คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชายแปลกหน้าและแผลเป็นที่แขนซ้าย
"ตึงๆๆๆ "
เสียงกลองถูกลั่นขึ้นใจกลางหมู่บ้านแห่งหุบเขาเวียนวน บัดนี้ประเพณีโบราณเริ่มเวียนบรรจบอีกครา ณ ที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านของชนเผ่าผู้ใช้ชีวิตซุกซ่อนในร่มเงาประวัติศาสตร์มนุษย์ ผู้ถูกหลงลืมจากกาลเวลาแต่ไม่ไร้ตัวตน เวลานี้เป็นเวลาเป็นเวลาสำคัญ ประเพณีการต่อสู้อันยาวนานระหว่างสองชนเผ่าในหุบเขาเวียนวน 1 คือ เผ่าชิเมร่า ผู้ท้าทายแสงแดด อีก 1 คือ เผ่าเอราโน่ ผู้ต้องความมืด สองเผ่ามีประเพณีโบราณคัดเลือกนักรบหนุ่มเพื่อแสดงพลังของกันและกันมิให้เลือนหายไปจากกาลเวลา ตอนนี้ครบรอบ 3 ปีจากการต่อสู้ครั้งก่อน ทั้งสองหมู่บ้านได้เวลาคัดเลือกนักรบตัวแทนหมู่บ้าน เช้าของวันใหม่หุบเขาเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ แสงแดดไม่สามารถต้องพื้นดินได้เอราโน่หนุ่มชูมือเหนือผู้คน บัดนี้ผู้ต้องความมืดพร้อมแล้วสู่การประลอง บ่ายอันร่มรื่นมาถึงการคัดเลือกตัวแทนของชิเมร่ารอบสุดท้ายได้เริ่มขึ้น
"มัตเทโอ มัตเทโอ มัตเทโอ...."
เสียงเชียร์จากคนรอบลานประลองกลางหมู่บ้านเรียกชื่อชายผู้ยืนอยู่คนสุดท้ายในการคัดเลือก
"มัตเทโอ บุตร จานี่ เฟร์ ผู้คุมกฏ เจ้าคือตัวแทนของเรา" ผู้เฒ่าชี้ไม้เท้าไปที่ผู้ชนะ
"ข้าจะล้มผู้ต้องความมืดเอง" มัตเทโอบอกทุกคนพร้อมชูมือขึ้น
"เจ้าต้องทำได้แน่" เซเรนี่ คู่ต่อสู้ในสนามและเพื่อนรักลุกขึ้นแสดงความยินดี
"รับ มงกุฏพฤกษาไปมันเป็นของเจ้าแล้วอย่าแพ้ใครจนกว่าจะถึงเวลาประลอง ข้าภูมิใจในตัวเจ้า ลูกข้า" ผู้คุมกฏมอบมงกุฏพฤกษาแก่ลูกชาย
"อย่าห่วงท่านพ่อ ข้าจะไม่แพ้ใครเด็ดขาด" มัตเทโอตอบ
หลังการประลองเสร็จสิ้นลงมัตเตโอและเซเรนี่หลบมาพักผ่อนร่างกายในกระท่อมล่าสัตว์ชายป่า ทั้งสองคุยกันถึงการประลองของทั้งคู่เมือตอนบ่ายพลางวิจารกันและกัน
"เจ้าพ่นมันใส่ข้าได้ยังไง มัตเทโอ มันน่าหวาดเสียว" เซเรนี่บอกเพื่อน
"ก็ข้ารำคาญต้นไม้ของเจ้านี่มันพันแข้งพันขาเต็มไปหมด" มัตเทโอตอบ
"แล้วคืนนี้จะนอนบ้านข้าหรือบ้านเจ้า" เซเรนี่เปลี่ยนเรื่อง
"นอนที่นี่" มัตเทโอตอบแบบสั้นๆ
"เจ้าคิดอะไรของเจ้า มีบ้านให้นอนไม่นอน เจ้าเพี๊ยนแล้วเพื่อนข้า" เซเรนี่งุนงง
"ข้าไม่ได้ใช้ให้เจ้านอนด้วยนี่นา กลับก็ได้นะงานนี้ข้าคนเดียวไหว" มัตเทโอหันไปทางเซเรนี่ด้วยใบหน้าจิงจัง
"เจ้าจะทำอะไรกันแน่ !" เซเรนี่พูดพลางเอามือเขย่าไหล่เพื่อน
"ถ้าเล่าแล้วคืนนี้เจ้าต้องนอนโดยไม่มีข้า สัญญามั๊ย" เงื่อนไขถูกเสนอ
"ได้ถ้าเหตุผลเจ้าเพียงพอต่อการอยู่คนเดียว" เซเรนี่นั่งลงกับกองฟางในกระท่อม 1 ชั่วโมงผ่านไปมัตเทโอเปิดประตูแล้วส่งเพื่อนรักกับบ้านหน้าตายังจิงจังเหมือนเดิม
"คิดดีแล้วใช่มั๊ย" เซเรนี่ถาม
มัตเทโอพยักหน้าพร้อมทั้งส่งเสียงตะคอกใส่เซเรนี่ "ถ้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังอย่าได้หวังว่าข้าจะมองหน้าเจ้า"
"อืม พยายามเข้านะ ข้าเอาใจช่วย" เซเรนี่เดินออกกลับเข้าไปในหมู่บ้านไม่หันกลับมามอง
รุ่งเช้ามาถึงประตูห้องนอนเซเรนี่ถูกเคาะแต่เช้า
"ก๊อก ๆ เซเรนี่ มีน่า มาหาน่ะลูก"แม่ตะโกนบอกลูกชาย
"นางอยู่ไหน แม่ บอกนางกลับไปนี่ยังเช้าอยู่" เสียงงัวเงียตอบกลับไป
"ข้าอยู่นี่ เจ้าโง่" นีน่ายืนอยู่ข้างเตียง
"โธ่ ข้าบอกแล้วว่านี่ยังเช้าอยู่" เซเรนี่เอาหัวหลบเข้าไปในผ้าห่ม
"ข้าหาเจ้าตั้งแต่หลังประลองแล้ว แต่เจ้าหายตัวไปกับเพื่อนเจ้า เอ๊ะไม่ใช่สินะต้องเรียกว่า ผู้ชนะ ส่วนเจ้าคือผู้แพ้" นีน่าเริ่มเอามือเท้าสะเอว
"ข้าก็หลงรอเจ้าเอามงกฏพฤกษามาขอข้าเป็นคู่ แต่เจ้ามันดันห่วยไปแพ้มัตโต้ ข้าต้องรีบหลบคำเยาะเย้ยจากเพื่อนข้ามาบ้านเจ้าแต่เช้า" นีน่าต่อว่าอย่างหัวเสีย
"รู้แล้วๆ ข้าขอโทษ มัตโต้มันเก่งเว่อไปหน่อยนี่นา เรื่องมันช่วยไม่ได้เจ้าก็รู้" เซเรนี่เอาหัวโผล่จากผ้าห่มมาบอกนีน่า
"ไม่รู้หละเจ้าต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับความห่วยแตกของเจ้า" นีน่ากอดอกทำตาดุใส่
"อืมที่จริง ข้าก็พอมีนะแต่ข้ากลัวว่า......" เซเรนี่ทำเสียงอ่อย
"ว่ามาเดี๋ยวนี้" นีน่าทำเสียงข่ม
"แต่ว่าเจ้าห้ามบอกใครนะไม่งั้นเจ้ากับฆ่าได้ไปนอนกอดกันในโลงศพแน่" เซเรนี่บอก
"เดี๋ยวนี้!" นีน่าเริ่มหมดความอดทน
"เช้านี้มัตโต้จะไปนำมงกุฏพฤกษาไปขอ เอลเมส เป็นคู่รัก" เซเรนี่เผลอพูดออกมาด้วยความตกใจ
"หา จริงเหรอ โถ มัตเทโอเพื่อนข้าช่างกล้าหาญเสียจริง" นีน่าเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว
"ตกลงเจ้าหายโกรธข้าแล้วใช่มั๊ย นี่น่า ยอดรัก" เซเรนี่ยิ้มใส่
"ก็ได้แต่มีเงื่อนไขว่ามัตโต้ต้องขอเอลเมสเป็นคู่รักสำเร็จเท่านั้นนะ" นีน่ายื่นคำขาด
"อย่าห่วงยอดรัก สายตาข้าไม่ได้โง่ดั่งคำเจ้าจะมีผู้ใดเหมาะสมกันเท่า มัตเตโอผู้เบิกอัคคีสองสาย และเอลเมสช่างทอชีวิต" เซเรนี่จับมือนีน่า
"ขอเป็นดังที่เจ้าว่า" นีน่าภาวนา
เช้าตู่ที่ถนนเชื่อมหมู่บ้าน มัตเทโอเดินถือมงกฏพฤกษามุ่งตรงไปยังโรงทอ ระหว่างทางเห็นผู้เป็นพ่อขี่ม้าผ่านไปโดยไม่ทักทายจึงอดสงสัยไม่ได้แต่ใจของมัตเทโอนั้นมุ่งมั่นอยู่กับเอสเมส มัตเทโอจึงไม่ได้สนใจอะไร
"ขอโทษครับข้ามาหาเอลเมส" มัตเทโอตะโกนเข้าไปในโรงทอผ้า
"รอก่อนมัตโต้ ช่างทอกำลังทำงาน" หญิงสาวคนหนึ่งเปิดปะตูออกมาต้อนรับ
"อนาช่า ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้" มัตเทโอถามอย่างสงสัย
"เพียโล่ ถูกคนแปลกหน้าทำร้าย ยังไม่ได้สติเลย โชคดีที่พ่อเจ้าลาดตะเวนไปเจอ" หญิงสาวตอบพลางร้องไห้ไปด้วย
"ไม่จริง เพียโล่เป็นรองก็แค่ข้ากับเซเรนี่เท่านั้น" มัตเทโอตกใจกับคำพูดของอนาช่า
"อนาช่า เพียโล่ได้สติแล้ว" เสียงตะโกนดังมาจากโรงทออนาช่าและมัตเทโอรีบวิ่งเข้าไป มัตเทโอวิ่งแซงเข้าไปยังเตียงเพียโล่
"ใครกัน เพียโล่ ข้าจะไปลากมันมาให้เจ้า" มัตเทโอถาม
"คนแปลกหน้า ข้าก็ไม่รู้แค่ข้าจับแขนมันจากนั้นข้าก็ไม่รู้สึกตัว" เพียโล่พูด
"มันไปทางไหนข้าจะตามมันไป" มัตเทโอถามด้วยอารมณ์เดือดดาล
"อย่าเลยมัตโต้ ไม่มีประโยชน์ สิ่งเดียวที่เจ้าควรจะทำคือภาวนาขออย่าให้เป็นผู้ประลองจากเอลาโน่เลย" เพียโล่พูดพร้อมกับไอเล็กน้อย
ทั้งห้องเงียบงันไม่คิดว่าเพียโล่ผู้มีพละกำลังจะพูดออกมากับผู้ชนะแห่งชิเมร่าเช่นนี้
"เอลเมสล่ะ" มัตเทโอถาม
"นางไปพัก คงช่วงบ่ายๆถึงจะตื่น" อนาช่าตอบ
ขณะเดียวกับ จานี่ควบม้ามาถึงที่กระท่อมผู้เฒ่าแห่ง ชิเมร่า
"อาจารข้ารบกวนท่านแต่เช้าเพราะมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ" จานี่พูด
"อะไรที่ทำให้ผู้คุมกฏอย่างเจ้าต้องรีบร้อนเช่นนี้" ผู้เฒ่าถาม
"ข้าพบเพียโล่ บูตรแห่งเนียร์ นอนบาดเจ็บอยู่ในชายป่า ข้าได้นำส่งโรงทอแล้ว แล้วข้าก็เก็บชิ้นไม้ในที่เกิดเหตุมาให้ท่านช่วยดูด้วย ข้าไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย" จานี่พูดพร้อมนำชิ้นไม้ที่มีรอยใหม้ให้ผู้เฒ่าดู
"ลูซิสเนเลี่ยน เป็นไปไม่ได้" ผู้เฒ่าพูดพร้อมกับเดินออกไปนอกกระท่อม
"ท่านหมายถึงพลังโบราณอย่างนั้นเหรอ " จานี่มองชิ้มไม้
"พวกลูซิสเนเลี่ยนเท่านั้นที่ทำให้สิ่งของที่ถูกพลังเป็นสีดำสนิทได้อย่างนี้" ผู้เฒ่าบอก
"เราจะทำยังไงดีท่านอาจารย์" จานนี่เก็บชิ้นไม้แล้วเดินไปหาผู้เฒ่า
"งานนี้เจ้าจะให้ใครรู้ไม่ได้ เจ้าต้องหามันให้เจอ ใช้เนโร่ ผู้ค้นหา ฟิเกโร่ ผู้สร้างภาพ ริยาน่า พิษสังหาร" ผู้เฒ่ากระซิบข้างหูจานี่
จานี่รีบควบม้าตามหาคนทั้งสาม หลังจากพบคนทั้งสามแล้วทั้งหมดจึงเดินทางไปยังชายป่าที่เกิดเหตุ
"ฟิเกโร่ ย้อนหลังภาพเมื่อ ตอนเช้ามืดให้ดูหน่อย" จานี่บอก
"ได้ แต่ข้าเกรงว่ามันจะจางเกินไป ถ้าย้อนไปนานขนาดนั้น" ฟิเกโร่จับมือจานี่แล้วทั้งคู่ก็หลับตา
"แผลเป็นที่แขนซ้าย" จานี่ลืมตาขึ้นแล้วบอกให้เนโร่ค้นหา
"พวกท่านเห็นอะไร" หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มถาม
"ริยาน่า มันถูกเรียกว่า ลูซิสเนเลี่ยน" ฟิเกโร่บอกเธอ
"ข้าเจอแล้ว 2 คน ในชายป่าอีกหมู่บ้านมีการเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ข้าไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า" เนโร่ ผู้ค้นหาบอกจานี่
"ลูซิสเนเลี่ยน 2 คน รีบไปกันเถอะ ชักไม่ดีแล้ว" จานี่บอกพรรคพวก ทั้งสี่รีบควบม้าไปอีกหมู่บ้านนึงเพื่อตามหาเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน ที่โรงทอเป็นเวลาบ่ายมัตเทโอเดินออกมาสูดอากาศภายนอกให่ใจเย็นลงเพราะมัวคิดถึงแต่เรื่องที่เพียโล่พูด
"หูดำ หูดำ เจ้าอยู่ไหน" เสียงตะโกนดังมาจากหลังโรงทอ
"เอลเมส" มัตเทโอเอ่ยพร้อมกับนึกขึ้นได้ว่าตนจะมาขอเอลเมสเป็นคู่
"หูดำเจ้าหายไปไหน" เอลเมสตะโกนพร้อมเดินเข้าไปในป่าหลังโรงทอ
"รอข้าด้วยเอลเมส" เสียงตะโกนตามหลังทำให้เอลเมสหยุดหันกลับมามอง
"เจ้าหูดำหายไปเหรอ" มัตเทโอถาม
"ใช่แล้วมัตเทโอ ข้าตื่นมาไม่เจอมันข้าหาจนทั่วแล้วคิดว่ามันคงหลงเข้าไปในป่า" เอลเมสมีสีหน้ากังวล
"จริงๆเจ้าน่าจะเรียกข้าว่ามัตโต้ แบบคนอื่นบ้างนะมันดูคุ้นเคยกันดี" มัตเทโอเอ่ย
"ตอนนี้ข้าเป็นห่วงหูดำเหลือเกิน" เอลเมสไม่ได้สนใจมัวห่วงแต่สัตว์เลี้ยงตัวโปรด
"ก็ได้งั้นเราไปหาหูดำในชายป่ากัน" มัตเทโอเดินนำหน้าเข้าไปในป่า
"มัตเทโอ นี่ผ้าที่ข้าผูกหูเจ้าหูดำไว้ มันต้องโดนสัตว์อื่นลากเข้าไปในป่าแน่รีบไปกันเถอะ" เอลเมสพูดเสร็จรีบวิ่งเข้าไปในป่า
มัตเทโอวิ่งตามเข้าไปทั้งสองวิ่งเข้าไปในป่าได้ซักพักก็เห็นควันไฟลอยขึ้นมาอีกไม่ไกลทั้งสองรีบวิ่งไปที่ควันไฟ พอถึงที่กองไฟทั้งสองได้พบชายคนนึงรุ่นราวคราวเดียวกันมือซ้ายของชายคนนั้นถือกระต่ายสีขาวที่มีหูดำอยู่
"หูดำ! เจ้าคนแปลกหน้าคืนกระต่ายข้ามาเดี๋ยวนี้" เอลเมสบอกชายแปลกหน้า
"คืนกระต่ายของนางแล้วขอโทษนางซะ คนจากเอลาโน่อย่ามาโอหังที่นี่" มัตเทโอตะคอกใส่
ชายแปลกหน้าโยนกระตายมาที่เอลเมสแล้วหันหลังคล้ายจะเดินจากไป
"กลับกันเถอะ มัตเทโอ" เอลเมสรับกระตายแล้วหันไปบอกมัตเทโอแต่ก็ช้าไป
"ขอโทษนางเดี๋ยวนี้" มัตเทโอเดินเข้าไปจับแขนซ้ายของชายแปลกหน้า
"เมื่อเช้าก็มีไอ้โง่จับแขนข้าอย่างนี้แหละ" ชายแปลกหน้าหันมาพูด
"ตู้ม!!!!!" มัตเทโอกระเด็นกระแทกต้นไม้หมดสติ
"มัตเทโอ!" เอลเมสร้องพร้อมกับจะวิ่งไปหามัตเทโอแต่โดนชายแปลกหน้าดึงแขนไว้
"อย่างยุ่งกับแผลข้า ฝากบอกมันด้วย" ชายแปลกหน้าปล่อยมือแล้วเดินจากไป
เอลเมสมองเห็นแผลสีดำที่แขนซ้ายของชายคนนั้นจากนั้นเอลเมสก็วิ่งมานี่ร่างของมัตเทโอ เอลเมสสร้างเส้นใยสีฟ้าที่มือแล้วเริ่มทอเส้นใยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของมัตเทโอ ท่ามกลางบริเวณนั้น หินและต้นไม้บางส่วนกลายเป็นสีดำ เอลเมสพยายามตั้งสติรักษามัตเทโอ ไม่นาน จานี่ และพวกก็ตามมาทันเพราะเสียงระเบิดเมื่อรู้ว่าอาการบาดเจ็บของลูกชายทุเลาลงจึงรีบตามชายแปลกหน้าเข้าไปในป่าลึก....
ความคิดเห็น