ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปริศนารักแท้

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 57


    สี่ปีที่แล้ว
    เรื่องรวเหล่านั้นในอดีตสี่ปีนั้นเป็นเหมือนรอยร้าวประทับตรึงตาในหัวใจเธอตลอดมา ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะลืมความเจ็บปวดนี้ได้และไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะลืมแก้แค้นได้!
    เสียงเด็กมัธยมศึกษาปีที่สี่ทับหกวิ่งเล่นกัน พูดคุยกันเสียงดังสนั่นไปถึงห้องพักครูที่อยู่อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ครูสาวที่กำลังจะเข้าสอนในห้องนี้พอดีต้องรีบมาปรามเสียก่อน
    "เห้ย! ครูมาครูมา นั่งเร็ว!"สัญญาณเตือนภัยประจำห้องหรือเปี๊ยก เด็กชายจอมแก่นรีบวิ่งไปดูหน้าห้องพลางส่งสัญญาณเตือนทั่วห้องเพื่อรีบปรับตัวให้นั่งเรียบร้อยที่สุด ประมาณว่าไม่ให้ครูจับได้นั่นเอง
    แต่ครูสาวรู้ทันพอเดินเข้ามาในห้องเลยกวาดสายตามองรอบห้องทำให้เด็กนักเรียนพากับหลบตาทันที ราวกับวัวสันหลังหวะ พลางใช้มือเรียวบางวางคู่มือการสอนไว้บนโต๊ะกลางห้องหน้ากระดานเพื่อเตรียมตัวสอน และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แฝงตำหนิ
    "โตจนจะจบมอสี่อยู่แล้วยังจะวิ่งเล่นเหมือนเด็กๆประถมไปได้ เวลามีค่ามากนะค่ะแทนที่จะเอาเวลาไปอ่านหนังสือ แต่นี้เอาไปเล่นใช้ได้ที่ไหน..
    แล้วว่าแต่นี้ทำรายงานของครูเสร็จหรือยังคะ?"ครูสาวเว้นวรรคสักพักก่อนจะหยิบตัวอย่างรายงานของพิชญา ศิษย์รักของเธอซึ่งทำงานเสร็จตรงเวลาหรือก่อนเวลา ครั้งนี้ก็เช่นกันส่งก่อนเพื่อนในห้องทุกคน
    "ยังครับ/ค่ะ"เหล่านักเรียนจอมแสบที่วิ่งเล่นเมื่อครู่ต่างประสานเสียงกันตอบพลางก้อมหน้างุดรับความผิดที่พวกเขาทำตัวเหมือนเด็กประถมแต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็อยากจะใช้เวลาเล่นให้มากที่สุดก่อนปิดเทอมแถมเพื่อนรักบางคนของพวกเขายังจะย้ายไปเรียนที่อื่นอีกด้วย
    "นักเรียนทั้งหมดตรงเตรียมตัวกราบ"เมื่อเพื่อนจอมแสบในห้องเงียบกริบแล้ว สาวน้อยเสียงใสหัวหน้าห้องอย่าง พิชญา เลยรีบใช้โอกาสนี้บอกกล่าวทำความเคารพ
    หลังจากที่ทำความเคารพครูสาวเสร็จ การดรียนการสอนก็เริ่มดำเนินขึ้น เหล่านักเรียนที่นั่งริมหน้าต่างและเหล่าจอมแสบเมื่อครู่ต่างรวมตัวกันเล่นและแอบหลับ เพราะพวกเขาไม่ชอบเรียนภาษาไทย ภาษาบ้านเกิดจะเรียนให้เหนื่อยทำไม พูดได้เขียนเป็นก็เพียงพอจนจะมากอยู่แล้ว

    กานต์นาวา ว่องวิโรจน์กาญจน์ ครูสาวที่จะเลิกสาวเพราะอายุเฉียดเลขสามแล้ว แห่งวิชาภาษาไทยและหัวหน้าหมวดวิชาภาษาไทยอีกด้วย แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางกวาดสายตามองรอบห้องที่เต็มไปด้วยเด็กนัเรียนที่ไม่ชอบเรียนภาษาไทย ส่วนที่ชอบเรียนแทบไม่ถึงครึ่งห้อง ดูท่าทางเธอคงต้องปรับการสอนใหม่เสียแล้วเพื่อเด็กทุกคนจะได้รู้คุณค่าของภาษาบ้านเกิดตัวเอง
    และหนึ่งในนั้นที่ตั้งใจเรียนก็มี พิชญา ศิษย์รักของเธอซึ่งเป็นเด็กเรียนนิสัยดีแต่ทางบ้านยากจน ไม่มีเงินส่งเสีย เธอจึงขอแม่ของพิชญาหรือ กรกช มา เพื่อมาเลี้ยงดูพิชญาในฐานะลูกบุญธรรม และออกเงินค่าเล่าเรียนให้ทั้งหมด  แต่กรกชก็มีข้อแม้ว่าต้องพาพิชญามาพบเธอบ่อยๆแค่นั้นเอง

    กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆ
    เสียงสัญญาณออดเตือนดังถึงเจ็ดครั้งว่าหมดเวลาการสอนไปหนนึ่งคาบเรียนแล้วแล้ว เหล่าเด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างและจอมแสบที่ไม่ตั้งใจเรียนจากแววตาไม่มีชีวิตชีวา เบื่อหน่าย กลับดูสดชื่นตื่นเต็มที่เสียจริง... มันน่าหมั่นไส้นัก!!

    "เฮ้อ..."กานต์นาวาถอนหายใจยาวเหยียดก่อนเรียกพิชญาให้มาช่วยถือของและพูดคุยเล็กน้อยตามประสาศิษย์รัก
    "นี่ พิชญาเดี๋ยวบอกเพื่อนๆเธอด้วยนะว่าให้ทำความสะอาดห้องบ้างแล้วตั้งใจเรียนด้วยนะ"กานต์นาวากวาดสายตาดูรอบห้องและพิจรณาถึงความสกปรก ทั้งโต๊ะเรียนเบี้ยวไม่เป็นระเบียบ กระเป่านักเรียนวางกองที่พื้นหลังห้องจนแทบเป็นขยะ แถมหน้าห้องและหลังห้องยังเต็มไปด้วยขยะอีก
    "ค่ะ ครูกานต์ หนูจะพยายามกำชับเพื่อนๆค่ะ แต่...หนูกลัวนะซิค่ะ"น้ำเสียงในตอนแรกดูจะมั่นใจในการรับคำสั่งแต่ในตอนหลังพิชญากลับน้ำเสียงดูอ่อนแรงแถมก้มหน้าหลบตาอีก
    "กลัวเพื่อนไม่เชื่อฟัง"กานต์นาวาตอบอย่างรู้ทันเพราะพิชญามักมาปรับทุกข์กับเธอเรื่องนี้เสมอ อย่าว่าแต่พิชญาเลยเธอเองยังดูไม่เด็ดขาด ไม่น่าเกรงขาม ขนาดน้องใหม่ในหมวดของเธอยังเถียงเธอแบบบไร้ซึ่งความเคารพเลย
    "แต่หนูก็เคยสัญญากับครูกานต์ไว้แล้ว แต่หนูขอโทษนะค่ะที่หนูทำไม่ได้"เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับกานต์นาวาพลางยกมือไหว้ขอโทษแต่เพราะความสูงที่เท่ากับครูสาวของที่ถือเลยทิ้มหน้าเต็มๆ
    กานต์นาวายกมือโบกไปมาให้รู้ว่าไม่เป็นอะไรพลางแซวเล่นด้วยน้ำเสียงสนุกสนานอีกด้วย
    "แหม นี้ถ้าครูเป็นพี่น้องกับเธอก็ดีนะซิ ความสูงเล่นเท่ากันเลย"รอยยิ้มของครูสาวที่ยิงฟันจนเห้นฟันครบทุกซี่แถมีเสียงหัวเราะอีกทำให้พิชญารู้สึกดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว ในตอนแรกคิดว่าจะโดนว่าเสียแล้ว แต่หากคิดไปมากานต์นาวาเป็นคนมีเหตุผลจิตใจคงไม่น่าจะโกรธเธอหรอกนะ
    "เออ ว่าแต่ว่าเรื่องเด็กแสบสามคนนั้นถึงเรื่องไหนแล้วล่ะ? ตามตัวมาพบครูได้หรือยัง?"จู่ๆกานต์นาวาก็เปลี่ยนเรื่องคุยกับพิชญากะทันหันทำให้รอยยิ้มของพิญาถึงกับไม่เหลือร่องรอยเลยมีเพียงคิ้วที่ขมวดปมกันแทน
    "คะคือ.."น้ำเสียงที่ดูตะกุกตะกักและดูร้อนรนของพิชญาทำให้กานต์นาวาพอจะจับน้ำเสียงได้ เธอเลยชิงพูดเสียก่อนที่พิชญาจะพูดจบพลางลูบหลังคลายความกังวลเบาๆอีกด้วย
    "เดี๋ยวถ้ามีปัญหาอะไรหรือสามคนนั้นก่อเรื่องกับเธอบอกครูได้นะจ๊ะ ครูเป็นครูมีหน้าที่สั่งสอนเด็กไม่ใช่ปล่อยให้เด็กทำตัวไม่ดีแบบนั้นนะ โดยเฉพาะพวเขาทั้งสามครูเชื่อว่าพวกเขาต้องมีเหตุผลที่จะทำตัวไม่ไดีแบบนั้น ถ้าครูเองมีโอกาสได้สั่งสอนครูจะช่วยพวกเขาแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและจะไม่ให้เขามาทำร้ายใครได้อีกจ๊ะ"น้ำเสียงเรียบของกานต์นาวาแต่แฝงด้วยพลังจากมือเรียวบางที่ลูบเบาๆให้พิชญาทำให้พิชญาคลายความกังวลและยิ้มเต็มที่ได้อีกครั้งเมื่อครูสาวพูดเสียอย่างนี้เพื่อนทั้งสามของเธอต้องกลับตัวเป็นคนดีแน่ๆ

     

    "บ่นๆอีกแล้ว จะให้ฉันพูดอีกกี่รอบว่าบ่นให้ตายก็ไม่เข้าหูฉันหรอก พ่อแม่ยังไม่เคยคิดจะกล้ายุ่งกับฉันเลยแล้วเป็นครู คนนอกชัดๆ"สีรดากระแทกน้ำเสียงพลางเบ้ปากเมื่อเธอและเพื่อนทั้งสองต้องถูกกานต์นาวาเรียกไปอบรมอีกแล้ว ครั้งที่แล้วก็อบรมจนหูแทบชา ครั้งนี้ยังจะมาอบรม! ท่าทางคงจะมีคนปากปีจอไปฟ้องละซิท่า มันน่าหมั่นไส้นักต่อหน้ากานต์นาวาทำเรียบร้อยแสนดี วางมาด เชอะ!คงใส่หน้ากากไม่ยอมถอดละซิ ถึงได้เสแสร้งเก่งนักแถมยังชอบดีเกินหน้าเกินตาเธออยู่เรื่อย ตั้งแต่เกิดมา สีรดา วงศ์พัธ ไม่เคยมีใครกล้าดีเกินหน้าเธอ หากเธออยากได้อะไรต้องได้ อยากเด่นต้องได้เด่นใครมันลองกล้าขวางซิ จะกำจัดทิ้งให้ดู!!
    "เหอะน่า ใจเย็นๆเถอะทำอาการแบบนี้บ่อยๆเดี๋ยวแก่เร็วไม่รู้ตัวนะเพื่อน" ดาหลาจับไหล่สีรดาเบาๆพลางพูดปลอบใจด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นเต็มที่แต่อีกฝ่ายคงจับน้ำเสียงไม่ได้เพราะตอนนี้คงคิดริษยาใครเขาไปทั่ว

    อันที่จริงเธอไม่ได้อยากพูดปลอบใจยัยคุณหนูไฮโซขี้อิจฉาคนอื่นเขาไปทั่วแบบนี้หรอก เพียงแต่เธออยากเด่นดังตามประสาเด็กบ้านอกอยากมีกินใช้เหมือนเด็กเมืองกรุงที่เจริญแต่เงิน เพียงแค่เธอประจบสลอพอสีรดา สิ่งไหนสีรดาถูกเธอก็บอกถูกตาม สิ่งไหนสีรดาบอกผิดเธอก็ยอมผิดตาม เพื่อให้ได้สิ่งที่เธอต้องการ
    ในเมื่อชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไม่ได้เกิดมาอยากได้อะไรก็ได้อยากมีอะไรก็มีดั่งบันดาลฝันได้แบบสีรดา ดังนั้นเธอก็ต้องหาทางเพื่อให้เธอดูเด่น รวย ดูดี แม้คนภายนอกจะมองเธอผิดก็ตาม เธอยอมผิดหากเงินที่เธอประจบสีรดามาช่วยให้น้องสาวเธอหายจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สักที

    "วรัณว่านะค่ะคุณหนูอย่าคิดมากเลย ครูกานต์เขาคงหวังดีนั้นแหละค่ะ"วรัณพูดเตือนสติคุณหนูของเธอไม่ให้โมโหไปมากกว่านี้เพราะหากโมโหมากกว่านี้สีรดาก็ทำอะไรแบบไม่คาดคิดได้เหมือนกัน เช่น จิกด่าตบเธอ ซึ่งเธอไม่เคยโกรธหากสีรดาจะทำร้ายเธอ เพียงแต่ว่าสีรดาอาจไม่หยุดแค่ทำร้ายนะซิ เพราะโมโหมากๆเข้าก็ทำร้ายทุกคนรอบข้างได้
    วรัณเองก็สงสารคุณหนูรุ่นเดียวกับเธอเหมือนกัน เธอรู้ดีว่าทำไมสีรดาถึงเป็นเช่นนี้เพราะเธอไม่ได้รับความรักและการเอาใจใส่จากครอบครัว คุณผู้หญิงพัทรา หรือแม่ของสีรดาก็ใช้เงินเลี้ยง ตั้งแต่เกิด แม้แต่น้ำนมก็ต้องให้  วริน มารดาของเธอซึ่งเป็นคนรับใช้เลี้ยงเช่นเดียวกับคุณผู้ชายกร หรือพ่อของสีรดาก็ไม่เคยให้อะไรเลยใช้เงินเลี้ยงเช่นกัน กอดหอมสักนิดไม่มีเลย
    วรัณเป็นลูกคนรับใช้เธอตระหนักเสมอว่าเธอมีสถานะภาพเช่นไร เธอต้องซื่อสัตย์และดูแลคุณหนูของเธอให้มากที่สุดเพื่อให้สมกับคำสอนของวรินที่พร่ำสอนเธอเสมอ โดยเฉพาะก่อนตายวรินก็ย้ำเรื่องนี้

     

     



     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×