คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Audition Actress for Onew
► ส่วนของผู้สมัคร ◄
ชื่อเล่น :: Maiiz
อายุ :: 2x (ถ้าแจจุงอายุเท่าไรพี่ก็อายุเท่านั้นจ๊ะ ^^)
My id :: http://my.dek-d.com/gd_holic2bb
คิดว่าเนื้อเรื่องมันเป็นยังไงบ้างคะ อยากให้เพิ่มเติมตรงไหนมั้ย :: ไม่ต้องแก้ไขอะไรแล้วจ๊ะ เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะ ถึงไม่ได้มาออ ก็ต้องมาอ่านเรื่องนี้อยู่แล้วจ๊ะ
► ส่วนของนางเอก ◄
ชื่อ :: Kang Jaeha (คังแจฮา)
บุคคลิกและนิสัย ::คุณหมอสาววัยรุ่นที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานอยู่เสมอไม่ว่าจะเจอปัญหามากแค่ไหนก็สามารถเข้าใจและวิเคราะห์แก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้อย่างดี เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ถ้าเห็นใครเดือดร้อนก็ไม่ลังเลที่จะลงมือให้ความช่วยเหลือ มีความมั่นใจในตัวสูงมาก พยายามทุ่มเทให้กับสิ่งที่ตัวเองสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน เธอก็จะลงมือทำมันอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่เสแสร้ง รักอิสระ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ออกห้าวๆ แอบมึนอยู่บ่อยๆ ไม่เรียบร้อย ขาดความเป็นกุลสตรี(ขัดกับหน้าตาที่ดูน่ารักอ่อนหวานเหมือนคุณหนู) เกลียดการถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ถ้าเจอเมื่อไร จะต่อต้านทันที ทว่ากลับไม่สนใจเรื่องของความรักสักเท่าไร ชอบคนยาก(มาก) แม้จะมีคนมาชอบเยอะ เธอก็ให้ความสัมพันธ์ได้แค่เพื่อนเท่านั้นโดยสามารถรักษามิตรภาพของความเป็นเพื่อนเอาไว้ได้อย่างดี แต่ถ้าลองได้ชอบใครแล้วก็จะหลงอยู่กับความรู้สึกนั้นตลอด มองเค้าแค่เพียงคนเดียว และพยายามคิดหาวิธีเพื่อให้อีกฝ่ายมาสนใจตัวเองให้ได้ ใครเตือนยังไงก็ไม่ฟัง แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างคีย์ (อยากให้แจฮาเป็นเพื่อนสนิทกับคีย์นะค่ะ แต่ว่าถ้าไรเตอร์เห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลยนะค่ะ)
สิ่งที่จะทำให้คุณทนไม่ได้จริงๆ :: การยอมแพ้อะไรง่ายๆโดยที่ยังไม่ได้ทันลงมือทำเลย/การตัดใจให้เลิกรักอนยู/เห็นคนที่ตัวเองรักต้องเจ็บปวดเพราะคนอื่น โดยที่เธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย
► ส่วนของพระเอก ◄
ชื่อ :: อนยู
บุคคลิกและนิสัย :: ชายหนุ่มผู้แสนอบอุ่น อ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ เชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ รอบคอบมาก ไม่ย่อท้อต่ออะไรง่ายๆ แต่บางทีก็ขี้รำคาญไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่เคยแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา เพราะไม่ต้องการให้ใครมาเห็นด้านอ่อนแอที่ซ่อนไว้ในใจ
ประวัติครอบครัว :: ชีวิตในวัยเด็กต้องเผชิญกับความยากลำบากในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่จากใครทั้งสิ้น ไร้ค่า อ่อนแอ ถูกรังแกเอารัดเอาเปรียบจากเด็กในรุ่นเดียวกันหรือโตกว่าตลอดเวลา จนกระทั่งครอบครัวของน้องสาวต่างสายเลือดรับไปเลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อให้มาเป็นตัวแทนของลูกชายคนโตที่เพิ่งเสียชีวิตไปจากอุบัติเหตุซึ่งมีใบหน้าคล้ายกับเค้าราวกับฝาแฝดแถมอายุยังเท่ากัน ยิ่งได้รู้ความจริงหัวใจของอนยูต้องเจ็บปวดทรมานจนเกินจะเยียวยา แต่เมื่อเค้าได้พบกับน้องสาวต่างสายเลือดที่เข้ามาทำให้ชีวิตที่เปล่าเปลี่ยวไร้ค่าของอนยูได้กลับมีชีวิตอีกครั้ง เธอได้มอบความรักอันแสนบริสุทธิ์ให้กับเค้าอย่างจริงใจโดยไม่นึกรังเกียจเลยสักนิด และนั่นก็ทำให้เค้ายูตกหลุมรักน้องสาวต่างสายเลือดทันที อนยูสัญญากับตัวเองว่าจะมอบความรักทั้งหมดที่มีให้กับน้องสาวต่างสายเลือดเพียงคนเดียวและจะปกป้องดูแลเธอให้ดีที่สุดในชีวิต
สิ่งที่จะทำให้ทนไม่ได้จนถึงขั้นตบะแตก :: น้องสาวต่างสายเลือดกำลังหลงรักคนอื่นที่ไม่ใช่เค้า/น้องสาวต่างสายเลือดถูกรังแก/น้ำตาของน้องสาวต่างสายเลือด/การถูกตามตื้อจากคังแจฮา
► คำถามชิงบท ◄
คุณกับเค้าเจอกันครั้งแรกที่ไหน แล้วไปตกหลุมรักเค้าได้ยังไง
:: แจฮากำลังรีบวิ่งไปทำงานให้ทันและระหว่างที่วิ่งก็พยายามจะกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิท โดยไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับอนยูที่ยืนอยู่และเพิ่งวางสายจากน้องสาวต่างสายเลือด อนยูรีบลุกขึ้นและตรงเข้าไปช่วยพยุงร่างบางที่ชนกับตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้นพลางถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” อนยูถามย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมตอบ
“มะ...ไม่เป็นไร ขอบคุณมากค่ะ ว่าแต่คุณเองไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ” แจฮาพูดตะกุกตะกัก
“ไม่ครับ ขอโทษนะครับที่ผมไม่ระวังจนชนคุณเข้า” อนยูบอกก่อนจะส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้กับคนตรงหน้าที่ตอนนี้ใบหน้ากำลังเริ่มแดงระเรื่อ หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“ไม่หรอกค่ะ ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด”
“อืม...งั้นเราก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ว่าไหมครับ”
“งั้นผมไปก่อนนะครับ” อนยูบอกลาอย่างสุภาพและส่งยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินออกไป แจฮาได้แต่มองจนอนยูเดินลับตาไป เธอยกมือขึ้นมาทาบที่อกข้างซ้ายของตัวเอง ทำไมหัวใจของเธอยังคงเต้นแรงไม่เป็นจังหวะอีกนะ ภาพใบหน้าหล่อเหลายังคงติดอยู่ในห้วงความคิด เจอกันแค่เพียงครั้งเดียว ผู้ชายคนนั้นมีอิทธิพลมากมายขนาดนี้เลยหรอ ไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน รู้แต่ว่าผู้ชายนิรนามคนนั้นได้ขโมยหัวใจของเธอเข้าให้แล้ว นี่คนเราตกหลุมรักกันง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ ไม่มีเหตุผลมากมายที่ต้องอธิบาย ว่าแต่เธอกับเค้าจะได้มีโอกาสเจอกันอีกไหม ถ้ามี...เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มทำความรู้จักกับเค้าก่อน และเหมือนโชคก็เข้าข้างเธออีกครั้ง เมื่อแจฮามาสังเกตว่ามือถือในมือว่ามันไม่ใช่ของตัวเอง งั้นแปลว่าโทรศัพท์ของทั้งสองสลับกัน นั่นเป็นโอกาสที่พวกเราสองคนจะได้เจอกันอีกครั้งนึง การที่เธอกับเค้าได้เจอกันมันไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นพรหมลิขิตต่างหาก แล้วแจฮายิ้มออกมาอย่างมีความสุข
::แจฮาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า...ตัวเองต้องมาเห็นภาพอนยูกำลังจูบหน้าผากของน้องสาวต่างสายเลือดที่นอนหลับไม่รู้สึกตัวด้วยฤทธิ์ยา แค่นี้มันก็ทำให้เจ็บในใจจนพูดไม่ออก แต่การกระทำต่อมาของเค้าช่างร้ายกาจเหลือเกินราวกับต้องการฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น ประโยคสารภาพความในใจของอนยูที่มีต่อน้องสาวต่างสายเลือด
“พี่ รักเธอนะ เฮอิน* รักมาตลอดตั้งแต่ครั้งแรกที่เราสองคนเจอกัน ทั้งที่พี่ควรห้ามใจตัวเอง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ยังคงดึงดันรักเธออยู่ดี พี่สัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด เพราะเธอคือทุกสิ่งในชีวิตของพี่ ถ้าไม่มีเธอ พี่ก็อยู่ไม่ได้ เฮอิน”
ไม่จริง มันเป็นเรื่องล้อเล่นใช่ไหม? อนยูไม่ได้รักน้องสาวต่างสายเลือด อนยูแค่แกล้งทำเพื่อให้ฉันตัดใจไปจากเค้าก็เท่านั้น
(*เฮอิน คือชื่อน้องสาวต่างสายเลือดของอนยูที่สมมติขึ้น)
อนยูเสียใจมากเมื่อเข้าใจว่าคนที่เค้ารักกำลังหลงรักคนอื่นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น และคุณต้องเป็นคนปลอบใจ ช่วยเล่าเหตุการณ์ตรงนั้น
:: “ทำไมถึงไม่ยอมเปิดเครื่องนะ ฝากข้อความไว้ก็ไม่ยอมโทรกลับ จะใจร้ายไปถึงไหน อยากเห็นคังแจฮาคนนี้อกแตกตายนักรึไง คอยดูนะถ้าเจอหน้าเมื่อไรจะจับจูบซะให้เข็ดโทษฐานทำให้คนน่ารักต้องเป็นห่วง ตาเต้าหู้สอดไส้วาซาบิ”
แจฮาบ่นพึมพำกับตัวเองพลางมองเจ้าเครื่องมือสื่อสารรุ่นใหม่ล่าสุดยี่ห้อหรู ที่นอนนิ่งอยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นใครบางคนก็มากดออดหน้าห้องพัก เธอเด้งตัวเองจากโซฟาไปเปิดประตู ดวงตากลมโตเบิกโพล่งด้วยความตกใจ เมื่อรู้ว่าเป็นอนยูที่ยืนสภาพตัวเปียกฝน แถมใบหน้ามีรอยฟกช้ำ และสิ่งที่ทำให้เธอต้องเบ้หน้าเพราะได้กลิ่นแอลกฮอล์ลอยเข้าจมูก แต่ไม่ทันที่แจฮาจะได้เปิดปากพูดอะไรต่อ อนยูก็ชิงพูดตัดบทขึ้นมาซะก่อนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”
แจฮาพยักหน้ารับ แล้วร่างหนาก็เดินเข้าไปภายในห้อง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาทั้งที่ตัวยังเปียกปอน
อนยูตอบไม่ได้ว่าทำไมถึงได้มาที่นี้ เค้ารู้แต่เพียงว่าต้องการใครสักคนที่ช่วยปลอบโยนหัวใจเจ็บปวดของเค้าไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากไปกว่านี้ เพราะความจริงที่เค้าเพิ่งได้พบ...ภาพน้องสาวต่างสายเลือดกำลังจูบกับผู้ชายคนอื่น คำบอกรักอันแสนซาบซึ้ง ที่มันไม่ใช่เค้า
แจฮาได้แต่มองตามด้วยความเป็นห่วง มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเค้างั้นหรอ หรือว่าน้องสาวต่างสายเลือดทำร้ายจิตใจของเค้าอีกแล้ว เพียงแค่คิดเท่านั้น เธอก็รีบตรงเข้าไปนั่งลงข้างๆทันที
“อนยูเกิดอะไรขึ้น ทำไมหน้านายถึงได้... เอ่อ ช่างเหอะ เดี๋ยวฉันทำแผลให้นะ ทำเสร็จแล้วนายก็...”
ยังไม่ทันที่แจฮาจะพูดให้จบประโยค อนยูก็ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง เค้าดึงร่างบางของเธอเข้าไปกอด เธอตกใจพยายามขืนตัว แต่เค้ากลับกระชับวงแขนให้แน่นกว่าเดิม ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพยายามกลั้นน้ำตาที่คลอเต็มเบ้าไม่ให้ไหลออกมา
“เฮอิน*รักคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน เจ็บ...ฉันเจ็บเหลือเกิน เจ็บที่ตรงนี้ ที่ตรงหัวใจ แจฮา”
เพราะน้องสาวต่างเลือดจริงๆด้วยที่ทำนายเป็นแบบนี้ แจฮากอดเค้าตอบอย่างอ่อนโยน สุดท้ายน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“ไม่ต้องพูดแล้วอนยู ฉันเข้าใจ ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับนายก็ตาม ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างนายเสมอ ไม่มีทางทิ้งนายไปไหนเป็นอันขาด ดังนั้นอย่าได้เจ็บปวดอีกเลยนะ เพราะฉันคงทนไม่ได้เหมือนกัน”
“...”
ความเงียบคือคำตอบของอนยู และปล่อยให้ตัวเองได้อยู่ในอ้อมกอดของแจฮาอยู่อย่างนั้น แค่ประโยคคำพูดไม่กี่ประโยคที่ช่วยโอบกอดหัวใจของเค้าให้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ร่างบางให้มา
เล่าหนึ่งวันคร่าวๆของคุณกับเค้า ตามจีบตามตื้อเค้ายังไงบ้างและโดนเค้าปฏิเสธอย่างไร
:: “อันยอง~*เต้าหู้สุดที่รักจ๋า ภรรยามาหาแล้วจ้า” เสียงตะโกนของยัยคุณหมอสาวจอมจุ้นน่ารำคาญทำให้อนยูต้องละสายตาจากกองเอกสาร แขก(ไม่ได้รับเชิญ)เจ้าประจำที่กำลังยืนฉีกยิ้มหวานให้ส่วนสองมือก็ถือถุงพะรุงพะรัง เธอเดินตรงเข้าไปนั่งที่โซฟาและวางถุงข้าวของไว้บนโต๊ะรับแขก
“มาทำไม?” อนยูถามน้ำเสียงเย็นชาและกลับไปให้ความสนใจเอกสารตรงหน้าเหมือนเดิม เพราะตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุชนกันแถมโทรศัพท์มือถือยังสลับกันคราวนั้น ชีวิตแห่งความสงบสุขของอนยูต้องจบลง เพราะถูกคุณหมอสาวตัวดีที่คอยตามตื้อจีบเค้าอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน แม้เค้าจะพยายามบอกปฏิเสธว่าให้เลิกทำแบบนี้สักที แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจฟังเลยสักนิด แต่พอมารู้ตัวอีกทียัยคุณหมอจอมจุ้นกลับมายืนข้างๆตัวเองเรียบร้อยแล้ว และกระซิบที่ข้างหูว่า
“ในเมื่อตัวเองไม่ว่าง เค้าเลยมาหาเองเลยดีกว่า >O< ก็แหม...เค้าอยากทานข้าวกลางวันกับเต้าหู้สุดที่รักนี้น่า มามะ...มาหม่ำซะดีๆ” ยังไม่ทันที่อนยูจะได้พูดอะไรออกมา แจฮาก็จัดการลากตัวร่างหนาให้มานั่งทานข้าวด้วยกันที่โซฟาตัวรับแขก
“ฉันซื้อไก่ทอดร้านเจ้าประจำที่นายชอบมาด้วย และยังมีอาหารอีกหลายอย่างให้นายได้เลือกกินตามใจชอบเลยนะ อนยู” แจฮาบอกพลางเปิดกล่องอาหารและหยิบตะเกียบคีบไก่ทอดชิ้นหนึ่งยื่นไปตรงหน้าของอนยู
“ทำบ้าอะไรของเธอ” อนยูพูดเสียงดังใส่
“ไม่ได้ทำบ้าอะไร แต่จะป้อนไก่ทอดให้นายต่างหาก อ้า...หม่ำซะ” แจฮากลับตอบอย่างอารมณ์ดีก่อนจะจับไก่ทอดยัดใส่ปากของอนยูทันที
อนยูมองหน้าของแจฮาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ เค้าไม่ชอบนิสัยจุ้นจ้านวุ่นวายของคนตรงหน้าเลยจริงๆ ทำไมถึงไม่ยอมไปจากเค้าสักทีนะ เวรกรรมอะไรของเค้ากันแน่ที่ต้องมาเจอคนประเภทนี้
“นี่เป็นยังไงบ้าง อร่อยใช่ไหมล่ะ งั้นกินอีกชิ้นนะจ๊ะ เต้าหูสุดที่รักของแจฮา” แจฮาคีบไก่ทอดชิ้นใหม่ให้อนยูกินอีกครั้ง แต่คราวนี้อนยูกลับปัดมือเธอออกไปอย่างรำคาญ แจฮาถึงกลับหน้าเศร้าลงทันที แต่พลันสีหน้าก็กลับมาเริงร่าเหมือนเดิม ถึงนายจะใจร้ายกับฉันขนาดไหน ฉันจะทำเป็นไม่เห็น ไม่สนใจ ลืมมันไปซะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
“จะเอายังไงก็ว่า” อนยูถามขึ้นเสียงเข้ม
“ก็ไม่เอายังไง แค่อยากให้นายตกลงคบกับฉันเป็นแฟนซะทีสิ เล่นตัวนานๆไม่ดีหรอกนะ เดี๋ยวขึ้นคานพอดี”
“คังแจฮา อย่าทำให้ความอดทนของฉันต้องหมดลงนะ”
ผู้หญิงคนนี้สามารถกวนอารมณ์ของเค้าให้ขุ่นได้ตลอดเวลา แถมยังถนัดในเรื่องเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนใจในสิ่งที่เค้าพูด
“ก็ได้ เอาไว้วันหลังเค้าค่อยมาขอที่รักคบใหม่ก็ได้ แต่ตอนนี้เค้าอยากให้ที่รักกินข้าวให้หมดก่อน ตกลงเปล่า”
แจฮาอาจจะเป็นผู้หญิงด้านหน้า เห็นแก่ตัว ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใครในสายตาของอนยู แต่ถ้าทำให้ได้อยู่ใกล้กับอนยู ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ
“ถ้าฉันกิน แล้วเธอจะไปใช่ไหม”
“อืม...ถ้านายกินข้าวหมด ฉันจะรีบไปให้พ้นหน้าทันทีเลย” แจฮารับปากอย่างจริงจัง
“ตกลง ถ้ากินหมด จะรีบไปเลยใช่ไหม” อนยูถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“( . . ) ( - - ) ( . . ) ( - - ) หงึก...หงึก”
แจฮาพยักหน้ารับเป็นคำตอบ และอนยูก็ลงมือกินอาหารที่ร่างบางเตรียมไว้ให้ด้วยความรวดเร็ว เธอมองภาพอนยูกำลังกินอาหารอย่างมีความสุข ไม่ถึงสิบนาทีเค้าก็กินเสร็จและเอ่ยปากทวงสัญญาจากเธอทันที
“กินหมดแล้ว กลับไปซะ”
“ไวจัง เค้ายังไม่ทันหายคิดถึงตัวเองเลยนะ เต้าหู้ที่รัก ขอต่อเวลาไปอีก 2 ชม.ได้ป่ะ” แจฮาถามขึ้นด้วยความเสียดายแต่ไม่วายแอบจงใจกวนประสาทอนยู
“คังแจฮา” อนยูพยายามข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่นด้วยความโมโหกับความยียวนของร่างบาง
“จ๋า เรียกทำไมจ๊ะ”
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสิบ ถ้าเธอยังไม่ออกไป อย่ามาหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ”
“หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ห้า”
“ต่อให้นับถึงพัน ฉันก็ไม่ไปหรอก ถ้าอยากให้ไป ที่รักก็ช่วยไปส่งเค้าที่รพ.หน่อยสิ นะ...นะ...นะ”
เส้นความอดทนของอนยูหมดลงแล้วสำหรับตอนนี้ เค้าจัดการกระชากแขนของร่างบางให้ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะพูดว่า
อนยูมาขอคบกับคุณในฐานะแฟน เพื่อต้องการจะลืมน้องสาวที่แอบรัก คุณก็รู้ว่าเค้าไม่ได้รัก แต่คุณรักเค้า คุณจะทำยังไง เล่าตั้งแต่เค้ามาขอคบนั่นล่ะ
:: “นึกยังไงเนี้ยถึงได้ชวนมาเดทที่สวนสนุก อ้อ หรือว่านายตกหลุมรักฉันแล้วอ่ะดิ คุณเต้าหู้สอดไส้วาซาบิ”แจฮาบอกอย่างอารมณ์ดีพลางส่งยิ้มทะเล้นๆไปหยอกล้อชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง เค้าไม่ยอมตอบอะไร แต่กลับยื่นน้ำอัดลมกระป๋องให้แทน เธอมองอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะยื่นมือไปรับน้ำอัดลมกระป๋องที่เค้ายื่นให้ อย่างน้อยเค้าก็ดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี หลังจากเกิดเรื่องวันนั้น และเค้าก็ไม่ผลักไสไล่เธอให้ไปไกลๆเหมือนที่ผ่านมา เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เค้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอมองเค้าไม่ออกจริงๆ แต่ถ้าเค้ามีความสุขอยู่แบบนี้ เรื่องอื่นมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปอะไรแล้วล่ะ
“แจฮาคบกันไหม?”
O_O พรวด แค่ก...แค่ก...แค่ก
เมื่อแจฮาได้ยินประโยคคำถามที่หลุดออกจากปากของคนที่ตัวเองรักทำให้ถึงกับสำลักน้ำอัดลมที่เพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อกี้
“อะไรนะ เมื่อกี้นายถามฉันว่า คบกันไหม?” แจฮาถามเสียงสูง
เต้าหู้สอดไส้วาซาบิของเธอเป็นอะไรไปเนี้ย? บอกแล้วว่าเธอมองเค้าไม่ออกจริงๆ T^T อย่ามาพูดเล่นแบบนี้นะ เอ๊ะ ว่าแล้วยังมายิ้มให้อีก เดี๋ยวก็จับจูบซะหรอก ตาเต้าหู้สุดที่รัก
“อืม คบกันไหม สงสัยฉันจะตกหลุมรักเธอเข้าแล้วล่ะ ดังนั้นเธอต้องรับผิดชอบด้วยเข้าใจไหม หรือว่าเธอคิดที่จะไม่รับผิดชอบฉัน คุณหมอคังแจฮา” อนยูตอบพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบน้ำที่เปื้อนปากให้อย่างอ่อนโยน
การกระทำของอนยูทำให้แจฮาถึงกับหน้าแดงออกมาโดยไม่รู้ตัว
“มะ...ไม่ใช่นะ ฉันชอบนายมาก ไม่สิ รักเลยต่างหาก เพียงแต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไรงั้นหรอ แจฮา”อนยูถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ปะ...เปล่า...ฉะ...ฉันแค่ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก” แจฮาเลือกจะไม่พูดสิ่งที่เธอคิด เพราะกลัวว่ามันจะเป็นจริงขึ้นมา
“เวลาเธอเขินนี้ก็น่ารักดีนะ ตกลงว่าเธอจะคบกับฉันไหม แจฮา ฉันยังรอฟังคำตอบอยู่นะ” อนยูถามพลางก้มหน้าลงมามองเธอในระดับสายตาและห่างกันไม่ถึงซม. ยิ่งทำให้หน้าของแจฮาที่ตอนนี้แดงอยู่แล้วกลับยิ่งแดงกล่ำหนักเข้าไปอีก แถมหัวใจยังเต้นแรงจนทะลุออกมานอกเสื้อ พลันสายตาของเธอดันเหลือบขึ้นไปมองหน้าของอนยูก็เห็นว่าถึงใบหน้าของเค้าจะยิ้มอย่างมีสุขที่ได้สารภาพรักกับเธอ แต่แววตาของเค้ากลับมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีเธออยู่ในนั้นเลย
“( . . ) ( - - ) ( . . ) ( - - ) หงึก...หงึก”
หมับ...
O_O --> สายตาสุดอึ้งของแจฮาเป็นรอบที่สอง เพราะอนยูใช้แขนสองข้างดึงตัวเธอเข้าไปกอด
“ขอบคุณนะที่เธอยอมคบกับฉัน เธอจะทำให้ฉันมีความสุข และไม่มีวันทำให้ฉันเสียใจใช่ไหม” อนยูบอกอย่างแผ่วเบาแต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อย
“อืม...ฉันจะทำให้นายมีความสุข อนยู” เธอตอบ
แจฮาขอโทษนะที่ฉันเห็นแก่ตัว หลอกใช้ความรู้สึกดีๆของเธอให้เป็นตัวคั่นเวลาเพื่อให้ลืมเฮอิน ฉันคงเป็นผู้ชายที่โง่มากที่สุดในโลกที่กล้าปฏิเสธคนดีๆอย่างเธอ แถมยังกล้าทำร้ายจิตใจของเธออย่างไม่ใยดี ไม่สนใจด้วยว่าถ้าเธอรู้ความจริงแล้วจะรู้สึกเจ็บมากแค่ไหน
“อนยูช่วยจูบฉันหน่อยได้ไหม”
แจฮาพูดออกมาด้วยสีหน้าว่างเปล่า เธอแค่อยากพิสูจน์ว่าเค้าจะยอมจูบไหม จูบแบบคนรักที่เธออยากได้จากเค้า แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างไร แต่ใจยังดื้อที่จะทำ ทำไมเธอถึงได้ชอบตอกย้ำตัวเองนักก็ไม่รู้
แล้วอนยูก็ค่อยโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ แจฮาค่อยๆหลับตาลงทันทีเมื่อริมฝีปากของอนยูสัมผัสหน้าผากของเธอ
แจฮาลืมตามองคนตรงหน้าที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่เค้าจะพูดว่า
“ใจร้อนจัง ยัยคุณหมอแก่แดด เอาไว้...อะ...อื้ม”
ทันใดนั้นเอง แจฮาก็จัดการดึงร่างหนาให้โน้มตัวเข้าไปใกล้ที่ริมฝีปากของเธอ และในที่สุดริมฝีปากของสองคนก็ได้สัมผัสกัน แต่ไม่ทันไรอนยูก็ดันร่างของคนตัวเล็กให้ออกไปจากตัวเค้าพลางใช้มือถูที่ริมฝีปากตัวเองไปมาราวกับอยากจะลบสัมผัสของร่างบางออกไปให้หมด
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ แจฮา ฉันไม่ชอบ” อนยูต่อว่าด้วยความโมโหกับการกระทำของร่างบาง
“แต่เรารักกันทำไมถึงจูบกันไม่ได้ล่ะ เต้าหู้สุดที่รัก” แจฮากลับแกล้งตีหน้าใสซื่อ
“บอกแล้วไงว่าไม่ชอบ ถ้าฉันอยากจูบเธอเมื่อไรจะทำเอง ไม่ใช่แบบนี้”
จะให้อนยูบอกกับร่างบางไปตรงๆหรอว่า เค้าไม่สามารถจูบกับคนที่ตัวเองไม่รักไม่ได้ ความรู้สึกบางอย่างมันไม่อาจฝืนทำได้ จึงแกล้งทำเป็นไม่พอใจกับการกระทำของเธอดีกว่าต้องให้พูดความจริงออกไป
ตอนจบ อยากได้แบบไหน
::ขอจบแบบมีความสุขแต่แอบปนเศร้าได้ไหมค่ะ ^^ แจฮายอมรับความจริงแล้วว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางมาแทนที่น้องสาวต่างสายเลือดของอนยูได้ เค้ายังคงฝังใจรักแต่น้องสาวต่างสายเลือดแค่เพียงคนเดียว ต่อให้เธอพยายามถึงทุ่มเทความรักทั้งหมดที่มีให้กับอนยู ทำให้ได้ทุกอย่างตามที่เค้าต้องการด้วยความเต็มใจ แต่ไม่มีความหมายอะไร ในเมื่อเค้าไม่ยอมรับมันเลย ถึงเธอจะเป็นคนที่อยู่ใกล้เค้ามากที่สุดแต่กลับเป็นแค่คนนอกสายตาที่เค้าไม่เคยมองเห็น เป็นสิ่งที่ทำให้ความอดทนของแจฮาหมดลง พอแล้วเธอจะยอมเป็นฝ่ายตัดใจไปจากเค้าเอง ไม่อยากให้เค้าต้องทนฝืนมากไปกว่านี้ แจฮาตัดสินใจบอกเลิกอนยูอย่างไม่มีเหตุผล แม้เค้าจะพยายามถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเลิกกัน แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ตอบและเดินจากเค้ามาทันทีโดยที่ไม่มีการเหนี่ยวรั้งขอ ร้องไม่ให้เธอไปจากเค้าสักนิด อนยูได้แต่ยืนมองภาพแจฮาจากไปด้วยความเสียใจ แต่ที่เค้าไม่ยอมตามไป เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำร้ายจิตใจของเธอให้เจ็บอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะแค่สิ่งที่เค้าทำอยู่นี้มันก็เป็นการทำร้ายเธอมากเกินพอแล้ว แต่ดูเหมือนเค้าจะคิดผิด ตั้งแต่ไม่มีแจฮาอยู่เคียงข้าง เค้าเอาแต่คิดถึงเธอไม่หยุด เค้ายอมรับว่ารักเธออย่างสุดหัวใจ และคงทนไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ สุดท้ายเค้าก็แพ้เสียงเรียกร้องของหัวใจตัวเองให้กลับไปหาร่างบาง แต่เมื่อไปถึงก็รู้ความจริงจากเพื่อนสนิทของเธอว่า...แจฮาขอย้ายไปประจำที่ รพ.ต่างจังหวัด แต่เพื่อนสนิทของแจฮาไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่จังหวัดไหนเพราะเค้ารู้สึกโกรธ ผู้ชายคนนี้มากที่กล้าทำให้เพื่อนรักของตัวเองต้องเสียใจ ร่างหนาไม่ยอมแพ้พยายามอ้อนวอนสืบหาข้อมูลว่าแจฮาอยู่ไหน แม้จะถูกเพื่อนสนิทของแจฮาปฏิเสธอย่างไม่ใยดีกี่พันครั้งว่าไม่มีทางบอก สุดท้ายเพื่อนสนิทของแจฮาก็ใจอ่อนยอมบอกว่าเธออยู่ที่ไหน เพราะเห็นความจริงใจที่ผู้ชายคนนี้ที่พิสูจน์ให้เห็นว่ารู้สึกยังไงกับแจฮา อนยูไปหาร่างบางที่รพ.ต่างหวัดแห่งหนึ่งและได้พยายามขอคืนดีและบอกความจริงว่ารักเธอมากขนาดไหน อยากจะขอเริ่มต้นใหม่กับเธอ ตอนแรกร่างบางไม่ยอมคืนดีแต่สุดท้ายก็ยอมใจอ่อนคืนดี และเหตุผลสำคัญเธอเองก็ยังรักเค้าอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง...
ความคิดเห็น