คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เด็กหญิงกับสายฝน
แปะ...แปะ...แปะ
เสียงหยาดน้ำจากฟากฟ้าตกกระทบกับพื้นดินเป็นจังหวะ เริ่มจากหยดน้ำที่ละหยดจนกลายเป็นสายฝนปรอยๆ ซึ่งเปรียบเสมือนของขวัญล้ำค่าจากสรวงสวรรค์ที่ประทานแก่มวลมนุษย์ ในที่สุดพวกมันก็ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาราวกับเป็นการชดเชยหลังจากที่พวกมันห่างหายไปเป็นเวลานานแสนนาน
ค่ำคืนนี้ก็ยังคงเป็นราตรีอันเงียบสงัดเหมือนเช่นที่มันเคยเป็น ถนนสายเล็กๆ สายนี้ก็ยังคงเงียบเหงาเหมือนเดิม ด้วยเหตุที่ว่ามันสกปรกและเหม็นเกินไป ผู้คนจึงไม่ค่อยใช้เส้นทางนี้กันสักเท่าไร และในยามวิการณ์เช่นนี้ก็คงจะไม่มีใครผ่านมาใช้บริการมัน
แต่คืนนี้ต่างออกไปจากทุกคืนที่ผ่านมา ถนนที่ถูกทอกทิ้งสายนี้กำลังมีแขกมาเยือน อาคันตุกะตัวน้อยที่กำลังก้าวเท้าอย่างเป็นจังหวะด้วยความรวดเร็ว เสื้อและกางเกงที่เก่ามากจนดูไม่ออกว่าจริงๆ แล้วมันมีสีอะไร รองเท้าที่เลอะเปรอะเปื้อนคู่นั้นดูเก่าเกินกว่าที่จะมีใครสวมใส่ได้ มันขาดรุ่งริ่งจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม ในขณะที่เจ้าของมันก็ดูไม่ต่างจากมันเลย หยดน้ำที่เกาะตามตัวและใบหน้านั้นดูไม่ออกว่ามาจากความเหน็ดเหนื่อยของเจ้าตัวหรือเป็นเพราะว่าสายฝนที่กำลังโปรยปรายอยู่ในขณะนี้
‘แฮ่ก...แฮ่ก’
เสียงหายใจหอบระรัวบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าที่มีมากมายมหาศาล แต่กระนั้นเธอก็ยังมิอาจที่จะหยุดฝีเท้าลงได้ ถนนสายแคบๆ สายนี้มันยาวไกลเหลือเกิน ไกลมากในความคิดของเด็กหญิงคนหนึ่ง เด็กหญิงวัยสิบห้าที่มีร่างกายเปราะบาง ผมของเธอดำสนิทและดูเงางามแม้จะไม่ผ่านการสระมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม มันเหยียดตรงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเพราะน้ำฝนที่เทลงมานั้นทำให้มันอ่อนตัว จากผมที่เคยแห้งกรังบัดนี้กลับดูมีชีวิตชีวา
จมูกที่โด่งได้รูป ริมฝีปากที่เอิบอิ่มและมีน้ำมีนวล พร้อมด้วยดวงตาอันคมกริบดุจพญาอินทรีย์ ทั้งหมดรับกับใบหน้าที่คมเข้มของเธอได้เป็นอย่างดี ทำให้เธอดูสวยและสง่างามแม้ในยามที่ไร้ซึ่งแสงสว่างเช่นนี้
“หามันให้เจอ..เร็วเข้า..จับตัวมาให้ได้” เสียงตะโกนดังขึ้นในความมืด แล้วเสียงฝีเท้าของคนนับสิบก้อดังตามมาติดๆ
“มันต้องอยู่แถวนี้แน่” เขายังคงตะโดนต่อไป แล้วแสงสว่างก็ค่อยๆ บังเกิดขึ้น แสงสว่างจากคบเพลิงในมือของชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ไฟระยิบระยับทำให้พวกเขามองเห็นสภาพของถนนได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันไม่น่าพิสมัยสำหรับพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อพบว่าถนนที่พวกเขายืนอยู่มันเต็มไปด้วยรอยเลือดและกองขยะมากมายก่ายกอง กลิ่นคาวเลือดกับกลิ่นของขยะเหล่านั้นลอยคละคลุ้งกันตลบอบอวล มันสร้างความลังเลไม่น้อยให้กับผู้ที่จะผ่านทางนี้โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยผ่านทางนี้มาก่อนอย่างพวกเขา
“ทางนี้แน่หรือครับ” เสียงหนึ่งบอกความไม่แน่ใจ เมื่อเขาคิดว่าไม่น่าจะมีใครกล้าเดินผ่านทางนี้
“มันต้องไปทางนี้แน่ๆ” เสียงตอบกลับด้วยความมั่งใจจากชายวัยกลางคนที่ยืมด้านหลัง หมวกปีกกว้างสีน้ำตาลกับชุดหนังสัตว์ที่สวมใส่อยู่นั้นบ่งบอกถึงฐานะของเขาได้เป็นอย่างดี
เวลานี้ได้ย่างเข้าวันใหม่แล้ว แต่สายฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง มันยังคงตกปรอยๆ ราวกับไม่อยากให้มันหมดจากท้องฟ้า
เด็กหญิงล้มลงกับพื้นทำให้น้ำที่เจิ่งนองบนพื้นกระเซ็นเป็นวงกว้าง ร่างกายที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะก้าวต่อ ไม่มีแม้แต่แรงที่จะยันกายขึ้นยืน เธอคลานไปกับพื้นด้วยแขนสองข้างกับแรงทั้งหมดที่มี ถังขยะทรงสี่เหลี่ยมใบน้อยๆ แต่ใหญ่พอสำหรับเด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ
แสงไฟระยิบระยับจากคบเพลิงทอดไปตามทางแคบๆ เสียงฝีเท้าค่อยๆ ดังขึ้น ดังขั้น และดังขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เสียงหายใจของเธอแผ่วเบาจนมิอาจได้ยิน ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับเวลาหยุดเดิน มีเพียงสายฝนเท่านั้นที่ยังคงเคลื่อนไหว
แสงไฟค่อยๆ สว่างขึ้นทีละน้อย เธอหลับตาลงและภาวนาให้พวกเขาเดินผ่านไป
‘กึก!!’
เสียงฝีเท้าหยุดลงอย่างกะทันหัน แล้วเสียงสนทนาก็ดังขึ้น
“พวกแกคิดว่ามันแปลกไหม”
“แปลกยังไง”
“ก็แกลองคิดดูซิว่าอย่างมันจะมาได้ไกลขนาดนี้เชียวหรือ” ประโยคที่ทำให้บางคนในกลุ่มเริ่มเห็นด้วย
“แล้วแกคิดว่าไง”
“ไม่รู้ซิ”
“แล้วจะเอายังไงล่ะ”
“แกลองไปเปิดถังขยะใบนั้นดูซิ” เขาพูดพลางพยักหน้าไปทางถังขยะสีเขียวที่ตั้งอยู่เป็นใบแรก
“แกก็ไปเปิดเองซิ เหม็นจะตายใครจะกล้าเปิด” อีกคนปฏิเสธ
“งั้นฉันเปิดใบแรก แกเปิดใบที่สอง และใครก็ได้อีกคนไปเปิดใบที่สาม” เขาว่าแล้วเดินตรงไปยังถังขยะใบแรก หัวใจของเด็กหญิงเต้นเร็วและแรงขึ้น มันแรงจนสามารถรับรู้ได้ในระยะใกล้
ฝาของถังขยะถูกเปิดออก พลันหนูตัวเบ่อเริ่มตัวหนึ่งก็กระโดดพรวดออกมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นที่ฟุ้งกระจาย ทำให้เขาหกล้มก้นจ้ำเบ้าด้วยความตกใจ ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีทีเดียว
“ฮ่าๆๆ
ฉันว่าคงไม่มีใครเข้าไปแอบในถังขยะหรอก ไปหาที่อื่นกันเถอะ” คำพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะทำให้เขาอับอายเป็นอย่างมาก
เขาลุกขึ้นแล้วหยิบคบเพลิงขึ้นจากพื้นก่อนจะเดินนำออกไปอย่างเงียบๆ และทุกคนก็เดินตามไป
เสียงฝีเท้าค่อยๆ เบาลง พร้อมกับแสงสว่างที่ค่อยๆ จางหายไป เด็กหญิงถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งใจ และเธอคงจะได้หลับตาลงเสียที ถึงแม้มันจะเหม็นไปสักหน่อย แต่มันก็นุ่มพอที่จะให้เธอเอนกายพักผ่อนให้หายเหนื่อยล้า และอีกอย่างที่สำคัญคือคืนนี้เธอไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี๋ยวเหมือนเช่นเคย เพราะบัดนี้เธอมีเพื่อนแล้ว
“ฝันดีนะ” เธอกระซิบกับเพื่อนใหม่แล้วค่อยๆ หลับตาลง แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงเพื่อนใหม่กระซิบกลับมาว่า
“จี๊ด...จี๊ด”
ความคิดเห็น