ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สารภาพ...ความในใจ
++เรื่องสารภาพความในใจ  ตอนที่ 1++
~ Confession ~
*~*~*~*~*~*~
วันนี้......เป็นอีกวันนึงที่น่าเบื่ออีกครั้ง  ภายในใจชั้นยังคงคิดถึงแต่หมอนั้น  ชั้นแอบรักนายนั้นมา 5 ปี ได้แล้ว  หรือว่าเพิ่งร้ตัวเมื่อ 5ปี ชั้นก็ไม่เข้าใจตัวเองหมือนกัน    นายนี้ชื่อชินจัง...อันที่จริงแล้วเป็นฉายาของเขามากกว่า  แต่มันติดปากชั้นมาตั้งแต่เด็ก  ที่จริง  เขาน่ะชื่อเล่นชื่อคิม  เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอายุซัก 10ขวบคงได้  ถ้าชั้นชั้นไม่ผิด
คิมย้ายบ้านมาจากสุไหโกรกไหนชั้นก็ตรัสรู้มิได้  ชั้นรู้แต่ว่าย้ายมาอย่ในหมู่บ้านเดียวกับชั้น  บ้านคิมห่างจากบ้านชั้นถัดไปซัก...4หลัง  แถมเรายังเรียนเดียกันห้องเดียวกันอีกตังหาก    ตอนนั้นเราก็มีแก๊งตามสมัยเด็กๆเหมือนกันนั้นแหละ    ในแก๊งเราก็มี  มิก  แน่นอนต้องเป็นชั้น  นายคิม  ปุ้ย  เมย์  บอย  และเปีย  ตอนนี้ชั้นนั่งอยู่ที่สวนสารณะ  ชั้นหามุมที่เงียบๆและมานั้งเขียนไดอารี่    และตอนนี้ชั้นก็ระบายความรู้สึกพอแล้ว
--------------------------------------
“เอะ” เสียง นี้..มัน..เวลาแล้วหรือ...ที่..ต้องเสีย..เธอไป...ถึงเวลาแล้วหรือกับการเสียใจ....เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าที่เป็นเสียงริงโทนดังขึ้นนั้นเอง 
“เอ้า..โทรศัพท์เรานี้น่า”  หน้าจอทรศัพท์ขึ้นชื่อว่า  “คิม”    “นายคิมอีกแหละ..นายนี่ตายยากจริงๆเลย”
เธอบ่นพึมพำหว่างดูโทรศัพท์เรียกเข้า  เธอตัดสินใจที่จะ จะ จะ จะรับสิ
“ฮาโหล” มิกพูด
“ฮาโหล  มิกอยู่ที่ไหนเนี้ย?” เสียงจากปลายสายถามทางโทรศัพท์
“อยู่..อยู่ เออ..เออ..” เอ้....!!!นี้ชั้นจะบอกนายชินจังดีไหมเนี้ย  (เธอคิดในใจ)
“ฮาโหล...ฮาโหล...มิกฟังเราอยู่ป่าวเนี้ย”
“อยู่...อยู่..อยู่..บ้านยัยเมย์น่ะปุ้ยกับเปียก็อยู่จะมาไหมล่ะ”ชั้นพยายามโกหกนายคิมซึ้งมันขัดกับใจของชั้นซึ้งชั้นไม่รูว่ามันจะดีหรือเปล่าแต่ชั้นทำอย่างนี้ก็รู้ว่านายคิมไม่มาแน่ๆเพราะมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น..น..น
“เหรอ..เออ..เออ..”
“นายจะมาป่าวล่ะ หรือว่ามีไรป่าวมาได้นะ” 
“ก็ป่าวก็ว่าจะชวนเธอไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วยกันหน่อยน่ะ”
“จะเป็นไรป่าว...ถ้าชั้นปฏิเสธนาย”
“ไม่เป็นไรหรอก  ว่าแต่ว่าพวกเธอ ทำไรกันอยู่  แล้วมิกจะกลับบ้านกี่โมง  มิกจะกลับบ้านดึกไหม  แล้วอยู่กันแค่สามคนเหรอ...แล้ว.!”
“เฮ้ย..!เฮ้ย.. หายใจหน่อยชินจังเพื่อนชั้น”  ชั้นต้องแย้งพูดก่อนเพราะกลัวว่านายชินจังของชั้นจะหมดลมหายใจไปเสียก่อน ที่ชั้นจะตอบคำถามของหมอนี่หมด
“เอาล่ะ  คำถามแรก ว่ามา”
“เอ่อ....คือเธอจะกลับบ้านมากี่โมง”
ชั้นตอบเขาไปว่า “กลับบ้านเหรอ  น่าจะประมาณ 5 โมงได้นะ นี้ก็ 3 โมงแล้ว
“5โมงแน่ใช่ไหมมิก”
“อีมม..ใช่”
“แล้ว.....” เสียงจากปลายสายเงียบไป
“แล้ว..อะไรล่ะคิม” ชั้นถามเขาต่อ
“แล้ว..แค่นี้ก่อนละกันนะ”
“บายจ๊ะ”
“บายคับ”
-------------------------------------------------------------------
คิม
    ผมรู้สึกว่าเหงา  ผมอยากจะอยู่ข้าง ๆ เธอ  แต่ดูเหมือนว่าเธออยากจะตีตัวออกห่างจากผมซะงั้น  พักหลังๆ นี้
เราไม่ค่อยได้พบกันเท่าไรนัก  เพราะเวลาผมโทรไปหาเธอ  เธอทีไร  เธอก็มักจะไม่ว่างไปเสียทุกทีในพักหลังนี้...
ผมก็ไม่เข้าใจเธอเหมือนที่เธอไม่เข้าใจผม  ผมก็ว่าอย่างนั้นนะ  พักนี้เธอเป็นไรไปก็ไม่รู้
แต่อย่างไรก็ตามที่บ้านจองเรา ก็คงยังอยู่ใกล้กันเหมือนเคย    เย็นนี้ผมจะแอบปีนรั้วบ้านไปทอาหารและทานข้าวที่บ้านเธอเสียเลยดีกว่า
-------------------------------------------------------------------
และในขณะเดียวกันที่คมกำลังคิดอะไรเพลินๆระหว่างทางขับรถอย่างเรื่อยๆกับบ้านเขา  ในระว่าที่ขับผ่านสวนสาธารณะของหมู่บ้าน  และควาวไวของสายตา  ทำให้เขาเลือบไปเห็นผูหญิงคนหนึ่งซึ่งดูคล้ายๆ....
    ผมรู้สึกว่าผู้หยิงคนนั้นหน้คุ้นๆนะและในขณะเดียวกันผู้หญิงคนนั้นก้หันหน้ามาแต่เหมือน................     
“มิก!!!”เขาอุทานออกมา
-------------------------------------------------------------------
คิม
เป็นไปไม่ได้    ทำไม่มิกต้องโกหกผมด้วย  ทำไม.........หรือว่าผมจะตาฝาด  ผมตาฝาดไปใช่มั้ย  ไม่จริงหรอกไม่จริง
ผมอยากอยู่ใกล้เธอแท้ๆแต่เธอทำไมต้องโกหกผมด้วย  ไม่....เราต้องใจแข็ง  เราต้องใจแข่ง  แต่เธอก็อยาจะมีเหตุของเธอก็ได้  ยังไงผมก็จะพยายามเข้าใจเธอ........มิก
--------------------------------------------------------------------
    และเขาก็ออกรถและขับกับหมู่บ้าน  ในขณะเดียวมิกที่มิกกำลังเดินกำหมู่ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับคิม  เธอค่อยๆเดินอย่างไม่เร่งรีบนัก    และในขณะที่เอกำลังไขคุณแจหน้าบ้านของเธอและเปิดประตู.....เพื่อเข้าไปยังในบ้าน
“เอ้า ! เราว่า...เราเปิดไฟแล้วนะเนี้ย  ลืมจนได้นะเรา” เธออุทานอย่างสงสัยและบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่ได้กลิ่นอาหารมายัวยวนจมูก  แต่เธอไม่ได้สงสัยมากนักเธอจึงจะเดินเข้าไปหยิบน้ำในตู้เย็นที่ตั้งไว้ภายในห้องครัวมาดื่มให้ชื่นใจซะที
“เฮ้ยยย!!!”  เสียงของเธออุทานด้วยความตกใจ
“เป็นไรไปมิก..  เราเอง  ตกใจอะไร” เสียงชายหนุ่มมีนามว่าคิมเอ่ย
“เปล่าๆ  ก็นายมาซุ่มๆอยู่  เป็นใคร ใครก็ต้องตกใจดิ  อยู่ดีๆก็เข้ามาบ้านชั้นไม่บอกกล่าวนี่  เออ..แล้ว..นายเข้ามาบ้านชั้นได้ไงเนี้ย”
“ไม่บอก ปล่อยให้งง  ว่าแต่ว่ามิกตกใจซะเหมือนไปทำผิดกับใครมาไว้ซะงั้นน่ะ” คิมแซวทั้งที่รู้ทั้งรู้
“เปล่านี่...  เออ ว่าแต่ว่าทำไรอะ  หอมเชียว  ดี กำลังหิวเลย”มิกพูดตัดบทก็กลัวว่าคิมจะรู้ความจริงนี่
“ก็ทำง่ายๆไม่มีเพื่อนกินข้าวก็เลย”
“เลยมาทำกับข้าวบ้านชั้น  เออ...ดีเนอะทำไปได้ แม..แต่ก็ดี จะได้อิ่มไปด้วยเลย  เออ!...และบอยล่ะไม่มากับนายเวยเหรอ” มิกกวนพร้อมถามถึงบอย
“เปล่านิ  เราจะไปรู้มันหรอกว่ามันจะไปไหน ถ้าห่วงมันก็โทรถามมันเองดิ”  คิมพูดงวดๆ
“แม..เป็นไรแค่นี้ทำลมเสีย ทำอาหราต่อไปเลย  ไปแล้วก้ได้ไม่พูดด้วยและจะไปรอกินอย่างเดียว”มิกพูดแล้วก็เดินไปนั่งรอที่โซฟาในห้องรับแขก    พอคิมทำอาหารเสร็จก็ตั้งโต๊ะอาหาร  บนโต๊ะจัดด้วยความสว่างไสวสลัวๆของแสงเทียนปะปลายในยามเย็นดูแล้วมีความโรแมนติกอยู่ในตัว  คิมและมิกนั่งครงกันของครนละฟากของโต๊ะ
------------------------------------------------------------------
มิก
อึมมม..นายชินจังนี่ก็ทำอาหารใช้ได้เลยทีเดียวเลยนะเนี้ย  แม..นานๆจะได้กินอาหารเย็นซักที ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ
------------------------------------------------------------------
คิม
อาหารของผมทำสุดฝีมือเพราะคุณเลยนะคับมิก  และผมก็หวังว่าคุณจะชอบของที่ผมทำเช่นกัน
-------------------------------------------------------------------
กริ๊ง ๆ ๆ  ๆๆๆ
“หวัดดีค่ะ มิกพูดค่ะ”  มิกรับโทรที่มีสายเข้ามา
“มิกเหรอ  เมย์เองนะ  ทำไรอยู่อะ”  เสียงจากปลายสายเรียกเข้า  นั้นไม่ใช่ใครอื่นเมย์เพื่อนของเธอนั้น
“อึมม กำลังกินข้าวอยู่  มีไรจ๊ะเพื่อน”
“เฮ้ยย...รบกวนแกเปล่าว่ะถ้าจะให้แกมาอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยดิ คือ กลัวอดีตมนุษย์ว่ะแก”
“อะไรว่ะอดีตมนุษย์ อะไรของแกว่ะ”  มิกถามงง
“ก็ผีไงแก  โด่..ไม่รู้เรื่องเลย”  เมย์ไขปัญหาคาใจ
“เออ..ดีเนอะ แกกลัวผีแล้วดันไปทำอะไรว่ะถึงกลัวอดีตมนุษย์ของแกเนี้ย”
“ฮิ..ฮิ...ดูหนังผีว่ะ”
“เออ..ดีว่ะ  กลัวผีแล้วดันดูหนังผี  กลัวก็ยังไม่วายจะดู” มิกพำบ่นตามภาษาของเธอ
“แมแก มาเหอะนะ แก นะเพื่อนรัก นะ”  เมย์อ้อนวอน
“แต่ชั้น.......”  มิกพูดกับเสียงปลายสายซึ่งเป็นเพื่อนของเธอแต่เธอยังมองดูเพื่อนของเธออีกคนหนึ่งที่รอเธอทานข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“แม...มิก แกช่วยเพื่อนหน่อยดิว่ะ  น่เร็วเข้า ฉันทนไม่ไหวแล้วนะโวย...”
มิกหยุดอยู่ซักครู่ก่อนที่จะตอบว่า  “เออ..เออ..เดี๋ยวไป”  ชั้นตอบรับเมย์แต่.....!!คิม..ขอโทษด้วยแล้วกันนะ
“คิม  เดี๋ยวเธอกินคนเดียวก่อนนะ  เราจะไปอยู่เป็นเพื่อนไอ้เมย์ก่อน”
“อึมมม..”ผมพยักหน้าโดยที่ไม่รู้ทำไปได้ไงที่จริงควรจะรั้งเธอไว้ต่างหาก
-------------------------------------------------------------------
คิม
เธอเดินออกจากบ้านไป  ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใยดีผมเสียเลยด้วยซ้ำ  แล้วครั้งนี้เธอจะโกหกผมอีกไหม  เธอพยายามหลบหน้าผมหรือเปล่า  ผมไม่เข้าใจเธอจริงๆ  เธอปล่อยให้ผมต้องนั่งกินข้าวฝีมือตัวเองคนเดียวซึ่งผมทำเพื่อเธอด้วยซ้ำแล้วทั้งๆที่ผมจะยกโทษให้เธออยู่แล้ว  ผมจะทำแบบที่เธอทำให้เธอรู้บ้างซักครั้งจะดีไหม  ผมว่ามันหน้าจะดีเพื่อจะให้เธอรู้บ้างว่าความรู้สึกที่เธอทำกับผมมันเป็นอย่างไร
-------------------------------------------------------------------
เสียงรถสะตาด  มิกขับรถออกจากบ้านเพื่อที่จะไปยังบ้านยัยเมย์เพื่อนตัวดีของเธอ
~ Confession ~
*~*~*~*~*~*~
วันนี้......เป็นอีกวันนึงที่น่าเบื่ออีกครั้ง  ภายในใจชั้นยังคงคิดถึงแต่หมอนั้น  ชั้นแอบรักนายนั้นมา 5 ปี ได้แล้ว  หรือว่าเพิ่งร้ตัวเมื่อ 5ปี ชั้นก็ไม่เข้าใจตัวเองหมือนกัน    นายนี้ชื่อชินจัง...อันที่จริงแล้วเป็นฉายาของเขามากกว่า  แต่มันติดปากชั้นมาตั้งแต่เด็ก  ที่จริง  เขาน่ะชื่อเล่นชื่อคิม  เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอายุซัก 10ขวบคงได้  ถ้าชั้นชั้นไม่ผิด
คิมย้ายบ้านมาจากสุไหโกรกไหนชั้นก็ตรัสรู้มิได้  ชั้นรู้แต่ว่าย้ายมาอย่ในหมู่บ้านเดียวกับชั้น  บ้านคิมห่างจากบ้านชั้นถัดไปซัก...4หลัง  แถมเรายังเรียนเดียกันห้องเดียวกันอีกตังหาก    ตอนนั้นเราก็มีแก๊งตามสมัยเด็กๆเหมือนกันนั้นแหละ    ในแก๊งเราก็มี  มิก  แน่นอนต้องเป็นชั้น  นายคิม  ปุ้ย  เมย์  บอย  และเปีย  ตอนนี้ชั้นนั่งอยู่ที่สวนสารณะ  ชั้นหามุมที่เงียบๆและมานั้งเขียนไดอารี่    และตอนนี้ชั้นก็ระบายความรู้สึกพอแล้ว
--------------------------------------
“เอะ” เสียง นี้..มัน..เวลาแล้วหรือ...ที่..ต้องเสีย..เธอไป...ถึงเวลาแล้วหรือกับการเสียใจ....เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าที่เป็นเสียงริงโทนดังขึ้นนั้นเอง 
“เอ้า..โทรศัพท์เรานี้น่า”  หน้าจอทรศัพท์ขึ้นชื่อว่า  “คิม”    “นายคิมอีกแหละ..นายนี่ตายยากจริงๆเลย”
เธอบ่นพึมพำหว่างดูโทรศัพท์เรียกเข้า  เธอตัดสินใจที่จะ จะ จะ จะรับสิ
“ฮาโหล” มิกพูด
“ฮาโหล  มิกอยู่ที่ไหนเนี้ย?” เสียงจากปลายสายถามทางโทรศัพท์
“อยู่..อยู่ เออ..เออ..” เอ้....!!!นี้ชั้นจะบอกนายชินจังดีไหมเนี้ย  (เธอคิดในใจ)
“ฮาโหล...ฮาโหล...มิกฟังเราอยู่ป่าวเนี้ย”
“อยู่...อยู่..อยู่..บ้านยัยเมย์น่ะปุ้ยกับเปียก็อยู่จะมาไหมล่ะ”ชั้นพยายามโกหกนายคิมซึ้งมันขัดกับใจของชั้นซึ้งชั้นไม่รูว่ามันจะดีหรือเปล่าแต่ชั้นทำอย่างนี้ก็รู้ว่านายคิมไม่มาแน่ๆเพราะมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น..น..น
“เหรอ..เออ..เออ..”
“นายจะมาป่าวล่ะ หรือว่ามีไรป่าวมาได้นะ” 
“ก็ป่าวก็ว่าจะชวนเธอไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วยกันหน่อยน่ะ”
“จะเป็นไรป่าว...ถ้าชั้นปฏิเสธนาย”
“ไม่เป็นไรหรอก  ว่าแต่ว่าพวกเธอ ทำไรกันอยู่  แล้วมิกจะกลับบ้านกี่โมง  มิกจะกลับบ้านดึกไหม  แล้วอยู่กันแค่สามคนเหรอ...แล้ว.!”
“เฮ้ย..!เฮ้ย.. หายใจหน่อยชินจังเพื่อนชั้น”  ชั้นต้องแย้งพูดก่อนเพราะกลัวว่านายชินจังของชั้นจะหมดลมหายใจไปเสียก่อน ที่ชั้นจะตอบคำถามของหมอนี่หมด
“เอาล่ะ  คำถามแรก ว่ามา”
“เอ่อ....คือเธอจะกลับบ้านมากี่โมง”
ชั้นตอบเขาไปว่า “กลับบ้านเหรอ  น่าจะประมาณ 5 โมงได้นะ นี้ก็ 3 โมงแล้ว
“5โมงแน่ใช่ไหมมิก”
“อีมม..ใช่”
“แล้ว.....” เสียงจากปลายสายเงียบไป
“แล้ว..อะไรล่ะคิม” ชั้นถามเขาต่อ
“แล้ว..แค่นี้ก่อนละกันนะ”
“บายจ๊ะ”
“บายคับ”
-------------------------------------------------------------------
คิม
    ผมรู้สึกว่าเหงา  ผมอยากจะอยู่ข้าง ๆ เธอ  แต่ดูเหมือนว่าเธออยากจะตีตัวออกห่างจากผมซะงั้น  พักหลังๆ นี้
เราไม่ค่อยได้พบกันเท่าไรนัก  เพราะเวลาผมโทรไปหาเธอ  เธอทีไร  เธอก็มักจะไม่ว่างไปเสียทุกทีในพักหลังนี้...
ผมก็ไม่เข้าใจเธอเหมือนที่เธอไม่เข้าใจผม  ผมก็ว่าอย่างนั้นนะ  พักนี้เธอเป็นไรไปก็ไม่รู้
แต่อย่างไรก็ตามที่บ้านจองเรา ก็คงยังอยู่ใกล้กันเหมือนเคย    เย็นนี้ผมจะแอบปีนรั้วบ้านไปทอาหารและทานข้าวที่บ้านเธอเสียเลยดีกว่า
-------------------------------------------------------------------
และในขณะเดียวกันที่คมกำลังคิดอะไรเพลินๆระหว่างทางขับรถอย่างเรื่อยๆกับบ้านเขา  ในระว่าที่ขับผ่านสวนสาธารณะของหมู่บ้าน  และควาวไวของสายตา  ทำให้เขาเลือบไปเห็นผูหญิงคนหนึ่งซึ่งดูคล้ายๆ....
    ผมรู้สึกว่าผู้หยิงคนนั้นหน้คุ้นๆนะและในขณะเดียวกันผู้หญิงคนนั้นก้หันหน้ามาแต่เหมือน................     
“มิก!!!”เขาอุทานออกมา
-------------------------------------------------------------------
คิม
เป็นไปไม่ได้    ทำไม่มิกต้องโกหกผมด้วย  ทำไม.........หรือว่าผมจะตาฝาด  ผมตาฝาดไปใช่มั้ย  ไม่จริงหรอกไม่จริง
ผมอยากอยู่ใกล้เธอแท้ๆแต่เธอทำไมต้องโกหกผมด้วย  ไม่....เราต้องใจแข็ง  เราต้องใจแข่ง  แต่เธอก็อยาจะมีเหตุของเธอก็ได้  ยังไงผมก็จะพยายามเข้าใจเธอ........มิก
--------------------------------------------------------------------
    และเขาก็ออกรถและขับกับหมู่บ้าน  ในขณะเดียวมิกที่มิกกำลังเดินกำหมู่ซึ่งอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับคิม  เธอค่อยๆเดินอย่างไม่เร่งรีบนัก    และในขณะที่เอกำลังไขคุณแจหน้าบ้านของเธอและเปิดประตู.....เพื่อเข้าไปยังในบ้าน
“เอ้า ! เราว่า...เราเปิดไฟแล้วนะเนี้ย  ลืมจนได้นะเรา” เธออุทานอย่างสงสัยและบ่นพึมพำกับตัวเองในขณะที่ได้กลิ่นอาหารมายัวยวนจมูก  แต่เธอไม่ได้สงสัยมากนักเธอจึงจะเดินเข้าไปหยิบน้ำในตู้เย็นที่ตั้งไว้ภายในห้องครัวมาดื่มให้ชื่นใจซะที
“เฮ้ยยย!!!”  เสียงของเธออุทานด้วยความตกใจ
“เป็นไรไปมิก..  เราเอง  ตกใจอะไร” เสียงชายหนุ่มมีนามว่าคิมเอ่ย
“เปล่าๆ  ก็นายมาซุ่มๆอยู่  เป็นใคร ใครก็ต้องตกใจดิ  อยู่ดีๆก็เข้ามาบ้านชั้นไม่บอกกล่าวนี่  เออ..แล้ว..นายเข้ามาบ้านชั้นได้ไงเนี้ย”
“ไม่บอก ปล่อยให้งง  ว่าแต่ว่ามิกตกใจซะเหมือนไปทำผิดกับใครมาไว้ซะงั้นน่ะ” คิมแซวทั้งที่รู้ทั้งรู้
“เปล่านี่...  เออ ว่าแต่ว่าทำไรอะ  หอมเชียว  ดี กำลังหิวเลย”มิกพูดตัดบทก็กลัวว่าคิมจะรู้ความจริงนี่
“ก็ทำง่ายๆไม่มีเพื่อนกินข้าวก็เลย”
“เลยมาทำกับข้าวบ้านชั้น  เออ...ดีเนอะทำไปได้ แม..แต่ก็ดี จะได้อิ่มไปด้วยเลย  เออ!...และบอยล่ะไม่มากับนายเวยเหรอ” มิกกวนพร้อมถามถึงบอย
“เปล่านิ  เราจะไปรู้มันหรอกว่ามันจะไปไหน ถ้าห่วงมันก็โทรถามมันเองดิ”  คิมพูดงวดๆ
“แม..เป็นไรแค่นี้ทำลมเสีย ทำอาหราต่อไปเลย  ไปแล้วก้ได้ไม่พูดด้วยและจะไปรอกินอย่างเดียว”มิกพูดแล้วก็เดินไปนั่งรอที่โซฟาในห้องรับแขก    พอคิมทำอาหารเสร็จก็ตั้งโต๊ะอาหาร  บนโต๊ะจัดด้วยความสว่างไสวสลัวๆของแสงเทียนปะปลายในยามเย็นดูแล้วมีความโรแมนติกอยู่ในตัว  คิมและมิกนั่งครงกันของครนละฟากของโต๊ะ
------------------------------------------------------------------
มิก
อึมมม..นายชินจังนี่ก็ทำอาหารใช้ได้เลยทีเดียวเลยนะเนี้ย  แม..นานๆจะได้กินอาหารเย็นซักที ก็รู้สึกดีเหมือนกันนะ
------------------------------------------------------------------
คิม
อาหารของผมทำสุดฝีมือเพราะคุณเลยนะคับมิก  และผมก็หวังว่าคุณจะชอบของที่ผมทำเช่นกัน
-------------------------------------------------------------------
กริ๊ง ๆ ๆ  ๆๆๆ
“หวัดดีค่ะ มิกพูดค่ะ”  มิกรับโทรที่มีสายเข้ามา
“มิกเหรอ  เมย์เองนะ  ทำไรอยู่อะ”  เสียงจากปลายสายเรียกเข้า  นั้นไม่ใช่ใครอื่นเมย์เพื่อนของเธอนั้น
“อึมม กำลังกินข้าวอยู่  มีไรจ๊ะเพื่อน”
“เฮ้ยย...รบกวนแกเปล่าว่ะถ้าจะให้แกมาอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยดิ คือ กลัวอดีตมนุษย์ว่ะแก”
“อะไรว่ะอดีตมนุษย์ อะไรของแกว่ะ”  มิกถามงง
“ก็ผีไงแก  โด่..ไม่รู้เรื่องเลย”  เมย์ไขปัญหาคาใจ
“เออ..ดีเนอะ แกกลัวผีแล้วดันไปทำอะไรว่ะถึงกลัวอดีตมนุษย์ของแกเนี้ย”
“ฮิ..ฮิ...ดูหนังผีว่ะ”
“เออ..ดีว่ะ  กลัวผีแล้วดันดูหนังผี  กลัวก็ยังไม่วายจะดู” มิกพำบ่นตามภาษาของเธอ
“แมแก มาเหอะนะ แก นะเพื่อนรัก นะ”  เมย์อ้อนวอน
“แต่ชั้น.......”  มิกพูดกับเสียงปลายสายซึ่งเป็นเพื่อนของเธอแต่เธอยังมองดูเพื่อนของเธออีกคนหนึ่งที่รอเธอทานข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“แม...มิก แกช่วยเพื่อนหน่อยดิว่ะ  น่เร็วเข้า ฉันทนไม่ไหวแล้วนะโวย...”
มิกหยุดอยู่ซักครู่ก่อนที่จะตอบว่า  “เออ..เออ..เดี๋ยวไป”  ชั้นตอบรับเมย์แต่.....!!คิม..ขอโทษด้วยแล้วกันนะ
“คิม  เดี๋ยวเธอกินคนเดียวก่อนนะ  เราจะไปอยู่เป็นเพื่อนไอ้เมย์ก่อน”
“อึมมม..”ผมพยักหน้าโดยที่ไม่รู้ทำไปได้ไงที่จริงควรจะรั้งเธอไว้ต่างหาก
-------------------------------------------------------------------
คิม
เธอเดินออกจากบ้านไป  ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใยดีผมเสียเลยด้วยซ้ำ  แล้วครั้งนี้เธอจะโกหกผมอีกไหม  เธอพยายามหลบหน้าผมหรือเปล่า  ผมไม่เข้าใจเธอจริงๆ  เธอปล่อยให้ผมต้องนั่งกินข้าวฝีมือตัวเองคนเดียวซึ่งผมทำเพื่อเธอด้วยซ้ำแล้วทั้งๆที่ผมจะยกโทษให้เธออยู่แล้ว  ผมจะทำแบบที่เธอทำให้เธอรู้บ้างซักครั้งจะดีไหม  ผมว่ามันหน้าจะดีเพื่อจะให้เธอรู้บ้างว่าความรู้สึกที่เธอทำกับผมมันเป็นอย่างไร
-------------------------------------------------------------------
เสียงรถสะตาด  มิกขับรถออกจากบ้านเพื่อที่จะไปยังบ้านยัยเมย์เพื่อนตัวดีของเธอ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น