ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รู้ไหม,,ว่ารัก

    ลำดับตอนที่ #1 : รู้ไหม..ว่ารัก ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 31 ม.ค. 52


    ดอกลิลลี่ช่อโตบานสะพรั่งสวยงามดึงดูดสายตาผู้คนรอบข้างให้หันมองผู้ถือซึ่งยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มนักเรียนชั้นมัธยมปลาย  หากเจ้าตัวไมได้สนใจ  เขายังคงยิ้มให้กับดอกไม้ในมือที่เขาตั้งใจจะเอากลับไปกำนัลให้มารดาซึ่งเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศเมื่อเช้านี้และตรงกับวันเกิดของตัวเองอย่างเหมาะเจาะลงตัว

    คอนโดมิเนียมหรูหราบริเวณชานเมืองได้มาซึ่งน้ำพักน้ำแรงของผู้เป็นบิดา  กรรพัชรนัดให้แม่ของเขามาพักด้วยกันที่นี่ ในช่วงที่บิดาไม่อยู่  ไปสัมมนาต่างประเทศ เหมือนจะจงใจหลบหน้าอดีตภรรยาซึ่งแยกทางกันไปตั้งแต่ลูกชายคนเดียวอายุไม่ถึงสองขวบ

    เพชรกับเพลินจิตแต่งงานกันเพราะญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้คบหากัน  หากทั้งคู่มีอุปนิสัยที่สวนทางกันอย่างยากเกินจะร่วมทางกันได้  แม้ว่าเพชรจะไม่มีหญิงสาวคนรักที่คบอยู่  แต่เขาก็วาดภาพภรรยาในอนาคตว่าอยากให้เธอเป็นผู้หญิงธรรมดา ใช้ชีวิตเรียบง่าย และคอยเป็นคู่คิดเคียงข้างเขาเสมอ  ในขณะที่เพลินจิตชอบชีวิตสวยหรู ฟู่ฟ่าตามที่เป็นมาแต่เกิด  เธอมีความฝันเป็นของตัวเองว่าจะต้องเป็นดีไซเนอร์มือหนึ่งในโลก   หญิงสาวยอมมีลูกกับเพชรตามความต้องการของพ่อแม่ แล้วก็ขอแยกทางไปอยู่อิตาลีตามลำพัง เพื่อสานฝันของตัวเองให้เป็นจริง  กรรพัชรจึงโตมากับบิดาเพียงลำพัง

    สุขสันต์วันเกิดนะครับแม่รอยยิ้มอ่อนโยนของลูกชายคนเดียวทำให้มารดายิ้มปลื้มที่แม้จะไม่เคยใกล้ชิดกันจริงๆ แต่เขาก็ไม่เคยลืมวันสำคัญของเธอ

    ขอบใจจ้ะลูก หอบดอกไม้มาช่อเบ้อเร่อยังงี้ สาวอื่นๆเห็นเข้าไม่อกหักแย่เหรอ

    กรรพัชรหัวเราะแห้งๆ  ไม่ตอบคำถามมารดา  เพลินจิตยิ้มเล็กน้อย มองสายเลือดในอกที่นับวันยิ่งจะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ  จากที่เคยวิ่งเล่นซุกซนกับพี่เลี้ยงเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็กลายเป็นหนุ่มสูงใหญ่  หน้าตาหล่อเหลาอยู่ตรงหน้า

    เด็กหนุ่มได้อะไรๆของพ่อมาเยอะพอตัว  ทั้งเชื้อสายเยอรมันที่เพชรมีอยู่ครึ่งหนึ่งในสายเลือด  ทำให้กรรพัชรมีหน้าตาออกแนวลูกครึ่งอย่างช่วยไม่ได้  เพลินจิตยังจำได้ดีว่าวันแรกที่เธอกลับมาเยี่ยมเมืองไทยและได้ส่งลูกชายคนเดียวไปโรงเรียน  มีแต่คนเห็นแล้วเอ็นดูเจ้าหนุ่มน้อยกันเกือบทั้งโรงเรียน  ครูสาวๆมักจะเห่อหน้าฝรั่งๆกับยิ้มทะเล้นๆของเขามากเป็นพิเศษ  หลายครั้งที่รูปของกรรพัชรจะปรากฏลงบนบอร์ดโรงเรียน  เวลามีกิจกรรมอีกทั้งบุคลิกลักษณะที่ค่อนข้างใจเย็น ยิ้มเก่ง  อารมณ์ดี ยิ่งทำให้ใครๆหลงรัก ทั้งหมดนี้กรรพัชรถอดแบบมาจากเพชรทั้งนั้น หากแต่ความมั่นใจในตัวเองสูงในตัวมารดากลับไม่ได้กระเด็นมาอยู่ในนิสัยของกรรพัชรเลยแม้แต่สักน้อย เพลินจิตจึงค่อนข้างขัดใจเวลาที่ลูกชายมักพูดหรือตอบอะไรแบบแบ่งรับแบ่งสู้กับความคาดหวังของแม่อยู่เสมอ

    ครั้งนี้แม่จะอยู่กี่วัน

    ก็จนกว่าพ่อเราจะกลับมาแหละ  แล้วตั้วละ  จะประกาศผลสอบเมื่อไหร่  พ่อกับแม่จะได้พาไปฉลอง

    อาทิตย์หน้าครับ  แต่แม่รู้ได้ไงว่าผมจะสอบติด  ผมยังไม่กล้าคิดเลยนะเนี่ย  ข้อสอบยากจะตาย  ภาษาอังกฤษข้อสุดท้ายทำเกือบไม่ทัน

    หวังไว้ก่อนก็ดีไม่ใช่เรอะ  ขืนเอาแต่คิดว่าจะไม่ได้ จิตใจก็ห่อเหี่ยวหมดสิ  แกนี่ลูกพ่อจริงๆเลย  ไม่รู้เอาความมั่นใจที่แม่อุตส่าห์ปลูกฝังตั้งแต่อยู่ในท้องไปหล่นหายอยู่ที่ไหน

    สองแม่ลูกหัวเราะรื่นรมย์  ก่อนที่ผู้เป็นลูกชายจะลุกไปหาอะไรให้มารดารับประทาน  ห้องชุดเล็กๆที่เคยมีแต่เสียงผู้ชายคุยกันเสียงขรึม  ก็พลันมีเสียงผู้หญิงวัยกลางคนเข้ามาสร้างสีสันที่แปลกตาแทนที่

     

     

    หลังจากเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสือสอบตัวสุดท้ายมานาน  สี่หนุ่มสาวก็ได้ฤกษ์ปลดแอกสมองตัวเองด้วยการลงมือทำอาหารรับประทานกันในครัวบ้านของประธานชมรมละครเวที  สายใจคอยเฝ้าเป็นลูกมือช่วยคุณหนูๆปรุงรสพาสต้าจานโปรดและลำเลียงขึ้นโต๊ะอาหารที่เหล่าทะโมนทยอยเดินออกจากครัวมานั่งรอด้วยความหิวเต็มที่

    ใครบางคนเปิดประตูเข้ามาร่วมวงพร้อมๆกับรอยยิ้มของใครอีกคนผลิบานอย่างเก็บอาการไม่อยู่  เศรษฐาสะกิดอรณิชาให้หันไปมองเมธาวีซึ่งแววตาสุกใสขึ้นมาทันควันตั้งแต่อธิพงศ์หิ้วถุงใส่ขวดน้ำผลไม้เข้ามาให้พวกเธอดื่มฉลอง  อรณิชาเห็นเพื่อนรักแล้วแอบยิ้มกริ่ม

    เอ้า กินเข้าไป สมองจะได้สดชื่น  พรุ่งนี้จะได้ลุยข้อสอบได้ผ่านฉลุย

    สมพรปากเถอะวะ โป้ง  อวยพรซะขนาดนี้น่ากลัวคนบางคนจะไม่ยอมหลับยอมนอนน่ะสิ เดี๋ยวลุกขึ้นมาอ่านต่อรอบดึกอีกละเศรษฐาหันไปเหล่เพื่อนสาวที่อาการเริ่มผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด  หากเจ้าตัวรู้ดีว่าถูกเหน็บ ก็เกิดอาการร้อนรนใจ  แกล้งยกแก้วน้ำส้มขึ้นมากระดกกลบเกลื่อนอาการเขินอาย  เกือบจะสำลักหากอธิพงศ์ไม่คว้าแขนเบรกสปีดไว้ได้ทัน

    เม ค่อยๆกินสิ  เดี๋ยวก็สำลักหรอก

    ครั้นถอนแก้วน้ำออกจากปาก  เพื่อนฝูงแทบหัวเราะก๊าก  เมื่อเห็นสีแก้มของเมธาวีจอมห้าวเป็นสีลูกตำลึงสด  ราวกับมีใครมาปัดแก้มให้เธอเสียอย่างนั้น  เหงื่อก็ซึมจนอรณิชาเริ่มสงสาร  รีบคว้าทิชชูมาซับให้เพื่อนรักเป็นพัลวัน  เมธาวีสบโอกาสหันไปส่งสายตาอาฆาตรใส่เพื่อนชายตัวดีที่ทำให้เธอเสียจริตต่อหน้าหนุ่มที่เธอแอบชอบ

    คนเขินอายหลบเอาจานมาล้างในครัว  ปล่อยให้เพื่อนฝูงนั่งคุยกันพลางจัดเก็บโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยอยู่ในตัวบ้าน  วิจิตราเช็ดโต๊ะ  เศรษฐาเคลียร์ถุงขยะเอาไปทิ้งหลังบ้าน  อรณิชากวาดพื้น  แต่ละคนไม่ยอมให้สายใจต้องเหนื่อยทำความสะอาดให้อีก  อธิพงศ์มองกลุ่มของญาติสนิทด้วยความรู้สึกดี และตามมาด้วยความรู้สึกอยากมีส่วนร่วมกับเขาบ้าง จึงขยับจะช่วยเศรษฐายกถุงขยะ  แต่อรณิชาสะกิดบอกให้เขาตามไปช่วยเมธาวีล้างจานในครัว

    อ้าว  แล้วทำไมแกไม่เข้าไปวะ ไอ้สอง

    ฉันก็ถูบ้านอยู่นี่แล้วไงเล่า  แกเข้าไปช่วยยัยเมดีกว่า  เผื่อจะได้ช่วยเขายกจานออกจากเครื่องล้างไง

    เมื่อจำนนด้วยเหตุผล  อธิพงศ์จึงยอมเดินเข้าไปในครัวตามคำประกาศิตของลูกพี่ลูกน้องจอมเจ้าเล่ห์ ซึ่งเมื่อพอลับตาเขาก็แอบหันไปส่งสัญญาณกับอีกสองคนที่เหลือให้จับตามอง

    ไอ้เมนี่ก็แปลกเนอะ  บทห้าวก็ห้าวได้ใจ  แต่บทเขินนี่  หญิงจ๋าซะเหลือเกินวิจิตราหัวเราะคิก

    อย่างนี้ระวังเหอะ  แกกะไอ้เมได้ดองกันตลอดชาติแน่ไอ้สอง ซี้กันนัก ก็ซี้กันต่อไปให้เข็ด

    อันนี้มันก็ต้องอยู่ที่คนสองคนเว้ย  ว่าใจเขาตรงกันรึเปล่าปากพูดไป สายตาก็แอบเหล่บรรยากาศในห้องครัวอย่างมีลุ้น

     

     

    ให้โป้งช่วยมั้ยเม  จานตั้งเยอะนี่

    เมธาวีสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงที่เธอระทึกทุกครั้งที่ได้ยินนั้นดังขึ้นจากเบื้องหลัง  มือเผลอปล่อยจานที่ล้างสะอาดดีแล้วกลับจมในอ่างน้ำแรกดังเก่า  หญิงสาวถอนหายใจเฮือก เสียดายเวลาที่อุตส่าห์ขจัดคราบมันออกหมดไปแล้วแท้ๆ

    เป็นอะไรไปละเม  วันนี้ขวัญอ่อนจังเลย สะดุ้งสุดตัวเชียวนะมะกี๊  โป้งไม่ได้พูดดังซะหน่อย

    เปล่าหรอก  คือว่าเมดูหนังผีมากไปหน่อยนะ  เลยหลอนๆ  ว่าแต่โป้งยังไม่เข้าบ้านอีกเหรอ  อาหนกกลับมารึยังใจภาวนาอยากให้กนกศรกลับมาเร็วๆ  อธิพงศ์จะได้เข้าบ้านไปเสียก่อนที่เธอจะระงับอาการไม่อยู่

    นานมากแล้วตั้งแต่วันแรกที่อรณิชาพาเธอมาให้พ่อแม่และอาที่บ้านหลังนี้ได้รู้จัก  และวันนั้นที่อธิพงศ์เองก็ได้อยู่ต้อนรับเธอด้วย  เขายิ้มให้เธออย่างอัธยาศัยดี  คอยหาน้ำมาต้อนรับเสมอเมื่อเธอมาที่บ้านครั้งแล้วครั้งเล่า  และช่วยอธิบายการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ให้เธอเข้าใจไม่ติดค้าง  เมธาวีแอบซึมซับความอ่อนโยนของเขามาอยู่ในใจ และมักจะเผลอเหงาอยู่ลึกๆเวลาที่เธอมาแล้วไม่พบเขาอย่างเคย

    หน้าตาน่ารัก  เมธาวีให้คะแนนญาติของเพื่อนสนิทไว้ในใจตั้งแต่แรกพบ  อรณิชาบอกเธอว่าอธิพงศ์เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส  พ่อตายตั้งแต่เล็ก  มีแต่แม่คนเดียวที่อยู่ใกล้ชิดเขาทุกย่างก้าว  แต่เขาก็ยังอารมณ์ดี ร่าเริง น่ารักอย่างที่เขาเห็นอยู่ทุกที

    แล้วอย่างนี้ อธิพงศ์จะเคยมีผู้หญิงที่ไหนมาแสดงอาการแบบเดียวกับเธอหรือยังนะ  บางที ถึงไม่พูดไป  แต่เขาอาจจะดูออกอยู่แล้วก็ได้

    ไม่ต้องห่วงหรอก  กว่าแม่จะกลับมาก็ดึกแหละ  เราล้างจานกัน  นั่งดูทีวีกันอีกนิดก็นอนได้แล้วละ  เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าโป้งจะมาเคาะประตูปลุก

    แล้วโป้งไม่ต้องสอบแล้วเหรอ

    โป้งไม่เอ็นท์แล้วละเม  โป้งได้โควตาที่ประสานมิตรแล้ว  คณะครุศาสตร์คอมพิวเตอร์น่ะ

    เก่งจังเลยคำพูดสั้นๆ กับดวงตาโตๆที่เบิกกว้างเมื่อรู้ถึงความสามารถของคนที่อยู่ตรงหน้าทำให้เจ้าตัวยิ้มเขินๆ ยิ้มที่ทำให้คนมองใจสั่นหนักกว่าเดิม

    ไม่เก่งหรอกน่า  อย่างน้อยโป้งก็ขี้ขลาดกว่าเม  โป้งไม่กล้าสอบอีกรอบหรอก  กลัววืด  เอาที่ได้แล้วดีกว่า

    แล้วทำไมไม่สอบเข้าวิศวะไปเลยละ  โป้งเก่งออก  เป็นโปรแกรมเมอร์ยังได้เลย  ยัยสองมันบอก

    ยัยสองมันโม้เกินไปแล้ว  โป้งก็แค่ทำโปรแกรมนั่นใช้ไอ้นี่ได้เท่านั้นแหละ  แล้วที่โป้งเลือกครุศาสตร์ เพราะโป้งอยากเรียนไว้เพื่อไปสอนเด็กๆน่ะชายหนุ่มหน้าใสบอกถึงอุดมการณ์ของตน  โดยไม่รู้เลยว่านั่นยิ่งจะทำให้เขากลายเป็นเทวดาในสายตาเธอมากกว่าเดิม

    โป้งว่าทุกวันนี้ที่ที่เด็กเรียนพิเศษมันหนักไปทางภาษา  แล้วก็วิชาหลักๆที่ใช้สอบเข้าเรียนที่ใหม่  แต่ที่ที่จะสอนคอมพิวเตอร์  ปูพื้นฐานให้เด็กนะยังมีไม่มากพอนะ  ถ้าโป้งเรียนได้ดีๆ อาจจะเปิดโรงเรียนสอนคอมฯให้เด็กแหละ

    เมธาวียิ้ม  แอบดีใจที่ได้รู้ว่าเขาก็เรียนคณะเดียวกับที่เธอเลือก  แม้จะต่างสาขาวิชาก็ตาม  แต่หากเธอสอบได้มหาวิทยาลัยเดียวกับอธิพงศ์  เขาและเธอก็อาจจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นก็ได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×