ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Memory of Black Wing : ความทรงจำของปีสีดำ

    ลำดับตอนที่ #1 : ความทรงจำที่ 1 : ชายชุดขาวกับงานเทศกาล

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 52


    ชายชุดดำจ้องมองดูผู้คนที่สวมใส่หน้ากาก ผ่านหน้าต่างบนตึกสูงสู่ลานกว้างเบื้องล่าง   ผู้คนมากมายกำลังเต้นเป็นวงล้อมรอบกองไฟ เสียงดนตรีจังหวะคึกคักบรรเลงคละเคล้าไปกับอากาศเย็นเยียบยามค่ำคืน   แสงสีนานับส่องประกายแข่งกับแสงดาวที่อยู่เบื้องบน
    สีแดงของเปลวเพลิง...สีเหลืองวาววับของหน้ากาก... ทุกสีสันยามนี้ล้วนถูกผสมกลมกลืนจนแยกไม่ออก   เหมือนกับผู้คนมากมายที่กำลังร่วมอยู่ในเทศกาลเบื้องล่างนั้น   ต่างคนก็คงมีสีสันเฉพาะตัวของตน หน้ากากนับร้อยพันกำลังเริงระบำไปพร้อมกับเสียงดนตรีและเปลวไฟ
    ชายชุดดำมองดูคนเบื้องล่างพลางครุ่นคิด   หากโลกใบนี้ถูกแบ่งแยกด้วยสีขาวดำ   เขาคงไม่ต่างอะไรไปจากสีขาวที่ถูกชุบย้อมด้วยสีดำ
                    งานเทศกาลเบื้องล่างยังคงดำเนินต่อไป ท่วงทำนองและจังหวะของดนตรียิ่งเร่งเร้าขึ้น   เสียงหัวเราะนั้นฟังดูรื่นเริงเหมือนกับงานเลี้ยงฉลองทั่วไป สีสันมากหลายยังคงเริงร่า  นึกสงสัยในใจ พวกคนเหล่านี้เป็นสีอะไร?   สีขาว?   สีดำ?   
    ชายชุดดำดึงชุดตัวตลกออกจากไม้แขวนเสื้อ   มองเห็นสีมากมายนับหลากสีบนชุด มีเพียงสีขาวกับสีดำเท่านั้นที่ไม่ปรากฎ  นึกหัวเราะเยาะในใจ   แล้วถอดชุดสีดำของตนออก
    แว่วเสียงหัวเราะของใครบางคน   “อย่างมึงน่ะเรอะจะทำได้”
    มองดูตัวเองในกระจก ชุดสีดำดูกลืนเข้าไปกับความมืดภายในห้อง
    “น้ำหน้าอย่างมึง...”
    เสียงดนตรีกระหึ่มข้างนอกดังเข้ามา    เสียงหัวเราะนั้นจางหายไป
    หยิบชุดตัวตลกมาใส่   มองดูตัวเองในกระจกอีกครั้ง
    อีกไม่นานงานเทศกาลก็จะจบลง   ชายชุดดำกลายเป็นชายชุดตัวตลกแล้ว   เหลือแต่หน้ากากที่จะต้องสวมใส่
    เหลือบมองไปยังเทศกาลเบื้องล่าง เหล่าบุคคลสีดำที่ชุบย้อมด้วยสีขาว   เหมือนกับโลกที่ใส่หน้ากากที่เรียกว่าความดี   สังคมแสนดีที่ใส่หน้ากาก   บรรทัดฐานที่ใส่หน้ากาก...
                    ไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ทั้งหลายที่ใส่หน้ากาก
                    ไม่ต่างกับเขาตอนนี้

                หน้ากากตัวตลกถูกหยิบขึ้นมา แล้วสวมลงบนใบหน้าอย่างระมัดระวัง





    *********************




                   
                ที่งานเทศกาลเบื้องล่าง เสียงปืนดังชำแรกเสียงใด ๆ ทั้งมวล
                    ร่างของชายชุดขาวล้มลงหนึ่งคน   เสียงปืนแผดขึ้นอีกครั้ง ผู้คนรอบด้านส่งเสียงหวีดร้องอย่างเสียขวัญ    ทุกคนตกใจกลัวที่มาของเสียงมัจจุราชสีดำ   ตัวตลกไล่ปืนไปยังชายชุดขาวอีกคนแล้วเหนี่ยวไก เสียงปืนดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง
                    ชายชุดขาวที่เหลือหยิบปืนออกมาตอบโต้   เสียงแผดคำรามของมัจจุราชสะท้านก้องไปทุกทิศทุกทางและดังรัวอย่างต่อเนื่อง   กระสุนปืนนัดหนึ่งพุ่งทะลุไหล่ซ้ายตัวตลก    เลือดสีแดงสาดกระเซ็นออกมา   ปืนสีดำหันไปทิศทางนั้นแล้วลั่นไก   ร่างอีกร่างล้มลง ล้มลง และล้มลง
                    เหลือชายชุดขาวอีกคนหนึ่งที่หนีขึ้นรถไป   ตัวตลกสลัดผ้าคลุมที่เกะกะอยู่ออกแล้วรีบวิ่งไล่ตามไปเหมือนหมาล่าเนื้อที่ได้กลิ่นเหยื่อ    ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ที่เข้ามาขวางทางถูกปลิดชีพไปอย่างไม่แยแส   รถคันสีดำถูกขับออกไป    ตัวตลกเล็งปืนไปยังล้อรถ   เหนี่ยวไกสามครั้ง แล้วรถคันสีดำก็เสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟ
                    ซักครู่หนึ่ง ชายชุดขาวก็ทะลักทุเลดันตัวออกมาจากซากรถ   ใบหน้าอาบเลือด เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดงและสีดำ   ชายผู้นั้นหอบหายใจกระตุกพลางเอามือกุมหน้าอก 
                    ตัวตลกเดินตามมาอย่างช้า ๆ ปืนสีดำในมือเล็งมาที่ชายชุดขาว แต่ยังไม่เหนี่ยวไก
                    ชายชุดขาวส่งเสียงคำรามเมื่อมองเห็นตัวตลก   มือที่อาบเลือดพยายามจะชักปืนออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านใน   แต่เพราะอาการลนลานจึงทำปืนตก    เมื่อพยายามหยิบขึ้นมาใหม่ก็เป็นอย่างเดิม จนกระทั่งเมื่อตัวตลกเล็งปลายปืนจรดที่หัว ชายชุดขาวจึงกัดฟันเค้นเสียงถาม
                    “ใคร...เป็นคนจ้างมึงมา...”
                    “อีแร้ง”   ตัวตลกตอบ

                    “ใครวะ...อีแร้ง?”

                    ตัวตลกไม่ตอบ

                    “มันจ้างมึง...เท่าไหร่”

                    ตัวตลกไม่ตอบ

                    ชายชุดขาวชี้ไปยังซากรถ “ในนั้นมีเงินสด 7 ล้าน   เอาไป...แล้วกูจะให้อีก 13 ล้าน...”

                    ตัวตลกไม่ตอบ

                    คราวนี้ชายชุดขาวหัวเราะ เลือดกระอักออกมาทางปาก “มึงจะฆ่ากูให้ได้?”

                    ตัวตลกพยักหน้า

                    “ทำไม”

                    ตัวตลกไม่ตอบ

                    ชายชุดขาวถอนหายใจ   เอื้อมมือที่สั่นระริกไปหยิบบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อมาคาบไว้ที่ปาก หยิบไฟแช๊กออกมาแล้วพยายามจุดแต่ไม่สำเร็จ จึงมองปรายไปยังตัวตลกพลางส่งเสียงหัวเราะอย่างน่าสมเพช

                    “ช่วยหน่อยว่ะ   นิ้วกูไม่มีแรงแล้ว”

                    ตัวตลกก้มตัวลง มือข้างหนึ่งยังถือปืนจ่อไว้อยู่ ส่วนอีกมือหนึ่งเอื้อมมาหยิบไฟแช๊คจุดให้

                    มือข้างที่จุดไฟนั้นอาบเลือด
                    ชายชุดขาวไล่ตามองขึ้นไป แล้วจึงเผยอออกเป็นรอยยิ้มบิดเบี้ยว “ไอ้ห่ะ... เลือดขนาดนี้... มึงยังยืนได้ยังไงวะ”
    สายตาของทั้งคู่ประสานกัน แววตาคู่หนึ่งเป็นของคนตาย อีกคู่หนึ่งเป็นของคนเป็น
    บุหรี่ส่วนที่ถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้าตกลงสู่พื้น ไม่นานนักควันสีขาวก็พุ่งขโมงตามมาก่อนสลายหายไปกับกระแสลม ชายชุดขาวถอนหายใจเบา ๆ
    “ครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้ว...” เขารำพึง   พลันสายตาแข็งกร้าวขึ้น “ขอกูสู้ทีเถอะวะ”
    พริบตานั้นเอง มือของชายชุดขาวก็ปรากฏปืนสั้นขนาดเล็กออกมา   มันเป็นกลไกปืนลับที่ถูกซ่อนไว้ในแขนเสื้อ ใช้สังหารศัตรูในยามทีเผลอหรืออับจน แต่ก่อนที่ปืนลับกระบอกนั้นจะได้ลั่นออกไป เสียงปืนก็ดังขึ้นนัดหนึ่ง
    ...เสียงปืนดังขึ้นนัดหนึ่ง ร่างสีขาวล้มลงจมกองเลือด   ปืนลับที่ถืออยู่ในมือร่วงผล็อยลงกับพื้นพร้อมกับแขนทั้งท่อน   ควันสีขาวนวลลอยขึ้นมาจากปากกระบอกปืนสีดำ แววตาภายใต้หน้ากากตัวตลกเย็นยะเยือก
    จากนั้นการไล่ล่าก็เริ่มต้นขึ้น.....




    ....................................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×