ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : หมู่บ้านแมลง
ในทวีปแห่งดินที่ปกคลุมไปด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทุกคนเรียกที่นั้นว่า อิกทาเดีย ซึ่งทวีปนี้ติดกับทวีปแห่งไฟ ที่ปกคลุมไปด้วยทะเลทรายและภูเขาไฟใหญ่น้อย
ณ.บริเวณทุ่งกว้างแถวๆชายแดนที่เต็มไปด้วยแมลงนานาชนิด ที่นั้นมีหมู่บ้านเล็กๆอยู่ผู้คนที่นั้นอยู่กันอย่างสงบสุข
บริเวณทุ่งดอกไม้ ใกล้ๆหมู่บ้านได้มีฝูงผีเสื้อบินกันเต็มไปหมดจนหนาตา ทันใดนั้นก็มีเสียงแว่วมาแต่ไกล
“คาชิน คาชิน เจ้าต้องรีบไปเตรียมตัวเข้าพิธีได้แล้ว”
ทามกลางหมู่ผีเสื้อน้อยใหญ่ ได้มีเด็กชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ ผมสีน้ำตาลตาลสั้น นัยน์ตาสีเขียว เด็กชายคนนั้นยืนมือข้างขาวของเค้าออกไป พร้อมทั้งยกนิ้วขึ้น ทันใดนั้นก็มีผีเสื้อตัวหนึ่งบินลงมาเกาะที่ปลายนิ้วของเค้า เค้าค่อยๆนำมาใกล้ๆหน้าของเค้า พร้อมทั้งพึมพำและหัวเราะ ทันใดที่เค้าได้ยินเสียง เค้าก็หันไปมองที่ต้นเสียง ผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาที่เค้า เด็กชายก็ทำเป็นไม่สนใจพร้อมทั้งพึมพำ กับผีเสื้อที่ปลายนิ้วชี้ต่อไป เมื่อผู้หญิงผมยาวเดินเข้ามาถึงตัวของเด็กชายเธอก็ ตบหัวของเด็กชายอย่างแรง “ ตูบ !!” เด็กชายเอามือมาลูบบริเวณที่หัว พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“ โห พี่ มินท์ ผมกำลังสนุกอยู่เลยนะครับ อีกอย่าง พิธีนี้ผมก็ ไม่เห็นจะสำคัญไรเลย”
มินท์ก็กำมือแล้ว เขกลงไปที่หัวของน้องชาย
“ เธอนี้เป็นชะแบบนี้เรื่อยเลยนะ เมื่อไรจะได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแบบคนอื่นเค้ามัง”
คาชิน เถียง “ ก็ผมชอบแบบนี้ ชีวิตผม..........” คาชินไม่ทันจะพูดจบ มินท์ ก็ส่งสายตายข่มทันที คาชินเลยต้องเงียบ มินท์ทำท่าถอนหายใจ พร้อมกับจับมือของน้องชาย และออก เดินทางเข้าหมู่บ้าน
ระหว่างทางมินท์ ก็บ่นพึมพำให้คาชินฟังหลายๆเรื่อง คาชินทำไม่เป็นไม่สนใจพร้อมยังคอยพูดคุยกับเหล่าผีเสื้อที่บินตามมาต้อยๆ
“ คาชินเธอจะหยุดคุยกับผีเสื้อแล้วหันมาฟังพี่ได้มัย”
คาชินไม่ได้ยินที่ พี่สาวพูดเลยเค้ายังคุยกับผีเสื้อ อย่างสบายใจต่อไป มินท์ก็หันมาพร้อมทำตาเขียวๆ คาชินหันไปเห็นพอดี เค้ารู้สึกได้ว่าบรรยายกาศรอบๆตัวพี่สาว ดูเหมือนมีเงาแห่งความตายลอยอยู่ คาชินเปลี่ยนท่าทีมาสนใจพี่พูดอย่างตั้งใจ
“ คาชินถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้ แล้วเมื่อไรเธอจะเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มตัว”
“ อีกอย่าง วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอนะ ใครๆก็อยากมีวันแบบนี้”
คาชินไม่ค่อยสนใจที่พี่สาวของเค้าพูดเท่าไหร่เค้าแค่เงียบแล้วเดินตามพี่สาวไปเรื่อยๆสายลมที่พัดผ่านมาที่ทุ่งแห่งนั้นได้นำกลีบดอกไม้นานาชนิด ผมของพี่สาวปลิวไปตามสายลมอย่างสวยงาม ในผมของเธอมีเหล่าผึ้งโบยบิน ออกมาเพื่อระวังภัยให้ คาชินจ้องมองผึ้งเหล่านั้นพร้อมกับพึมพำกับผึ้ง ไม่นานเมื่อสายลมสงบ ผึ้งพวกนั้นก็กลับเข้าไปตามเส้นผมของมินท์ตามเดิม ในกระเป๋าสะพายของเธอ คือรังผึ้ง เธอจะเอามันไปตลอด
เมื่อทั้งคู่เดินผ่านบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ บ้านหลังนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้แล้วไม้เลื้อยต่างๆเมื่อตะวันใกล้ลาจากท้องฟ้า คาชินก็ได้ยินเสียงเพลง จากต้นไม้นั้น เสียงเพลงเหล่านั้นใช่ของมนุษย์ไม่
เค้าเดินตามเสียงเพลง ไป เมื่อเค้าเดินไปถึงใต้ต้นไม้ใหญ่เสียงเพลงที่ขับขานก็หยุดเงียบหายไป เค้าเงยหน้าขึ้นไปมอง เค้าก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากกิ่งก้านใบไม้เท่านั้น
คาชินมองไปรอบตัวของเค้า ก็เห็นเพียงพื้นหญ้าและดอกไม้ คาชินเดินวนไปวนมาพร้อมมองหาบ้างสิ่งบ้างอย่าง จนมินท์ตะโกนเรียก
“คาชิน ทำบ้าไรอยู่นั้นรีบมาได้แล้วไม่งันหน้าดูแน่”
คาชินถอนหายใจแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปหาพี่สาวโดยทันที เมื่อเค้าวิ่งไปได้สักพัก เสียงเพลงเหล่านั้นก็ขับขานขึ้นมาอีกครั้ง คาชินหันไปมองแต่ก็ทำไรไม่ได้ เค้าคิดว่าต้องไปหาพี่สาวขี้โมโห ก่อนไม่งันเราตายแน่ เมื่อวิ่งไปถึงพี่สาว ทั้งคู่จึงออกเดินต่อ
คาชินก็ค่อยๆทำหน้าคิดไรบ้างอย่าง จน พี่สาวต้องถาม
“คาชิน เป็นไร? โกรธพี่เหรอไง”
คาชินตอบ
“เปล่าหรอกแค่มีบ้างอย่าง ที่ผมกำลังสงสัยอยู่”
พี่สาวถามกลับ
“มีไรสงสัยละถ้าพี่ตอบได้พี่ก็จะตอบให้แต่ถามนอกเรื่องโดนอัด”
คาชินหันไปมองมินท์ พร้อมทำหน้าว่า ตูควรถามดีมัยนี้
“ พี่มินท์เสียงเมื้อกี้คือเสียงไรอ่ะ ผมได้ยินทุกวันแต่พอไป มองหามันก็เงียบไปชะงัน ทำให้ผมอยากรู้ว่าต้นเสียงคือไร”
พี่สาวยิ้มให้คาชิน พร้อมเอามือไปลูบหัวคาชิน
“ เธอนี้มันไม่รู้เรื่องเลยนะ อยู่ที่มาตั้งแต่เด็กแต่จำบ้านของ ท่านผู้เฒ่าอาแมนทิส ไม่ได้ชั่งน่าขำจริงๆ”
คาชินตอบกลับ
“ ก็ผมอ่ะวันๆก็ต้องอยู่แต่ที่ทุ่งดอกไม้แถวชายป่าของหมู่บ้านนี้ฮ่ะนานๆจะมาแถวนี้สักที และที่ผมสงสัยคือเสียงที่อยู่รอบๆบ้านนั้น”
เธอยิ้มแล้วพูดกับคาชิน
“ เสียงที่เธอได้ยินอ่ะ ก็คือเหล่า จิ้งหรีด และ จั้กจัน ที่อยู่รอบๆบ้านของท่านผู้เฒ่า พวกมันขี้อาย
มันจะไม่ยอมร้องเมื่อมีคนมา มีเพียงแค่ท่านผู้เฒ่าเท่านั้นละ”
คาชินถาม กลับทันที
“ถ้าผมคุยกับพวกมันดูมันอาจจะยอมร้องให้ผมฟังแบบใกล้ก็ได้นี้ครับ”
เธอตอบอย่างอย่างร่าเริง
“แล้วแต่จะคิดแล้วกันไอ้น้องตัวดี”
พอทั้งคู่เดินถึงหมู่บ้าน หมู่บ้านเต็มไปด้วยแสงไฟของหิ้งห้อยลอยไปลอยมา ทุกคนในหมู่บ้านกำลังจัดสถานที่ต่างๆให้เข้ากับงานพิธี พวกเค้าเรียกเหล่าแมลงมาช่วยจัดสถานที่ต่างๆด้วย
มินท์ก็บอกคาชินทันที เมื่อทั้งคู่มาถึง
“คาชินไปที่ทำพิธีเองละกัน พี่จะไปช่วยงานคนอื่นๆอีก”
คาชินเม้นปากแล้วตอบ
“ก็ได้ฮ่ะเดียวผมเดินไปเองได้”
ระหว่างทางทุกคนต่างมาแสดงความยินดีกับคาชิน เค้าก็ทักทายกับทุกคนไปเรื่อยคาชินมองดูคอกม้าเก่าๆที่ทุกคนกำลังจัดตกแต่งไปเรื่อย คาชินอ่านป้าย “การต่อสู้ชิงความเป็นหนึ่ง”
และเดินไปใกล้ๆหลังคอกม้านั้นเป็นป่าที่มืดมิด มันถูกเรียกป่าแห่งความตายบ้างละป่าที่ไร้เสียงบ้างละ และเรียกอีกต่างๆนาๆจากคนในหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านไม่มีใครคิดจะกล้าเข้าไปในป่านั้นชะคนเดียว คาชินรู้สึกกลัวทันที่เมื่อมองดูป่านั้นนาน มันทั้งมืดและเงียบ เหมือนกับมันจะดูดกลืนเค้าเข้าไป คาชินหันหลังกลับและเดินตรงไปที่เค้ากำลังจัดพิธี ระหว่างทางเค้าก็ชนเข้ากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอ ตะโกนก่อนที่จะหันหน้ามาหาคาชิ
“เดินบ้าไรนี้คนเค้ากำลังรอเข้าพิธีนะ”
เมื่อเค้าเห็นหน้าเธอก็ อุทานขึ้น
“ เดียน่า ”
เด็กหญิงนัยน์ตาสีฟ้าอ่อน ผมน้ำตาลสั้น ตบหน้าคาชิน ดังพลัว แล้วตะคอกใส่คาชิน
“ ตาบ้า รู้มัยเด็กคนอื่นๆเค้าคอยเธอคนเดียวนะ”
แล้วเดียน่าก็จับมือซ้ายคาชินพร้อมทั้งลากตัวคาชินไป คาชินได้แต่เดินตามเดียน่าไปเรื่อยแต่เดียน่าเดินเร็วมากจนเค้าชนกับผู้คนระหว่างทาง คาชินต้องคอย พูดคำว่าขอโทษเป็นระยะระยะ
เดียน่าจูงมือคาชินเค้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในบ้านนั้น มีเหล่าเด็กๆในหมู่พวกเค้ากำลังแต่งตัวกันอยู่เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธี เดียน่าส่งคาชินให้ป้าของเธอ
“ ป้าค่ะคาชินมาแล้วค่ะ”
ป้าตอบ “หนูเองก็แต่งตัวได้แล้วพิธีใก้ลเริ่มแล้ว เอาๆไปแต่งตัวชะไป”
ทั้งคู่ได้ อาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว จนร่างกายสะอาดสะอาน คาชินก้างแขนหมุนๆตัวไปรอบๆแล้วก็พูดขึ้นว่า
“วาว ชุดสวยสุดๆเลย”
เดียน่า เดินมาหาคาชินแล้วจับมือคาชิน พร้อมทั้งบ่น
“โตปานนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้เธอนี้นะ”
คาชินยิ้ม แล้วตอบกลับว่า
“ก็ทำแบบนี้แล้วมันมีความสุขนี้”
เดียน่า เขินจนหน้าแดงทันทีแล้วก็เดินจากคาชินไปหาเพื่อนคนอื่นโดยเร็ว
เสียงเพลง เริ่มพิธี ก็เริ่มดังขึ้น เหล่าเด็กมารวมตัวที่หน้าประตูบ้าน เมื่อประตูบ้านเปิดขึ้น เหล่าเด็กก็ค่อยก้าวเดิน ออกไป พวกเค้ารู้สึกเหมือนกับอยู่บน สวรรค์ เหล่าหิ้งห้อยมากมาย บินให้แสงนำทาง เสียงแมลงที่กำลังประสานเสียงไปกับคณะร้องเพลง ในใจของคาชินรู้สึกเต้นแรงมากจนผิดปกติในตาของคาชิน สะท้อนแสงของเหล่าหิ้งห้อยเป็นประกาย กลีบดอกไม้ ที่โปรยปรายลงมาตามต้นไม้น้อยใหญ่ คาชินมองไปข้างหน้าก็เห็นที่ทำพิธี มันถูก ปูไปด้วยใบไม้ใบวางซ้อนทับกันไปมา และก็มีเก้าอี้ ตั้งอยู่1ตัว เหล่าเด็กค่อยๆเดินเข้าไปในที่ทำพิธีและค่อยๆนั่งล้อมกันจนเป็นวงกลมล้อมรอบเก้าอี้ เมื่อทุกคนเข้ามานั่งครบทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงัดลง ทันที แสงของเหล่า
หิ้งห้อยก็ค่อยๆดับลง ทีละดวงทีละดวง บริเวณถูกปกคลุมไปด้วยความมืดสรัวเห็นเพียง เงารางๆ
คาชินเห็นเงาของคนๆกำลังเดินเข้ามาที่เก้าอี้และ ก็นั่งลง ทันใดนั้นหิ้งห้อยไม่กี่ตัวก็บิน มาวนไปวนมาที่เงารางๆนั้น จน คาชินเห็น ชายชราผมหนวดเครายาวสีขาวสะอาดคนหนึ่งนั่งกุมไม้เท้ามืออีกข้างถือถุงบ้างอย่างไว
ไม่นานนักชายชราก็พูดแนะนำตัวตัวขึ้น
“ข้าคือผู้เฒ่าอาแมนทิซ ผู้อาวุโส สูงสุดของหมู่บ้านนี้ ข้าเป็นเกรียต มากที่จะได้เป็นผู้ทำพิธีกรรมมอบสัญญาลักษณ์ให้แก่เหล่า เด็กน้อยที่กำลังจะก้าวเข้าไปสู่วัยผู้ใหญ่ ข้าเชื่อว่าพวกเค้าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและคอยปกป้องหมู่บ้านของเราไป ณ.บัดนี้ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่พวกเค้าจะได้รับหินสัญญาลักษณ์ของพวกเค้า”
ไม่นานนักผู้เฒ่าอาแมนทิชก็ค่อยๆเปิดถุงออก ภายในถุงนั้นมีแสงหลากสีสันที่เปล่งประกายแล้วแสงนั้น ค่อยๆออกมาจากถุงและค่อยๆลอยไปหาเด็กแต่ละคน เหล่าเด็กคว้าแสงเหล่านั้นไวทันทีเมื่อแสงเข้ามาหา แต่คาชิน กลับไม่มีแสงมาหาเค้า เลยแม้แต่ดวงเดียว คาชินเริ่มหน้าเสียพร้อมทั้งสงสัยว่าเค้าทำไรผิดไปหรือเปล่า ทำมัยตัวเค้าถึงไม่เหมือนคนอื่นๆ เค้าหันไปมองทางเดียน่า และก็เห็นเดียน่าคว้าแสงสีส้มจางๆไวเรียบร้อยแล้ว คาชินมองไปรอบและก็เห็นเพื่อนๆของเค้าทยอยได้กัน คาชินคิดในใจทันทีเพื่อปอบใจตัวเอง
“ไม่มีไรเกิดขึ้นหรอก รออีกสักพักเดียวก็มาเอง”
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็เหลือคาชินแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้คาชินเริ่ม สิ้นหวัง ทันใดนั้น
ณ.บริเวณทุ่งกว้างแถวๆชายแดนที่เต็มไปด้วยแมลงนานาชนิด ที่นั้นมีหมู่บ้านเล็กๆอยู่ผู้คนที่นั้นอยู่กันอย่างสงบสุข
บริเวณทุ่งดอกไม้ ใกล้ๆหมู่บ้านได้มีฝูงผีเสื้อบินกันเต็มไปหมดจนหนาตา ทันใดนั้นก็มีเสียงแว่วมาแต่ไกล
“คาชิน คาชิน เจ้าต้องรีบไปเตรียมตัวเข้าพิธีได้แล้ว”
ทามกลางหมู่ผีเสื้อน้อยใหญ่ ได้มีเด็กชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ ผมสีน้ำตาลตาลสั้น นัยน์ตาสีเขียว เด็กชายคนนั้นยืนมือข้างขาวของเค้าออกไป พร้อมทั้งยกนิ้วขึ้น ทันใดนั้นก็มีผีเสื้อตัวหนึ่งบินลงมาเกาะที่ปลายนิ้วของเค้า เค้าค่อยๆนำมาใกล้ๆหน้าของเค้า พร้อมทั้งพึมพำและหัวเราะ ทันใดที่เค้าได้ยินเสียง เค้าก็หันไปมองที่ต้นเสียง ผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาที่เค้า เด็กชายก็ทำเป็นไม่สนใจพร้อมทั้งพึมพำ กับผีเสื้อที่ปลายนิ้วชี้ต่อไป เมื่อผู้หญิงผมยาวเดินเข้ามาถึงตัวของเด็กชายเธอก็ ตบหัวของเด็กชายอย่างแรง “ ตูบ !!” เด็กชายเอามือมาลูบบริเวณที่หัว พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“ โห พี่ มินท์ ผมกำลังสนุกอยู่เลยนะครับ อีกอย่าง พิธีนี้ผมก็ ไม่เห็นจะสำคัญไรเลย”
มินท์ก็กำมือแล้ว เขกลงไปที่หัวของน้องชาย
“ เธอนี้เป็นชะแบบนี้เรื่อยเลยนะ เมื่อไรจะได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแบบคนอื่นเค้ามัง”
คาชิน เถียง “ ก็ผมชอบแบบนี้ ชีวิตผม..........” คาชินไม่ทันจะพูดจบ มินท์ ก็ส่งสายตายข่มทันที คาชินเลยต้องเงียบ มินท์ทำท่าถอนหายใจ พร้อมกับจับมือของน้องชาย และออก เดินทางเข้าหมู่บ้าน
ระหว่างทางมินท์ ก็บ่นพึมพำให้คาชินฟังหลายๆเรื่อง คาชินทำไม่เป็นไม่สนใจพร้อมยังคอยพูดคุยกับเหล่าผีเสื้อที่บินตามมาต้อยๆ
“ คาชินเธอจะหยุดคุยกับผีเสื้อแล้วหันมาฟังพี่ได้มัย”
คาชินไม่ได้ยินที่ พี่สาวพูดเลยเค้ายังคุยกับผีเสื้อ อย่างสบายใจต่อไป มินท์ก็หันมาพร้อมทำตาเขียวๆ คาชินหันไปเห็นพอดี เค้ารู้สึกได้ว่าบรรยายกาศรอบๆตัวพี่สาว ดูเหมือนมีเงาแห่งความตายลอยอยู่ คาชินเปลี่ยนท่าทีมาสนใจพี่พูดอย่างตั้งใจ
“ คาชินถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้ แล้วเมื่อไรเธอจะเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มตัว”
“ อีกอย่าง วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอนะ ใครๆก็อยากมีวันแบบนี้”
คาชินไม่ค่อยสนใจที่พี่สาวของเค้าพูดเท่าไหร่เค้าแค่เงียบแล้วเดินตามพี่สาวไปเรื่อยๆสายลมที่พัดผ่านมาที่ทุ่งแห่งนั้นได้นำกลีบดอกไม้นานาชนิด ผมของพี่สาวปลิวไปตามสายลมอย่างสวยงาม ในผมของเธอมีเหล่าผึ้งโบยบิน ออกมาเพื่อระวังภัยให้ คาชินจ้องมองผึ้งเหล่านั้นพร้อมกับพึมพำกับผึ้ง ไม่นานเมื่อสายลมสงบ ผึ้งพวกนั้นก็กลับเข้าไปตามเส้นผมของมินท์ตามเดิม ในกระเป๋าสะพายของเธอ คือรังผึ้ง เธอจะเอามันไปตลอด
เมื่อทั้งคู่เดินผ่านบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ บ้านหลังนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้แล้วไม้เลื้อยต่างๆเมื่อตะวันใกล้ลาจากท้องฟ้า คาชินก็ได้ยินเสียงเพลง จากต้นไม้นั้น เสียงเพลงเหล่านั้นใช่ของมนุษย์ไม่
เค้าเดินตามเสียงเพลง ไป เมื่อเค้าเดินไปถึงใต้ต้นไม้ใหญ่เสียงเพลงที่ขับขานก็หยุดเงียบหายไป เค้าเงยหน้าขึ้นไปมอง เค้าก็ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากกิ่งก้านใบไม้เท่านั้น
คาชินมองไปรอบตัวของเค้า ก็เห็นเพียงพื้นหญ้าและดอกไม้ คาชินเดินวนไปวนมาพร้อมมองหาบ้างสิ่งบ้างอย่าง จนมินท์ตะโกนเรียก
“คาชิน ทำบ้าไรอยู่นั้นรีบมาได้แล้วไม่งันหน้าดูแน่”
คาชินถอนหายใจแล้วตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปหาพี่สาวโดยทันที เมื่อเค้าวิ่งไปได้สักพัก เสียงเพลงเหล่านั้นก็ขับขานขึ้นมาอีกครั้ง คาชินหันไปมองแต่ก็ทำไรไม่ได้ เค้าคิดว่าต้องไปหาพี่สาวขี้โมโห ก่อนไม่งันเราตายแน่ เมื่อวิ่งไปถึงพี่สาว ทั้งคู่จึงออกเดินต่อ
คาชินก็ค่อยๆทำหน้าคิดไรบ้างอย่าง จน พี่สาวต้องถาม
“คาชิน เป็นไร? โกรธพี่เหรอไง”
คาชินตอบ
“เปล่าหรอกแค่มีบ้างอย่าง ที่ผมกำลังสงสัยอยู่”
พี่สาวถามกลับ
“มีไรสงสัยละถ้าพี่ตอบได้พี่ก็จะตอบให้แต่ถามนอกเรื่องโดนอัด”
คาชินหันไปมองมินท์ พร้อมทำหน้าว่า ตูควรถามดีมัยนี้
“ พี่มินท์เสียงเมื้อกี้คือเสียงไรอ่ะ ผมได้ยินทุกวันแต่พอไป มองหามันก็เงียบไปชะงัน ทำให้ผมอยากรู้ว่าต้นเสียงคือไร”
พี่สาวยิ้มให้คาชิน พร้อมเอามือไปลูบหัวคาชิน
“ เธอนี้มันไม่รู้เรื่องเลยนะ อยู่ที่มาตั้งแต่เด็กแต่จำบ้านของ ท่านผู้เฒ่าอาแมนทิส ไม่ได้ชั่งน่าขำจริงๆ”
คาชินตอบกลับ
“ ก็ผมอ่ะวันๆก็ต้องอยู่แต่ที่ทุ่งดอกไม้แถวชายป่าของหมู่บ้านนี้ฮ่ะนานๆจะมาแถวนี้สักที และที่ผมสงสัยคือเสียงที่อยู่รอบๆบ้านนั้น”
เธอยิ้มแล้วพูดกับคาชิน
“ เสียงที่เธอได้ยินอ่ะ ก็คือเหล่า จิ้งหรีด และ จั้กจัน ที่อยู่รอบๆบ้านของท่านผู้เฒ่า พวกมันขี้อาย
มันจะไม่ยอมร้องเมื่อมีคนมา มีเพียงแค่ท่านผู้เฒ่าเท่านั้นละ”
คาชินถาม กลับทันที
“ถ้าผมคุยกับพวกมันดูมันอาจจะยอมร้องให้ผมฟังแบบใกล้ก็ได้นี้ครับ”
เธอตอบอย่างอย่างร่าเริง
“แล้วแต่จะคิดแล้วกันไอ้น้องตัวดี”
พอทั้งคู่เดินถึงหมู่บ้าน หมู่บ้านเต็มไปด้วยแสงไฟของหิ้งห้อยลอยไปลอยมา ทุกคนในหมู่บ้านกำลังจัดสถานที่ต่างๆให้เข้ากับงานพิธี พวกเค้าเรียกเหล่าแมลงมาช่วยจัดสถานที่ต่างๆด้วย
มินท์ก็บอกคาชินทันที เมื่อทั้งคู่มาถึง
“คาชินไปที่ทำพิธีเองละกัน พี่จะไปช่วยงานคนอื่นๆอีก”
คาชินเม้นปากแล้วตอบ
“ก็ได้ฮ่ะเดียวผมเดินไปเองได้”
ระหว่างทางทุกคนต่างมาแสดงความยินดีกับคาชิน เค้าก็ทักทายกับทุกคนไปเรื่อยคาชินมองดูคอกม้าเก่าๆที่ทุกคนกำลังจัดตกแต่งไปเรื่อย คาชินอ่านป้าย “การต่อสู้ชิงความเป็นหนึ่ง”
และเดินไปใกล้ๆหลังคอกม้านั้นเป็นป่าที่มืดมิด มันถูกเรียกป่าแห่งความตายบ้างละป่าที่ไร้เสียงบ้างละ และเรียกอีกต่างๆนาๆจากคนในหมู่บ้าน คนในหมู่บ้านไม่มีใครคิดจะกล้าเข้าไปในป่านั้นชะคนเดียว คาชินรู้สึกกลัวทันที่เมื่อมองดูป่านั้นนาน มันทั้งมืดและเงียบ เหมือนกับมันจะดูดกลืนเค้าเข้าไป คาชินหันหลังกลับและเดินตรงไปที่เค้ากำลังจัดพิธี ระหว่างทางเค้าก็ชนเข้ากับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอ ตะโกนก่อนที่จะหันหน้ามาหาคาชิ
“เดินบ้าไรนี้คนเค้ากำลังรอเข้าพิธีนะ”
เมื่อเค้าเห็นหน้าเธอก็ อุทานขึ้น
“ เดียน่า ”
เด็กหญิงนัยน์ตาสีฟ้าอ่อน ผมน้ำตาลสั้น ตบหน้าคาชิน ดังพลัว แล้วตะคอกใส่คาชิน
“ ตาบ้า รู้มัยเด็กคนอื่นๆเค้าคอยเธอคนเดียวนะ”
แล้วเดียน่าก็จับมือซ้ายคาชินพร้อมทั้งลากตัวคาชินไป คาชินได้แต่เดินตามเดียน่าไปเรื่อยแต่เดียน่าเดินเร็วมากจนเค้าชนกับผู้คนระหว่างทาง คาชินต้องคอย พูดคำว่าขอโทษเป็นระยะระยะ
เดียน่าจูงมือคาชินเค้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในบ้านนั้น มีเหล่าเด็กๆในหมู่พวกเค้ากำลังแต่งตัวกันอยู่เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธี เดียน่าส่งคาชินให้ป้าของเธอ
“ ป้าค่ะคาชินมาแล้วค่ะ”
ป้าตอบ “หนูเองก็แต่งตัวได้แล้วพิธีใก้ลเริ่มแล้ว เอาๆไปแต่งตัวชะไป”
ทั้งคู่ได้ อาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว จนร่างกายสะอาดสะอาน คาชินก้างแขนหมุนๆตัวไปรอบๆแล้วก็พูดขึ้นว่า
“วาว ชุดสวยสุดๆเลย”
เดียน่า เดินมาหาคาชินแล้วจับมือคาชิน พร้อมทั้งบ่น
“โตปานนี้แล้วยังทำตัวเป็นเด็กไปได้เธอนี้นะ”
คาชินยิ้ม แล้วตอบกลับว่า
“ก็ทำแบบนี้แล้วมันมีความสุขนี้”
เดียน่า เขินจนหน้าแดงทันทีแล้วก็เดินจากคาชินไปหาเพื่อนคนอื่นโดยเร็ว
เสียงเพลง เริ่มพิธี ก็เริ่มดังขึ้น เหล่าเด็กมารวมตัวที่หน้าประตูบ้าน เมื่อประตูบ้านเปิดขึ้น เหล่าเด็กก็ค่อยก้าวเดิน ออกไป พวกเค้ารู้สึกเหมือนกับอยู่บน สวรรค์ เหล่าหิ้งห้อยมากมาย บินให้แสงนำทาง เสียงแมลงที่กำลังประสานเสียงไปกับคณะร้องเพลง ในใจของคาชินรู้สึกเต้นแรงมากจนผิดปกติในตาของคาชิน สะท้อนแสงของเหล่าหิ้งห้อยเป็นประกาย กลีบดอกไม้ ที่โปรยปรายลงมาตามต้นไม้น้อยใหญ่ คาชินมองไปข้างหน้าก็เห็นที่ทำพิธี มันถูก ปูไปด้วยใบไม้ใบวางซ้อนทับกันไปมา และก็มีเก้าอี้ ตั้งอยู่1ตัว เหล่าเด็กค่อยๆเดินเข้าไปในที่ทำพิธีและค่อยๆนั่งล้อมกันจนเป็นวงกลมล้อมรอบเก้าอี้ เมื่อทุกคนเข้ามานั่งครบทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงัดลง ทันที แสงของเหล่า
หิ้งห้อยก็ค่อยๆดับลง ทีละดวงทีละดวง บริเวณถูกปกคลุมไปด้วยความมืดสรัวเห็นเพียง เงารางๆ
คาชินเห็นเงาของคนๆกำลังเดินเข้ามาที่เก้าอี้และ ก็นั่งลง ทันใดนั้นหิ้งห้อยไม่กี่ตัวก็บิน มาวนไปวนมาที่เงารางๆนั้น จน คาชินเห็น ชายชราผมหนวดเครายาวสีขาวสะอาดคนหนึ่งนั่งกุมไม้เท้ามืออีกข้างถือถุงบ้างอย่างไว
ไม่นานนักชายชราก็พูดแนะนำตัวตัวขึ้น
“ข้าคือผู้เฒ่าอาแมนทิซ ผู้อาวุโส สูงสุดของหมู่บ้านนี้ ข้าเป็นเกรียต มากที่จะได้เป็นผู้ทำพิธีกรรมมอบสัญญาลักษณ์ให้แก่เหล่า เด็กน้อยที่กำลังจะก้าวเข้าไปสู่วัยผู้ใหญ่ ข้าเชื่อว่าพวกเค้าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและคอยปกป้องหมู่บ้านของเราไป ณ.บัดนี้ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่พวกเค้าจะได้รับหินสัญญาลักษณ์ของพวกเค้า”
ไม่นานนักผู้เฒ่าอาแมนทิชก็ค่อยๆเปิดถุงออก ภายในถุงนั้นมีแสงหลากสีสันที่เปล่งประกายแล้วแสงนั้น ค่อยๆออกมาจากถุงและค่อยๆลอยไปหาเด็กแต่ละคน เหล่าเด็กคว้าแสงเหล่านั้นไวทันทีเมื่อแสงเข้ามาหา แต่คาชิน กลับไม่มีแสงมาหาเค้า เลยแม้แต่ดวงเดียว คาชินเริ่มหน้าเสียพร้อมทั้งสงสัยว่าเค้าทำไรผิดไปหรือเปล่า ทำมัยตัวเค้าถึงไม่เหมือนคนอื่นๆ เค้าหันไปมองทางเดียน่า และก็เห็นเดียน่าคว้าแสงสีส้มจางๆไวเรียบร้อยแล้ว คาชินมองไปรอบและก็เห็นเพื่อนๆของเค้าทยอยได้กัน คาชินคิดในใจทันทีเพื่อปอบใจตัวเอง
“ไม่มีไรเกิดขึ้นหรอก รออีกสักพักเดียวก็มาเอง”
เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็เหลือคาชินแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้คาชินเริ่ม สิ้นหวัง ทันใดนั้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น