ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    moonlight secret

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของปัญหา

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 48


    moonlight secret 1





    คนเรามักจะตระหนักถึงความรู้สึกของตนเอง…….



    ในยามที่ได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว……



    หลายต่อหลายครั้งที่คุณมานั่งทบทวนเรื่องสัญญาสมัยเด็ก มันเป็นเพียงแค่ลมปากของเด็กเท่านั้นหรือ?



    …มีบางครั้งที่คุณลองนั่งระลึกถึงวัยเด็ก เห็นความสวยงามและใสซื่อของมัน ความจริงใจอันหาค่ามิได้



    เมื่อคุณได้รับคำสัญญาจากเด็ก… จงภูมิใจเถิดว่าคุณเป็นคนที่เขารักมากที่สุดในขณะนั้นแล้ว



    ++++



    เธอไม่ควรมาที่นี่ …



    เธอรู้ดีว่ามีอีกหลายคนต้องเดือดร้อนเมื่อเธอหนีออกมา แต่ถ้าเธอไม่ เธอต้องสูญเสียสิ่งสำคัญเป็นแน่…



    ++++



    เหล่านักศึกษาชั้นสูงสุดของโรงเรียนพระราชาทยอยกันเดินออกมาจากห้องเรียนภาควิชาเวทมนตร์ หญิงสาวผมสีน้ำตาลยาวในชุดนักเรียนหลวมโพรกกำลังอ้าปากหาว ทำให้ชายหนุ่มผมเงินที่อยู่ข้างๆมองด้วยความเหนื่อยหน่าย



    สอนยังไงก็ไม่เข้าหัวมันซักนิด… ให้ตายเถอะ



    “การเรียน การสอนของที่นี่มันน่าเบื่อชะมัดยาดเลยเนอะ คิล” พูดไปหาวไป



    “มีแต่เธอคนเดียวล่ะมั้งที่เบื่อ” คิลว่าขำๆ “หลักสูตรการเรียนของที่นี่ได้ชื่อว่าน่าสนใจมากที่สุดเลยนะ”



    “ช่าย ในความฝันฉันได้สู้กะมังกรด้วยล่ะ” ลากเสียงยาว “เกือบแพ้แน่ะ”



    คาโลสวนคำขวับ “น่าจะโดนมังกรกินซะให้รู้แล้วรู้รอด”



    คำแดกดันจากเจ้าชาย เรียกรอยยิ้มบางๆ จากหัวขโมยได้



    “ยากส์ ฉันนะดวงแข็งยังกับอะไรดี แถมเนื้อฉันก็ไม่อร่อยด้วย ถ้ามันจะกินเนื้อของขโมยกระจอกๆ อย่างฉัน สู้ไปกินเจ้าชายดีกว่าเนอะ” หันไปถามนักฆ่าข้างกายที่พยายามกลั้นหัวเราะ



    ผู้มีคำนำหน้าว่าเจ้าชายอ้าปากจะโต้กลับ แต่ทว่ามีบางเสียงเรียกความสนใจของพวกเขาไปเสียแล้ว



    หญิงสาวร่างสูงโปร่งในชุดเดินทางของพวกมีอันจะกิน เรือนผมสีน้ำผึ้งยาวสลวยล้อมกรอบดวงหน้างดงามน่าหลงไหลคลอเคลียลงไปยาวสยายกลางแผ่นหลัง ถึงแม้เจ้าหล่อนจะงดงามเพียงใด แต่ริ้วรอยความกลุ้มใจบนใบหน้ายังแสดงออกอย่างชัดเจน



    ด้วยนิสัย(เสีย) …หนุ่มหลายคนผิวปากฟิ้วอย่างอดไม่อยู่



    เฟรินชะโงกหน้าเข้าไปหาคิล



    “ใครกัน หน้าคุ้นๆ ว่ามั้ย”



    “ฉันก็ว่างั้นแหละ คุ้นๆชอบกล ชื่อมันติดอยู่ที่ปากนี่เอง ….วะ …เอออ..วะ”



    “วิเวียน” คาโลสรุปให้ ถ้าปล่อยให้พวกนี้คิดคงเสียเวลาเป็นชาติ



    ทันทีที่เจ้าชายเอ่ยนามของหญิงสาว สองสหาย นักฆ่ากับขโมยก็ร้องอ๋อทันที ทำให้เจ้าของชื่อหันขวับมามอง ก่อนจะเผยรอยยิ้มสง่างามน่าเอ็นดู ก้าวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว



    “ท่านหญิงเฟริน”



    เฟรินสะดุ้งเฮือก…



    วิเวียนสวมกอดเบาๆ อย่างมีมารยาทมากกว่าที่เคยเจอเมื่อสี่ปีก่อน ทั้งเรียบร้อย สง่างาม และดูสุขุมขึ้นมาก



    “หญิง…ไม่สิ…เรากำลังตามหาท่านอยู่พอดี ดีใจมากที่ได้เจอท่าน ท่านหญิงเฟริน”



    ผู้ได้รับศักดิ์เป็นท่านหญิงกลืนน้ำลายเอื๊อก… (เราเป็นเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอวะ) มองสาวงามตรงหน้าด้วยสายตาเกือบจะระดับเดียวกัน แค่ห้าปีทำไมมันโตเร็วจริง!



    “ไง วิเวียน ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นเยอะเลยนี่”



    คนได้รับคำชมเพียงแต่ยิ้มบางๆ เท่านั้น มือขาวทั้งสองข้างรวบมือของเฟรินไว้



    “เราดีใจมากที่ได้เจอท่านพี่หญิงอีก เรามารับคำอวยพรก่อนแต่งงานที่เอดินเบิร์ก ท่านมหาสังฆราชทรงอยากให้เรามา ท่านเป็นพระสหายกับเสด็จแม่ของเรา”



    ทำไมพูดจาเป็นทางการจังวุ้ย…



    “แต่งงาน? วิเวียน ไม่สิ จักพรรดินีแห่งเวนอลจะแต่งงานเหรอ!” ทวนคำอย่างไม่เชื่อหู



    นี่ตูตกข่าวงั้นเรอะ!



    อีกฝ่ายได้แต่พยักหน้า เมื่อเฟรินยังทำท่าไม่เข้าใจ คาโลจึงช่วยขยายให้



    “ไม่เห็นจะแปลก การแต่งงานสำหรับราชนิกูลเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการที่จักพรรดินีจะแต่งงานมันก็ยิ่งไม่แปลกเข้าไปใหญ่ ความจริงน่าจะแต่งไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ”



    คำพูดของเจ้าชายน้ำแข็งทำให้เจ้าตัวหน้าซีดไปเล็กน้อย แต่เจ้าตัวโวยวายนี่สิ



    “ตะ แต่ง! ได้ไง วิเวียนชอบโรเวนไม่ใช่เหรอ!” แล้วปากพล่อยๆก็หลุดออกมาจนได้



    เอาแล้วไง … คิลกับคาโลกุมขมับ ปากแกว่งหาเรื่องอีกแล้ว หัดหุบปากนิ่งๆไม่ได้รึไง



    องค์จักรพรรดินีแห่งเวนอลก้มหน้าลงพึมพำอะไรสักอย่างที่แผ่วบางมากจนแทบจับใจความไม่ได้ให้เฟรินได้ยินคนเดียว ก่อนจะผละจากไปทันที



    “วิเวียนเค้าพูออะไรงั้นเรอะ เฟริน” คิลถาม นัยน์ตาส่อแวว ‘เจือก’ เรื่องชาวบ้าน



    แต่เจ้าตัวดีกลับยิ้มกริ่ม หวานเสียจนเลี่ยน กระเซ้าเพื่อนรักด้วความเคยชิน



    “เรื่องของผู้หญิง นายไม่เกี่ยว” ว่าแล้วก็เดินหัวเราะฮึๆจากไป ทิ้งเพื่อนสองคนไว้ข้างหลัง



    คิลเลิกคิ้ว



    ไม่ยักรู้ว่ามันเป็นผู้หญิงกับเค้าด้วย …ว่าแต่วิเวียน…



    “สวยขึ้นเยอะ” เผลอติดนิสัยคิดดังขึ้นมา ทำให้เจ้าชายหันมามอง นัยน์ตาส่อแววประหลาดพิกล



    เมื่อรู้ว่าตัวเองติดนิสัยคิดดังมาจากไอ้ขโมยปากเสีย ก็แทบจะเอาหน้าซุกแผ่นดิน เลยต้องเกาท้ายทอยแก้เขิน



    ดีที่เจ้าของนิสัยมันไม่อยู่… ไม่งั้นโดนมันล้อตายเลย



    “นาย… ” เจ้าชายเกริ่น “คิดว่าวิเวียนสวยงั้นเหรอ”



    คำถามที่ทำให้นักฆ่าแปลกใจ…



    “สวยสิ”



    “ขนาดไหน” อีกคำถามที่ทำให้นักฆ่ายิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่



    “สวยมาก เอ้อ มากๆนะ” คนไม่ชำนาญเรื่องผู้หญิงตอบ “ประมาณว่า งามมากๆ สาวงามหายากน่ะ”



    “แล้ว …” คำถามต่อมาทำให้คิลถึงกับใจแป้วเลยทีเดียว “ระหว่างเรนอน…ใครสวยกว่ากัน”



    ใครจะไปตอบได้ฟะ คิลได้แต่นึกอยู่ในใจ ไม่กล้าตอบออกไปเพราะสายตาคนตรงหน้ามันส่องประกายจริงจังเสียเหลือเกิน



    ด้วยอาการอึดอัด ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกาท้ายทอย รู้สึกถึงเหงื่อที่ชุ่มกลางฝ่ามือ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกกดดันเพราะผู้หญิงขนาดนี้ ถึงจะไม่โดยตรงก็เถอะ



    สายตาคมปลาบของคาโลคาดคั้นให้นักฆ่าต้องตอบคำถามออกไปจนได้



    “แล้วนายคิดว่า วิเวียนสวยรึเปล่าล่ะ”



    คำถามย้อนกลับที่ทำให้เจ้าชายแทบตั้งตัวไม่ทัน แต่ยังคงมาดนิ่งไว้ตามเดิม



    ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเฟรินยั่วมันได้ยังไง…



    “สวย”



    “ขนาดไหน” ล่อลอกมาทั้งดุ้น



    “สวยมาก”



    “แล้ว… ” คิลยิ้ม ด้วยรอยยิ้มที่ทำให้เจ้าชายเริ่มนั่งไม่ติด “ระหว่างเฟรินกับวิเวียน ใครสวยกว่ากัน”



    “ถามโง่ๆ วิเวียนสวยกว่าอยู่แล้ว…” คำตอบตรงแน่วราบเรียบของเจ้าชายน้ำแข็งทำให้คิลเกือบหน้าคว้ำ ยังไม่ทันพูดแทนเพื่อนประโยคต่อมาก็ทำให้เค้าเกือบเป็นหิน



    “แต่… คนที่ฉันรักคือเฟริน เท่านี้ก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”



    “ฉันไปก่อนละ” พูดแค่นั้น แล้วเดินจากไป ทิ้งให้นักฆ่ายืนนิ่งเป็นรูปปั้นหินอยู่อย่างนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×