ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF: :SiHan] BLACK SABBATH

    ลำดับตอนที่ #1 : BLACK SABBATH Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 53






    แสงไฟสว่างวาบกราดตัดสีดำสนิทไปทั่วบริเวณ เพียงเสี้ยววินาทีก่อนหลีกหนีให้ความมืดเข้าปกคลุมดังเดิม เสียงลมพัดหวีดหวิวตีปะทะกับผนังกระจกซึ่งชุ่มไปด้วยหยดน้ำ พื้นระเบียงเจิ่งนองเพราะเม็ดฝนที่ทิ้งตัวลงมาอย่างไม่ขาดสาย เดือนธันวาคมเป็นเวลาแห่งฤดูหนาว หากหิมะขาวโพลนกลับถูกแทนที่ด้วยความเฉอะแฉะของละอองฝน ผลพวงจากสภาพอากาศอันเลวร้าย


     

    เหตุการณ์ธรรมชาติที่ถูกปั้นแต่งผิดฤดูถูกเฝ้ามองผ่านฉากกั้น แสงฟ้าแปลบปลาบยังคงท้าทายความมืดอยู่เป็นระยะ ค่อยเผยให้เห็นพื้นไม้เงาวับโทนน้ำตาล เฟอร์นิเจอร์ผิวเรียบเนื้อดีทำมุมเก้าสิบองศากับจอแอลซีดีขนาดยี่สิบเก้านิ้ว ซึ่งไม่ได้ถูกใช้งานอาจเพราะเกรงอันตราย สิ่งเดียวที่ถูกเปิดสวิตซ์คงจะเป็นเครื่องปรับอากาศที่แผ่ไอเย็นราวกับจะท้าทายอุณหภูมิติดลบภายนอก



     

          ทุกอย่างเกิดขึ้นในที่เดียวกัน...แต่กลับเหมือนคนละเวลา


     

    เสียงโทรศัพท์กรีดร้องแทรกเสียงฟ้าคำราม ฮันคยองยังคงนั่งประสานมือเบี่ยงหน้าไปทางระเบียง ผ้าม่านถูกรูดไปชิดมุมสองฝั่งทั้งที่ทัศนียภาพก็ไม่ได้จำเริญตานัก ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าเขาปลดล็อคบานกระจกแล้วเลื่อนเปิดแม้เพียงนิด

     

         ความเย็นจากธรรมชาติจะแผ่เข้ามา...ให้รู้สึกโล่งเนื้อโล่งตัวพิลึก

         แต่คงต้องเสี่ยงกับแรงลม ไหนจะความหนาวเหน็บ...

     

    ถอนหายใจอย่างเบาที่สุดถึงตัวเองจะเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในห้องมืดนี้ก็ตาม มือเรียวที่ผ่านการฝึกฝนมาจนช่ำชองเลื่อนไปคว้าเจ้าอุปกรณ์สื่อสารที่ส่งเสียงเรียกความสนใจ ไม่จำเป็นต้องอ่านชื่อบุคคลโทรเข้าฮันคยองก็รู้ได้ว่าเป็นใคร

     

         วันนี้...เวลานี้ ไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือเสียใจดี


     

    ฮัลโหล...ฮันคยองใช่มั้ย  ปลายสายคือคนที่คิดไว้ไม่ผิด ชายหนุ่มผู้เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและร่วมอุดมการณ์เดียวกัน

     

    มีอะไรหรอคิบอม  ฮันคยองถามทั้งที่รู้คำตอบ การประชุมเมื่อสองวันก่อนคงจะได้ผลสรุปแล้วหลังจากพวกเขาต้องปรึกษากันอย่างที่เรียกได้ว่าหามรุ่งหามค่ำ ระดมความคิดพร้อมกับเสนอแนะทุกทาง...เพื่อหลีกเลี่ยง


     

    ที่เราประชุมกันวันนั้น ข้างบนมีมติออกมาแล้ว...  เสียงทุ้มต่ำเว้นวรรคเพื่อหยุดหายใจ ก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งของคนที่พวกเขาเรียกว่าหัวหน้าหรือผู้กำกับในเวลาที่เป็นทางการ

     

    ฮันคยองลุกขึ้นก่อนก้าวเดินไปยังทิศทางที่ทอดมองเมื่อครู่ ไอน้ำเกาะแผ่นใสจนเป็นฝ้าคาดว่าอุณหภูมิภายในคงไม่เกินสิบแปดองศา กระพริบตาถี่เมื่อเลื่อนสายตาไปยังท้องฟ้าที่ยังคงมืดครึ้ม ไร้วี่แววของดาวเพราะถูกกลบด้วยเมฆหมอกและแสงฟ้าแปล๊บปลั๊บแยงตา ชายหนุ่มเลื่อนมือไปขยับอะลูมิเนียมที่พันธนาการบานประตูโปร่งแสงอันเป็นเหมือนฉากกั้น ก่อนออกแรงผลักมันไปทางซ้ายเบาๆ

     


    ...ความเย็นจากธรรมชาติแผ่เข้ามา ให้รู้สึกโล่งเนื้อโล่งตัวอย่างบอกไม่ถูก

     

    ท่านซึงฮวานมีคำสั่งมาถึงหน่วยงานของเรา....


    ...ตามด้วยความหนาวเหน็บจากแรงลมที่ตีปะทะจนต้องห่อตัว



     
    ให้จับตายชเว ซีวอน 



    ................................................

    ภายในห้องทำงานของเจ้าพนักงานระดับสูง ความเคร่งเครียดซึ่งรายล้อมบุคคลทั้งสองนั้นเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าเหี่ยวย่นของผู้อาวุโสกว่าทั้งยศศักดิ์และอายุฉายแววครุ่นคิดอย่างปิดไม่มิด ดวงตาสีชาที่เคยเรียบนิ่งบัดนี้กลับดูลุกลี้ลุกลนจนคนมองสังเกตุได้

     

    คิบอมยืนสงบนิ่งแสดงออกคล้ายไม่ใส่ใจ หากคอยลอบมองปฎิกริยาของผู้เป็นนายอยู่ตลอดเวลา เช้านี้เพียงแค่เหยียบย่างเข้ามาในสำนักงานก็มีหมายเรียกให้เข้าพบด่วนที่สุด ในตอนนั้นไม่ต้องถามชายหนุ่มก็รู้ดีว่าเรื่องอะไร แล้วเอาเข้าจริง มันก็ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้เลย

     

         ...คดีของผู้ต้องหาคนสำคัญที่คั่งค้างมาเกือบปี...


     

    ไม่ว่ายังไงนะคิบอม พวกนายต้องปิดคดีนี้ให้ได้ เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี  ซึงฮวานว่าเสียงเครียดหลังจากเงียบอยู่นาน ความตระหนกที่เจืออยู่ในน้ำเสียงชวนให้คนฟังยิ้มหยัน ด้วยรู้ว่านี่ไม่ใช่คำสั่ง หากคือคำประกาศิตที่พวกเขาต้องน้อมรับและปฎิบัติตามอย่างไม่มีข้อผิดพลาด แล้วคำว่าปิดคดีที่ว่า ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร....

     

    เมื่อช่วงเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว เกิดเหตุฆาตกรรมที่กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วเกาหลี สื่อมวลชนและบรรดาองค์กรต่างๆรวมทั้งพวกธุรกิจมืดต่างจับตามองคดีนี้อย่างสนใจ เมื่อคิม มินซอง ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานพิเศษแห่งนี้ถูกลอบยิงภายในห้องพัก กระสุน.357ตรงเข้าศีรษะอย่างไม่พลาดเป้า เป็นเหตุให้บุคคลซึ่งเปรียบเสมือนหัวเรี่ยวหัวแรงของหน่วยงานนี้มาโดยตลอด ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสลดใจและไร้ผู้กระทำผิด

     

    ...สำหรับเขา มินซองไม่ใช่แค่หัวหน้า

    หากชายผู้นั้นยังเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เขารักและเคารพที่สุด...


     

    คิบอมเงยหน้าขึ้นมองนายใหญ่คนปัจจุบัน ความแข็งกร้าวแฝงอยู่ในดวงตาซึ่งฉายแววเด็ดเดี่ยวอยู่เป็นนิจ ร่างสูงกำมือแน่นเพื่อไม่ให้ตัวเผลอกระทำการอุกอาจที่จะส่งผลเสียต่อแผนการ แม้ใจอยากจะเหนี่ยวไกใส่คนเลวตรงหน้าก็ตามที

     

    เอาล่ะ นายออกไปเถอะคิบอม ยังไงช่วงนี้ก็ทำงานหนักกันหน่อยนะ ซึงฮวานเอ่ยกับชายหนุ่มอย่างให้กำลังใจ พยักหน้าเล็กน้อยเมื่ออีกคนทำความเคารพก่อนจะเดินออกไป


     

    หลังออกมาจากห้องของซึงฮวานแค่ไม่กี่ก้าว ชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ต่อสายถึงใครอีกคนทันที

     

    ฮัลโหล...ฮันคยอง หมอนั่นอยู่กับนายใช่ไหม

     

    ...........................................................      



    ดวงตาคมมองโทรศัพท์ที่เพิ่งใช้งานไปเมื่อครู่ถูกวางลงบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ เสื้อเชิ้ตสีเข้มถูกปลดกระดุมบนจนเผยให้เห็นแผงอกกำยำ แสงไฟสลัวภายในห้องฉาบไล้เสี้ยวหน้าได้รูปที่เรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ ชายหนุ่มยื่นมือไปรับแก้วใสที่บรรจุน้ำสีอำพันหรือคอนยัคก่อนจะสัมผัสกับความขมปร่าหากนุ่มลิ้นในคราวเดียว

     

    ไอ้แก่นั่นกำลังทำตัวเหมือนหมาลอบกัด  คำพูดเสียดสีผิดกับน้ำเสียงที่มีแววขบขัน ก่อนจะรับรสชาติน้ำเมาที่อีกคนส่งมาให้พลางทิ้งตัวลงบนโซฟา ถือวิสาสะยกขาขึ้นพาดบนโต๊ะกระจกเบื้องหน้าอย่างเคยชิน 

     

    สุภาพหน่อย คนที่นายพูดถึงน่ะ...หัวหน้าฉัน  เสียงนุ่มเอ่ยปรามคนปากร้าย  แล้วถอนหายใจออกมาเมื่อร่างสูงบนโซฟาเหล่ตามองเป็นเชิงว่าพูดจาไม่เข้าหู ก่อนจะเบนสายตาไปทางวัตถุสีดำยี่ห้อColt 1911ขนาด.45 ที่ถูกวางสงบนิ่งอยู่ตรงปลายเท้าอย่างพร้อมใช้งานทุกเมื่อ

     

         หมอนี่...แค่ว่านิดว่าหน่อยก็จะยิงกันซะแล้ว


     

    คิดในใจอย่างเอือมระอาขณะเดินมาสมทบพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ ก่อนส่งให้คนตัวสูงกว่าซึ่งกำลังทำหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมรับมาแต่โดยดี มือหนาพลิกหน้ากระดาษไปมาพลางกวาดสายตาอย่างคร่าวๆ หากคนมองนั้นรู้ว่าเจ้าตัวกำลังประเมินและวิเคราะห์รายละเอียดของภารกิจนี้อย่างถี่ถ้วน

     

    ดวงตาเรียวที่จ้องมองใบหน้าหล่อเหลานั้นสงบนิ่ง ชั่วครู่ปรากฎคล้ายรอยวูบไหวเสมือนไม่แน่ใจ เมื่อเจ้าตัวเหลือบไปเห็นสิ่งที่วางสะท้อนกระจกจนเกิดเงาสีดำมะเมื่อม กำลังทอดกายเชิญชวนให้สัมผัสอย่างเคยมือ ยามนี้ดูไร้ซึ่งพิษภัยผิดกับความร้ายแรงของมันนัก

     

    สัญชาตญาณคนดีเข้าครอบงำรึไง


     

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นไม่ดังนักแต่ทำให้ร่างโปร่งเกือบสะดุ้งหากยังควบคุมสีหน้าได้ แฟ้มในมือถูกปิดลงพร้อมกับความเงียบเข้าปกคลุม ชวนให้บรรยากาศอึดอัดขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนคนที่กำลังจะโดนต้อนจะถอนหายใจออกมาเพื่อทำลายความเงียบ ...และพาตัวเองหลุดออกจากดวงตาสีดำลึกล้ำนั่น

     

    คนตัวบางกว่าหลุบตาลงต่ำพลางยืดตัวตรง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นทางการนัยว่าต้องการเข้าประเด็นสำคัญ

     

    ซึงฮวานจะยืมมือพวกฉันฆ่านาย...เพื่อปิดปาก เพราะฉะนั้นช่วงนี้ฉันอยากให้นายอยู่นิ่งๆซักพัก จะได้ไหม


    เสียงแผ่วไปในตอนสุดท้าย จนคนฟังเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพราะถ้อยคำที่เติมมาไม่รู้ว่ามันเป็นประโยคคำสั่งหรือว่าขอร้องกันแน่ ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างที่เรียกว่าเจ้าเล่ห์ก่อนเลื่อนไปชิดใบหูนิ่มแล้วกระซิบเบาๆ

     

    ถ้าอยู่ที่นี่กับนาย ฉันก็โอเค ว่าเสร็จก็ลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปทางห้องนอนอย่างไม่รอให้เจ้าของอนุญาติ เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังลอยมาให้ร่างโปร่งที่กำลังนั่งตัวแข็งต้องกุมขมับอย่างละเหี่ยใจและไม่เข้าใจ

     

    ...ทำไมจะต้องเป็นฉันด้วยนะ คิบอม

    ...แล้วหมอนั่นบอกว่าจะอยู่ที่นี่??

     

     ...ตำรวจกับผู้ร้ายอยู่ด้วยกันมันคงจะโอเคหรอกนะ


    ............................................................

    อย่าเพิ่งเอาเอ็ม79มาขว้างนะคะ หุหุ ไม่เครียดไม่งงกันน้า >.<
    ภาษารกๆไปบ้างก็อยากให้ปลงกันนะคะ มันห้ามบ่อยู่จริงๆ
    แล้วจะเรากลับมาในอีกไม่ช้า ฮุฮุ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×