ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แผนลับจับหัวใจนายจอมกวน

    ลำดับตอนที่ #1 : การพบกันของคิงกับควีน

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 51


    แผนลับจับหัวใจนายจอมกวน : 1
                    “อีสไปนะคะคุณแม่ผู้บังเกิดเกล้า จุ๊บๆ ^3^” ฉันกอดแล้วหอมแก้มแม่อีกหนึ่งที
                    “ย่ะ คุณลูก -_-^ เอออีส ตอนเย็นมีนัดไปเที่ยวไหนกะตาเรย์มั้ยลูก”
                    เหอะ! อย่างมันเนี่ยนะจะชวนอีสก่อน ฝันเอาเหอะแม่ ว่าแต่แม่มีไรหรอ =.=?”             
                    “งั้นตอนเย็นไปรับยัยแอมกับเจ้าอาร์ให้แม่ได้ป่ะ”
                    โอเคค่า ^^ งั้นอีสไปล่ะ~”
                    จ้าๆ”
                    ฉันเดินฮัมเพลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่หน้าบ้านจนมาถึงหน้าปากซอยก็เจอกับ เรย์’ เพื่อนสนิทคนเดียวตั้งแต่อนุบาลยันเกรดสิบ
                    ก็นะ...ฉันไม่เคยมีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงกะคนอื่นเค้าหรอก จะเพราะอะไรเดี๋ยวได้รู้แน่ๆ
                    คอยนานมั้ยไอ้เรย์...?”
                    สี่นาทีห้าสิบหกวิ นานป้ะล่ะ -3-^” เรย์ตอบหน้าตาย
                    ประชดหาแก๊สโซฮอล์เรอะแก =__=”
                    เปล๊า~! ใครประชดเธอกัน ไม่มี๊...ไม่มี~”
                    “อย่าทำท่าแรดๆ แบบพวกกะเทยได้มะ เห็นแล้วอยากจะอ้วก!”
                    เปล่า ใครประชดเธอกัน ไม่มี ไม่มี!!!” คราวนี้ประหนึ่งจะว้ากด้วยเสียงแหบต่ำชนิดพี่ๆ เรทโทมาได้ยินยังยอมยกธงขาวฟาดหน้าเฮียแกซักสองรอบแล้วตามด้วยฝ่าตีน =_=^
                    “ขอบใจว่ะ เอ้า! เอาไป จะได้ไปโรงเรียนกันซักที” ฉันโยนกระเป๋าให้เรย์มันถือแบบทุกทีแล้วเริ่มออกเดินไปยังโรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากซอยบ้าน
                    เธอมันคนประเทศไหนวะเนี่ย ใช้เพื่อนถือกระเป๋า นี่ฉันเป็นเพื่อนนะโว้ยไม่ใช้เบ๊ของเธอ -O-^” เรย์บ่นอุบ แต่ก็ยอมถือให้โดยดี
                    ให้มันรู้ซะมั่งว่าซอยนี้ใครใหญ่ ฮี่ๆ ^v^
                    “อ๋อหรอ ฉันก็หลงคิดมาเป็นสิบปีเลยนะว่าแกคือคนใช้ไม่ใช่เพื่อนฉันน่ะนังลอร่า โฮ่ๆ ^O^” ฉันทิ้งระเบิดลูกบิ๊กบึ้มไว้แล้วรีบโกยหนีอนาคตนักวิ่งทีมชาติอย่างไอ้เรย์ทันที
                    อย่าคิดว่าจะหนีพ้นนะเฟร้ยยัยอีสบ้า!!!!”
                   
                    ฉันวิ่งหนีนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกอย่างเรย์มาจนถึงหน้าเซนต์วิลเลี่ยม ไฮสคูล แน่นอนว่าที่นี่คือที่สิงสถิตของฉันในอีกสามปีถัดจากนี้ไป ข้างๆ ของโรงเรียนฉันคือโรงเรียนเซนต์จอร์แดนระดับม. ต้นในเครือเดียวกัน นักเรียนที่เรียนม. ต้นที่โรงเรียนข้างๆ มาก่อนแบบฉันกับเรย์จึงนิยมสอบเข้าม. ปลายที่นี่
                    หยุดซะทีนะยัยตัวแสบ” เรย์วิ่งมาจับข้อมือของฉันไว้
                    ซวยแล้วไง บรรลัยแล้วตรู เฮือก!!!!
                    อ่า...คือ แหะๆ ^^;”
                    กรี๊ด! พี่เรย์นี่นา >.<” เปียโน รุ่นน้องที่แอบปลื้มเรย์มาตั้งแต่เรย์อยู่เกรดเจ็ด รีบวิ่งหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเข้ามาหาแล้วคล้องแขนเรย์ไว้ข้างหนึ่ง
                    เปียโนคิดถึงพี่เรย์ที่สุดเลยค่ะ ตอนปิดเทอมเปียโนไปญี่ปุ่นมา ซื้อของมาฝากเพียบเลย ตอนเย็นไปเที่ยวบ้านเปียโนด้วยกันนะคะ”
                    “O_O!”
                    อีตาเรย์ทำหน้าเหลอหรามากมาย ฉันก็เลยต้องดันยัยน้องเกรดเก้าจอมกระแดะนั่นออกไปแล้วควงแขนเรย์ไว้แทน
                    นี่น้องเปียโนคะ พี่ว่าพี่พูดหลายรอบแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับเรย์ -_-++”
                    ดูเหมือนยัยน้องนั่นเพิ่งจะรู้สึกว่าฉันอยู่ด้วย ชีก็เลยฮึดฮัดนิดหน่อยแล้วก็ปรับสีหน้าเป็นหวานจ๋อยเหมือนเดิม
                    ฉันมีฉายาใหม่ให้เธอแล้วล่ะ ยัยกิ้งก่าหลากอารมณ์ =_=^
                    อ้าวพี่อีส นี่ยังไม่เลิกกันอีกหรอคะเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่าทอมๆ อย่างเนี้ยพี่เรย์ยังทนคบอยู่อีก เอ...เปียโนจำได้ว่าพี่เรย์เค้าชอบคนอ่อนหวานนี่นา” เปียโนว่าเสียงสูง
                    ปากวอนได้กระเดือกรองเท้าของพี่จริงๆ นะคะน้อง พี่ว่าน้องน่าจะเอาเวลาไปปรับปรุงพฤติกรรมให้มันดูเป็นมนุษย์แทนที่จะมาพูดจาสุนัขๆ แบบนี้กับพี่นะคะ น้องคิดดูนะ ขนาดพี่ทอมๆ เหมือนผู้ชาย แต่เรย์ซึ่งชอบคนที่อ่อนหวาน น่ารักเรียบร้อยยังมาสนพี่เลย ต่างกับน้องที่ขนาดทำตัวอ่อนหวานน่ารัก เข้าถึงจิตใจผู้ชายดีขนาดนี้แต่เค้าก็ยังไม่สนใจ พี่ว่าน้องน่าจะพิจารณาตัวเองได้แล้วนะคะว่าตัวเองน่ะไร้ซึ่งเสน่ห์แถมยังไม่ชอบทำตัวเป็นคน แต่ดันชอบเลียนแบบพฤติกรรมของสัตว์มีนอน่ะค่ะ =_=+” ฉันสวนกลับแล้วควงแขนเรย์เข้าโรงเรียนไปโดยปล่อยให้นังมารแปดหลอดยืนแหกปากอยู่หน้าโรงเรียน
                    ไหนๆ ก็ขอเล่าถึงวีรกรรมทำเพื่อเธอของยัยนั่นซะหน่อยก็แล้วกัน =_= ยัยเปียโนเนี่ยเป็นลูกของโพเฟสเซอร์ไมเคิล หรือก็คืออาจารย์ใหญ่ (คือที่นี่อาจารย์จะเรียกว่ามาสเตอร์ ส่วนอาจารย์ใหญ่จะเรียกว่าโพเฟสเซอร์ค่ะ) ของโรงเรียนเซนต์จอร์แดน มีพี่ลูกพี่ลูกน้องเรียนอยู่อังกฤษคนนึงชื่อไวโอลิน โตกว่าฉันปีนึง แต่พี่ไวโอลินน่ะนิสัยดีกว่าเยอะแยะ เพราะเป็นลูกโพเฟสเซอร์ยัยนี่เลยเรียกได้ว่าเส้นใหญ่มากๆ ตอนอยู่โรงเรียนเก่าก็ตามติดไอ้เรย์แบบนี้แหละ ฉันถึงต้องรับหน้าที่เป็นแฟนกำมะลอของไอ้เรย์อยู่เรื่อยจนเพื่อนในห้องคิดว่าเป็นแฟนกันจริงๆ พวกผู้หญิงในห้องที่ชอบเรย์เลยไม่ยอมพูดกับฉันซักกะคน นอกจากนี้ยัยนั่นยังสั่งให้มาสเตอร์ที่สอนฉันแต่ละคนกดเกรดฉันซะจนมุดดิน ได้ซีมันทุกตัว แม่บ่นซะหูชาเลย แต่พอสอบเข้าที่นี่ได้ก็เลยสบายที่หลุดพ้นวงจรชีวิตของนังมารในคราบเด็กม.ต้นนั่นได้เพราะถึงโรงเรียนนี้จะเป็นเครือเดียวกันยังไง แต่โพเฟสเซอร์โรงเรียนนี้ที่เป็นพี่สาวของพ่อนังนั่น (เป็นแม่ของพี่ไวโอลินด้วย) ได้ข่าวว่าไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ โฮ่ๆ นังมารร้ายนั่นจะได้เลิกรังควานฉันซักที คราวนี้ฉันจะได้มีเพื่อนผู้หญิงกับเค้ามั่ง
                    อีส อีสโว้ย!!!!!”
                    อะไรวะ เรียกดังชิบเป๋งเลย เบาๆ ก็ได้ยินโว้ย~!” ฉันเอามือแคะขี้หูเป็นเอฟเฟกต์ประกอบไปด้วย
                    ยัยบ้า ฉันเรียกเธอมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบรอบแล้วแต่เธอก็เหม่ออยู่นั่นแหละ แล้วก็นะ...”
                    สต็อป! สรุปว่าเรียกฉันทำไม?”ฉันรีบขัดคำบ่นที่ยาวยิ่งกว่าคาถาชินบัญชรกับชื่อเต็มๆ ของกรุงเทพรวมกันของไอ้เรย์ไว้แล้วเข้าประเด็นทันที
                    อ๋อ จะบอกว่าขอบใจว่ะ ถ้าไม่ได้เธอมีหวังฉันแย่แน่”
                    ก็ยังดีที่รู้จักขอบใจย่ะ!”
                    เออน่ะ งั้นเราไปที่หอประชุมกันเหอะ”
                    เออๆ คงจะเหมือนกับที่โรงเรียนเก่าล่ะมั้งวันปฐมนิเทศเนี่ย”
                    “แต่ยังไงก็ต้องไปใช่ป่ะล่ะ”
                    ฉันก็คิดเหมือนแก” ฉันจบบทสนทนาแล้วเราก็ได้ฤกษ์เข้าไปในหอประชุม
     
                    โว้ย จบสิ้นซักที การประชุมนี่มันชวนหลับจริงๆ ว่ะ =O=^” ฉันบ่นทันทีที่ออกนอกหอประชุม
                    เบาหน่อยเจ๊  เห็นมาสเตอร์หัวหลากสีนั่นเปล่า” เรย์กระซิบแล้วชี้นิ้วไปทางมาสเตอร์หญิงวัยกลางคนที่ทำไฮไลต์ผมเป็นสีรุ้งซะงามหยด
                    นี่ถ้าตัดแต่ผมไปขายตามงานวัดต้องมีเด็กมาซื้อเพราะหลงเข้าใจว่าเป็นสายไหมแหงมๆ =_=^
                    “ก็เห็นอยู่ ไมวะ...?”
                    นั่นน่ะมาสเตอร์แซมมี่ ฝ่ายกิจการสุดโหดชื่อเสียงก้องไปทั้งโรงเรียนเราเลยนะเว้ย อย่างเธอน่ะระวังตัวไว้ซะมั่งนะอีส รู้สึกว่ายัยมาสเตอร์เนี่ยจะเป็นสมุนของยัยเปียโนอ่ะนะ”
                    ฉันอึ้งไปสองวิกับข่าวใหม่
                    โหย...แกนี่สุดยอดเลย O_O”
                    จะชมว่าฉันเก่งใช่ป้ะ...?”
                    เปล่า จะบอกว่าแกเนี่ยเสือกเรื่องชาวบ้านได้ทุกเรื่อง สุดยอดจริงๆ ว่ะ ฮ่าๆๆ” ฉันรีบใส่เกียร์หมาเต็มสตรีมอีกรอบ
                    นี่ถ้าฉันไม่ได้วิ่งหนีมันเนี่ยชีวิตคงไม่เป็นสุขซะมั้ง ว่ามั้ย =O=;
     
                    “ตึกนี้เปล่าวะ ตึกเกรดสิบอ่ะ?” เรย์พูดพลางชี้มือไปทางอาคารหินอ่อนทรงห้าเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเราสองคน
                    จะสร้างเลียนแบบเพนตากอนของสหรัฐหรอถามจริง =_=’
                    “ถ้าแกไม่ได้ตาบอดแกจะมองเห็นป้ายอันเท่าโทร์ลภูเขาในแฮร์รี่ พอตเตอร์ (ที่ฉันชอบดู) ตั้งอยู่หน้าตึกเขียนว่าเกรดสิบว่ะไอ้เรย์” ฉันตอบกวนๆ ตามสไตล์
                     ขอบใจโว้ย!!!”
                    เออๆ เราเข้าไปข้างในกันเหอะ” ฉันควงแขนมันเข้าไปในเพนตากอนจูเนียร์ (รู้สึกจะชอบเหลือเกิน -_-;)
                    โอโห หรูโคตรๆ O_O / หรูชิบเลยว่ะ! O_O” ฉันกับเรย์อุทานขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายทันทีที่เราเดินเข้ามาในตึก        
                    ด้านในอาคารหินอ่อนทรงห้าเหลี่ยมเป็นห้องโถงขนาดใหญ่มีชั้นหนังสือทำจากไม้เรียงตั้งต่อกันเป็นตับๆ บริเวณมุมต่างๆ ของห้องโถงทรงห้าเหลี่ยมจะมีโต๊ะไม้พร้อมเก้าอี้เข้าชุดกันอยู่มุมละประมาณสามสี่โต๊ะ ตรงกลางของห้องโถงมีบันไดเวียนขึ้นไปยังชั้นสองจนถึงชั้นหก พื้นห้องปูพรมสีน้ำเงินเข้ม ของใช้ทุกอย่างทั้งโคมไฟ โต๊ะ เก้าอี้ โซฟาที่เข้าชุดกันอย่างดีทำให้ห้องนี้ดูหรูหราฟู่ฟ่ามากๆ
                    โฮมรูมเราอยู่ชั้นไหนวะเรย์?”
                    แป๊บนะ อืม...” เรย์พูดพลางกวาดสายตาไปทั่วทั้งแผนที่ที่แจกบริเวณหน้าอาคาร
                    โฮมรูมทุกห้องจะอยู่ชั้นสอง ชั้นสามเป็นห้องแล็บวิทย์ ชั้นสี่เป็นซาวนด์แล็บของภาษาต่างประเทศ ชั้นห้าเป็นบริเวณพักผ่อนของมาสเตอร์ส่วนชั้นหกเป็นห้องทำงานของมาสเตอร์เกรดสิบ” เรย์ร่ายยาว
                    อะไรมันจะเว่อร์ขนาดนี้เนี่ย ตอนอยู่โรงเรียนเก่าไม่เห็นมีงี้เลยอ่ะ
                    น่าสงสารพวกมาสเตอร์เนอะ อยู่ตั้งชั้นหก เดินกันขาลากแน่ๆ เพราะมีแต่บันได”
                    ไม่หรอก ทุกๆ ชั้นจะมีลิฟต์สำหรับพวกมาสเตอร์ใช้อ่ะ” เรย์แก้
                    ดีว่ะ”
                    รู้สึกโลกเริ่มเอียงไปทางฝั่งมาสเตอร์แล้วนะเนี่ย =^=
                    เราจะไปกันยัง ต้องไปโฮมรูมก่อนนะ”
                    อืม ไปๆ” ฉันเดินตามเรย์ไปยังบันไดเวียน
                    “เกรดสิบห้องเอชถึงเอฟจะวนในทิศตามเข็มนาฬิกา เพราะฉะนั้นห้องเอชของเราจะอยู่ตรงนี้” เรย์ชี้ไปที่ประตูไม้บานใหญ่ที่มีตัวหนังสือสลักว่าเกรดสิบเอช (มาจาก Honor)
                    โอเค งั้นเราเข้าไปกัน” ฉันกึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนซี้เข้าไปในห้องเรียน
                    ภายในห้องเรียนซึ่งทำด้วยไม้ทั้งหมดมีโต๊ะไม้ยาวขนาดสิบคนนั่งเรียงซ้อนกันขึ้นไปเป็นขั้นบันได ด้านตรงข้ามเป็นกระดานดำขนาดใหญ่และบอร์ดขนาดเล็กติดอยู่คู่กัน ซ้ายมือติดกับประตูมีชั้นวางรองเท้าตั้งอยู่ด้วย
                    สมกับเป็นโรงเรียนของแม่พี่ลินเลยอ่ะ รสนิยมหรูเป็นบ้า”
                    จะชื่นชมอีกนานมั้ยเจ๊ คนอื่นเค้าจองที่นั่งกันหมดแล้วนะ -_-” เรย์บ่น
                    เออน่า แกจะนั่งไหนอ่ะ นำดิ”
                    เรย์เดินไปยังที่นั่งแถวกลางๆ ซึ่งมีเด็กผู้หญิงนั่งอยู่สองคน
                    นั่งด้วยได้มั้ยครับ คือที่อื่นมันเต็มหมดแล้ว”
                    ผู้หญิงคนซ้ายมือเงยหน้ามองเรย์นิดนึงแล้วก็พยักหน้า
                    แต่ช่วยนั่งริมด้วยนะ เดี๋ยวเพื่อนฉันจะมานั่งอีกสองคน”
                    ได้ครับ” เรย์ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ด้านนอกสุดแล้วให้ฉันนั่งถัดไปด้านใน เก้าอี้ทางด้านซ้ายของฉันจึงว่างอยู่สองตัว ถัดไปก็เป็นผู้หญิงคนเมื่อกี้พอดี
                    ทางนี้แองเจิ้ล” ผู้หญิงคนนั้นเรียกเพื่อนสาวอีกคนที่กำลังเดินเข้ามา เธอจึงมานั่งติดกับฉัน ส่วนอีกที่ก็มีผู้หญิงตัวเล็กอีกคนที่ตามแองเจิ้ลมานั่ง
                    หวัดดีจ้า” แองเจิ้ลเริ่มเปิดบทสนทนากับฉัน
                    เอ่อ...จ้ะ ฉันอีสนะ เธอแองเจิ้ลใช่มะ?”
                    อือ ฉันจะแนะนำเพื่อนๆ ให้นะ นี่คาราเมล ถัดไปคือมูน คนสุดท้ายคือเกี๊ยวจ้า”
                    อ๋อๆ ดีจ้ะ ฉันชื่ออีสนะ ^_^” ฉันยิ้มให้ทุกๆ คน
                    แล้วนั่นเพื่อนหรออีส” แองเจิ้ลชี้ไปทางเรย์ที่กำลังคุยกับเพื่อนผู้ชายอีกสองคน
                    อ้ะ นั่นมัน...
                    ไอ้ไดจิ ไอ้เบส!!” ฉันเรียก
                    ลืมไปเลยว่าพวกมันอยู่ห้องนี้ด้วย
                    พวกตัวประกอบก็เงี้ยแหละ หุๆ >.,<
                    อ้าว อาซ้อ อาเฮีย อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ” ไดจิ ลูกครึ่งญี่ปุ่นสุดหล่อลากตับไตใส้ม้ามแซว (คือจะบอกว่าหล่อแบบไม่เกรงใจใคร)
                    ป้าบ!!!
                    ฉันยืดมือไปตบหัวไอ้ไดจิด้วยแรงเท่าที่ผู้หญิงบอบบางแบบฉัน (หรอ?) จะทำไหว
                    โหยเจ็บนะซ้อ ตีคนน่ารักๆ อย่างไดจิได้ลงคอ ซ้ออ่ะ ใจร้ายที่สุด T^T”
                    หยุดกระแดะเลยนะไอ้ไดจิ แล้วถ้าแกยังเรียกฉันว่าซ้ออีกล่ะก็...ก็ได้ไปมีทแอนด์กรี๊ดกับยมบาลที่โลกหน้าแน่ๆ เข้าใจ๋...?”
                    แหะๆ คร้าบผม! T_T)\” นายไดจิยังมิวายตะเบ๊ะให้ฉันอีกที
                    เออใช่ แองเจิ้ลแล้วก็ทุกๆ คน นี่คือเรย์ ส่วนคนที่ฉันแพ่นกบาลไปก็คือไอ้ไดจิ ส่วนไอ้ครึ่งผีครึ่งคนที่กำลังจะถูกแพ่นกบาลเป็นรายต่อไปคือไอ้เบสจ้ะ”
                    ดีๆ เราคาราเมลนะ นี่มูนแล้วก็เกี๊ยวนะ” คราวนี้คาราเมลเป็นคนแนะนำบ้าง
                    โห...ชื่อก็น่ารัก หน้าตายิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ คาราเมลคนสวย คุณคือคู่แท้ของผม โอ้ว พระเจ้า เธอเกิดมาเพื่อผมจริงๆ ครับ *O*” นายเบสจอมเว่อร์สบสายตาปิ๊งๆ แบบนางเอกในหนังเกาหลีเจอพระเอกเป็นครั้งแรกไปให้คาราเมลที่ยิ้มเจื่อนๆ อยู่
                    พอเลยไอ้เบส หูดำแล้วมึง เมื่ออาทิตย์ก่อนยังจีบเด็กในเอ็มอยู่เลยนะมึง อย่านึกว่ากูไม่รู้ -_-^” เรย์ปราม
                    ก็ได้ ไว้คุยกันใหม่นะครับสาวๆ ^^” ไดจิยิ้มหวานอวดฟันขาวสะอาดของมัน
                    ไปก่อนนะจ๊ะคาราเมลที่รักของผม จุ๊บๆ เทคแคร์นะตัวเอง อ้อ! ตอนเดินออกจากห้องระวังเหยียบหัวใจผมนะ มันละลายอยู่หน้าประตูตั้งแต่เห็นหน้าเธอแล้วอ่ะครับ >_<”
                    ไม่ต้องบอกคงรู้นะ มีมันคนเดียวแหละไอ้หน้าภาชนะหุงต้มเนี่ย =_=^
                    “เพื่อนๆ อีสเนี่ยกวนๆ ดีเนอะ” มูนออกความเห็น
                    เหอะๆ มีแต่พวกวิตกจริต โรคจิตเกินพรรณนามากกว่านะฉันว่า” ฉันพูด
                    แล้วเพื่อนผู้หญิงล่ะจ๊ะ” เกี๊ยวถาม
                    เอ่อคือ...ไม่มีน่ะจ้ะ”
                     เอ๋...?”
                    ไว้เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังละกัน” ฉันตัดบทเพราะเห็นมาสเตอร์เดินเข้ามาแล้ว
                    แฮ่มๆ นั่งที่ค่ะนั่งที่” ชีเป็นมาสเตอร์สาวสวยยากที่จะคาดเดาอายุได้ ผมที่มัดรวมสูงเป็นหางม้าเหมือนสาวมั่นหัวใจไฟท์ติ้ง (ยังไงของมัน) กับแว่นตากรอบเหลี่ยมสีดำเหมือนคุณป้าวัยหกสิบเก้าที่ดูขัดๆ กันทำให้ชีดูแปลกๆ แต่ยังไงก็ยังดูเนี๊ยบไม่มีที่ติเพื่อนพวกลูกขุนนางชั้นสูงเลยแฮะ
                    ฉันคือมาสเตอร์ชีล่า เป็นโฮมรูมของพวกคุณนะคะ กฎการอยู่รวมกันของฉันคือพวกคุณจะต้องทำตามกฎของโรงเรียนทุกข้อ ห้ามละเมิดแม้แต่ข้อเดียว และที่สำคัญทุกๆ คนจะต้องมีน้ำใจต่อกัน พวกคุณเป็นเด็กหัวดี อย่าให้ใครมาว่าได้ว่าหัวดีแต่เห็นแก่ตัวนะคะ เอาล่ะ มีใครสงสัยอะไรมั้ย”
                    ...”
                    ถ้าไม่มีฉันขอความร่วมมือคุณทุกคนในการเลือกคิงกับควีนของห้องเราด้วย เมื่อเลือกได้แล้วช่วยไปพบฉันที่ห้องทำงานที่ชั้นหกด้วยนะ ส่วนคนอื่นที่เหลือเมื่อได้ยินประกาศเรียกให้ลงไปรวมกันข้างล่างบริเวณที่หน้าอาคารเพื่อพบรุ่นพี่เกรดสิบสองที่จะพาเธอชมโรงเรียน เอาล่ะ ขอให้สามัคคีกันในห้องนะ ฉันขอตัว” มาสเตอร์พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง
                    แล้วใครจะเป็นคิงกับควีนล่ะทีนี้” ฉันพึมพำ
                    คิงกับควีนคือตัวแทนที่เปรียบเหมือนหัวหน้าห้องหญิงชายของแต่ละห้องอ่ะนะ ที่ฉันรู้เพราะตอนอยู่โรงเรียนเก่าฉันได้เป็นควีนมันทุกปีเลยอ่ะ ซวยโคตรๆ เลยขอบอก =O=’
                    “เราชื่อเมย์นะ เอางี้ได้มั้ย ให้ฟีนด์เป็นคิง เพราะตอนอยู่โรงเรียนเก่าฟีนด์เป็นหัวหน้าห้องตลอดเลย” เมย์ เด็กสาวตาคมผมยาวเสนอขึ้นมา
                    เราเคนครับ เราว่าก็น่าจะได้นะ มีความสามารถ เพื่อนคนไหนจะค้านมั้ยครับ...?”
                    ไม่มีใครยกมือ
                    ยกเว้นฉันคนนึง
                    ว่าไง” เมย์ถามตาขวาง
                    เราไม่ได้ค้านอะไรนะแต่แค่อยากรู้ว่าฟีนด์เนี่ยคนไหนหรอ”
                    ก็มันไม่รู้นี่หว่า อยู่ๆ จะให้เลือกคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งหน้าเนี่ยนะ
                    ฉันเอง” เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเอาการ ดวงตาคมตวัดมองฉันแค่แวบเดียวแล้วก็สอดสายตาไปทั่วห้อง
                    ฉันรู้สึกคุ้นๆ กับดวงตาสีชานั่นยังไงก็ไม่รู้ว่ะ
                    ถ้าไม่มีใครค้านก็เลือกควีนเลยเถอะจะได้ไม่เสียเวลา”
                    น้ำเสียงดูมีอำนาจใช้ได้เลยนี่นา ก็คงเก่งพอดูแหละ
                    ฉันเป็นได้มั้ย คือเรามาจากโรงเรียนเดียวกัน จะได้ทำงานร่วมกันได้สะดวก เพื่อนๆ ว่าไงคะ” เมย์ถาม
                    เราขอค้าน” เรย์ยกมือ
                    นาย...”
                    เราชื่อเรย์  เธอเคยเป็นควีนมาก่อนมั้ยล่ะ คิดว่าตัวเองมีความเป็นผู้นำพอเหรอถึงได้เสนอตัวขึ้นมาเองว่าจะเป็นควีน”
                    นายกำลังว่าเราอยู่นะ” เมย์เริ่มออกอาการไม่พอใจ
                    เปล่าซะหน่อย จริงๆ คือเราไม่ได้เห็นว่ามันไม่เหมาะหรืออะไรนะเพราะเรายังไม่เคยเห็นการทำงานของเธอ แต่จุดประสงค์ของมาสเตอร์คือต้องการให้เราสามัคคีกันในห้อง ไม่ใช่ว่าใครมาจากที่ไหนก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอด เราเลยคิดว่าเราขอเสนออีสเพื่อนเราเพราะอีสเคยเรียนโรงเรียนข้างๆ มาก่อนแล้วก็ได้เป็นควีนทุกปีตั้งแต่เกรดเจ็ด เธอมีความเป็นผู้นำมากพอสมควร จึงคิดว่าเธอน่าจะเหมาะกว่าครับ” เรย์บรรยายสรรพคุณฉันซะเสร็จสรรพก่อนที่จะทันได้ห้าม
                    ไอ้บ้าเอ๊ย! เป็นมาสามปีแล้วยังไม่สะใจแกหรือไงวะไอ้เรย์บ้า~” ฉันพูด (ด้วยเสียงกระซิบ)
                    เหอะน่า แกก็ทำหน้าที่ได้ดีออก”
                    แกไม่ได้เป็นเองจะรู้อาร้ายยย!
                    ช่วยยืนขึ้นด้วย คนที่ชื่ออีสน่ะ” ตาฟีนด์พูดพลางหันมาถางฉัน
                    อ่ะ...จ้ะๆ” ฉันรีบยืนขึ้นแล้วแจกยิ้มให้เพื่อนๆ
                    ว่าแต่หมอนี่รู้ได้ไงฟระว่าฉันชื่ออีส แถมฉันยังรู้สึกคุ้นๆ หน้าฟีนด์มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
                    ดีจ้ะ เราอีสเองจ้ะ”
                    งั้นถ้าให้อีสเป็นมีใครค้านหรือเปล่า” ฟีนด์ถาม
                    ...”
                    โอเค ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็รอฟังประกาศเรียกก็แล้วกัน ฉันกับอีสขอตัวไปพบมาสเตอร์ก่อนนะ” ฟีนด์พูดพลางเก็บกระเป๋า ฉันจึงเก็บสมบัติบ้าของฉันบ้าง
                    ดีใจด้วยนะที่ได้เป็นน่ะ” คาราเมลยิ้มหวานให้
                    นี่ถ้าไอ้เบสมาเห็นมัน0tเชือดคอฉันมั้ยเนี่ยคะคุณๆ ทั้งหลาย =_=^
                    “งั้นฉันไปก่อนนะ” ฉันหันไปบอกเรย์
                    เออๆ”
                    ฉันเดินตามนายฟีนด์ออกมาหน้าห้องแล้วตรงไปยังบันไดเวียน
                    นี่เราต้อง ‘เดิน’ จากชั้นสองไปชั้นหกหรอเนี่ย”
                    อย่าบ่นมากเลยน่า แค่สี่ชั้นเอง จิ๊บๆ” ตาฟีนด์ทำหน้าประมาณว่าแค่นี้ชิลๆ
                    แล้วไอ้มาดขรึมเมื่อกี้มันหายไปไหนหมดเนี่ย =O=’
                    “หน้าฉันมีอะไรผิดปกติหรือไง?”
                    เปล่านี่ ตาสอง หูสอง จมูกกับปากอีกอย่างละหนึ่ง ครบพอดีทุกอย่างไม่ขาดไม่เกิน นายไม่เคยส่องกระจกหรือไงถึงได้มาถามว่ามีอะไรผิดปกติบนหน้าหรือเปล่าน่ะ =3=;”
                    นายฟีนด์เอามือตบหน้าผากตัวเองดังป้าบหนึ่งที
                    เจ็บมั้ยนั่น ถามหน่อย =..=
                    ฉันหมายความว่าเธอจะจ้องหน้าฉันทำไมในเมื่อมันปกติดีทุกอย่างน่ะ เก็ทมะ”
                    อ๋อๆ โทษที ฉันแค่รู้สึกว่าหน้านายคุ้นๆ เหมือนจะเคยเห็น แต่ฉันจำไม่ได้อ่ะ” ฉันตอบไปตามจริง
                    แต่ฉันไม่เคยเห็นเธอเลยนะ”
                    เหรอ งั้นคงเป็นคนที่หน้าเหมือนๆ กันล่ะมั้ง” ฉันพึมพำ
                    ไม่มีทาง หล่อๆ อย่างงี้มีคนเดียวเฟร้ย!”
                    เหอะๆ หลงตัวเองจริงพ่อคุณ ฉันว่าตาเรย์ยังหล่อกว่าอีก =_=^” ฉันมองหน้าอีตาขี้เก๊กอีกทีอย่างพิจารณา
                    รูปร่างสูงโปร่ง (สูงกว่าเรย์ซักห้าหกเซนต์) หุ่นอย่างกับนายแบบที่ถ่ายนู้ดในแมกกาซีน >.,< (ตาเรย์ก็เหมือนกัน) ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับผมที่ซอยไล่ลงมาจนระต้นคอสีดำสนิทชิดเชื้อ (เรย์ก็ทำทรงเดียวกันแต่เป็นสีน้ำตาลอ่อนคล้ายๆ สีผมของฉัน) ดวงตาสีชาที่มองยังไงๆ ก็ยิ่งรู้สึกคุ้น (ต่างกับตาสีน้ำตาลไหม้ของเรย์ที่ฉันเห็นมาตลอดสิบกว่าปี) จมูกโด่งกับริมฝีปากบางสีชมพูสดยังกับผู้หญิง ผิวขาวเว่อร์ๆ เหมือนคนขี้โรคต่างกับเรย์ตรงที่หมอนั่นผิวอมชมพูดูมีเลือดฝาดเพราะใช้บีโอเร -.,-
                    ว้าก! แล้วนี่ฉันมาพล่ามเปรียบเทียบหมอนี่กับเพื่อนซี้ฉันได้ไงวะเนี่ย แถมยังมีบีโอเรมาเกี่ยวข้องด้วยอีก นี่มันนอกบทแล้ว
                    กลับสู่ปัจจุบัน ณ บัดนาว!!!!!!
                    เรย์!?! อ๋อ! เพื่อนเธอคนเมื่อกี้อ่ะนะ”
                    อืมๆ ใช่”
                    ฉันว่าฉันหล่อกว่า” ฟีนด์ยังไม่ยอมแพ้
                    “ว่าแต่นายรู้ได้ไงอ่ะว่าฉันชื่ออีสในเมื่อเราไม่รู้จักกัน” ฉันถาม นั่นทำให้เขาหันมามองฉันประมาณว่าเธอนี่โง่จริงๆ เลย
                    เซ้นส์คนหล่อบอกมั้ง ฮ่าๆ”
                    =_____=^
                    เอาเถอะ ไร้สาระมากไปแล้ว ฉันว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า”
                    เธอจะคุยเรื่องไรล่ะ”
                    ก็อย่างเช่น...อืม คนที่ชื่อเมย์อ่ะ เค้านิสัยเป็นไงเหรอ ดูท่าเค้าจะสนิทกับนายนี่นา ฉันว่าเค้าแปลกแปล๊กแปลก =_=^”
                    ดูคล้ายเปียโนอย่างมากถึงมากที่สุด ประมาณแปดสิบเก้าจุดเจ็ดห้าหกสี่เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้ หุๆ คำนวณกันเป็นเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เก่งไม่เบาเลยฉัน >.< (ภูมิใจมากมั้ยนั่น -_-)
                    ยัยเมย์หรอ...? เค้าเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กๆ ของฉันน่ะ อืม จะว่าไงดีล่ะ ฉันว่ายัยนั่นก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาๆ ทั่วไปแหละ ชอบช้อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลงอ่านนิตยสารไม่ประเทืองปัญญา ชอบกระเป๋าหรือไม่ก็รองเท้าสวยๆ ที่ฉันมองว่ามันเห่ยจะตาย เมย์ก็เหมือนเธอนั่นแหละน่า”
                    เชื่อขนมกินได้เลยว่าไม่เหมือน”
                    ทำไมคิดงั้นล่ะ?”
                    ก็ตรงที่ฉันไม่ชอบชอปปิ้ง ชอบฟังเพลงแต่ไม่ชอบดูหนังกับอ่านนิตยสารไม่ประเทืองปัญญา แล้วก็ไม่ชอบกระเป๋ากับรองเท้าหญิงๆ ด้วย”
                    อีกอย่างที่ไม่เหมือนคือเมย์น่าจะมีเพื่อนผู้หญิงล่ะนะฉันว่า =..=
                    เหรอ นี่อีส”
                    หืม...?”
                    เธอเคยเป็นควีนใช่ป้ะ แล้วคิงกับควีนเนี่ยต้องทำไรบ้างอ่ะ” ฟีนด์ถาม
                    ก็ประมาณว่าเวลามาสเตอร์สั่งงานเราก็จะมีหน้าที่รวบรวมงานไปส่ง เวลาโรงเรียนมีข่าวประชาสัมพันธ์มาถึงนักเรียนเราก็ต้องเข้าประชุมพร้อมคิงกะควีนห้องอื่นแล้วก็ไปขยายให้เพื่อนในห้องฟัง อะไรเทือกๆ เนี้ยแหละ”
                    “อ๋อ เข้าใจล่ะ”
                    นี่ฟีนด์ ฉันขอถามอะไรอย่างได้ป้ะ”
                    ฟีนด์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
                    ทำไมตอนแรกนายต้องทำตัวขรึมๆ ด้วยอ่ะ พอมาพูดกับฉันล่ะหลุดเก๊กเลย”
                    อ๋อ ฉันรำคาญพวกผู้หญิงอ่ะ ตั้งแต่เดินเข้ามาก็กรี๊ดๆ กันไม่ได้หยุด เจอยัยเมย์คนเดียวนี่ก็เหลือรับแล้ว แต่ดูเธอไม่เหมือนแม่พวกนั้นนี่ฉันเลยคุยแบบธรรมดาๆ”
                    อือ ตอนนายทำหน้าขรึมๆ แบบนั้นอ่ะโคตรน่ากลัวเลย สุดสยองพองขน อึ๋ย~” ฉันทำหน้าขยะแขยงไปตามประสา
                    แปลกจริงๆ ที่ฉันรู้สึกคุ้นหน้าฟีนด์ชะมัด
                    เว่อร์ไปมั้งเธอ -_-^”
                    เค้าล่อเล่นหรอก อ๊ะ! ถึงห้องมาสเตอร์ชีล่าพอดีเลย”
                    อืม เดินคุยจนลืมเลยนะเนี่ย” ฟีนด์พูดพลางผลักประตูเข้าไป
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×