ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นำเรื่อง(100เปอร์)
นำเรื่อง
แสงแดดในยามเช้าลอดเข้ามาในห้องนอนของใครบางคน และปลุกเจ้าของห้องให้ตื่นขึ้นจากห้วงแห่งนิทรา ร่างบอบบางขยี้ตาปรือๆเกือบจะปิดเบาๆ ส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปหยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมาดูก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 8 นาฬิกา 30 นาที เท่านั้นเอง ร่างบางก็ต้องเด้งลุกขึ้นจากเตียงนอนไปปลุกอีกคนให้ตื่นขึ้นมาบ้าง ไม่อย่างนั้นจะต้องเป็นอันสายกันทั้งบ้านอย่างแน่นอน
"พี่เต้!!...แปดโมงครึ่งแล้ว!!"กำปั้นระดมทุบประตูห้องนอนของพี่ชายจอมขี้เซา คนในห้องเปิดประตูออกมาก็เกือบจะโดนใบหน้าของเขา ชายหนุ่มหน้าหวานกำลังปรือตาคล้ายๆว่าจะหลับอยู่รอมร่อ ดูจะไม่ตื่นตกใจเท่าไรนักกับเวลา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยท่าทางง่วงงุน
พอปลุกคนอื่นเสร็จแล้วก็ต้องไปทำธุระของตัวเองบ้าง ร่างบอบบางวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาอย่างรวดเร็ว แต่มั่นใจว่าสะอาดแน่นอน ร่างที่ดูเล็กกระทัดรัดลื่นลงมาตามราวบันไดเพื่อความรวดเร็ว เป็นความตื่นเต้นที่สุดในตอนนี้ คนตัวเล็กรีบทำอาหารง่ายๆอย่างแซนวิชวางไว้บนโต๊ะ คว้ากระเป๋าสะพายข้างสำหรับผู้ชายแล้ววิ่งออกไปจากบ้านโดยไม่ร่ำลาอีกคนที่อยู่ในบ้านเลยสักนิด
ฝุ่นจากพื้นดินคละคลุ้งไปทั่วเมื่อร่างบอบบางวิ่้งไป มือบางกระชับสายของกระเป๋าเอาไว้แน่น ในนั้นอัดแน่นไปด้วยงานและสมุดหนึ่งเล่ม ไม่รู้ว่ามันคืออะไรไม่มีใครเคยได้ดูเลยแม้แต่น้อย ร่างที่ไม่น่าจะว่องไวกลับแทรกตัววิ่งตามกลุ่มผู้คนราวกับว่าเป็นนินจาตามการ์ตูนทั่วไป
ฝีเท้าคู่เล็กมาหยุด ณ ตึกสูงแห่งหนึ่ง คนตัวเล็กหอบหายใจถี่ๆ เงยหน้ามองตึกสูง เหงื่อเม็ดโตๆไหลหยดลงมาถึงคาง รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นที่ริมฝีปากของร่างนั้น เขี้ยวคู่เล็กๆปรากฏที่มุมปากของเธอ ดูมีเสน่ห์และดูเจ้าเล่ห์ไปในเวลาเดียวกัน ร่างเล็กก้าวเข้าไปในตึกพร้อมตอกบัตรเข้าทำงาน เหลียวมองนาฬิกาที่บอกเวลา 8.50 น. เป็นการมาที่เร็วมากหากตื่นตอน 8.30 น.
"เซฟ" หมายถึงรักษาชีวิตตัวเองไปได้อีกหนึ่งมื้อ
"โห...มาเช้ากับเขาได้ด้วยหรือ...ชายน์"น้ำเสียงแหลมหวานดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวที่ตัวสูงกว่าคนมากเกือบสาย สวมเดรสสีทรายสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดสีดำเส้นโตคาด ผมย้อมสีทองแดงดัดเป็นลอนคลอเคลียอยู่ที่ไหล่ มือข้างหนึ่งถือแฟ้มเอกสารเล่มโตหลายเล่มส่วนอีกข้างพยายามจะกดปุ่มที่ลิฟต์แต่ก็ต้องมาประคองแฟ้มก่อนที่มันจะตก ทำให้ไม่สามารถกดได้เสียที
"ให้ผมช่วยนะฮะ...คุณเจนนี่"ร่างเล็กหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินมาถือแฟ้มพร้อมๆกับกดปุ่มขึ้นให้กับหญิงสาวคนนี้
"ขอบใจ...สุภาพบุรุษเหลือเกินนะ...แบบนี้จะมีหนุ่มมาจีบเหรอ"เจนนี่มองอย่างงงๆ เพราะว่าคนตัวเล็กสวมหมวกแค็บและม้วนผมที่ยาวถึงกลางหลังเก็บเข้าไป สวมเสื้อยืดสีดำสนิทตัวโคร่งที่คาดว่าน่าจะเป็นของเต้มากกว่า กับกางเกงยีนส์สีซีดๆที่ปลายขาเริ่มจะรุ่งริ่งเพราะว่าเกิดจากการเสียดสีกับพื้นถนน
"ก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วนี่ครับ"คนตัวเล็กกว่าเลิกคิ้ว เสียงของลิฟต์ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าได้ถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ชายน์เองก็ทำงานอยู่ชั้นนี้ด้วยเช่นกัน ชั้นสูงสุดของบริษัทแห่งนี้ "ให้วางไว้ตรงไหนดี"
"วางนี่ๆ"เจนนี่ชี้ไปที่โต๊ะของตัวเองซึ่งอยู่หน้าประตูห้องของผู้บริหาร ชายน์ทำตามแต่โดยดี ก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน แล้วเริ่มที่จะเหม่อโดยการควงปากกาเล่นอย่างชำนาญ เท่านั้นเองเศษกระดาษจากโต๊ะของเลขานุการสาวก็ลอยหวือมาปะทะกับศรีษะทันที
"ไม่ได้แอ้มหรอกครับ...คุณเจนนี่"หญิงสาวยิ้มเพล่พลางคว้าก้อนกระดาษที่ดูเหมือนข้างในจะยัดไส้อะไรบางอย่างหนักๆไว้ โดนทีคงสลบเห็นดาวเป็นแน่ คนตัวเล็กกว่าแกะออกมาก็พบกับก้อนเหล็กที่ไม่รู้ว่าแม่เจ้าประคุณไปหามาจากไหน เท่านั้นเองเธอก็ต้องรีบนั่งพิมพ์งานทันที ไม่อู้อีกแล้ว
การทำงานดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงเสียงเคาะระรัวแป้นพิมพ์และเสียงกดเมาส์ดังมาเป็นระยะๆจากคอมพิวเตอร์ของทั้งสองคน ความเงียบแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่ไม่น่าอึดอัด เสียงของเครื่องปรับอากาศที่เปิดโดยอัตโนมัติดังออกมาเมื่อคนในบริษัทเริ่มมีจำนวนมากขึ้น หลายคนเดินผ่านโต๊ะของทั้งคู่ไป มีเสียงทักเลขาสาวประจำหน้าห้องของผู้จัดการใหญ่เป็นครั้งคราว และมักจะมีเสียงบิดขี้เกียจจากคนชอบอู้มาด้วย
"นี่...เย็นนี้ไปกับฉันมั้ย...ชายน์"จู่ๆเจนนี่ก็เปรยขึ้น เธอละใบหน้าออกห่างจากคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองพิมพ์งานอยู่ เพื่อมองคนตัวเล็กที่กำลัง...หลับ
"ยัยบ้า...ตื่นเดี๋ยวนี้นะยะ...หลับในเวลางานได้ไง"เจนนี่ตวาดเสียงแหลมลั่นแผนกจนทุกคนสะดุ้งหันไปมอง แต่ไอ้คนหลับก็ยังคงหลับต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ท่าทางคงจะหลับลึก และเลขาสาวคงต้องใช้มุขเดิมถึงมันจะทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลก็ตามทีเถอะ ไม่อย่างนั้นแล้วก็คงไม่หลาบจำ หลับประจำรายนี้
กระดาษยู่ยี่ลอยหวือไปแทนที่จะกระแทกหัวของคนหลับแต่กลับเข้าไปอยู่ในอุ้งมือของใครบางคน ชายร่างสูงเรือนผมสีดำสนิทซอยรากไทร ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบใต้แว่นทรงรีกรอบบาง ยืนอยู่ข้างๆร่างที่กำลังหลับ เขาโยนมันขึ้นลงให้ตกอยู่ในอุ้งมือของตัวเองราวกับกำลังชั่งน้ำหนัก
"แหะๆ...พี่เทพ"เจนนี่ยิ้มแหยๆ เอ่ยชื่อคนที่เป็นทั้งพี่ชายและเป็นทั้งเจ้านายออกมา เหงื่อเริ่มไหลเพราะรู้สึกถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างสูง ดวงตาคมกริบของเทพนั้นชำเลืองมองไปยังคนที่กำลังหลับ
"เหล็กก้อนนี้น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม หัวแตกเลยเจนนี่...ถึงยังไงชายน์เขาก็เป็น..."
"คู่หมั้นของพี่เทพ...ค่ะ ไม่รุนแรงก็ได้"ก้อนเหล็กเหล่านี้เจนนี้เอาไว้ถ่วงขาเวลาวิ่งออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มีหลายก้อนเพราะว่าเธอชอบทำหาย จริงๆแล้วก้อนหนึ่งไม่ถึง 1 กิโลกรัมด้วยซ้ำ แต่พอมารัดหนังยางแล้วละก็เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวได้อย่างหนึ่งเลยทีเดียว แต่สาวเจ้ามักจะเอาไปใช้วานผิดประเภทอยู่เรื่อยคือเอาไปเป็นเครื่องเตือนสติ(ออกแนวจะเอาให้ตายมากกว่า)ของคนที่ชอบหลับในเวลางานเป็นประจำ
"พี่จัดการเอง...หากใครหลับในเวลางาน...ผมจะหักเงินเดือน"เท่านั้นเองคนหลับก็เด้งลุกขึ้นมาทำงานราวกับเป็นระบบอัตโนมัติ
"ดีครับ"พูดจบก็เดินเข้าไปในห้อง
"เฮอะ...น่าเบื่อชะมัด...วันๆเอาแต่ทำงาน...ทำไมไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นบ้างนะ" หญิงสาวที่อยู่ในคราบชายหนุ่มนั่งเก้าอี้สองขา หมุนปากกาอย่างเบื่อๆ ชีวิตของเธอนั้นมีช่วงตื่นเต้นแค่ในตอนเช้าก็คือวิ่งมาทำงานให้ทันเท่านั้น นอกจากนั้นเธอก็เทียวไปเทียวมาอยู่แค่ไม่กี่ที่ นั่นก็คือที่ทำงาน บ้านและซูเปอร์มาเกตเท่านั้น ไม่มีโอกาสที่จะไปในสถานที่อื่นบ้างเลย
"บ่นไปก็เท่านั้น...ทำไงได้...ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายสักหน่อย"เจนนี่โผล่หน้ามาจากข้างจอคอมพิวเตอร์ เท่านั้นเองร่างเล็กก็แทบเซตกเก้าอี้
"ให้ตายเหอะ...มันจะมีอะไรสุดยอดไปกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย"เธอดันลืมกดเซฟงานต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด แต่ดีที่มีเพียงเล็กน้อย งานเพิ่งถูกสั่ง ทำไปไม่ถึงครึ่ง และสุดท้ายเธออู้งานเพิ่งมาปั่นก่อนเลิกงานเค่ 10 นาทีก่อนที่เทพจะมาตรวจงาน เนื่องด้วยความพิมพ์ที่เร็วขั้นสุดยอดจนทุกคนแทบอึ้งทำให้เธอนั้นไม่ถูกเขาว่าอะไร แต่เธอนั้นสะเพร่าไม่ได้เซฟงานไว้ ทำให้ต้องพิมพ์ใหม่หมดเลย
"ฮ่าๆๆๆ...ลืมเซฟอีกแล้วรึ"เจนนี่หัวเราะ อีกฝ่ายรีบเอานิ้วชี้แนบริมฝีปาก กลัวว่าคนในห้องจะรู้แล้วออกมาว่าเธออีก เธอลืมหลายครั้งแล้วด้วย
"ชายนิ่งครับหากงานไม่เกินครึ่งภายในวันนี้ผมกับคุณอยู่โอทีจนเช้าๆแน่ๆครับ!!"เสียงในห้องผู้บริหารดังออกมา ทำให้หญิงสาวร่างเล็กตาลิตาเหลือกพิมพ์คอมอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวกดระรัวลงบนแป้นพิมพ์อย่างเร็วยิ่งกว่าพวกเด็กติดเกมส์ที่เขาว่าพิมพ์เร็วแล้ว การที่ได้อยู่กับคู่หมั้น สองต่อสองไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก ไม่ใช่เรื่องหวานๆ แต่เป็นเรื่องที่เธอจะเป็นศพตายคามือเขาเสียมากกว่า เธอยกมือลูบลำคอของตัวเองอย่างหวาดเสียว ตายแน่ๆหากอยู่กับเขาสองคน เขาได้สับเธอแล้วกดลงชักโครกเป็นแน่ เธอกลืนน้ำลายเฮือก
"ฮ่าๆๆๆ...พี่เทพน่ากลัวมากเลยหรือ"เจนนี่หัวเราะออกมา เธอยังไม่เคยเห็นว่าพี่ชายเธอน่ากลัวสักครั้งเลย ที่ทำไปก็แค่ขู่เฉยๆ หญิงสาวสุดห้าวประจำสำนักงานไม่เห็นจะต้องกลัวจนเร่งรีบเสียขนาดนั้นเลย
"ก็คุณเจนนี่ไม่เคยเจอเจ้านายขู่นี่นา"หญิงสาวโวยวาย อย่างมากก็แค่พูดเสียงเรียบๆกับน้องสาวของตัวเอง "สองมาตรฐาน"เธอบ่นออกมาเบาๆ ใบหน้าของเธอบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ เจนนี่เห็นดังนั้นจึงไม่ชวนคุยต่อแล้วก็ลงมือทำงานของตัวเอง
...หนึ่งวันในหนึ่งปี...
...คำพูดของหญิงสาวสำนักงาน...
...กำลังจะเป็นจริงตามคำขอ!!...
"พี่เต้!!...แปดโมงครึ่งแล้ว!!"กำปั้นระดมทุบประตูห้องนอนของพี่ชายจอมขี้เซา คนในห้องเปิดประตูออกมาก็เกือบจะโดนใบหน้าของเขา ชายหนุ่มหน้าหวานกำลังปรือตาคล้ายๆว่าจะหลับอยู่รอมร่อ ดูจะไม่ตื่นตกใจเท่าไรนักกับเวลา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยท่าทางง่วงงุน
พอปลุกคนอื่นเสร็จแล้วก็ต้องไปทำธุระของตัวเองบ้าง ร่างบอบบางวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาอย่างรวดเร็ว แต่มั่นใจว่าสะอาดแน่นอน ร่างที่ดูเล็กกระทัดรัดลื่นลงมาตามราวบันไดเพื่อความรวดเร็ว เป็นความตื่นเต้นที่สุดในตอนนี้ คนตัวเล็กรีบทำอาหารง่ายๆอย่างแซนวิชวางไว้บนโต๊ะ คว้ากระเป๋าสะพายข้างสำหรับผู้ชายแล้ววิ่งออกไปจากบ้านโดยไม่ร่ำลาอีกคนที่อยู่ในบ้านเลยสักนิด
ฝุ่นจากพื้นดินคละคลุ้งไปทั่วเมื่อร่างบอบบางวิ่้งไป มือบางกระชับสายของกระเป๋าเอาไว้แน่น ในนั้นอัดแน่นไปด้วยงานและสมุดหนึ่งเล่ม ไม่รู้ว่ามันคืออะไรไม่มีใครเคยได้ดูเลยแม้แต่น้อย ร่างที่ไม่น่าจะว่องไวกลับแทรกตัววิ่งตามกลุ่มผู้คนราวกับว่าเป็นนินจาตามการ์ตูนทั่วไป
ฝีเท้าคู่เล็กมาหยุด ณ ตึกสูงแห่งหนึ่ง คนตัวเล็กหอบหายใจถี่ๆ เงยหน้ามองตึกสูง เหงื่อเม็ดโตๆไหลหยดลงมาถึงคาง รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นที่ริมฝีปากของร่างนั้น เขี้ยวคู่เล็กๆปรากฏที่มุมปากของเธอ ดูมีเสน่ห์และดูเจ้าเล่ห์ไปในเวลาเดียวกัน ร่างเล็กก้าวเข้าไปในตึกพร้อมตอกบัตรเข้าทำงาน เหลียวมองนาฬิกาที่บอกเวลา 8.50 น. เป็นการมาที่เร็วมากหากตื่นตอน 8.30 น.
"เซฟ" หมายถึงรักษาชีวิตตัวเองไปได้อีกหนึ่งมื้อ
"โห...มาเช้ากับเขาได้ด้วยหรือ...ชายน์"น้ำเสียงแหลมหวานดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวที่ตัวสูงกว่าคนมากเกือบสาย สวมเดรสสีทรายสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดสีดำเส้นโตคาด ผมย้อมสีทองแดงดัดเป็นลอนคลอเคลียอยู่ที่ไหล่ มือข้างหนึ่งถือแฟ้มเอกสารเล่มโตหลายเล่มส่วนอีกข้างพยายามจะกดปุ่มที่ลิฟต์แต่ก็ต้องมาประคองแฟ้มก่อนที่มันจะตก ทำให้ไม่สามารถกดได้เสียที
"ให้ผมช่วยนะฮะ...คุณเจนนี่"ร่างเล็กหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินมาถือแฟ้มพร้อมๆกับกดปุ่มขึ้นให้กับหญิงสาวคนนี้
"ขอบใจ...สุภาพบุรุษเหลือเกินนะ...แบบนี้จะมีหนุ่มมาจีบเหรอ"เจนนี่มองอย่างงงๆ เพราะว่าคนตัวเล็กสวมหมวกแค็บและม้วนผมที่ยาวถึงกลางหลังเก็บเข้าไป สวมเสื้อยืดสีดำสนิทตัวโคร่งที่คาดว่าน่าจะเป็นของเต้มากกว่า กับกางเกงยีนส์สีซีดๆที่ปลายขาเริ่มจะรุ่งริ่งเพราะว่าเกิดจากการเสียดสีกับพื้นถนน
"ก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วนี่ครับ"คนตัวเล็กกว่าเลิกคิ้ว เสียงของลิฟต์ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าได้ถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ชายน์เองก็ทำงานอยู่ชั้นนี้ด้วยเช่นกัน ชั้นสูงสุดของบริษัทแห่งนี้ "ให้วางไว้ตรงไหนดี"
"วางนี่ๆ"เจนนี่ชี้ไปที่โต๊ะของตัวเองซึ่งอยู่หน้าประตูห้องของผู้บริหาร ชายน์ทำตามแต่โดยดี ก่อนจะไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน แล้วเริ่มที่จะเหม่อโดยการควงปากกาเล่นอย่างชำนาญ เท่านั้นเองเศษกระดาษจากโต๊ะของเลขานุการสาวก็ลอยหวือมาปะทะกับศรีษะทันที
"ไม่ได้แอ้มหรอกครับ...คุณเจนนี่"หญิงสาวยิ้มเพล่พลางคว้าก้อนกระดาษที่ดูเหมือนข้างในจะยัดไส้อะไรบางอย่างหนักๆไว้ โดนทีคงสลบเห็นดาวเป็นแน่ คนตัวเล็กกว่าแกะออกมาก็พบกับก้อนเหล็กที่ไม่รู้ว่าแม่เจ้าประคุณไปหามาจากไหน เท่านั้นเองเธอก็ต้องรีบนั่งพิมพ์งานทันที ไม่อู้อีกแล้ว
การทำงานดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงเสียงเคาะระรัวแป้นพิมพ์และเสียงกดเมาส์ดังมาเป็นระยะๆจากคอมพิวเตอร์ของทั้งสองคน ความเงียบแผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่ไม่น่าอึดอัด เสียงของเครื่องปรับอากาศที่เปิดโดยอัตโนมัติดังออกมาเมื่อคนในบริษัทเริ่มมีจำนวนมากขึ้น หลายคนเดินผ่านโต๊ะของทั้งคู่ไป มีเสียงทักเลขาสาวประจำหน้าห้องของผู้จัดการใหญ่เป็นครั้งคราว และมักจะมีเสียงบิดขี้เกียจจากคนชอบอู้มาด้วย
"นี่...เย็นนี้ไปกับฉันมั้ย...ชายน์"จู่ๆเจนนี่ก็เปรยขึ้น เธอละใบหน้าออกห่างจากคอมพิวเตอร์ที่ตัวเองพิมพ์งานอยู่ เพื่อมองคนตัวเล็กที่กำลัง...หลับ
"ยัยบ้า...ตื่นเดี๋ยวนี้นะยะ...หลับในเวลางานได้ไง"เจนนี่ตวาดเสียงแหลมลั่นแผนกจนทุกคนสะดุ้งหันไปมอง แต่ไอ้คนหลับก็ยังคงหลับต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ท่าทางคงจะหลับลึก และเลขาสาวคงต้องใช้มุขเดิมถึงมันจะทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลก็ตามทีเถอะ ไม่อย่างนั้นแล้วก็คงไม่หลาบจำ หลับประจำรายนี้
กระดาษยู่ยี่ลอยหวือไปแทนที่จะกระแทกหัวของคนหลับแต่กลับเข้าไปอยู่ในอุ้งมือของใครบางคน ชายร่างสูงเรือนผมสีดำสนิทซอยรากไทร ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบใต้แว่นทรงรีกรอบบาง ยืนอยู่ข้างๆร่างที่กำลังหลับ เขาโยนมันขึ้นลงให้ตกอยู่ในอุ้งมือของตัวเองราวกับกำลังชั่งน้ำหนัก
"แหะๆ...พี่เทพ"เจนนี่ยิ้มแหยๆ เอ่ยชื่อคนที่เป็นทั้งพี่ชายและเป็นทั้งเจ้านายออกมา เหงื่อเริ่มไหลเพราะรู้สึกถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างสูง ดวงตาคมกริบของเทพนั้นชำเลืองมองไปยังคนที่กำลังหลับ
"เหล็กก้อนนี้น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม หัวแตกเลยเจนนี่...ถึงยังไงชายน์เขาก็เป็น..."
"คู่หมั้นของพี่เทพ...ค่ะ ไม่รุนแรงก็ได้"ก้อนเหล็กเหล่านี้เจนนี้เอาไว้ถ่วงขาเวลาวิ่งออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มีหลายก้อนเพราะว่าเธอชอบทำหาย จริงๆแล้วก้อนหนึ่งไม่ถึง 1 กิโลกรัมด้วยซ้ำ แต่พอมารัดหนังยางแล้วละก็เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวได้อย่างหนึ่งเลยทีเดียว แต่สาวเจ้ามักจะเอาไปใช้วานผิดประเภทอยู่เรื่อยคือเอาไปเป็นเครื่องเตือนสติ(ออกแนวจะเอาให้ตายมากกว่า)ของคนที่ชอบหลับในเวลางานเป็นประจำ
"พี่จัดการเอง...หากใครหลับในเวลางาน...ผมจะหักเงินเดือน"เท่านั้นเองคนหลับก็เด้งลุกขึ้นมาทำงานราวกับเป็นระบบอัตโนมัติ
"ดีครับ"พูดจบก็เดินเข้าไปในห้อง
"เฮอะ...น่าเบื่อชะมัด...วันๆเอาแต่ทำงาน...ทำไมไม่มีเรื่องน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นบ้างนะ" หญิงสาวที่อยู่ในคราบชายหนุ่มนั่งเก้าอี้สองขา หมุนปากกาอย่างเบื่อๆ ชีวิตของเธอนั้นมีช่วงตื่นเต้นแค่ในตอนเช้าก็คือวิ่งมาทำงานให้ทันเท่านั้น นอกจากนั้นเธอก็เทียวไปเทียวมาอยู่แค่ไม่กี่ที่ นั่นก็คือที่ทำงาน บ้านและซูเปอร์มาเกตเท่านั้น ไม่มีโอกาสที่จะไปในสถานที่อื่นบ้างเลย
"บ่นไปก็เท่านั้น...ทำไงได้...ชีวิตจริงไม่ใช่นิยายสักหน่อย"เจนนี่โผล่หน้ามาจากข้างจอคอมพิวเตอร์ เท่านั้นเองร่างเล็กก็แทบเซตกเก้าอี้
"ให้ตายเหอะ...มันจะมีอะไรสุดยอดไปกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย"เธอดันลืมกดเซฟงานต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด แต่ดีที่มีเพียงเล็กน้อย งานเพิ่งถูกสั่ง ทำไปไม่ถึงครึ่ง และสุดท้ายเธออู้งานเพิ่งมาปั่นก่อนเลิกงานเค่ 10 นาทีก่อนที่เทพจะมาตรวจงาน เนื่องด้วยความพิมพ์ที่เร็วขั้นสุดยอดจนทุกคนแทบอึ้งทำให้เธอนั้นไม่ถูกเขาว่าอะไร แต่เธอนั้นสะเพร่าไม่ได้เซฟงานไว้ ทำให้ต้องพิมพ์ใหม่หมดเลย
"ฮ่าๆๆๆ...ลืมเซฟอีกแล้วรึ"เจนนี่หัวเราะ อีกฝ่ายรีบเอานิ้วชี้แนบริมฝีปาก กลัวว่าคนในห้องจะรู้แล้วออกมาว่าเธออีก เธอลืมหลายครั้งแล้วด้วย
"ชายนิ่งครับหากงานไม่เกินครึ่งภายในวันนี้ผมกับคุณอยู่โอทีจนเช้าๆแน่ๆครับ!!"เสียงในห้องผู้บริหารดังออกมา ทำให้หญิงสาวร่างเล็กตาลิตาเหลือกพิมพ์คอมอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวกดระรัวลงบนแป้นพิมพ์อย่างเร็วยิ่งกว่าพวกเด็กติดเกมส์ที่เขาว่าพิมพ์เร็วแล้ว การที่ได้อยู่กับคู่หมั้น สองต่อสองไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก ไม่ใช่เรื่องหวานๆ แต่เป็นเรื่องที่เธอจะเป็นศพตายคามือเขาเสียมากกว่า เธอยกมือลูบลำคอของตัวเองอย่างหวาดเสียว ตายแน่ๆหากอยู่กับเขาสองคน เขาได้สับเธอแล้วกดลงชักโครกเป็นแน่ เธอกลืนน้ำลายเฮือก
"ฮ่าๆๆๆ...พี่เทพน่ากลัวมากเลยหรือ"เจนนี่หัวเราะออกมา เธอยังไม่เคยเห็นว่าพี่ชายเธอน่ากลัวสักครั้งเลย ที่ทำไปก็แค่ขู่เฉยๆ หญิงสาวสุดห้าวประจำสำนักงานไม่เห็นจะต้องกลัวจนเร่งรีบเสียขนาดนั้นเลย
"ก็คุณเจนนี่ไม่เคยเจอเจ้านายขู่นี่นา"หญิงสาวโวยวาย อย่างมากก็แค่พูดเสียงเรียบๆกับน้องสาวของตัวเอง "สองมาตรฐาน"เธอบ่นออกมาเบาๆ ใบหน้าของเธอบูดบึ้งอย่างไม่พอใจ เจนนี่เห็นดังนั้นจึงไม่ชวนคุยต่อแล้วก็ลงมือทำงานของตัวเอง
...หนึ่งวันในหนึ่งปี...
...คำพูดของหญิงสาวสำนักงาน...
...กำลังจะเป็นจริงตามคำขอ!!...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น