คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ผู้พูดคือชายหนุ่มอายุยี่สิบหก หน้าตาสะอาด ผิวขาวกว่าแสงจันทร์ ผมดำถูกรวบมวยไว้กึ่งกลางศีรษะเห็นรอยหยักเส้นผมตรงหน้าผากชัด ใบหน้ารียาวได้รูป จักษุกลมโตเฉกดวงตาของเนื้อสมันแรกเกิด ขนตาหรือก็งอนยาวหนาเป็นแพ จมูกโด่ง ริมฝีปากสีราวชาดแต้มเป็นรูปกระจับ หากตัวเล็กเพียงสามศอกหกนิ้ว เครื่องแต่งกายนั้นก็เป็นผ้าลายประหลาดที่มีช่องคอผ่านไม่ได้เย็บแล้วผูกเชือกตรงบั้นเอวกับกางเกงสีน้ำตาลหม่นขัดกับสถานที่และบุรุษอีกผู้ราวฟ้ากับดิน
“แล้วท่านสขิลว่าควรทำอย่างไรจึงจะดี” เจ้าแผ่นดินประทับบนเก้าอี้กำมะหยี่สีแดงเทียมกับสขิล ความโอ่โถงของห้องประทับประดับด้วยสีทองแลสีแดง เครื่องทรงเป็นสีน้ำเงิน เป็นเสื้อแขนยาวติดดุมทอง มียศถาประกาศชัดบนบ่าและหน้าอก เมื่อคราวเดวิดครองราชสมบัตินั้นอายุได้สามสิบสองปี บัดนี้ครองมาได้สามปี ผมสีทองหวีเรียบแนบไปกับศีรษะ ผิวขาว พระพักตร์เรียว พระเนตรใหญ่กว้างสีฟ้า จมูกเข้ารูปเป็นสัน ริมฝีปากหนา พระกายาใหญ่โตกำยำ สูงถึงสี่ศอก
“ขอให้พระองค์ยกไปตีอาณาจักรชเยศก็เห็นจะได้โดยง่าย” สขิลเหยียดกายตรง ย่างเท้าไปยังแผนที่ลากนิ้วไปตามจุดต่างๆ “พระองค์จงแบ่งทัพเป็นสอง ทัพหนึ่งยกไปทางป้อมสุริยันตั้งค่ายลงให้มั่น ตกดึกให้แบ่งทหารรักษาค่ายอยู่แต่น้อยที่เหลือยกไปซุ่มที่ป้อมเมฆา เมื่อนั้นป้อมสุริยันก็จะสำคัญว่าทัพที่เหลืออยู่นั้นมีทหารเป็นอันมาก ก็จะขอให้ป้อมเมฆายกไปช่วย ป้อมเมฆาก็จะว่างลง ทัพทีแบ่งมาจงยกตีหักเข้ายึดด่าน ก็จะได้เป็นมั่นคง ส่วนทัพหนึ่งให้ยกไปสกัดเจ้าพิรัลอันจะยกกลับมาช่วย”
“ในแต่ละทัพนั้นควรให้ใครเป็นแม่ทัพถึงจะควร”
สขิลได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ แล้วว่า “เจ้าเดวิดเอ๋ย พระองค์รึก็มีปัญญาตั้งมาก อันจะถามข้าพเจ้าซึ่งเป็นเพียงขันทีนั้นมิชอบ เพราะตัวข้าพเจ้าก็เพิ่งมาอยู่กับพระองค์ยังไม่ครบวันดี จะรู้น้ำใจทหารของพระองค์ เท่าพระองค์หรือ”
เดวิดได้ฟังกระนั้นก็เกิดความละอาย ยิ่งสบรอยยิ้มเยาะจากสขิลคนงามหัวใจยิ่งกระหน่ำระรัว “งั้นข้าจะจัดให้กาเบรียลยกทัพไปสกัดเจ้าพิรัล ส่วนตัวข้าจะยกไปตีชเยศทางป้อมเมฆา แล้วให้อันเดรอัสคุมทหารอยู่ที่ป้อมสุริยัน”
“พระองค์จงยกทัพหลวงไปแต่เมื่อหักเอาป้อมเมฆาได้แล้วเถิด แล้วแต่งเอาทหารกล้าสักคนไปคุมป้อมเมฆา ส่วนอาณาจักรไฮเบิร์กนี้ก็แต่งให้พระโอรสริชาร์ดอยู่รักษา”
“งั้นเราจะให้อันเดรอัสคุมทหารไปยังป้อมเมฆา ให้ธีบอร์ไปลวงอยู่ป้อมสุริยัน ท่านว่าควรหรือไม่”
“ข้าพเจ้าไม่คัดค้าน”
“แล้วท่านสขิลพึงใจจะอยู่ทัพใด” ผู้ถูกถามเผยอยิ้มหยัน
“ถึงข้าพเจ้าจะตอบอย่างใด พระองค์ก็ให้ข้าพเจ้าไปกับพระองค์อยู่แล้วมิใช่รึ” คำตอบรู้เท่าทำให้เดวิดรู้สึกกระดาก กระแอมไอ ก่อนว่า
“หรือท่านเห็นไม่สมควร”
“ควรแล้ว ทางด้านเจ้าพิรัลนั้นหามีทางที่จะเชิญข้าพเจ้าไปเป็นที่ปรึกษาไม่ แต่วันนี้ข้าพเจ้าเห็นดาวทางทิศประจิมอ่อนแสงลง พระเจ้าอิมรานคงสวรรคตในเจ็ดวันนี้เป็นมั่นคง ฟ้าชายรามินจะขึ้นเป็นกษัตริย์ครองเมืองซาปา และจะแค้นข้าพเจ้าผู้บอกให้พระองค์ไม่ยกทัพไปช่วยเป็นอันมาก รามินก็จะมาเชิญข้าพเจ้าไปเพื่อทำการร้ายต่อข้าพเจ้า แต่เชื่อเถิด มาดว่าพระองค์ยกทัพไปช่วยเจ้าอิมรานก็หนีไม่พ้นจากชะตา”
“แต่รามินสังหารท่านมิได้ ข้าว่าทางที่ดีนั้น ท่านควรจะเป็นที่ปรึกษาแก่ข้าผู้เดียว ไม่ต้องไปตามคำเชิญ ข้าจะบำรุงท่านให้ถึงขนาด”
“ฟ้ากำหนดมา ดินกำหนดมา ชะตากำหนดมา ข้าพเจ้าฝืนมิได้ อันฟ้ากำหนดมาแล้วว่า เมื่อกษัตริย์เมืองใดมาเชิญข้าพเจ้าไปเป็นที่ปรึกษา มาดว่ามาเชิญด้วยพระองค์เองแล้ว ข้าพเจ้าจำต้องไปปฏิบัติการอย่างสัตย์ซื่อ แม้นว่าขณะนั้นข้าพเจ้าจะรับราชการอยู่ที่ใดก็ตาม ดังเช่นที่พระองค์ลอบไปเชิญข้าพเจ้ามาจากเมืองบุชก้าซึ่งข้าพเจ้ารับราชการอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็มาและหมดความสัตย์กับเมืองนั้น ดังนั้นถึงตอนนี้ข้าพเจ้าจะสัตย์ซื่อต่อพระองค์ แต่หากรามินมาเชิญข้าพเจ้าไปเป็นที่ปรึกษา ด้วยตัวของรามินเองข้าพเจ้าก็จำต้องไปและปฏิบัติอย่างสัตย์ซื่อมิต่างกัน ถึงมาดว่ารามินต้องการจะทำร้ายข้าพเจ้าก็ตาม”
“แต่รามินก็ทำอะไรท่านมิได้ เพราะถ้ากษัตริย์เมืองใดสังหารท่าน หรือท่านถึงแก่ความตาย ณ เมืองใด เมืองนั้นก็จะพินาศสิ้น” เจ้าแผ่นดินไฮเบิร์กเอ่ยตามเรื่องเล่าที่ว่ากล่าวกันมา
“มิมีอะไรพิสูจน์ว่าความเหล่านั้นจริง”
“เรื่องที่ท่านมีปัญญาหาผู้ใดในแผ่นดินเสมอก็แจ้งกันทั่วแล้ว เรื่องที่ท่านไปอยู่เมืองใด เมืองนั้นจะไม่ปราชัยก็แจ้งกันทั่วแล้ว เรื่องที่ท่านรู้ชะตาฟ้า ชะตาดิน ก็แจ้งกันทั่วแล้ว เรื่องที่ท่านเป็นผู้บุตรของเทพยดาก็แจ้งกันทั่วแล้ว ยังมีสิ่งใดไม่แจ้งอีกเล่า”
“สิ่งที่ไม่แจ้งก็คือรามินจะแจ้งเหมือนที่แจ้งกันทั่วแล้วหรือไม่ พระองค์อย่ากังวลในความนั้นเลย จงเตรียมทหารให้พร้อมเถิด”
พระเจ้าเดวิดไม่รู้ที่จะตอบประการใดก็ทำตามคำสขิล
ความคิดเห็น