ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC HARRY /The Past Is A Little Stranger /เฮอร์ &ชีเรียส

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 01: หลบซ่อน

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 53




    The Past Is A Little Stranger 
    Chapter 1 หลบซ่อน
     
    “ให้ตายเถอะเฮอร์ไมโอนี่ ทำไมพวกเราไม่ลองทำมันสักครั้งล่ะ ทำไมเธอไม่เคยให้ฉันได้สัมผัสตัวเธอบ้างเลย?”โรนัล วิสลี่ส์ ตะโกนอย่างโกรธจัดไปที่แฟนสาวของเขา เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
     
    ในตอนนี้ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เป็นยายหนอนหนังสือคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ในตอนนี้เธออายุสิบแปดปีเป็นหญิงสาวที่สวยงาม ผมยาวสยายของเธอมีสีน้ำตาลอมแดงที่หยักโศกสลวย เธอมีหุ่นบอบบางแต่แข็งแรง ทั้งๆที่เธอออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยและไม่ชอบการวิ่ง
     
    “โรนัล,ฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่เราจะทำอย่างงั้น ฉันเคยบอกเธอมาก่อนหน้านั้นแล้วและฉันจะบอกเป็นครั้งสุดท้ายฉันจะไม่ยอมหลับนอนกับเธอเด็ดขาดจนกว่าเราจะแต่งงานกัน”
     
    รอน วิสลี่ส์ ไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เขารู้ว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีนัก แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อหนุ่มสาวรุ่นเดียวกับเขาแทบจะทุกคน ผ่านประสบการณ์แบบนี้กับคนรักของเขามาแล้วทั้งนั้น แม้กระทั้งลองบัตท่อมที่งุ่มง่าม กับเด็กเรเวคอลนั่นก็ด้วย มีเพียงแต่คู่ของเขาที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมแม้แต่จะยอมให้เขาเข้าใกล้เธอตามลำพัง
     
    รอนได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าในคืนนี้เขาจะต้องจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาดไม่ว่าเธอจะยอมหรือไม่ก็ตาม และในตอนนี้ก็เป็นโอกาสเหมาะ ห้องนั่งเล่นรวมกรืฟฟินดอร์ในตอนนี้มีเพียงเธอกับเขาแค่สองคนเท่านั้น อาจจะมีนักเรียนบางคนอยู่บนหอนอนหญิงและชายบ้างเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่สนใจอยู่ดี สิ่งที่เขาสนใจอยู่ข้างหน้านี้แล้วต่างหาก
     
    รอนรีบคว้าตัวเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังจะถอยห่างไปจากเขาและดันตัวเธอลงไปนอนบนโซฟาสีแดงที่กลางห้องอย่างรวดเร็ว เขาอยู่เหนือร่างเธอ และพยายามใช้กำลังกับเธอโดยที่มีเฮอร์ไมโอนี่ต่อสู้เขาอยู่ใต้ร่างของเขาในตอนนี้ รอนเป็นนักกีฬาควิตดิชที่มีร่างกายแข็งแรงเป็นที่สุด มือของเขาที่จับรวบมือทั้งสองข้างของเธอไว้ก็แข็งแรงราวคีมเหล็ก จนเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากนัก เฮอร์ไมโอนี่หยุดการดิ้นรนในขณะที่สมองของเธอกำลังคิดที่จะหาทางออกกับเรื่องเลวร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น
     
    จุดอ่อนของผู้ชายอยู่ตรงไหนกัน? เธอคิดถึงคำพูดของแอนนาเบล เมตวู๊ด เด็กสาวปีสี่ของฮัฟเฟิลพัฟที่เฮอร์ไมโอนี่เจอในห้องสมุด แอนนาเบลชวนเธอคุยในเรื่องของพวกผู้ชาย และพูดถึงจุดอ่อนสำคัญของผู้ชายที่อยู่ภายใต้หน้าท้องของพวกเขา และเหตุนี้มันทำให้เฮอร์ไมโอนี่อารมณ์เสียกับแอนนาเบลที่พูดจาแต่เรื่องแบบนั้นจนเธอต้องตะเพิดแอนนาเบลให้หลีกไปให้ไกลเธอ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนเธอต้องขอบคุณเด็กสาวคนนี้เสียแล้ว โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่านี้ เมื่อเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงมือไม้ของรอน ที่มาป้วนเปี้ยนแถวหน้าอกของเธอและมันทำให้มือข้างหนึ่งของเธอเป็นอิสระ โอกาสมีเพียงครั้งเดียวเธอคิด เฮอร์ไมโอนี่สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและจัดการทำในสิ่งที่เธอคิดในทันที เธอต่อยเขาที่ใต้ท้องกับแรงทั้งหมดที่เธอมี และอย่างรวดเร็ว
     
    รอนเกร็งตัวในทันทีใบหน้าของเขาเหยเกแดงสลับเขียวในขณะที่เขาเอนตัวหล่นไปบนพื้นข้างโซฟาและงอตัวโดยที่มือของเขากุมเป้าไว้แน่นเสมือนกลัวว่ามันจะหลุดออกมา ดูท่าทางเขาจะเจ็บมาก! เฮอร์ไมโอนี่คิดแต่เธอก็ไม่มีเวลาที่จะคิดอะไรไปมากกว่านั้นอีกแล้ว ในตอนนี้เธอต้องหนีออกไปก่อนที่รอนจะฟื้นตัวทันและคราวนี้เขาคงจะไม่ปล่อยให้เธอทำกับเขาอย่างนี้เป็นครั้งที่สองแน่ เธอคิดในขณะที่เธอดีดตัวเธอเองออกจากโซฟา และพุ่งตัวเธออย่างรวดเร็วเพื่อออกไปจากที่นี่
     
    เธอวิ่งหนีออกจากห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ โดยวิ่งผ่านนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่มองเธออย่างแปลกใจ เธอวิ่ง วิ่ง วิ่ง และวิ่ง จนกระทั่งหายใจแทบไม่ทัน เธอหยุดชั่วครู่และเอามือกุมที่หน้าท้องที่จุกเสียดจากการวิ่งโดยไม่ยอมหยุดพัก เธออยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย!
     
    เฮอร์ไมโอนี่กวาดสายตาสำรวจไปรอบๆตัวเธอ และเธอก็รู้ในทันทีว่าเธออยู่ที่ไหน เมื่อเธอสังเกตุเห็นว่าด้านหลังของเธอที่เธอวิ่งลงมาเป็นบันไดหินสีดำทะมึนที่ถอดตัวลงมาจากตัวปราสาทมายังชั้นใต้ดินเย็นยะเยือกมีสถานที่เดียวเท่านั้นที่มีบรรยากาศที่น่าขนลุกแบบนี้   ในตอนนี้เธออยู่ที่คุกใต้ดินของปราสาท
     
    เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอึดอัดขึ้นมาในทันที บ้าฉิบ! ที่ปราสาทก็ออกกว้างใหญ่ทำไมเธอต้องวิ่งลงมายังสถานที่ที่น่ากลัวแบบนี้ด้วยนะ เฮอร์ไมโอนี่คิดพร้อมกับเคลื่อนตัวเองอย่างช้าๆเพื่อออกไปจากสถานที่แห่งนี้
     
    แต่ในทันใดนั้นเธอกลับได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังก้องสะท้อนมาจากเหนือหัวของเธอ เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งสุดตัวเธอหันรีหันขวางเพื่อหาที่หลบ สายตาของเธอจับจ้องไปยังประตูไม้บานใหญ่สีดำสนิทบานหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเธอนัก โดยที่ไม่ต้องคิดทบทวนเฮอร์ไมโอนี่ผลักบานประตูที่อยู่ใกล้ที่สุดและแทรกตัวเข้าไปด้านในแทบจะทันที
     
    เฮอร์ไมโอนี่หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อสิ่งที่เธอคิดในตอนแรกของเจ้าของเสียงฝีเท้านั้นคือ รอน วิสลี่ส์ กำลังตามหาตัวเธออยู่ เธอรีบปิดประตูอย่างรวดเร็วและแผ่วเบา และพิงหลังของเธอกับฝาผนังนั้นอย่างอ่อนแรง
     
    “บ้า เอ๋ย หลบเกือบไม่ทัน”
     
    เฮอร์ไมโอนี่คิดและผ่อนลมหายใจชั่วขณะก่อนที่เธอ จะมีเวลาสำรวจห้องไปรอบๆ เฮอร์ไมโอนี่ตาค้างอย่างแปลกใจ
     
    พระเจ้า! มันเป็นห้องนอนที่สวยงามมากที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมามีเตียงสี่เสาขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง มีผ้าคลุมเตียงสีม่วงเข้ม และพรมสีงาช้างมีเครื่องเงินที่หรูหราและฝาผนังที่ประดับด้วยหินหลากสี เฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึงกับห้องที่สวยงามที่สุด
     
    เฮอร์ไมโอนี่เดินสำรวจไปทั่วห้องอย่างสนใจ ที่นี่สวยมากแต่น่าแปลก ที่ห้องนี้เหมือนไม่เคยมีใครใช้มานานแล้ว เนื่องจากฝุ่นที่ขึ้นหนาจนจับเครื่องเรือนหนาเตอะและหยากไย้ที่ไต่ตามมุมเสาทั่วไป เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดอาจจะเป็นห้องพักอาจารณ์คนใดคนหนึ่งของโบบาตงหรือเดิมร์แสตรงค์ที่เคยมาแข่งขันไตรภาคีตอนปี่สี่ก็ได้ เพราะเธอเคยได้ยินว่าศาสตราจารณ์มัลกอลนากัลจัดห้องพักให้กับพวกเขาอย่างสวยหรูแต่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าอยู่ ณ ส่วนใดของฮ๊อกวอตส์เพื่อป้องกันการรบกวนของแขกที่มาพัก
     
    เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์พลางดีดนิ้วเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
     
    “ที่นี่แหละช่างเหมาะจริงๆ”
     
    เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เผชิญหน้ากับรอนอีกในคืนนี้ เฮอร์ไมโอนี่เหน็ดเหนื่อยแล้วจากการหลบหนี และเตียงนอนที่นี่ก็ใหญ่โตดูสะดวกสบายทำให้เธออยากพักผ่อนขึ้นมาจริงๆ
     
    “อาจารณ์คงไม่รู้หรอกน่าว่าเราอยู่ที่นี่ แค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น”
     
    เฮอร์ไมโอนี่พึมพำเบาๆพร้อมกับดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาร่ายมนต์ทำความสะอาดสถานที่ๆเธอจะมาพักในคืนนี้ เพียงแค่ไม่ถึงนาทีห้องนี้ก็สะอาดหมดจดและกลับคืนความสวยงามดุจเดิม เฮอร์ไมโอนี่จัดการปลดเสื้อคลุมของเธอออกและเสื้อผ้าชุดนักเรียนของเธอจนเหลือแต่ชุดชั้นในห่อหุ้มเนื้อตัวของเธอเท่านั้น เธอเสกคาถาชำระล้างเนื้อตัวของเธอจนสะอาดหมดจดแล้วจึงเสกชุดนอนขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อใส่นอนในคืนนี้ ก่อนที่จะหันมาเสกทำความสะอาดชุดเสื้อคลุมแม่มดของเธอและชุดนักเรียนเพื่อสวมใส่ในตอนเช้า
     
    เฮอร์ไมโอนี่พับชุดต่างๆของเธอไว้เป็นระเบียบก่อนจะวางมันไว้บนตู้แกะสลักที่งดงาม เฮอร์ไมโอนี่หาวเป็นครั้งที่สิบแล้วในตอนนี้ตาของเธอปรือลง ปรือลงจนแทบจะปิดสนิทแล้วก่อนที่เธอจะคลานขึ้นเตียงและสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนาที่อบอุ่น
     
    วันนี้เธอทำไมถึงง่วงนอนเร็วขนาดนี้นะ เธอคิดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะปิดเปลือกตาลงและนอนหลับอย่างมีความสุข
     
    เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาจากการผ่อนคลายที่สดชื่นที่สุดในชีวิตของเธอ เธอบิดขี้เกียจสองสามทีและนอนแช่บนที่นอนอีกสักครู่เหมือนไม่อยากออกจากที่นอนอันอบอุ่นนั้น
     
    เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วขมวดคิ้วเธอกำลังคิดถึงความฝันเมื่อคืน ความฝันนั้น เสมือนจริงเธอกำลังลอยคว้างไปยังสถานที่อื่น สถานที่ที่เธอไม่คุ้นเคยมันเป็นที่เดียวที่รอนและคนอื่นๆไม่สามารถหาเธอพบได้อีก เธอยิ้มให้กับตัวเองอย่างขันๆ
     
    “ไม่ต้องไปหลบที่อื่นหรอกน่าเฮอร์ไมโอนี่ แค่ที่นี่ที่เดียวรอนก็ไม่มีทางตามหาเราเจออย่างแน่นอน “เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้ง
     
    ”แน่นอน ฉันอาจจะมีปัญหาในช่วงทานอาหารเช้าก่อนไปชั้นเรียน รอนอาจจะไม่อยากมองหน้าหรือพบฉันอีกเลยก็ได้ถ้ารอนรอยู่ที่นั่น “
     
    เฮอร์ไมโอนี่สลัดหัวของเธอออกจากความคิดในเรื่องของรอน แล้วจึงคลานออกเตียงอย่างช้าๆและยังคงโหยหาถึงความอบอุ่นที่ยึดติดกับผ้าห่มที่อ่อนนุ่มราวผ้าไหม
     
    Extergeo”เฮอร์ไมโอนี่พึมพำก่อนที่เธอจะสะบัดไม้วิเศษของเธอ เพื่อทำความสะอาดตัวเองและทำผมให้เป็นเกลียวเพื่อทำให้เป็นลอนหยิกดูสวยงาม อีกสามสิบวินาทีต่อมาก็พบว่าเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในชุดนักเรียนและใส่เสื้อคลุมแม่มดดูเรียบร้อยและสดใสขึ้นกว่าเมื่อคืนมาก
     
    เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาจากคุกใต้ดินและเดินเอื่อยๆไปยังห้องโถงใหญ่เพื่อไปทานอาหารเช้าและเพื่อเผชิญหน้ากับรอน แต่ตั้งแต่เธอเดินออกมาจากคุกใต้ดินและเดินผ่านเหล่านักเรียนหญิงชายมาก็หลายคนแล้วแต่น่าแปลกใจสำหรับเฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่มีใครที่เธอรู้จักหรือคุ้นหน้าเลยสักคน เพราะทุกวันเธอมักจะได้รับการทักทายหรือไม่ก็เห็นหน้าคนที่รู้จักผ่านไปมาบ้างไม่มากก็น้อย
     
    “น่าแปลกจัง เดินมาก็นานแล้วไม่ยักกะเห็นเพื่อนๆหรือคนที่เรารู้จักบ้างเลย พวกเขาหายไปไหนกันหมดนะ ในเช้านี้ แล้วแฮร์รี่กับรอนล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงอันตรายบางอย่างที่จู่โจมเธออยู่เงียบๆ
     
    ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ร่างของใครบางคนที่แข็งแรงราวกับหินผากระแทกตัวเธอจนลงไปกองที่พื้นอย่างแรง
     
            “เฮ้ บ้าจริงไม่มีตาหรือไง” เฮอร์ไมโอนี่ตวาดอย่างเหนื่อยอ่อนกับคนทึ่มที่ชนเธอล้มลงโดยที่ไม่ได้คิดอะไร
     
    “โอ๊ะ”เด็กผู้ชายตัวสูง บางทีอาจจะอยู่ปีหกหรือปีเจ็ดพึมพำ และรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกหญิงสาวผู้ซึ่งเตี้ยกว่าเขามากนักต่อว่าเอา
     
    “เอาล่ะฉันขอแนะนำนายนะ นายควรจะหัดเดินดูทางให้มันดีๆหน่อย ก่อนที่จะเที่ยวไปเดินชนใครไปรอบๆแบบนี้ หักสิบคะแนนจากกริฟฟินดอร์ “
     
    เฮอร์ไมโอนี่ตะเบ็งเสียงและรู้สึกโกรธอย่างมากอะไรๆที่เคยมีความสุขในตอนเช้ากลายเป็นขุ่นเคืองขึ้นมาในทันที
     
    “เฮ้ คุณผู้หญิง เกิดนรกบ้าอะไรขึ้นมาน่ะ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกันน่ะ เธอเพียงแค่เดินเข้ามาที่นี่แล้วก็เริ่มหักคะแนน บ้านของฉันโดยที่ไม่มีสาเหตุแบบนี้” เด็กชายตวาดกลับในขณะนี้รู้สึกขุ่นเคืองเป็นที่สุดที่เด็กสาวเข้ามาวุ่นวาย ซึ่งในชีวิตของเขาไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย และทำราวกับว่าตัวเธอเป็นราชินีชีบ้าผู้กระหายเลือดซะยังงั้น
     
    “นายถามว่าฉันเป็นใครงั้นเหรอ นั่นคือคำถามของนายหรือเปล่า”เฮอร์ไมโอนี่ถามรู้สึกเจ็บปวดในใจในขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจมากกว่าที่เด็กผู้ชายคนนี้ ไม่ได้รู้จักประธานนักเรียนหญิงซึ่งนั่นก็คือตัวเธอ เฮอร์ไมโอนี่พยายามกลั้นอารมณ์ที่หงุดหงิดของเธอก่อนตอบคำถามของเขา
     
    “ฉันคือเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ หัวหน้านักเรียนหญิง”เด็กชายหัวเราะ ! เขาหัวเราะ
     
    “เขากล้าดียังไงที่หัวเราะใส่ฉัน”เฮอร์ไมโอนี่คิดในขณะที่เธอกอดอกและยืนคอยคำอธิบายจากเขาให้ชัดเจน
     
    “โอ้ว งั้นเหรอ”เขาหัวเราะในขณะที่เขาเช็ดน้ำตาเนื่องจากการหัวเราะที่หนักหน่วงของเขา
     
    “ฉันไม่อยากจะเบรคเธอหรอกนะ สาวน้อย แต่ฉันรู้จักหัวหน้านักเรียนหญิงดี และฉันแน่ใจได้ว่าไม่ใช่เธอ”คำกล่าวของเขาหนักแน่น
     
    “นี่นายดื่มเหล้าเข้าไปหรือเปล่า “เธอแกล้งทำจมูกฟุดฟิดไปทั่วตัวเขา”เพราะว่าฉันเป็นหัวหน้านักเรียนหญิงมาได้สองเดือนแล้วนายคิดว่าใครกันที่เป็นหัวหน้านักเรียนหญิง”
     
    เด็กผู้ชายตัวสูงเริ่มตั้งสติและมองดูเธออย่างแปลกๆในขณะที่เขากล่าว”ลิลลี่ อีแวน เธอชื่อว่าอะไรน่ะ ที่คุณบอก เฮอร์ไมโอนี่ กรา....”เขาพยายามที่จะบอกนามสกุลของเธออย่างยากลำบาก
     
    “ฉันคือเกรนเจอร์ย่ะ นายทึ่มหรือเปล่าเนี่ย แล้วนายล่ะเป็นใคร”
    เฮอร์ไมโอนี่ถามกลับเหมือนยังกับเธอเป็นเด็กอมมือที่เขาพยายามล้อเล่นกับเธอ
     
    “ฉันคือ รีมัส ลูปิน”เด็กหนุ่มกล่าว และยื่นมืออกไปเพื่อจับมือกับเธอในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนเป็นหัวเราะ
     
    “อ้อ งั้นเหรอ ฉันรุ้จักกับ รีมัส ลูปินดี เขาแก่มากและเท่ห์มากกว่านายเสียอีก ไม่ใช่นายแน่ นายคือใครบอกฉันมาตรงๆนะ “เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแข็ง
     
    “ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเราเคยพบกันมาก่อนหน้านี้”เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเขาพูดเล่นกับเธอ เธอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนที่จะคิดอะไรได้
     
    “ก็ได้งั้นฉันจะพิสูจน์ให้นายดู ว่าฉันรู้จัก รีมัส” เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างวางท่าและรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่คู่ควรกับเธอ
     
    “เขาชอบสีเขียว เขาเกลียดผักขม เขาแพ้ข้าว และเขาเป็นมนุษย์หมา...”เธอพูดยังไม่ทันจบคำดีเด็กหนุ่มก็เอื้อมมือมาปิดปากเธอเอาไว้เสียก่อน
     
    “ชู่ว์.....”เด็กชายกระซิบอย่างเร่งรีบ”เกิดบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ยเธอมันบ้า ฉันไม่อยากรู้เรื่องนั้น เธอรู้ได้ยังไง ไม่ใช่ซิเรียสใช้เธอมาเพื่อเรื่องนี้เพราะว่าถ้าเขาทำฉันสาบานได้เลย พระเจ้า! ฉันจะฆ่าเขา”เขาร้องโวยว่าและแสดงสีหน้าโมโหอย่างเห็นได้ชัด
     
    เฮอร์ไมโอนี่ชักไม่มั่นใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาไม่บ้าเธอก็บ้าล่ะ เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจมองใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างพิจารณาชัดๆอีกครั้ง พระเจ้าช่วยเขามีหน้าตาที่เหมือนรีมัสมาก เฮอร์ไมโอนี่ชักเริ่มใจฝ่อ หรือเขาจะเป็นรีมัสจริงๆ
     
    “บ้าฉิบ มันคือคุณจริงๆนะหรือ รีมัส แล้วๆมันเกิดบ้าอะไรขึ้นกับฉันล่ะเนี่ย ”เฮอร์ไมโอนี่ครางอย่างสับสน
     
    TBC
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×