������������ส่วนเกอาซึ่งห้ามอูรานอสเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ไม่เป็นผล ก็เลยไม่พอใจที่อูรานอสทำใจร้ายกับลูกๆ ได้ขนาดนั้นเลยลงไปที่ทาร์ทะรัส (เอไม่รู้ลงไปได้ยังไงนะเนี่ย) แล้วก็ยุยงให้ลูกๆ ทำการปฏิวัติเสด็จป๋าเอาซะเลย
���������� ซึ่งลูกที่ยอมตอบรับเลยก็คือโครนัส เกอาเลยปลดปล่อยโครนัสแล้วให้เคียวไปหนึ่งด้านเพื่อใช้เป็นอาวุูธสังหารอูรานอส(ส่งลูกไปฆ่าพ่อตัวเองเนี่ยนะ�- -*)
���������� โดยโครนัสได้ไปแอบอยู่ใต้เตียงของอูรานอสแล้วคอยให้อูรานอสกลับมา พออูรานอส
กลับมาถึงกำลังจะนอนโครนัสก็อาศัยจังหวะที่อูรานอสเผลอ โผล่ออกมาจากใต้เตียงพร้อมกับเอาเคียวฟันอูรานอสจนเสียชีวิต(แหมช่างเป็นลูกผู้ชายตัวจริงซะจริงๆ)�
��������� ก่อนตายอูรานอสได้สาปแช่งโครนุสเอาไว้ว่า จะต้องถูกลูกของตัวเองทำการรัฐประหารยึดอำนาจ�เช่นเดียวกับที่ตนโดน
��������� เมื่อสังหารอูรานอสได้แล้วนั้น โครนัสก็ถูกเลือกจากพี่น้องให้ขึ้นเป็ราชาครองบัลลังค์
วงศ์ไททันส์แทนบิดา แล้วก็เลือกรีอา ซึ่งเป็นเทวีที่สวยที่สุดแต่งงานเป็นมเหสีแล้วจึงจัดการปกครองใหม่โดยแบ่งกับพี่ๆน้องดังนี้
โอเชียนัส กับ ธีทิส ให้ปกครองมหาสมุทรและแม่น้ำทั้งปวง� เราเลยเรียกมหาสมุทรโอเชี่ยน
ไงครับ������
ไฮเพอเรียน�กับ�ฟีบี ปกครองวิถีโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์�������
เมโนซีนี เป็นเทวีผู้ครองความทรงจำ�(Nemosyne เป็นรากศัพท์ของคำว่า memo เมโม ที่
แปลว่าเกี่ยวกับความทรงจำยังไงล่ะครับ)
ธิมิสเป็นเทวีผู้ครองความยุติธรรม (�บางคนอาจเคยเห็นรูปเทวีที่ถือตราชั่งและดาบนั่นแหละครับ
ธิมิสล่ะ)��
��������������
��������� โครนัสปกครองไทแทนส์ได้อย่างเป็นสุขได้เป็นเวลานานจนกระทั่งมีโหรได้ทำนายว่าจะต้องกรรมสนอง โดนลูกทำการยึดอำนาจ� ดังคำสาปแช่งของอูรานอส
������� ด้วยความหวาดกลัวเมื่อรีอาประสูติโอรสองค์แรก โครนัสจังบังคับให้รีอาส่งตัวมาให้แล้ว
ตัวเองก็จัดการกลืนลูกลงท้องไม่หน้าตาเฉย
ต่อมา...ไม่ว่ารีอาจะประสูติโอรสหรือธิดากี่องค์ต่อกี่องค์ โครนัสก็จับกลืนทุกพระองค์ โดยไม่ฟังคำวิงวอนของรีอาเลย (กินลูกตัวเองเนี่ยนะ - -*)
��������������� ในที่สุดรีอาก็ตัดสินใจเก็บโอรสองค์น้อยเอาไว้(น้องเล็ก) ด้วยการส่งก้อนหินห่อผ้าให้โครนัสกลืนแทน(โครนัสประสาทช้าเนอะ ก้อนหินกับเด็กแยกกันไม่ออก)
��������������� รีอาจึงเอาโอรสไปฝากนางอัปสรนีเรียด ธิดาของเทพนีรูส (นีรูส คือเทพแห่งทะเลอีเจียน มีชายาชื่อโดริส ทั้งนีรูสลัโดริสเป็นบุตรของโอเชียนัส เทพแห่งท้องทะเล แต่ต่างมารดากัน นีรูสมีธิดาเป็นนางอัปสรทะเล 50 นาง และพวกนางทั้งหมดถูกเรียกว่า นีเรียด ตามชื่อของบิดา)
��������������� โอรสที่รอดจากการกลืนของโครนัส ชื่อว่า ซุส หรือ จูปิเตอร์
��������������� เหล่านางอัปสร นีเรียด ได้นำซุสไปไว้ในถ้ำบนยอดเขาไอดา โดยให้นางแอมัลเธีย กับนางมีลิสสา(สัตรีคนแรกที่รู้จักการเก็บน้ำผึ้ง) 2พระธิดาของท้าวมีลิสซัส เจ้าเกาะกรีต คอยเลี้ยงกุมารด้วยนมแพะ
��������������� ทั้งนี้เพื่อป้องกันเสียงร้องไห้ของกุมาร ได้ยินไปถึงโครนัส พวกคิวรีทิส(ชาวเกาะกรีต) สาวกเจ้าแม่รีอา ซึ่งเป็นอาจารย์ของซุส จึงคิดการเต้นรำขึ้นมาชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยเสียงร้องเซ็งแซ่และเสียงร้องประสานอาวุธอึกทึกสนั่น เพื่อกลบเสียงร้องไห้ของซุส
��������������� วันเวลาผ่านไปจนซุสเติบใหญ่ เวลาแห่งการรัฐประหารตามคำทำนายก็มาถึง
ซุสได้เข้าต่อสู้กับโครนัส �อย่างดุเดือด
��������������� ในที่สุดซุสก็ชนะ และจับโครนัสเอาไว้ ซุสและรีอาได้ปรึกษากัน และได้ข้อตกลงว่า ให้บังคับโครนัสดื่มน้ำสำรอกที่ มีทิส ธิดาของโอเชียนัสปรุงขึ้น
��������������� หลังจากที่ดื่มน้ำสำรอกลงไป
��������������� โครนัสได้สำรอกลูกๆ ที่เคยกลืนลงไปทั้งหมด รวม 5 องค์ คือ
��������������� 1.ฮาเดส หรือ พลูโต
��������������� 2.โพไซดอน หรือ เนปจูน
��������������� 3.เฮสเทีย หรือเวสตา
��������������� 4.ดีมิเตอร์ หรือ ซีริส
��������������� 5.เฮรา หรือ จูโน
��������������� และก้อนหินที่โครนัสเข้าใจว่าเป็นซุสด้วย (ภายหลังก้อนหินก้อนนี้ได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่วิหารเดลฟี ซึ่งเป็นวิหารของเทพอพอโล่)
��������������� เป็นอันว่า ซุสได้อำนาจแห่งโอลิมปัสเรียบร้อย และเลือกเฮราพี่สาวคนเล็กมาเป็นภรรยา
��������������� แต่หนทางแห่งทางครองบันลังก์ก็ใช่ว่าจะราบลื่น เนื่องจากมีศึกอีกหลายคราว
��������������� ศึกแรกคือ ศึกเทพไททัน พวกเทพไททันที่ยังจงรักภัคดีต่อโครนัสอยู่ (มีเทพไททันบางองค์เปลี่ยนมาอยู่ฝ่ายซุสแล้ว เช่น เนโมซินี ธีมิส โอเชียนัส และไฮเพอเรียน(และเหล่าภรรยา) ได้โยธาทัพมาล้อมเขาโอลิมปัสไว้
��������������� จึงเกิดการต่อสู้กันเป็นเวลาช้านาน
��������������� ซุสเห็นว่าเทพไททันแต่ละองค์ ล้วนทรงพละกำลังและน่าเกรงขามยิ่งนัก (รวมๆแล้วก็ 6 องค์) ซุสเลยหันไปญาติดีกับไซคลอปส์ที่ยังถูกขังในทาร์ทะรัส (ไกอาช่วยแต่เทพไททันออกมาจากทาร์ทะรัส รักลูกไม่เท่ากันหนิ)
��������������� โดยให้สัญญาว่า จะปลดปล่อยไซคลอปส์เป็นอิสระ ถ้ายอมสร้างอาวุธสายฟ้า(อสุนีบาต)ให้กับซุส
��������������� ไซคลอปส์ยอมสร้างอาวุธสายฟ้าให้กับซุส (เพราะไงตัวเองก็เป็นเจ้าแห่งฟ้าผ่าอยู่แล้วทั้ง 3 ตน สร้างอสุนีบาตแค่นี้ It’s a very หมู)
��������������� ซุสพอได้อาวุธคู่หัตถ์ ก็เอาไปปราบเทพไททัน ซึ่งก็ชนะสมใจ เทพไททันบางตนที่แพ้ก็โดนจับลงทาร์ทะรัสใหม่อีกรอบ บางองค์ก็ถูกไปทำหน้าที่อื่นอย่างเทพไททัน แอตลาส ซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่นั้นโดนลงโทษหนักหน่อยคือใช้ให้แบกสวรรค์และโลกไว้บนบ่า(ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คาดว่าน่าจะเป็นชื่อโรมัน เพราะชื่อภาษากรีก ของเทพไททันมีเพียง โอเชียนัส ซีอัส ครีอัส ไฮเพอเรียน ไอแอพิทัส และโครนัส ดังนั้นแอตลาสจังน่าจะเป็นซีอัส ครีอัส หรือไอแอพิทัส)� เราเลยเรียกแผนที่โลกว่าแอตลาสไงครับ��������������� ฝ่ายยักษ์ไซคลอปส์ก็ถูกปลดปล่อยตามสัญญา แต่ภายหลังไซคลอปส์เกิดแข็งข้อกับซุส จึงถูกโยนกลับไปในทาร์ทะรัสเหมือนเดิม (บางตำราบอกว่าตกไปอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง ในภายหลังเทพฮีฟีทัสก็ถูกเด็จป๋าซุสถีบตกลงมาจากสวรรค์ ตกลงมาสู่เกาะแห่งนี้ ฮีฟีทัสได้ตังโรงงานเหล็กที่เกาะนี้และได้ไซคลอปส์มาเป็นลูกมือ)
��������������� พอจบศึกไททัน ก็ตามมาด้วย อสูรร้ายไทฟอน มีลักษณะเป็นมังกร 100 หัว ซึ้งเป็นอสูรที่ไกอาเนรมิตขึ้นเพื่อแก้แค้นให้กับเทพไททันที่แพ้ให้กับซุส ความน่ากลัวของไทฟอนทำเอาถึงโอลิมปัสแทบร้าง เพราะเทพต่างๆพากันหนีไทฟอนไปถึงประเทศอียิปต์
��������������� แต่หลังจากหลบได้ไม่นาน ซุสก็เกิดความละอายใจต่อการกระทำของตนเอง จึงกลับสู่โอลิมปัส และสามารถสังหารอสูรไพทอนได้ในที่สุด
��������������� แต่ทว่าอีกไม่นานไกอาก็ได้ส่งอสูรร้ายขึ้นมาอีกตนหนึ่ง ชื่อว่า เอนเซลาดัส เป็นยักษ์ ความร้ายกาจของเอนเซลาดัสก็ไม่แท้ไพทอน แต่ก็ถูกปราบลงจนได้ โดยโดนจับขึงพืดไว้ใต้ภูเขาเอตนา
��������������� หลังจากปราบเอนเซลาดัส เสร็จก็ไม่มีศึกใหญ่เกิดขึ้นอีกแล้ว (ไกอาเริ่มใจอ่อน เพราะซุสก็คือหลานไกอา)
��������������� ซุสจัดการปกครองซะใหม่ โดยจัดให้
��������������� ซุส ปกครองท้องฟ้า แล้วก็สวรรค์ทั้งหมด
����������������
��������������� ฮาเดส ปกครองบาดาล หรือยมโลกตลอดถึงทาร์ทะรัส
��������������� โพไซดอน ปกครองทะเลเมดิเตอร์เรเนียน(รวมถึงทะเลดำ) และแม่น้ำทั้งปวง (ดังนั้นมหาสมุทรจึงอยู่ใต้การปกครองของโอเชียนัสตามเดิม)
��������������� เฮสเทีย เป็นเทวีแห่งไฟ และความสุขในเคหะสถาน (หมายถึงไฟที่ให้คุณ เช่นไฟในเตาผิง ให้ความอบอุ่น)
��������������� ดิมิเตอร์ เป็นเทวีแห่งธัญญาหาร
��������������� เฮรา เป็นเทวีผู้คุ้มครองการวิวาห์
�������� จากนั้นซุสก็ได้เปลี่ยนชื่อวงศ์ซะใหม่ โดยเอาชื่อของยอดเขาโอลิมปัสที่เป็นที่ตั้งของสวรรค์มาตั้งเป็นวงศ์โอลิมเปี้ยนแทน
ความคิดเห็น