ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คำสั่งของท่านแม่ผู้ล่วงลับ
ยามค่ำบนภูเขาในอาณาจักรแสงจันทร์ ดวงจันทร์ทอแสงสาดส่องเผยให้เห็นเด็กหญิงร่างเล็กเรือนผมดำยาวประบ่าถือคทาทำด้วยไม้มีลูกแก้วสีฟ้า มีแสงอยู่เรืองรองรอบๆตัวคทาด้วยอำนาจแห่งพลังเวทมหาศาลที่อัดแน่นอยู่ภายใน เด็กหญิงก้มหน้าลงด้วยสีหน้าโศกเศร้าพร้อมกับคุกเข่าลงบนผืนหญ้า สายตาจ้องมองไปที่ป้ายหลุมศพที่อยู่ตรงหน้าสลักชื่อผู้เป็นมารดาอันเป็นที่รัก เธอนำดอกไม้ที่ผู้เป็นมารดาชอบที่สุดมาวางไว้หน้าหลุมศพพลางรำพึงเบาๆ
" แม่ ลูกนำดอกลิลลี่ที่แม่ชอบมาให้แล้ว หลังจากวันนี้ไปลูกคงไม่ได้มาพบแม่อีกสักพักใหญ่ เพราะลูกมีภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ต้องกระทำ"
เธอลุกขึ้นยืนแล้วร่ายเวทเบาๆ
" ข้าแต่เทพแห่งการเดินทาง โปรด..."
" จันทรา!"
"ใครน่ะ!"
ผู้ถูกเรียกว่า " จันทรา" หันหน้ามองรอบทิศเพื่อหาต้นเสียง ขณะนั้นชายวัยกลางคนท่าทางแข็งแรงรีบออกมาอุ้มเธอไว้
" พ่อ"
" กลับบ้านซะ จันทรา ลูกจะทำให้พ่อเป็นห่วงไปถึงไหนกัน หนีออกจากบ้านมาคนเดียวอีกแล้ว"
ผู้เป็นบิดาอุ้มลูกสาวขึ้นมาแต่เธอดิ้นจนหลุดจากอ้อมแขน
" พ่อ ทำไมพ่อต้องกีดกันลูกด้วย ในเมื่อพ่อก็รู้เรื่องนั้น"
เธอถามขณะที่ตัวเองกลับมายืนบนพื้นอีกครั้ง
" พ่อไม่อยากเสียลูกไป เข้าใจไหม ขอร้องอย่าทำอย่างนี้อีกเลย"
จันทราเข้าใจเรื่องนี้ดีมาก พ่อดูเป็นห่วงเธอตลอดเวลาเพราะแม่ของเธอซึ่งเคยเป็นจอมเวทผู้หยั่งรู้ต้องทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่เจ้าแห่งโชคชะตาสั่ง และนั่นก็เป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตระหว่างทำภารกิจ ก่อนสิ้นใจได้บอกลูกสาวคนกลางกับคนเล็กซึ่งก็คือจันทรากับเมฆาว่า
" นี่คือคำสั่งของเจ้าแห่งโชคชะตา แค่กๆ เจ้าจะต้อง... แค่กๆๆๆ ไปเป็นครูที่ประเทศไทย...เพื่อเจ้าจะได้เป็นผู้ครอบครองผลึกมนตรามรกตที่จะทำให้เจ้ากลายเป็นจอมเวทผู้หยั่งรู้เช่นแม่ จงมุ่งมั่นไปตามเส้นทางนั้นเถิด"
สิ้นประโยค แม่ของเธอก็สิ้นใจภายใต้ความโศกเศร้าของพ่อที่พยายามไม่ให้ลูกเดินทางสายนี้เพราะหวั่นเกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย
แต่จันทรานึกถึงถ้อยคำของแม่ เธอรู้ว่าแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอเสมอ เธอจึงคิดจะหาทางหนีออกจากบ้านมาตลอด
พ่อพาเธอเดินกลับบ้านไปทางถนนสายคนเดิน ระหว่างทางพ่อกับเธอไม่ได้คุยอะไรกันเลยจนกระทั่งใกล้ถึงบ้าน มีวัยรุ่นชายคนหนึ่งโผล่จากตรอกมา
" ไง หวัดดี น้องจันทรา ไปไหนมากับพ่ออีกล่ะ?"
" สวัสดีค่า พี่ตะวัน คือว่า..."
จันทราพยายามอธิบายแต่โดนพ่อขัดซะก่อน
" ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ยัยเด็กดื้อ นี่ตะวัน น้องสาวลูกน่ะหนีออกจากบ้านอีกแล้ว"
จันทราทำหน้าจ๋อยไปนิดนึง ตะวันหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าหลังจากนั้นยังน้องสาวทำท่าจะหนีอีก
" กลับบ้านกันก่อนดีกว่าครับ ป่านนี้เมฆาคงรอนานแล้วล่ะ"
ตะวันจูงมือน้องสาวเดินกลับบ้านพร้อมกับพ่อ จันทราชอบที่จะเดินเคียงข้างกับพี่ชาย พี่ชายของเธอไม่ใช่จอมเวท ไม่ใช่ผู้หยั่งรู้แต่เป็นนักสู้ที่ชอบไปท้าประลองอยู่เรื่อย จันทราเลยรู้สึกว่าเวลาที่พี่มีให้เธอมันน้อยนัก ทว่าเธอไม่รู้ว่าพี่ชายก็ยังรักเธอเหมือนเดิม
" กลับมาแล้ว"
พ่อสั่งประตู ทันใดนั่นประตูบ้านก็เปิดออก มันจะเปิดเฉพาะนายของมันและครอบครัวเท่านั้น
" อ้าว เมฆาไปไหนเล่าเนี่ย"
ตะวันมองไปรอบๆบ้านสักพักก็เห็นเด็กหญิงร่างเล็กผมยาวของเธอนั้นถูกมัดด้วยที่มัดผมสีน้ำตาล แววตาดูมุ่งมั่นขณะที่เธอเล่มเกมอย่างเมามัน
" อยู่นี่เองนะ ยัยบ้าเกม"
จันทรามองฝาแฝดของตัวเองและเข้าไปกอดจากด้านหลัง
" อย่าน่า มันร้อน กำลังเก็บเลเวลอยู่ด้วย"
เมฆาผลักตัวฝาแฝดเบาๆ จันทรารู้ว่าเธอไม่ร้อนหรอกเพราะอาณาจักรแสงจันทร์มีอากาศหนาวตลอดทั้งปี เธอคิดว่าเพราะสาเหตุหลังมากกว่า
" จะกินอะไรอีกไหม จันทรา"
พ่อของเธอถาม เธอส่ายศีรษะไปมาเพราะตอนเธอหนีเธอเตรียมอาหารไปกินแล้ว
" ไม่กินแล้ว เดี๋ยวลูกไปนอนก่อนนะ"
เธอวิ่งขึ้นบันไดไปเข้าห้องนอน เธอล็อกประตูทั้งๆที่รู้ดีว่าตัวเองยังไม่ง่วงและทิ้งตัวบนเตียงนอนที่หนานุ่ม นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
"ก๊อกๆ ขอพี่เข้าไปหน่อยได้ไหม"
จันทรารู้ว่าเป็นเสียงใคร จึงเปิดประตูให้บุคคลนั้นเข้ามา
" พี่ตะวันมาทำอะไร"
" เอ้า ถามได้ ก็มีเรื่องจะคุยกับน้องนิดหน่อย ตามพี่มาที่ระเบียงบ้านที"
จันทราเดินตามพี่ชายไปที่ระเบียงหน้าห้องนอน ลมที่พัดจากชายหาดพัดเข้ามาทำให้ทั้งสองได้รับลมเย็น จันทราสงสัยว่านี่ขนาดเป็นประเทศเมืองหนาวนะยังมีทะเลอีก แปลกจริงๆ นะ อาณาจักรแสงจันทร์นี่
" พี่รู้ว่าน้องกังวลเรื่องคำสั่งของแม่น่ะสิ"
ตะวันเริ่มบทสนทนาที่จันทราไม่อยากตอบเลย
" ใช่แล้ว จันทร์กังวลเรื่องนี้มาตลอด พี่ก็รู้นี่แต่ดูเหมือนเมฆเขาจะไม่กังวลอะไรเลยนะ มันเป็นคำสั่งของเจ้าแห่งโชคชะตาที่เราต้องเริ่มปฏิบัติเมื่ออายุเท่านี้พอดี"
ตะวันมองน้องสาวคนนี้ด้วยสายตาความเป็นพี่ บัดนี้จันทราอายุ 12 ปีแล้วยังเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก ร่าเริงสดใสออกจะซ่าๆ บ้าบอบ้างในบางครั้ง ก็เธอเป็นถึงหัวหน้าแก๊งค์เด็กซ่าในอาณาจักรแสงจันทร์แต่ก็ยังมีความสงบ เยือกเย็นอยู่ในตัว
ถ้าถามเขาว่าทำไมเขาไม่ได้รับภารกิจล่ะก็ เขาจะตอบว่าในอาณาจักรนี้ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นจอมเวทผู้หยั่งรู้ได้
" พี่มีเรื่องจะบอก"
ตะวันเงียบไปพักนึง
" พี่คิดว่าแม่ยังไม่ตาย..."
"ลองคิดดูสิ เจ้าแห่งโชคชะตาไม่เคยให้ใครไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายเลยนะ"
" แต่แม่ก็ตายแล้วนี่ จันทร์เห็นกับตาเลยนะ ไม่งั้นพ่อไม่ทำหน้าอมทุกข์อย่างนั้นหรอก"
จันทรารู้สึกตกใจที่จู่ๆพี่ชายก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
" แล้วน้องรู้ได้ยังไงล่ะ น้องไปดูการฝังศพแม่หรือเปล่าล่ะ เห็นคนในอาณาจักรนี้ลือกันว่าแม่ยังไม่ตายเพราะไม่มีใครเห็นศพแม่ในวันฝัง พี่เองก็เชื่อเช่นนั้น ส่วนหลุมศพนั้นเกิดจากการคาดเดาว่าแม่ตายบนภูเขา"
" แต่..."
จันทรารู้สึกสับสนอย่างมาก แม่ยังไม่ตาย! เป็นไปได้ยังไงนะ น้ำตาค่อยๆเอ่อล้นตรงขอบตา เมื่อเธอรู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวก็รีบหันหน้าไปทางอื่น
"บ้า! บ้า! บ้า! ทำไมแม่ต้องโกหกจันทร์ด้วยล่ะ"
เธอพูดพลางทุบอกพี่ชายแรงๆเหมือนกำลังเตือนสติโดยปราศจากน้ำตาเพราะเธอนั้นแกร่งและไม่ชอบแสดงความเสียใจให้ใครเห็น
" แม่ไม่ได้อยากโกหกน้องหรอกแต่แม่ถูกปิดผนึกโดยจอมมารผู้รุกรานอาณาจักรของเรา"
ตะวันค่อยๆเล่าเมื่อจันทราควบคุมสติได้
" ฉะนั้นแม่จึงยังไม่ตายแต่ถูกผนึกไว้ที่ไหนสักแห่งในดินแดนของเรากับพวกจอมมารที่เป็นกบฏ"
" เพราะฉะนั้นพี่จึงอยากให้น้องไปปฏิบัติภารกิจของเจ้าแห่งโชคชะตา วันนี้ก็เป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ น้องควรไปปฏิบัติภารกิจซะตอนนี้ เข้าใจไหม"
" แต่..."
จันทรารู้สึกเป็นห่วงพ่อ พ่อจะเป็นยังไงบ้างนะถ้าเธอหนีไป คงไม่นับเป็นลูกแล้วมั้ง
" พ่อน่ะเหรอ อย่ากังวลไปเลย ทางนี้พี่ดูแลเอง ตอนนี้จงร่ายเวทและไปเถอะ น้องรัก"
" แล้วเมฆล่ะ จะทิ้งเขาไว้นี่เหรอ"
" ตอนนี้น้องไปคนเดียวก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยส่งเมฆเขาไปเพราะดูเหมือนเขายังไม่พร้อม เข้าใจนะ"
จันทราเดินเข้าไปในห้องนอน เขียนจดหมายถึงพ่อและเดินไปที่ห้องของเมฆพร้อมกับกอดลา หลังจากนั้นก็สะพายกระเป๋าที่เจดเตรียมข้าวของเอาไว้แล้วแล้วเดินไปที่ระเบียง หอมแก้มพี่ชายผู้เป็นที่รักและเริ่มร่ายเวท
" ดวงจันทราอันงดงาม ข้าแต่เทพแห่งการเดินทาง โปรดพาข้าไปในที่ๆข้าสมควรจะไปในเวลานี้ด้วยเถิด"
เมื่อร่ายเวทจบ พลันก็เกิดแสงสว่างขาวจ้าไปทั่วห้อง ตะวันลืมตาปรือเพราะสู้แสงไม่ไหว เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ร่างของจันทราก็หายไปแล้ว
" แม่ ลูกนำดอกลิลลี่ที่แม่ชอบมาให้แล้ว หลังจากวันนี้ไปลูกคงไม่ได้มาพบแม่อีกสักพักใหญ่ เพราะลูกมีภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ต้องกระทำ"
เธอลุกขึ้นยืนแล้วร่ายเวทเบาๆ
" ข้าแต่เทพแห่งการเดินทาง โปรด..."
" จันทรา!"
"ใครน่ะ!"
ผู้ถูกเรียกว่า " จันทรา" หันหน้ามองรอบทิศเพื่อหาต้นเสียง ขณะนั้นชายวัยกลางคนท่าทางแข็งแรงรีบออกมาอุ้มเธอไว้
" พ่อ"
" กลับบ้านซะ จันทรา ลูกจะทำให้พ่อเป็นห่วงไปถึงไหนกัน หนีออกจากบ้านมาคนเดียวอีกแล้ว"
ผู้เป็นบิดาอุ้มลูกสาวขึ้นมาแต่เธอดิ้นจนหลุดจากอ้อมแขน
" พ่อ ทำไมพ่อต้องกีดกันลูกด้วย ในเมื่อพ่อก็รู้เรื่องนั้น"
เธอถามขณะที่ตัวเองกลับมายืนบนพื้นอีกครั้ง
" พ่อไม่อยากเสียลูกไป เข้าใจไหม ขอร้องอย่าทำอย่างนี้อีกเลย"
จันทราเข้าใจเรื่องนี้ดีมาก พ่อดูเป็นห่วงเธอตลอดเวลาเพราะแม่ของเธอซึ่งเคยเป็นจอมเวทผู้หยั่งรู้ต้องทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่เจ้าแห่งโชคชะตาสั่ง และนั่นก็เป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตระหว่างทำภารกิจ ก่อนสิ้นใจได้บอกลูกสาวคนกลางกับคนเล็กซึ่งก็คือจันทรากับเมฆาว่า
" นี่คือคำสั่งของเจ้าแห่งโชคชะตา แค่กๆ เจ้าจะต้อง... แค่กๆๆๆ ไปเป็นครูที่ประเทศไทย...เพื่อเจ้าจะได้เป็นผู้ครอบครองผลึกมนตรามรกตที่จะทำให้เจ้ากลายเป็นจอมเวทผู้หยั่งรู้เช่นแม่ จงมุ่งมั่นไปตามเส้นทางนั้นเถิด"
สิ้นประโยค แม่ของเธอก็สิ้นใจภายใต้ความโศกเศร้าของพ่อที่พยายามไม่ให้ลูกเดินทางสายนี้เพราะหวั่นเกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย
แต่จันทรานึกถึงถ้อยคำของแม่ เธอรู้ว่าแม่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอเสมอ เธอจึงคิดจะหาทางหนีออกจากบ้านมาตลอด
พ่อพาเธอเดินกลับบ้านไปทางถนนสายคนเดิน ระหว่างทางพ่อกับเธอไม่ได้คุยอะไรกันเลยจนกระทั่งใกล้ถึงบ้าน มีวัยรุ่นชายคนหนึ่งโผล่จากตรอกมา
" ไง หวัดดี น้องจันทรา ไปไหนมากับพ่ออีกล่ะ?"
" สวัสดีค่า พี่ตะวัน คือว่า..."
จันทราพยายามอธิบายแต่โดนพ่อขัดซะก่อน
" ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ยัยเด็กดื้อ นี่ตะวัน น้องสาวลูกน่ะหนีออกจากบ้านอีกแล้ว"
จันทราทำหน้าจ๋อยไปนิดนึง ตะวันหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นว่าหลังจากนั้นยังน้องสาวทำท่าจะหนีอีก
" กลับบ้านกันก่อนดีกว่าครับ ป่านนี้เมฆาคงรอนานแล้วล่ะ"
ตะวันจูงมือน้องสาวเดินกลับบ้านพร้อมกับพ่อ จันทราชอบที่จะเดินเคียงข้างกับพี่ชาย พี่ชายของเธอไม่ใช่จอมเวท ไม่ใช่ผู้หยั่งรู้แต่เป็นนักสู้ที่ชอบไปท้าประลองอยู่เรื่อย จันทราเลยรู้สึกว่าเวลาที่พี่มีให้เธอมันน้อยนัก ทว่าเธอไม่รู้ว่าพี่ชายก็ยังรักเธอเหมือนเดิม
" กลับมาแล้ว"
พ่อสั่งประตู ทันใดนั่นประตูบ้านก็เปิดออก มันจะเปิดเฉพาะนายของมันและครอบครัวเท่านั้น
" อ้าว เมฆาไปไหนเล่าเนี่ย"
ตะวันมองไปรอบๆบ้านสักพักก็เห็นเด็กหญิงร่างเล็กผมยาวของเธอนั้นถูกมัดด้วยที่มัดผมสีน้ำตาล แววตาดูมุ่งมั่นขณะที่เธอเล่มเกมอย่างเมามัน
" อยู่นี่เองนะ ยัยบ้าเกม"
จันทรามองฝาแฝดของตัวเองและเข้าไปกอดจากด้านหลัง
" อย่าน่า มันร้อน กำลังเก็บเลเวลอยู่ด้วย"
เมฆาผลักตัวฝาแฝดเบาๆ จันทรารู้ว่าเธอไม่ร้อนหรอกเพราะอาณาจักรแสงจันทร์มีอากาศหนาวตลอดทั้งปี เธอคิดว่าเพราะสาเหตุหลังมากกว่า
" จะกินอะไรอีกไหม จันทรา"
พ่อของเธอถาม เธอส่ายศีรษะไปมาเพราะตอนเธอหนีเธอเตรียมอาหารไปกินแล้ว
" ไม่กินแล้ว เดี๋ยวลูกไปนอนก่อนนะ"
เธอวิ่งขึ้นบันไดไปเข้าห้องนอน เธอล็อกประตูทั้งๆที่รู้ดีว่าตัวเองยังไม่ง่วงและทิ้งตัวบนเตียงนอนที่หนานุ่ม นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
"ก๊อกๆ ขอพี่เข้าไปหน่อยได้ไหม"
จันทรารู้ว่าเป็นเสียงใคร จึงเปิดประตูให้บุคคลนั้นเข้ามา
" พี่ตะวันมาทำอะไร"
" เอ้า ถามได้ ก็มีเรื่องจะคุยกับน้องนิดหน่อย ตามพี่มาที่ระเบียงบ้านที"
จันทราเดินตามพี่ชายไปที่ระเบียงหน้าห้องนอน ลมที่พัดจากชายหาดพัดเข้ามาทำให้ทั้งสองได้รับลมเย็น จันทราสงสัยว่านี่ขนาดเป็นประเทศเมืองหนาวนะยังมีทะเลอีก แปลกจริงๆ นะ อาณาจักรแสงจันทร์นี่
" พี่รู้ว่าน้องกังวลเรื่องคำสั่งของแม่น่ะสิ"
ตะวันเริ่มบทสนทนาที่จันทราไม่อยากตอบเลย
" ใช่แล้ว จันทร์กังวลเรื่องนี้มาตลอด พี่ก็รู้นี่แต่ดูเหมือนเมฆเขาจะไม่กังวลอะไรเลยนะ มันเป็นคำสั่งของเจ้าแห่งโชคชะตาที่เราต้องเริ่มปฏิบัติเมื่ออายุเท่านี้พอดี"
ตะวันมองน้องสาวคนนี้ด้วยสายตาความเป็นพี่ บัดนี้จันทราอายุ 12 ปีแล้วยังเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก ร่าเริงสดใสออกจะซ่าๆ บ้าบอบ้างในบางครั้ง ก็เธอเป็นถึงหัวหน้าแก๊งค์เด็กซ่าในอาณาจักรแสงจันทร์แต่ก็ยังมีความสงบ เยือกเย็นอยู่ในตัว
ถ้าถามเขาว่าทำไมเขาไม่ได้รับภารกิจล่ะก็ เขาจะตอบว่าในอาณาจักรนี้ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นจอมเวทผู้หยั่งรู้ได้
" พี่มีเรื่องจะบอก"
ตะวันเงียบไปพักนึง
" พี่คิดว่าแม่ยังไม่ตาย..."
"ลองคิดดูสิ เจ้าแห่งโชคชะตาไม่เคยให้ใครไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายเลยนะ"
" แต่แม่ก็ตายแล้วนี่ จันทร์เห็นกับตาเลยนะ ไม่งั้นพ่อไม่ทำหน้าอมทุกข์อย่างนั้นหรอก"
จันทรารู้สึกตกใจที่จู่ๆพี่ชายก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา
" แล้วน้องรู้ได้ยังไงล่ะ น้องไปดูการฝังศพแม่หรือเปล่าล่ะ เห็นคนในอาณาจักรนี้ลือกันว่าแม่ยังไม่ตายเพราะไม่มีใครเห็นศพแม่ในวันฝัง พี่เองก็เชื่อเช่นนั้น ส่วนหลุมศพนั้นเกิดจากการคาดเดาว่าแม่ตายบนภูเขา"
" แต่..."
จันทรารู้สึกสับสนอย่างมาก แม่ยังไม่ตาย! เป็นไปได้ยังไงนะ น้ำตาค่อยๆเอ่อล้นตรงขอบตา เมื่อเธอรู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวก็รีบหันหน้าไปทางอื่น
"บ้า! บ้า! บ้า! ทำไมแม่ต้องโกหกจันทร์ด้วยล่ะ"
เธอพูดพลางทุบอกพี่ชายแรงๆเหมือนกำลังเตือนสติโดยปราศจากน้ำตาเพราะเธอนั้นแกร่งและไม่ชอบแสดงความเสียใจให้ใครเห็น
" แม่ไม่ได้อยากโกหกน้องหรอกแต่แม่ถูกปิดผนึกโดยจอมมารผู้รุกรานอาณาจักรของเรา"
ตะวันค่อยๆเล่าเมื่อจันทราควบคุมสติได้
" ฉะนั้นแม่จึงยังไม่ตายแต่ถูกผนึกไว้ที่ไหนสักแห่งในดินแดนของเรากับพวกจอมมารที่เป็นกบฏ"
" เพราะฉะนั้นพี่จึงอยากให้น้องไปปฏิบัติภารกิจของเจ้าแห่งโชคชะตา วันนี้ก็เป็นวันที่ดวงจันทร์เต็มดวง บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ น้องควรไปปฏิบัติภารกิจซะตอนนี้ เข้าใจไหม"
" แต่..."
จันทรารู้สึกเป็นห่วงพ่อ พ่อจะเป็นยังไงบ้างนะถ้าเธอหนีไป คงไม่นับเป็นลูกแล้วมั้ง
" พ่อน่ะเหรอ อย่ากังวลไปเลย ทางนี้พี่ดูแลเอง ตอนนี้จงร่ายเวทและไปเถอะ น้องรัก"
" แล้วเมฆล่ะ จะทิ้งเขาไว้นี่เหรอ"
" ตอนนี้น้องไปคนเดียวก่อน เดี๋ยวพี่ค่อยส่งเมฆเขาไปเพราะดูเหมือนเขายังไม่พร้อม เข้าใจนะ"
จันทราเดินเข้าไปในห้องนอน เขียนจดหมายถึงพ่อและเดินไปที่ห้องของเมฆพร้อมกับกอดลา หลังจากนั้นก็สะพายกระเป๋าที่เจดเตรียมข้าวของเอาไว้แล้วแล้วเดินไปที่ระเบียง หอมแก้มพี่ชายผู้เป็นที่รักและเริ่มร่ายเวท
" ดวงจันทราอันงดงาม ข้าแต่เทพแห่งการเดินทาง โปรดพาข้าไปในที่ๆข้าสมควรจะไปในเวลานี้ด้วยเถิด"
เมื่อร่ายเวทจบ พลันก็เกิดแสงสว่างขาวจ้าไปทั่วห้อง ตะวันลืมตาปรือเพราะสู้แสงไม่ไหว เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ร่างของจันทราก็หายไปแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น