ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I to You บทพิสูจน์รักของหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : SF I to You ความทรงจำในลมหายใจ (คยูมิน 1)

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 54


    รอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะ......

                แสงแดดยามเย็นส่องเข้ามาในบ้านไม้หลังเล็กชายชราที่นั่งมองดอกไอวี่ที่ถูกทำเป็นดอกไม้แห้งเก็บไว้ในไดอารี่เล่มเล็กสีชมพูหวานตามความชอบของเจ้าของ

                “นานแล้วนะพี่ซองมินที่พี่จากไป...”ชายชราพูดขึ้นก่อนจะยิ้มให้ภาพถ่ายของคนที่หน้าปกไดอารี่เล่มเล็กด้วยความคิดถึง

    นานเท่าไหร่แล้วนะตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน.....

    บทเริ่มต้น

                แสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าไปใต้ต้นไม้ใหญ่ของสวนแห่งนี้ ลี ซองมิน กำลังนั่งทอดอารมณ์ไปกับเสียงเพลงในไอพอดเครื่องโปรดของเขา

                “ซองมินใกล้จะได้เวลางานเลี้ยงแล้วนะ”เสียงหวานใสของ ลี ดงเฮ ที่เดินมาเรียกร่างอวบที่กำลังนั่งฟังเพลงอยู่คนเดียวส่งผลให้ซองมินหันมายิ้มให้ก่อนจะถอดหูฟังแล้วเก็บไอพอดสีชมพูหวานใส่ในกระเป๋า

                “....”ซองมินไม่ได้ตอบแต่ลุกขึ้นเดินมาพร้อมกับดงเฮเพื่อไปงานเลี้ยงรับน้องของพวกเค้าทั้งสองคนที่เพิ่งเข้าใหม่ในปีนี้

                “เอ้าเร็วๆครับน้องๆมารวมกันจะได้มาสนุกด้วยกัน”รุ่นพี่อย่างฮันคยองตะโกนบอกเด็กปีหนึ่งในงานเลี้ยงทุกคนให้นั่งที่โต๊ะของแต่ละกลุ่มที่จัดไว้ให้

                “ซองมินดงเฮช้าจังเลยเรารอตั้งนานแน่ะ”ลี ฮยอกแจหนุ่มน้อยร่างบางเดินมาหาทั้งสองคนเพื่อพาเดินไปที่โต๊ะของกลุ่มพวกเขาเพิ่งรู้จักกันตอนรับน้องเพราะอยู่กลุ่มเดียวกันนิสัยที่คล้ายคลึงกันทำให้ทั้งสามสนิทสนมกันเร็วยิ่งขึ้น

                “ขอโทษทีเรามัวแต่ฟังเพลงเลยลืมเวลาน่ะ”ซองมินตอบฮยอกแจแล้วยิ้มให้นิดหน่อย

                “ไม่เป็นไรๆเราแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยรีบไปนั่งที่โต๊ะกันดีกว่า”ฮยอกแจพูดแล้วจูงมือทั้งสองคนให้เดินไปที่โต๊ะด้วยกัน

                “อ้าวมากันแล้วเหรอช้าจริงๆนะพวกเธอสามคนเนี่ย!”คิม ฮีชอลรุ่นพี่ประจำกลุ่มของทั้งสามคนที่นิสัยตรงกันข้ามกับฮันคยองโดยสิ้นเชิงเพราะฮีชอลคนนี้ขี้เหวี่ยงขี้วีนสุดๆจนทุกคนพร้อมใจกันเรียกเขาว่า เจ๊ฮีนิม นั่นก็ทำให้ฮีชอลพอใจมิใช่น้อย

                “ขอโทษฮะพี่ฮีชอล”ทั้งสามคนพูดแล้วรีบวิ่งไปนั่งที่เก้าอี้สามตัวที่ยังคงถูกเว้นว่างเอาไว้ทำให้พวกเขารู้ได้ทันทีว่าทุกคนรอพวกเขาเป็นกลุ่มสุดท้าย

                “เอาล่ะครับน้องๆตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วล่ะครับที่เราจะมาร่วมกันในงานเลี้ยงขอเชิญโจว คยูฮยอนมักเน่หรือคนที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาปี 1 บนเวทีเลยคร้าบบบ”เยซองรุ่นพี่อีกคนหนึ่งเรียกชื่อโจว คยูฮยอนหนุ่มหล่อที่สูงที่สุดในปีหนึ่งรุ่นนี้แต่เขากลับเด็กที่สุด

                “เรียกซะเต็มยศเลยนะครับพี่เยซอง”คยูฮยอนเดินขึ้นมาบนเวทีตามเสียงเรียกของเยซองทำให้นักศึกษาหญิงหลายๆคนกรี๊ดดกร๊าดกับหน้าตาอันหล่อเหลาของเขากันอย่างล้นหลามนั่นทำให้เยซองต้องพูดแซวขึ้นมา

                “ว้าวๆมารับน้องแค่วันเดียวก็ดังขนาดนี้เชียวนะพ่อมักเน่”นั่นทำให้คยูฮยอนหัวเราะยิ้มๆแล้วโปรยยิ้มให้กับนักศึกษาสาวหลายๆคนแต่แล้วเขาก็ต้องไปสะดุดตากับ....

                “น่ารัก...”คยูฮยอนพึมพัมออกมาเบาๆเมื่อสายตาของเขาไปสะดุดกับลี ซองมินร่างอวบที่กำลังมองมาที่เขาเหมือนกับทุกๆคนแต่ใบหน้าหวานไปทางน่ารักและผิวขาวอมชมพูทำให้คยูฮยอนไม่อาจละสายตาไปจากซองมินได้เลย

                “ห๊ะ!อะไรนะคยูน่ารักใครกันครับที่คยูฮยอนคนนี้บอกว่าน่ารัก”เยซองที่หูดีได้ยินสิ่งที่คยูฮยอนพูดก็มองไปตามสายตาของคนตัวสูงจนไปสะดุดตากับซองมินที่นั่งอยู่

                “.....”ความเงียบเข้าปกคลุมงานเลี้ยงเพียงชั่วครู่เยซองก็พูดขึ้นมา.

                “ลี ซองมิน!!หนุ่มน้อยหน้าหวานประจำกลุ่มของเจ๊ฮีชอลคนสวยนั่นเองเชิญบนเวทีหน่อยคร้าบบบ”นั่นทำให้ซองมินตกใจแต่ก็ยอมลุกขึ้นเดินไปบนเวที

                “ซองมิน?”คยูฮยอนหันมาถามกับเยซองที่ยื่นมือไปรับซองมินขึ้นมาบนเวทีต่อหน้าทุกๆคนตอนนี้เขากลับมองเห็นแต่ซองมิน

                “ครับผมชื่อซองมิน”ซองมินหันไปตอบแล้วยิ้มให้คยูฮยอนที่กำลังยืนทำหน้าเอ๋ออย่างไม่สมกับเป็นคลาสโนว่าหนุ่มหล่อของปีหนึ่งเลยเรียกได้ว่าเหมือนหมาป่าถอดเขี้ยวเล็บแล้วในตอนนี้ที่คยูฮยอนได้เจอกับซองมิน

                “ครับพี่ซองมินน่ารักจัง”คยูฮยอนพูดมาแบบนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มองยังไงก็เท่บาดใจคนมองเรียกเสียงกรี๊ดจากนักศึกษาสาวไม่ว่าจะปีหนึ่งและแม้กระทั่งรุ่นพี่

                “อ่าขอบคุณนะคยูฮยอน”ซองมินพูดตอบยิ้มๆให้กับคยูฮยอนแล้วหันไปหาเยซอง

                “แล้วคยูฮยอนสะดุดสายตากับผมเรียกผมขึ้นมาจะให้ทำอะไรเหรอฮะพี่เยซอง”คำถามนั้นทำให้เยซองเลิกมองทั้งสองด้วยสายตาตื่นตกใจแล้วตอบคำถามไป

                “อ่อก็หนุ่มฮอตอย่างคยูฮยอนสะดุดตากับหนุ่มน้อยน่ารักแบบนี้ก็ต้องเรียกให้มาเจอกันจริงมั้ยคยูฮยอน~~”เยซองพูดแล้วหันไปยิ้มให้เรียวอุคที่เดินขึ้นมาพร้อมกับไวโอลิน

                “และในค่ำคืนนี้คยูฮยอนคนหล่อจะมาเล่นไวโอลินให้กับทุกคนในที่นี้ฟังนะคร้าบบบส่วนซองมินนี่ของเราเชิญไปนั่งที่ตามสบายเลยคร้าบ”เยซองพูดทำให้ซองมินส่ายหน้านิดหน่อยแล้วเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเองระหว่างดงเฮและฮยอกแจ

                “ซองมินนี่สุดยอดเลยคยูฮยอนสะดุดตาเนี่ย><!”ฮยอกแจพูดแล้วทำหน้าเพ้อฝันนิดหน่อยกับสิ่งที่ซองมินได้รับเพราะในปีหนึ่งรุ่นนี้ไม่ว่าใครก็ยอมแพ้ให้กับความหล่อของคยูฮยอนทั้งนั้นไม่ว่าจะเมะจะเคะหรือสาวนางใดก็ต้องสยบให้กับความหล่อของโจว คยูฮยอนแทบจะทั้งนั้น

                “อยากให้คิบอมสนใจแบบนี้บ้างจังเลยน้า><”ดงเฮพูดแล้วทำหน้าเพ้อฝันมาให้ซองมินอีกคนหนึ่งแต่ระหว่างบทสนธนาของทั้งสามคนก็ต้องหยุดลงเพราะเสียงไวโอลินจากบนเวที

                “.....”เสียงไวโอลินนั้นทำให้คืนนั้นทุกๆคนไม่อาจละสายตาไปจากคยูฮยอนได้เลย....

    ครั้งแรกที่เราเจอกันสินะครับพี่ซองมิน.....

    1 เมษายน

                แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องแสงราวกับจะต้อนรับการเริ่มคาบเรียนแรกของเหล่านักศึกษาปีหนึ่งทุกๆคนทำให้เพื่อนรักทั้งสามคนรู้สึกสดชื่นมากพอสมควรขณะที่กำลังเดินผ่านรั้วประตูมหาวิทยาลัยเข้ามา

                “ซองมินวันนี้อากาศดีเนอะหวังว่าจะผ่านวันนี้ไปได้ดีเหมือนอากาศด้วย”ดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนจะกอดคอซองมินและฮยอกแจเดินเข้าโรงเรียนไปพร้อมๆกัน

                “สวัสดีครับพี่ซองมิน ดงเฮ ฮยอกแจ”คยูฮยอนเดินมาหาทั้งสองคนแล้วเรียกแต่สิ่งที่แปลกไปคือเขาเรียกแค่ซองมินคนเดียวว่าพี่

                “สวัสดีคยูฮยอน”ทั้งฮยอกแจและดงเฮตอบเป็นเสียงเดียวกันมีเพียงแค่ซองมินเท่านั้นที่กำลังยืนอึ้ง

                “อ่าสวัสดี”ซองมินพูดแค่นั้นแล้วลากเพื่อนสองคนให้เดินหนีมาทันที

    ความรู้สึกนี้มันอะไรกันนะรู้สึกหัวใจเต้นแรงเพียงเพราะคยูฮยอนเดินเข้ามาทัก

                “ซองมินทำไมต้องเดินหนีคยูฮยอนเค้าด้วยล่ะหรือว่าซองมินเขิน><”ฮยอกแจพูดแล้วทำหน้าตื่นเต้นทำให้ซองมินอดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มเพื่อนรักหน้าไก่ของตัวเองด้วยความหมั่นไส้

                “บ้าเหรอเพิ่งเจอกันเองนะ”ซองมินพูดแล้วเดินหนีทั้งสองคนแต่ไปไหนไม่ได้ไกลซองมินก็ต้องหยุดเพราะชนกับอกแกร่งของคนที่เดินตามพวกเขามา

                “พี่ซองมินเดินหนีผมทำไมครับ^^”คยูฮยอนพูดแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับซองมินที่กำลังเขินหน้าแดงอยู่

                “เปล่าสักหน่อย”ซองมินตอบไปแบบนั้นแต่ก็ทำท่าจะเดินหนีอีกนั่นทำให้คยูฮยอนดึงแขนของคนที่ตัวเล็กกว่าเอาไว้แต่เพราะซองมินดิ้นทำให้คยูฮยอนบีบแขนซองมินแรงขึ้นนั่นส่งผลให้ดงเฮและฮยอกแจต้องรีบวิ่งเข้ามาห้ามทันทีเพราะพวกเขารู้ดีว่าซองมินเป็นอะไร

                “โอ๊ย!”ซองมินร้องขึ้นมาทำให้คยูฮยอนรีบปล่อยมือทันทีและได้เห็นรอยช้ำม่วงที่เกิดจากสิ่งที่เขาทำแต่มันช้ำมากกว่าที่สมควรจะเป็นนั่นทำให้คยูฮยอนทรุดลงตรงนั้น

                “ซองมินเป็นอะไรมามั้ยช้ำมากรึเปล่าไปโรงพยาบาลมั้ย”ดงเฮและฮยอกแจที่รีบวิ่งเข้ามาดูอาการซองมินตื่นตกใจมากที่เห็นรอยช้ำที่ข้อมือของซองมิน

                “ไม่เป็นไรๆคยูฮยอนน่ะสิเป็นอะไรรึเปล่า”ซองมินเดินเข้าไปหาคยูฮยอนที่ทรุดอยู่ที่พื้นด้วยความเป็นห่วงและเขาก็ได้เห็นว่าคยูฮยอนกำลังร้องไห้ทำให้ซองมินยื่นมือไปตรงหน้าคยูฮยอนที่กำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจ

                “.....”คยูฮยอนไม่ตอบอะไรแต่ดึงซองมินเข้ามากอดไว้เบาๆแล้วพูดที่ข้างๆหู

                “ฮึกๆพี่ซองมินอย่าจากไปนะอยู่ไปนานๆนะ”คยูฮยอนร้องไห้แล้วพูดแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาที่ข้างหูของซองมินนั่นทำให้ซองมินได้รู้ว่าคยูฮยอนกำลังเสียใจมากกับโรคที่เขาเป็น

                “พี่จะไม่ไปไหนจะอยู่ข้างๆนายนะ”ซองมินพูดปลอบทำให้คยูฮยอนหยุดสะอื้นแต่เขากลับสลบไปทันที

                “คยูฮยอน!!!”เสียงเรียกของซองมินไม่ได้ทำให้คยูฮยอนฟื้นนั่นทำให้ทั้งสามคนต้องช่วยกันพาคยูฮยอนไปที่ห้องพยาบาลทันที

                13.30 น.

                “พี่ซอง...มิน..”ขณะที่ซองมินกำลังนั่งเฝ้าคยูฮยอนที่หลับไปเมื่อตอนเช้าได้ยินสิ่งที่คยูฮยอนพูดจึงจับมือคยูฮยอนไว้

                “พี่อยู่นี่”เสียงตอบกลับนั่นทำให้คยูฮยอนกระเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงแล้วกอดซองมินไว้แน่นนั่นทำให้ซองมินยิ่งสงสัยว่าทำไมคยูฮยอนถึงร้องไห้ที่เห็นเขาเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว

                “ฮึกๆแม่ผมจากไปเพราะโรคที่พี่เป็น”คยูฮยอนพูดแล้วซบหน้าลงกับบ่าซองมินที่กำลังถูกเขากอดอยู่แล้วเริ่มพูดสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้มานานออกมา

                “ท่านจากไปฮึกๆผมไม่อยากให้พี่จากไป”คยูฮยอนพูดนั่นทำให้ซองมินกอดปลอบอีกคนหนึ่ง

                “หนึ่งเดือน”ซองมินพูดขึ้นมาแบบนั้นทำให้คยูฮยอนดึงซองมินออกจากอ้อมกอดแล้วทำหน้าสงสัย

                “คุณหมอบอกว่าให้ออกมาเรียนเที่ยวเล่นกับเพื่อนได้หนึ่งเดือนถ้านายจะจีบพี่ก็ในหนึ่งเดือนนะคิกๆ”ซองมินพูดติดตลกแต่มันคือความจริงนั่นทำให้คยูฮยอนยิ้มขึ้นมาได้บ้าง

                “อื้อหนึ่งเดือนพี่จะต้องรักผมแน่ๆคอยดูสิ”คยูฮยอนพูดแล้วยิ้มกว้างให้ซองมินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ห้องพยาบาล

                “วันนี้หมดคาบเรียนแล้วล่ะกลับบ้านกันเถอะ^^”ซองมินพูดแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าของเขาและคยูฮยอนมาส่งให้เจ้าของก่อนจะยื่นมือไปให้อีกคนจับเพื่อเดินกลับบ้านด้วยกัน

                “ขอบคุณครับพี่ซองมิน”คยูฮยอนยื่นมือไปให้ซองมินพวกเขาก็เดินกลับบ้านพร้อมกันในช่วงเย็นของวันนั้น

    1 อาทิตย์ผ่านไป

                “พี่ซองมินอรุณสวัสดิ์ครับ^^”คยูฮยอนเดินมาหาซองมินที่กำลังเดินฟังเพลง

                “อ้าวคยูฮยอนอรุณสวัสดิ์”ซองมินทักคยูฮยอนตามปกติตั้งแต่วันนั้นที่เขาตัดสินใจบอกคยูฮยอนไปว่าสามารถออกมาเที่ยวเล่นนอกโรงพยาบาลได้ 1 เดือนนั่นทำให้ทุกๆเช้ากลางและเย็นเขากับคยูฮยอนจะอยู่ด้วยกันเสมอจนทำให้ดงเฮและฮยอกแจเริ่มตีตัวห่างออกไปเพราะพวกเขาเองก็มีคนรักแล้วเหมือนกัน

    พักเที่ยง

                “พี่ซองมินไปทานข้าวกันครับ”ทุกพักเที่ยงคยูฮยอนก็จะมารับซองมินไปทานข้าวด้วยกัน

    ตอนเย็น

                “พี่ซองมินกลับบ้านด้วยกันนะครับ”ตอนเย็นทั้งสองคนก็จะกลับบ้านพร้อมกันนั่นทำให้ทุกคนในโรงเรียนมองว่าทั้งสองคนเป็นคนรักกันไปโดยปริยาย

                ณ สวนหย่อมหน้าบ้านคยูฮยอน

                “พี่ซองมิน”คยูฮยอนที่กำลังนอนตักซองมินอยู่เรียกคนตัวเล็กด้วยเสียงเบาๆ

                “หืมมีอะไรเหรอคยูฮยอน”ซองมินก้มหน้าลงมาถามคนที่เรียกชื่อตัวเองด้วยความสงสัย

                “อีกสามอาทิตย์พี่จะอยู่กับผมอีกแค่สามอาทิตย์ใช่มั้ยครับ”คำถามนั้นทำให้ซองมินชะงักไปแต่เขาก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม

                “ไม่พี่จะไม่อยู่กับนายอีกสามอาทิตย์”คำตอบที่ซองมินให้ทำให้คยูฮยอนลุกขึ้นมานั่งข้างๆซองมินแทนที่จะนอนตักเหมือนเมื่อสักครู่

                “ทำไมล่ะครับพี่จะไปจากผมเหรอไม่เอานะ”คยูฮยอนพูดแล้วทำหน้างอนนิดหน่อย

                “ไม่ใช่แต่พี่จะอยู่กับคยูให้นานกว่านั้น”ซองมินพูดแล้วยิ้มให้กับคยูฮยอน

                “....”คยูฮยอนไม่ได้ตอบแต่มอบรอยยิ้มคืนให้กับซองมิน

    ****************************************************************************************************************************

                กว่าจะจบครึ่งแรกมาได้ทำเอาเกือบตายกันเลยทีเดียวค่ะอ่านให้สนุกนะคะตามตอนต่อไปด้วยขอบคุณค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×