คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การเดินทางที่แสนยาวไกล
ปู๊น ๆ เสียงรถไฟดักกึกก้อง โสดประสาทของลำเจียก หญิงสาวตัวน้อยที่กำลังนั่งหลับรอรถไปเที่ยวสุดท้ายที่จะไป อโยธยา กับพี่ชายที่สุดจะกวน-ตี้- และมิน่ำช้ำ ยังหน้าตาดีอีกเสียด้วย “ นี้ พี่โชติ รีบตื่นเร็ว เดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟขบวยนี้นะ “ เมือจบประโยค มือน้อยๆ ของเธอก็เอื้อมไปเขย่าตัวพี่ชาย “ ฮึ้ ตื่นแล้วๆ จะ “ โชติช่วงชายหนุ่มอายุ ราวๆ 20 เห็นจะได้ ง่วงเงี้ยเอามือขึ้นไปขยี้ตา “ เร็วพี่ เร็วๆ น้องตื่นเต้นมากเลยนะ ที่จะได้เจอน่าพ่อกับแม่ นานๆที่ได้เจอ เนาะ “ ลำเจียกดีใจสุดขีด ถึงกับคล้ายจะเป็นบ้าไปเลย “ นิ ลำเจียกเก็ยอาการหน่อยไม่ได้หรอ ไง อย่าลืมนะว่าที่นี้ไม่ใช่บ้านที่จะมาทำแบบเนี้ย “ โชติช่วง พี่ชายชอบจู้จี้ สั่ง “ รับพระบัญชา “ ลำเจียกล้อเลียนพี่ชาย ตัวเอง ก่อนทั้งสองนั้น จะเข้านอนไป...
“ ทุกๆท่านโปรดกรุณาเช็ดสำภาระตัวเองก่อนลงจากรถไฟด้วยค่า “ พี่สาวที่เป็น พนักงานโดยสาร เอื้อมมือมา แตะที่ไหล่ฉันเบาๆก่อนจะเขย่าเบาๆ “ ตื้นได้แล้วคะ “ พี่พนักงานคนนั้นพูดแล้วก็เดินพานไป “ อ่าวพี่โชติตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกน้องด้วยละ “ ลำเจียกพูดไปพร่างมือทั้งสองข้างก็กำลังสาละวน อยู่กับสำภาระ ทั้งหลายแหล่ “ เออน่า ไหนๆก็ไหนๆละ รีบเอาของลงไปรอ รถให้มารับดีกว่าไหม? “ พี่โชติช่วงยืนมือมาเอากระเป๋าที่อยู่ข้างๆฉันไป หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไปหาท่านพ่ออีกต่อนึง พักใหญ่ผ่านไปทั้งสองก็มาอยู่ที่หน้าทางเข้าเรือนไม้หลังใหญ่หลังหนึงในละแวก เขตเมือง อโยธยา “ เอ้าลูกๆ กลับมาแล้วกันหรือ “ ชายหนุ่มไวกลางคนแต่งตัวดูมีฐานะ ร่ำรวยพอๆกับความใหญ่มหึมาของเรือนไม้หลังนี้ “ ไหนๆ พวกเจ้าก็กลับมาจากการเล่าเรียน วิชาร่ายรำมา ไหนพวกเจ้าลองรำให้ แม่เจ้ากับข้าดูหน่อยจะได้ไหม ? “ ชายไวกลางคนถาม “ แน่นอนท่านพ่อ เรากลับมาที่นี้ เพื่อที่จะมา ร่ายรำในแบบวิชาที่ พวกข้าไปเรียนมาจาก แขวนนางรำ “ ลำเจียกพูดอย่างมั่นใจ หลังจากนั้น ไปครึ่งชั่วยาม “ ทุกอย่างพร้อมแล้วรึ “ ท่านพรมเทพ ท่านพ่อของลำเจียก ถามบ่าวคนนึงที่ออกมาจากห้องนอน ของ ลำเจียก “ พร้อมแล้วเจ้าคะ นายท่าน “ บ่าว คนนึงพูดพร้องกับ ผ่ายมือไปทางประตู บานหนึ่ง “ แอ๊ด “ เสียงประตูเปิดมา เผยให้เห็น เด็กสาวในชุด มโนราห์ ส่วนพี่ชาย ก็อยู่ในชุด นายพาน “ ท่านพ่อท่านแม่ ชุดนี้ที่เรากำลังจะแสดง ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้ว เพราะพวกเราเป็นคนคิดทั้งท่ารำ และเรื่องราว “เอ้างั้นก็รีบๆ แสดงให้พวกเราดูกันหน่อยสิ “ ท่านพรมเทพเอ่ย “ เจ้าคร๊า” ลำเจียกทำท่าล้อเลียน พ่อตัวเอง เสียงกลอง ชิงฉาบดังขึ้นเป็นจังหวะๆ และแล้ว ฉากก็เปิดม่านขึ้น พร้อมกับเสียงปรบมือและหน้าที่ดูพึงพอใจของท่านพรมเทพ “ กรึ๊ก ๆๆ “ เศษฝุ่น ร่วงลงมาจากเพดานบ้าน หลังจากนั้น ก็ตามมาด้วยแผ่นดินไหวเล็กน้อย ทุกคนต่างแตกตื่นและวิ่งลงไปจากเรือนใหญ่ “ ลำเจียก โชติช่วงออกมาเร็ว” ท่านพรมเทพกล่าว แต่เพราะว่าลำเจียกเป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เลยสะดุดเสาต้นหนึ่งที่พังลงมา โชติช่วงรับไว้ได้ทันเลยไม่เป็นอะไรมาก เพราะเหตุการณ์มันฉุกเฉินมาก ทั้งสองจึงกระโดดลงไปที่พุ่มไม้เตีย ๆ กลุ่มหนึ่งและสลบไปในขณะหนึ่ง ตื่นมากอีกทีรอบตัวของทั้งคู่ก็มีแต่ป่า ทั้งสองตื่นมาก็ช่วยกัน หาทางออก แต่ยิ่งหาก็เหมือนยิ่งหลงลึกเข้าไปอีก ทั้งคู่ช่วยกันหาทางออกจนหมดแรง “ นี้ พี่โขติ เมือไหร่ เราถึงจะหาทางออกเจอหรอ “ ลำเจียกพูดไปน้ำใส่ๆ ก็ไหลรินลงมาอาบแก้มนวลของเธอ โชติช่วงรีบโอบเธอไว้ให้อ้มแขนที่อบอุ่น และแล้วพระอาทิตย์สุริยา ก็หายลับขอบฟ้าไป มันทั้งมือแล้วหวานเน็บ ทั้งคู่ได้เจอกับบ้านหลังหนึ่งเข้าระหว่างทางที่จะไปหาต้นไม้ใหญ่เพื่อนอน “ มีใครอยู่ไหม ? “ โชติช่วง เดินเข้าไปใกล้ที่ละก้าวๆ จนในที่สุดก็ถึงประตูหน้าทั้งสอง เดินเข้าไปก็เจอแต่ความว่างเปล่าทันใดนั้น ก็มีแสงฉาย วาบ “ พรึบ ทั้งคู่หายไปเพียงแค่อึดใจเดียว เท่านั้น เออแล้วทั้งสองไปไหลแล้วละ เราไปดูกัน “ แบร้นๆๆๆๆๆๆ !!!!!! “ เสียงแตร่รถดังขึ้นทั้งสอง ผ่านเวลามาเป็นรอย ปี เข้ามาในเมืองกรุงเทพฯ ไ อะ พี่โชติระหวัง นะ ที่นี้มีแต่อะไร ก็รู้ หรอนี้คือ..... โลกของสัตว์ประหลาด “ ลำเจียกเพ้อไปถึงไหนๆ “ ลำเจียกที่นี้ใช่ไหมๆ ที่ท่านพ่อเคยบอกว่า มันดีมาก เมืองฝรั่ง “ โชติช่วงจับมือน้องสาวตัวเองและเดินข้ามถนนโดยไม่ดูรถ "แบร้น ๆๆ" เสียงแตร่รถดังลั่น แล้วก็ " โคร๊ม " เสียงรถชนเข้ากับทั้งสองอย่างจั่ง
ความคิดเห็น