ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทสรุปสุดท้ายคือนายคนเดียว (นะ)

    ลำดับตอนที่ #1 : INTRO 14 กุมภาพันธ์ '53

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 53






    บทที่
    1

    เริ่มต้น

     

    “มาตกอะไรตอนนี้วะ!” ฉันสถบอย่างหัวเสียก่อนจะออกตัววิ่งเพื่อหลบห่าฝนที่เทกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้าอย่างไม่ขาดสาย เครื่องสำอางที่แต่งแต้มมาดิบดีเลอะสกปรกเต็มใบหน้า ให้ตายเหอะ! ฉันเสียเงินเข้าร้านกะว่าจะเผื่อไปทำงานด้วย แต่ดันมาเปียกซะก่อน -O-!


    “เฮ้ยย! อย่าเพิ่งปิด~~” ฉันตะโกนเสียงดังตรงปรี่ไปให้ทันประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลงในไม่ช้า ด้วยท่อนขาที่แข็งแรงและทรงพลังทำให้ฉันสามารถสกัดประตูลิฟต์ได้ทันท่วงที


    ประตูลิฟต์เปิดกว้างเผยให้เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาใสกิ๊กยืนกอดอกสีหน้าไร้อารมณ์ เขามองฉันแวบหนึ่งด้วยหางตาก่อนพลางยิ้มที่มุมปากเมื่อฉันเดินเข้าไปยืนข้างๆรักษาระยะห่างพอสมควร ฉันยืนตัวสั่นคลอนด้วยความหนาวพลางสลัดผมที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ


    “น้ำมันกระเด็นโดนหน้าฉัน ไม่เห็นรึไง! เดี๋ยวโดนดีหรอก” หมอนั่นถลึงตาใส่ฉันพลางหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดบริเวณใบหน้าที่อัดกรอบด้วยเรือนผมสีดำเหลือบน้ำตาลหน้าม้าจรดคิ้ว ปากบางสีชมพูพร่ำบ่นอย่างอารมณ์เสีย

    “เรียนเป็นไงบ้าง?” ฉันเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่หมอนั่นจะระเบิดอารมณ์ 

    “ถามมาก! พรุ่งนี้ตื่นเร็วๆด้วย” พอจบประโยคประตูลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมกับขายาวๆที่ก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ฉันยืนหน้าเจื่อนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ไอ้เด็กนรกเอ้ย! ฉันจะฆ่าแกสักวัน 

    ฉันมีชื่อว่า เป็ดไม่ธรรมดานะคะ เพราะชื่อเต็มของฉันคือ เป็ดปักกิ่งทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทผลิตผลไม้กระป๋องที่มีแววว่าจะปิดตัวลงในไม่ช้า(ฉันก็ตกงานอ่ะดิ - -!) ส่วนไอ้หนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียวที่มีชื่อว่า ป่วนคนเมื่อกี้ ฉันไม่ขอเอ่ยถึงให้ความเครียดลงกระเพาะดีกว่า -*-

    รับโทรด้วยยายแก่ อย่าให้รอนาน ยังไม่รับอีกนะ ยัยเป็ดเน่า รับสักทีสิโว้ยย~~

    เสียงเรียกเข้าสุดแสนจะพิลึกดังระงมไปทั่วห้อง ฉันวางไดร์เป่าผมก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์ที่สั่นครืนอยู่หัวเตียง

    “มีอะไร? คนกำลังจะนอน” ฉันกระแทกเสียงอย่างหมั่นไส้ 

    (สอนการบ้านเลขหน่อย) ให้ตายเหอะ! ฉันต้องนอนเอาแรงแล้วตื่นไปทำงานแต่เช้าครู่นะยะ แล้วจะกวนประสาทฉันไปถึงไหนเนี่ย  “มาหาที่ห้องสิ รีบๆด้วย”  
      

    (ยัยทุเรศเอ้ย! ชวนผู้ชายเข้าห้องเนี่ยนะ มีสมองรึเปล่า? ถึงฉันจะเป็นแฟนเธอก็เหอะนะ ทีหลังอย่าพูดแบบนี้ เข้าใจไหม ห๊ะ!) ฉันยกหูโทรศัพท์ออกแทบไม่ทัน ว่าแต่เอ๊ะ! เมื่อกี้หมอนั่นบอกเป็นแฟนฉันเหรอ? ประหลาดแหะ! ถ้าฉันอัดเสียงไว้ทันก็คงจะดี ฮี่ ฮี่ -.,-

    “จะเอายังไง? ฉันจะนอนแล้วนะ” ฉันเพิ่มความหน้าเชื่อถือด้วยการหาวหวอดๆ 

    (มาหาฉันที่ห้อง ตู๊ด ตู๊ด..) แล้วก็ตัดสายไป กรี๊ดดด~ ไอ้สนัขจิ้งจอกแล้วมันต่างกันตรงไหน ห๊ะ! ฉันคว้าเสื้อคลุมเพื่อปกปิดเสื้อนอนอันเบาบางดุจขนห่านก่อนจะเดินไปหามันที่ห้องที่อยู่เยื้องจากห้องฉัน เดินสามก้าวก็ถึง 

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

    ฉันระดมเคาะประตูด้วยความแค้น ไม่นานประตูก็ถูกกระชากออก ร่างสูงโปร่งในชุดนอนลายขวางสีเปลือกมังคุดยืนค้ำประตูมองฉันที่สูงเพียงบ่าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ฉันดึงเสื้อคลุมให้กระชับตัว รู้สึกไม่ปลอดภัยกลับสายตากรุ่มกริ่มคู่นั้น เพราะไอ้เด็กนี้มันหื่นค่ะ อึ้งภูเขาหิมาลัยล่ะสิท่า โฮะๆๆ แม่ให้มาล้วนๆ ไม่เสริมหรือยัดซิลิโคลนแต่อย่างใด

    “เซ็กซี่ตาย...” ทิ้งคำพูดเชือดเฉียดให้เจ็บกระดองใจก่อนจะสะบัดก้นเข้าไปในห้อง ทำไมฮะ! เพื่อนที่บริษัทยกให้ฉันเป็นแม่เสือสาวเชียวนะ ตาต่ำจริงๆเลยนะแก มองไม่เห็นความเซ็กซี่ในตัวฉัน

    กิ๊ก!

    ฉันปิดประตูอย่างเบามือพร้อมกับล็อคเสร็จสรรพ ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับป่วนที่มีกองหนังสือและสมุดการบ้านวางอยู่ ฉันกวาดสายตาไปรอบๆห้องที่ดูสะอาดสะอ้านจัดข้าวของอย่างเป็นระเบียบต่างจากห้องฉันลิบลับ 

    “ทำห้องสกปรกบ้างก็ได้นะ ยังกับปราสาทเจ้าชายแบบนี้ใครจะกล้าอยู่”

    “ก็เมดอย่างเธอไง ห้ามขัดคำสั่งฉันเด็ดขาดเลยนะ” หมอนั่นชี้หน้าฉันก่อนจะทำสัญลักษณ์ปาดคอเพื่อข่มขวัญ กลัวตายแหละ -O-!

    “จ้ะๆ เจ้าชายยยย =_=” ฉันลากเสียงก่อนจะหยิบสมุดการบ้านขึ้นมาดู การบ้านเด็กมัธยมนี่มันหินจริงๆ ถอดรูทถอดราก หาค่าซายน์ คอด แทน บ้าบออะไรก็ไม่รู้ วุ่นวาย! ฉัน (พยายาม) สอนการบ้านให้ป่วนอย่างลุ่มๆดอนๆ งงบ้างเข้าใจบ้าง ฉันสอนดีจนหมอนั่นฟุบหลับอย่างไม่เกรงใจ เจ๋งมากก

    “นี่! หลับจริงหรือแกล้ง” ฉันเอื้อมมือไปเขย่าไหล่ของเขา ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆทั้งสิ้นเว้นเสียแต่เสียงกรนน่ารำคาญ ฉันเลยต้องเขียนการบ้านให้ด้วยลายมือที่คิดว่าเลียนแบบเหมือนที่สุด ลายมือชุ่ยชะมัด

    ก็อาจเป็นเพราะฉัน...นั้นคงจะเมารัก จึงลืมว่าฉัน นั้นควรหักห้ามใจ~~ 

    เสียงริงโทนด้วยบทเพลงอันไพเราะเพราะพริ้งดังขึ้น ฉันเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนกองหนังสืออย่างถือวิวาสะ ของแฟนก็เหมือนของเรา (เหรอ)

    +Venus+ 

    “วีนัส” ฉันอ่านชื่อเบาๆพร้อมกับเพ่งมองรูปหญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ฉันจะรับดีไหมนะ? แล้วฉันมีสิทธิอะไรมารับโทรศัพท์คนอื่น ให้ตายสิ! แต่ฉันอยากรู้นิน่าว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร 

    “ฮัลโหลล~” ฉันทำเสียงทุ้มให้เหมือนผู้ชายมากที่สุด ถึงแม้จะเหมือนคนเป็นคางทูมก็เอาเถอะ (ฮัลโหล ป่วนเหรอคะ?) น้ำเสียงหวานจ้อยทำให้ฉันเริ่มระแคะระคายให้ตัวของเขา 

    “อืม วีนัสมีอะไรเหรอครับ?”

    (ทำไมถึงวันนี้ถึงพูดเพราะจังคะ แถมยังเสียงแปล่งๆ) 

    “เปล่าครับ ผมเพิ่งทานยาอมเสียงมันเลยแปลกๆ ว่าแต่คุณมีอะไรครับ -  -^” ช่างเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระมาก แต่ฉันก็พยายามพูดให้เบาที่สุดเพราะป่วนอาจจะตื่นขึ้นมาได้ยิน มีหวังซวยแหง 

    (พรุ่งนี้เราหนีเรียนไปดูหนังกันไหมคะ คิกคิก) แหม แรงจริงนะเด็กสมัยนี้ ถ้าไม่ติดว่าสวมรอยใครฉันจะด่าให้เสียหมาเลยทีเดียว ไอ้เจ้าเด็กแสบนี่ก็ร้ายใช่ย่อย ไปหว่านเสน่ห์จนเขาติดงม จับได้คาสองตาฉันจะตั๊นหน้าให้ -O-!

    “สงสัยจะไม่ได้ครับคุณวีนัส”

    (ทำไมล่ะคะ ป่วนรังเกียจวีนัสเหรอ ฮึกๆ) ปลายสายมีน้ำเสียงสั่นเครือ ชิชะ! ไม่ต้องมามารยาร้อยเล่มเกวียน ฉันรู้ทันหรอกน่า ลูกไม้ตื้นๆ “เปล่าครับ ผมเป็นฝีที่ตูดนั่งนานๆไม่ได้ เดี๋ยวฝีแตก แค่นี้นะครับคุณแมลงหวี่ ตู๊ด!” ฉันกระแทกเสียงอย่างโมโหก่อนจะจัดการลบเบอร์ยัยวีนัสไม่ให้เหลือซาก

    “ไม่แรงไปหน่อยเหรอ?”

    “เฮ้ย!” ฉันร้องอย่างตกใจจนโทรศัพท์หล่นกระแทกพื้นเบื้องล่าง ก็หมอนั่นเล่นผงกหน้าขึ้นมาซะเฉยๆ อย่าบอกนะว่าแกได้ยินที่ฉันคุยกับยัยแมลงหวี่ทุกประโยคตั้งแต่ต้นจนจบ 

    “เก็บโทรศัพท์ขึ้นมา ถ้าพังเธอตายแน่!

    ฉันหน้าหดเป็นตอม่อก่อนจะค่อยๆก้มเก็บโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น หน้าจอมีรอยร้าวเล็กน้อย(มั้ง) ตายห่าสิ! ทำไมหน้าจอมันมืดตื๊ดตื๋อแบบนี้ ลางไม่ดีแล้วนะ ตื่นขึ้นมาสิโว้ยย TOT รุ่นนี้แพงหูดับตับไหม้เลยนะ ‘Black apple’ เก็บเงินกี่ชาติกว่าจะได้มา 

    “สงสัยแบตหมดอ่ะ เอาไปชาร์จดิ แหะๆ” ฉันยื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของด้วยอาการมือสั่นริกๆ เขารับไปก่อนจะจ้องหน้าฉันพลางแยกเขี้ยวอย่างน่ากลัว แหง่ก! อย่าฆ่าเค้านะตัวเอ๊งงง TOT ยังอยากมีชีวิตหาสามีรูปหล่อ บ้านรวย หน้าหมวย มีรถขับ อ๊างงง~ 

    “ถ้าซ่อมไม่ได้ล่ะก็...” ถึงแม้ป่วนจะหน้าหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าแต่พอทำหน้าโหดก็น่ากลัวไม่หยอก โปรดอย่าเอ่ยคำนั้นออกมา โปรดอย่าบอกว่าให้ฉัน ไปซื้อใหม่โฮกกกก

    TT TT

    “เธออดจูบฉันตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ฮึฮึ -__,-

    “เวร! ไอ้เด็กนรกทะลึ่งเหอะ เดี๋ยวโบกหน้าให้” ฉันยกหนังสือเล่มหนาทุ้มใส่หัวมันหนึ่งดอกด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะกระทืบเท้าเดินออกมาจากห้องมันอย่างรวดเร็ว

    บ้าเอ้ย! พูดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย หน้าฉันแดงไปหมดแล้วเนี่ย >///< หัวใจฉันเต้นแรงไม่เป็นส่ำแทบจะทะลักออกมานอกอก ทำไมฉันต้องใจสั่นกับอีแค่เด็กมัธยมปลายอารมณ์ร้ายอย่างนายด้วยนะ 

    ทำไมมมมมมมมมมมม~~


    -- แฮปปี้ วาเลนไทน์ นะคะรีดเดอร์ =)
    เปิดเรื่องใหม่สุดไฉไล ชอบไม่ชอบยังไงก็เม้นด้วยนะคะ
    แต่ถ้าอยากติดตามจนจบต้อง Add Fav.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×