ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ashes city มหาสงครามของเหล่าธาตุ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 53


                 ท่ามกลางความมืดสลัว    ท้องฟ้าในยามรัตติกาลพร้อมกับเสียงของสัตว์ป่าในยามค่ำคืน   ประกอบกับเงาของชายคนหนึ่ง  ที่วิ่งหนีกลุ่มคนที่กำลังตามล่าและหวังว่าตัวเองจะรอดเพื่อทำภารกิจต่อ   แต่ความหวังของชายคนนั้น  ช่างไม่เป็นจริงดังที่เขาคิด  เมื่อจุดที่เขายืนอยู่เป็นหน้าผาสูงชัน   และในท้ายที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจบางอย่างก่อนที่พวกนั้นมาถึง

         "แกเตรียวตัวตายได้แล้ว "   ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น  
          "หลังจากนั้นข้าก็จะได้ไปรายงานท่านผู้นั้นซะที"   
          " ฮึ   เจ้าคิดว่าข้ายอมตายโดยไม่มอบภารกิจให้คนอื่นเหรอ "  ชายผู้ยืนอยู่ริมหน้าผาพูดขึ้น  พร้อมโยนของสิ่งหนึ่งลงสู่เหวลึก  
          " เจ้า!!! "  ไม่ทันที่ชายในกลุ่มจะพูดอะไรมากกว่านี้   ร่างของผู้โยนของสิ่งนั้นก็ได้ร่วงลงสู่เหวลึกเช่นกัน


              หวังว่า  คนที่ทำภารกิจต่อไปคงไม่เจอเรื่องแบบนี้เช่นกับข้านะ  


    ..............................................................................................................................................

                    ณ  ที่ราบกว้าง   สีเขียวขจีของต้นหญ้าซึ่งตัดกับสีท้องฟ้าที่เหล่าหมู่วิหคทั้งหลายกำลังบินวนไปเรื่อยๆตามฝูงของมันไป    และใต้เงาของต้นไม้มีร่างของเด็กชายสองคนที่กำลังมองเพื่อนสาวของเขาที่กำลังวิ่งไล่แมลงปอไปที่ริมลำธาร  ในขณะที่เด็กสาววิ่งตามแมลงนั้นก็ได้เห็นอะไรบางอย่างที่สะท้อนกับสายตาเธอ ทำให้เธอต้องไปดูเจ้าสิ่งนั้น
                     “ โช   เชย์  มาดูนี้สิ ”   เด็กสาวเอ่ยขึ้นพร้อมเรียกเพื่อนชายฝาแฝดของเธอ
                     เด็กชายทั้งสองคิดในใจว่าคงเจอของชอบของเธออีกแล้วนะสิ และของชอบของเธอนั้นคือหินสัตว์เลี้ยง ที่เธอพบประจำที่ลำธาร  ถ้าเธอพบอีก...อย่างที่พวกเขาคิดคงเป็นตัวที่
    xxx (เลขสามหลัก) แต่กลับใช่อย่างที่พวกเขาคิดไม่ แต่กลับเป็นแหวนสีทองอร่ามที่ดูแล้วเก่าแก่มากวงหนึ่ง
                    “ ฉันเห็นมันอยู่ตรงซอกโขดหินน่ะ พวกนายว่ามันสวยไหม ”   เด็กสาวเอ่ยขึ้นพลางคิดในใจว่าแหวนนี้เป็นของใครกันนะ
    ?
                  
    “ มันก็สวยอยู่หรอกนะเรเน่  แต่แหวนนั้นเป็นของใครละ? ” โชผู้เป็นฝาแฝดผู้พี่ของเชย์พูดขึ้นด้วยความสงสัยว่าใครทึ้งแหวนพวกนี้ได้ลงเพราะมันทั้งสวยและเก่าขนาดนั้น
                   “ อืม... อาจเป็นของย่าดาเรนก็ได้นะ ย่าเธอชอบสะสมนี้”  เชย์พูดขึ้น
                  “ น่าจะใช่เลย
    ! แหมน้องพี่นี้ช่างฉลาดจริงๆ มาให้พี่หอมแก้มซะทีสิ จุ๊บๆ ”   โช พูดขึ้นพร้อมทำปากส่งจูบไปให้น้องชายตัวเอง ส่วนเจ้าน้องชายที่ถูกส่งจูบ(จุ๊บๆ)นั้นก็ทำหน้าหยะแหยงไปแล้วพร้อมกับคว้าจูบ(จุ๊บ)ของพี่ชายปาไปบนพื้นแล้วกระทืบ(?)  
               
    “ โถ่ เชย์ทำไมโหดร้ายกับพี่เช่นนี้ละ ”
                   “ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า
    ! ” เสียงของเรเน่ที่หัวเราะลั่นหลังเห็นพี่น้องเหย้าแหย่กันไป
                   “ ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะเรเน่ ระวังไว้เถอะถ้าเธอมีน้องขึ้นมาแล้วทำแบบนี้ ฉันจะหัวเราะบ้างเลย ”
                   “ นายคิดว่าครอบครัวฉันจะมีน้องหรือไงกันละโช นายนี่ละก็ ”
                   “ เอาเถอะ พวกเราไปหาย่าดาเรนกันเถอะ ” เชพูดขึ้น
                   “ ว่างั้นแหละ ” ทั้งสองเห็นด้วย(เรเน่และโช)
    จากนั้นเรเน่เดินนำก่อนเพื่อนชายก่อนเธอแล้วพูดว่า 
                   “ ใครไปถึงช้าเป็นหมาหัวเน่า
    !
                   “ อ้าวเล่นแบบนี้เลยรึ งั้นก็ได้เร็วเชย์ พวกเรารีบตามไปเลย
    ! ” โชพูดเสร็จก็วิ่งไปทันที ทึ้งให้น้องชายตัวเองรั้นท้าย
                   “ เฮ้อ
    ! ยังเล่นแบบนี้กันอีกเหรอ ”  เสียงที่เชย์พูดเสร็จแล้วก็วิ่งตามเพื่อนและพี่ชายได้ทัน

    ..................................................................................................................................................................................................................

                 

                      ณ อีกด้านหนึ่งในปราสาท  แสงไฟจากโคมตะเกียงที่ติดกับผนังทำให้เห็นคนหลายคนที่เรียงแถวเป็นระเบียบเพื่อต้อนรับชายผู้ที่ก้าวเข้ามา  ชายคนนั้นแต่งกายด้วยชุดดำผ้าคลุมสีม่วงยาวลากพื้น  นัยน์ตาสีโกเมนท์ของเขาจับจ้องไปยังเหล่าขุนนางที่ต่างทำความเคารพเขาที่เป็นผู้สำเร็จราชการ ก่อนที่เขาจะเข้ามานั่งบนบังลังค์อย่างองอาจ และในเวลาไม่นานก็มีทหารกลุ่มหนึ่งเข้ามาเพื่อรายงานภารกิจที่ให้ไปทำ   ทหารกลุ่มนั้นเป็นกลุ่มราชการลับที่ไม่มีใครรู้จักไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตา มีเพียงชื่อที่เรียกกันลับๆเท่านั้นว่า “ กลุ่มล่าสังหาร ” หลังจากนั้นผู้สำเร็จราชการก็ได้ให้เหล่าขุนนางทั้งหลายออกไป เพื่อให้เรื่องที่เขาสั่งให้กลุ่มล่าสังหารไปทำภารกิจนั้นจะไม่มีเหล่าขุนนางทั้งหลายได้รับรู้
                   “ พวกเจ้าได้จัดการกับทายาทรึยัง ”
                   “ ข้าได้จัดการกับทายาทเรียบร้อยแล้ว พะยะค่ะ ”
                  “ ดีมากแล้วแหวนละอยู่ไหน ”
    ผู้สำเร็จราชการได้ถามหัวหน้ากลุ่มล่าสังหารที่ได้ตอบเขาไปประโยคแรกมะกี้ แต่คำตอบสุดท้ายเรื่องแหวนที่เขาถามถึงกลับเป็นสีหน้าหวาดหวั่นของกลุ่มล่าสังหารที่กลัวเขาถ้าเขาได้รู้คำตอบว่ามันได้หายไปอีกแล้ว แต่เพราะสีหน้าของกลุ่มเช่นกันจึงทำให้เขารู้คำตอบนั้น
                   “ พวกเจ้า
    ! ทำงานกันพลาดอีกแล้วใช่ไหม ” ผู้สำเร็จราชการได้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม 
                  “ ดูเหมือนกับว่าพวกเจ้าคงจะถูกลงโทษแล้วละ ” เขาพูดขึ้นพร้อมกับร่ายเวท  วงแหวนเวทย์ได้ปรากฎขึ้นที่พื้นใต้กลุ่มล่าสังหารที่ยืนอยู่จากนั้น...

                   “ อ็าก!! ” เสียงร้องของกลุ่มล่าสังหาร หลังจากที่วงเวทย์ได้ปรากฎขึ้นพร้อมกับไฟที่โหมโรมรันใส่ที่ตัวพวกเขา
    และในเวลาไม่นาน ร่างทั้งหลายก็ได้ไหม้เป็นตอตะกอน ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตจากวงเวทย์นั้น
                    “ ฮึ สุดท้ายก็มีแต่พวกไร้ประโยชน์ ”  นั้นคือประโยชน์สุดท้ายที่เขาทึ้งให้กับกลุ่มล่าสังหาร


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×