดนทั้งหนังสือพิมพ์ รายการทีวี ชาวบ้านร้านตลาดค่อนแคะทุกครั้งที่มีรูปถ่ายตัวเองในชุดบิกินี่เดินพุงทะลักอยู่ริมชายหาดน่ะ แต่ที่มันยุบหายไม่ใช่เพราะอดข้าวหรือล้วงออกสักหน่อย เบิร์นนิ่ง...เผาผลาญผ่านการออกกำลังล้วนๆ

     

                    เห็นรึยังล่ะว่า ปารีส เวสต์น่ะ ต่อให้แค่ผายลมก็คงเป็นข่าวดังปานทอร์นาโดเข้าอ่าวเม็กซิโก

     

                    เพราะฉะนั้นในเวลาที่เครียดแบบนี้มันก็ต้องผ่อนคลายสไตล์ ปาร์ตี้นิสต์ตัวจี๊ด วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ปล่อยให้มันเป็นไปคืนนี้ย่ำรุ่งให้มันจบๆเป็นพอ

     

                    คิดได้แบบนั้นก็สลัดชุดเก่าออกไปผลัดเอาชุดใหม่ลายพิมพ์ของแม๊คควีนเข้ามาสวมใส่ ในวันที่มีแต่เรื่องประดังประเดเข้ามาหาจนหัวของเธอแทบจะระเบิดไปด้วยบรรดาขยะที่ถูกสาดใส่ เพราะฉะนั้นก็ต้องไปล้างมันออกให้หมดแล้วจะมีวิธีไหนดีไปกว่า...

     

     

     

                    ปิ๊งป่อง! ปาร์ตี้น่ะสิ! จุ๊บ!!

     

                   

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×