ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
สวัสดีค่ะ^^ฉันชื่อเฟื่อง ชื่อเต็มๆก็เฟื่องฟ้า มีพี่ชาย1คนและน้องสาว1คนพี่ชื่อดอกแก้วส่วนน้องชื่อดอกบัว ดีน่ะที่พ่อแม่ฉันลำเอียงนิดๆที่ฉันไม่ต้องมีชื่อที่นำหน้าว่า “ดอก” เหมือนพวกมัน พ่อกะแม่ฉันวันๆเอาแต่หมกอยู่ในแปลงวิจัย เพาะพันธุ์ดอกไม้อยู่เรือนไม้หลังบ้าน ก็อาชีพเขาล่ะน่ะ วันๆก็เอารังไข่โน้นนผสมรังไข่นี้ สเปริมนั่นสเปริมนี่อะไรก็ไม่รู้ แต่พ่อแม่ฉันเก่ง หาเงินเก่งด้วย
~พี่ดอกแก้ว หรือพี่แก้ว ตอนนี้อยู่ปี2มหาลัยรัฐ เรียนถาปัด ถาปัด เข้าใจแลวล่ะทำไมเด็กถาปัดถึง เซอร์ ซก หมก หมัก ก็พี่ฉันก็เป็น ห้องมันไม่ค่อยพี่ใครจะย่างก้าวเข้าไป และไม่มีใครกล้าเข้าไปจัดด้วย เพราะมันจะฆ่าเอา จัดห้องใหม่ทีไร หาของๆมันไม่เจอทุกที ดีที่สุดคือกองๆไว้แถวเนี่ยแหละ มองไปก็เห็นไม่ต้องหา จบ~
~ไอ้ดอกบัวหรือ บัว ไอ้น่มันบ้าร้องคาราโอเกะเป็นชีวิตจิตใจ มันเต้นบ้าบอคนเดียวอยู่คนเดียวในห้อง แต่มันเป็นนักร้องของร.ร. ด้วย มีที่ประกวดที่ไหน มันตระเวนไปหมด ไม่ว่าเป็นเวทีใหญ่ๆหรือเวทีงานวัดมันก็ไปหมดแล้ว แต่มันอยากไปที่สุดคือ อะคาเดมี่ แต่พ่อแม่ยังไม่ให้มันไปเพราะเพิ่งอยู่มอ4 เอง ร้องเพลงรอไปก่อนล่ะกัน
มันเรียนอยุ่คนล่ะ ร.ร.กับฉัน เหตุผล ทำอะไรจะได้สะดวกไม่ต้องมีใครกลับมาฟ้อง จบ~
นี่แกหาว่าฉันขี้ฟ้องหรอ เดี๋ยวบอกแม่แน่!!!
ส่วนฉันอยู่ร.ร.เอกชนฟรังซิส ร.ร. นี่มีแต่คนรวยๆทั้งน้านเป็นเพราะพี่ดอกแก้วจบจากนี่ฉันก็เลย ไม่รู้ดิ เลยอยากเรียนที่นี่เหมือนพี่ดอกแก้ว แล้วฉันก็เรียนที่นี่มาจนมอ 6 สายฝรั่งเสษ เลยได้มานั่งท่องtemps บ้าๆนี่อยู่ได้ทุกวัน
ธุรกิจอีอย่างหนึ่งของบ้านฉันคือ ผับ COOLs ไอ้พี่ดอกแก้วมันทะลุ่งเงินแม่มาเปิดผับเล็กๆ มันจะได้ไม่ต้องออกไปหากินข้างนอก ประหยัดแถมได้ตังค์ เวงกำจิงๆ (+_+) พวกเราช่วยกันดูแล
“เฟื่องไปกินสเต็คกันเหอะ ขี้เกียจรอแล้ว”ไอ้ซินลากฉันออกจากแถว ทั้งที่อีก4-5คนก็ได้กินแล้ว เวลา10นาทีกะอีก19วินาทีไร้ค่าไปโดยปริยาย
แต่ฉันก็เดินตามมันไปจนถึงร้าน Thailand สเต็ค ในร.ร. เรานั่งโต๊ะในสุดของร้านแล้วพี่พนักงานก็เดินมาจดสิ่งที่ไอ้ซินมันจะยัดเข้าไปในมื้อเที่ยงนี่
“แกกินไรอ่ะ”ไอ้ซินหันมาถามฉัน หลังจากที่มันเล่าเรียงความอาหารที่มันอยากกินจบ
“ขอกล้วยหอมปั่นค่ะ ส่วนกับเดี๋ยวกินกะเพื่อน”ไอ้ซินทำหน้าเอ๋อๆ แหมฉันหวังดีหรอกนะกลัวแกกินไม่หมด เลยจะช่วยกิน ทั้งสเต็ค สลัดทูน่า ลาซานญ่า อีก ฉันช่วยกินจะได้ไม่อ้วนไงวะ ทำเป็นมอง
“แกนะแก อย่ายิ้มแบบนั้นได้ไหม มันขัดกับบุคลิกแกวะ”
“ยังไง”
“ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ๆแบบเนี่ย มันขัดกับยัยเด็กเรียน ใส่แว่น ดัดฟัน หน้าตกกระ หอบหนังสือเดินไปมาของแก แล้วเมื่อไหร่แกจะเลิกบ้าเล่นอะไรแบบนี้ซักทีเนี่ย”
“มันชินไปแล้วนิ เป็นแบบนี้ก็ดีน่ะอีก5-6เดือนก็จะจบอยู่แล้ว ช่างมันเถอะ รึแกอายที่มีเพื่อนแบบเนี่ยหะซิน”ฉันค้อยขวับไปที่หน้าสวยๆของมัน มันสะบัดหน้าเชิดอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก้รู้ว่ามันรักฉันแล้วเราก็รักกัน ถึงมันจะมีแฟนแล้วเป็นเด็กscience แต่มันก็ยังมานั่งกินข้าวกับฉันแทบทุกวัน แต่ฉันไม่ผิดใช่ไหมที่รั้งมันไม่ให้ไปกินข้าวกับแฟน
หรือผิด?
สักพักใหญ่ อาหารมื้อฟรีก็ค่อยทยอสู่โต๊ะ น่ากินชะมัด แต่ถ้ากินอย่างนี่ทุกวันมีหวังอ้วนจนๆแหง ฉันเริ่มจิ้มทูน่าในสลัดเป็นอันดับแรก อึ้ย อร่อยชะมัด
“เฟื่อง เทพบุตรแกมา...”เทพบุตรฉัน อ๋อ นายพัพฟ์ หนุ่มหน้ามนคนเข้มของฉัน อ๊ากกก ฉันก็ชอบไปงั้นแหละ แต่ โหย คนอะไรตาหวานชะมัด
เค้าเป็นเด็กscienceห้องเดียวกับไอ้โลมแฟนไอ้ซิน ฉันปิ๊งเค้าเพราะเมื่อก่อนไอ้ซินชอบไปหาตาเล้าโลมที่ห้องบ่อยๆ โดยมีฉันติดสอยห้อยตามไปด้วยซาเหมอ
ฉันหันขวับไปมองที่ที่เดยวกับไอ้ซินมอง เค้าหันมามองทางนี้ด้วย แน่ล่ะก็เราเล่นจ้องเขาวะอย่างนั้น แฟนไอ้ซินจะน่าแดงทุกทีที่ไอ้วินจ้อง ดูน่ารักอ่ะ แล้วหนุ่มหน้ามน นายพัพฟ์ทำไมไม่หน้าแดงเวลาฉันจ้องบ้างน่ะ ฉันอยากเห็นหน้าเขินอายจากผู้ชายตัวสูงๆ ขาวๆ คมๆ อย่างเขาจัง
“พวกเธอมองฉันทำไม มีปัญหาหรอ”บ้าสิ นายพัพฟ์ตะโกนเสียงดังจนทุกคนในร้านหันมามองที่โต๊ะฉัน ทำไมนายไมเขินไม่อาย แทนที่จะแหกปากน่ะ
ฉันหันกลับมายัดทูน่ากับแครอทเข้าปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็รู้น่ะว่านายอ่ะป๊อป ทำอะไรคนก็กรี๊ด แต่ช่วยทำท่าทางให้มันดูเป็นที่น่าหมายปองหน่อยเซ่ ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาภายนอก แต่ถึงไงก็เท่อ่ะ...ฉันชอบ...เถื่อนๆ
“ค่ามอง จ่ายให้ด้วย”บิลค่าชาเขียวปั่นวางหมับอยู่ตรงหน้าฉัน พร้อมรอยยิ้มที่อมหลอดค้างไว้ ก่อนนายพัพฟ์จะสะบัก้นที่น่าจับเดิออกไป หน้าตาเฉย เฮ้ย!!
“อารายเนี่ย ไอ้เฟื่อง...”ไอ้ซินมองหน้าฉันอย่างงงๆ เออ....ไม่รู้ งง ทำอย่างนี้มันให้ท่ากันชะมัด หรือนายทำบ่อยๆกับสาวๆที่มองนาย ทำไมมั่นใจในตัวเองอย่างนี้น่ะ
“สุดท้ายกะมานั่งกินฟรีๆกลับต้องมานั่งหารครึ่งกับไอ้ซินแถมต้องจ่ายค่าชาเขียวปั่นให้นายพัพัฟ์อีก เออ...เอาเข้าไป แต่ก้คุ้มน่ะ ฉันจะคิดว่าเป็นค่าที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงล่ะกันนะ ตื่นเต้นดี
“ซิน ซิน”เสียงทุ่มๆของไอ้โลมตะโกนเรียกจากข้างบนหอประชุมใหญ่ นายโลมทำท่าประมาณว่า ให้รอตรงนั้นเดี๋ยวลงไปหา ฉันล่ะชอบดูยัยคูนี่คุยกันนะ ไอ้โลมมันเสี่ยวดี^^
ไวเป็นปีแสงกว่าไอ้ท่านโลมจะคลานลงมาไอ้ซินก็ยืนหน้าหงิงรอมัน
“โทษน่ะ กว่าจาร์ยจะอนุญาตให้ลงมา”นายโลมเริ่มแก้ตัว สังเกตว่าไอ้ซินไม่ฟังหรอก มันต้องการรู้เรื่องที่ให้คอยมากกว่ายัยเนี่ยมันตรงๆ
“มีไรล่ะ”น้ำเสียงหงุดหงิดของไอ้ซินทำเอาไอ้โลมหน้าจ๋อย มีแฟนเชื่องนี่ก็ดีเนอะ
“คือวันเนี่ยวันเกิดไอ้ต๊อก แล้วไอ้ต๊อกมันก็ชวนเพื่อนไปผับของเฟื่อง ก็มีพวกไอ้ต๊อก เรา พวกผู้หยิงด้วย แล้วก็กลุ่มไอ้พัพฟ์ด้วย”
หะ กลุ่มนายพัพฟ์ แล้วก็คนเกือบทั้งห้องจะไปเลี้ยงวันเกิดที่ผับฉัน ซวยแล้วไหมล่ะ วันนี้ เป็นวันที่ฉันต้องไปร้องเพลงที่นั่นดิ ฉันจะต้องร้องศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แล้วก็อังคาร ดูแลเองร้องเอง ไม่เปลือง แต่วันนี้กำลังจะซวย
“ทำไมต้องเป็นที่นี่ด้วยว่ะโลม พวกมันรู้หรอว่าผับฉัน”
“ไม่หรอก แต่มันรู้จักกับพี่ชายเธออ่ะ แต่พวกนี่ 18แล้วทั้งนั่นแหละไม่ต้องห่วง”เปล่า ที่ฉันห่วงคือ ความลับฉันจะแตกต่างหาก
จะใส่แว่น ทำหน้าตกกระทั้งเปียเป็นพจมานขึ้นไปร้องเพลงร็อคก็กระไรอยู่น่ะ โอ๊ย หรือฉันจะปิดผับ ไม่ได้ดิไอ้พี่แก้วเอาฉันตาย บอกว่าฉันไม่สบายหรอ แล้วใครจะร้องเพลงอ่ะ ไอ้บัวหรอ ไอ้บัวไปเข้าค่ายนี่หว่า พี่แก้วหรอ เสียงห่วยป่านนั้นมีหวังคนหนีกลับหมดแหง ไปจ้างใครดีน่ะ โอย เปลือง
“เป็นไรเปล่าเฟื่อง”
“เปล่าๆ ไปก็ไปสิ ยังไงฉันก็ได้ตังค์”พวกนายทำไมต้องเจาะจงที่นี่ด้วยน่ะ แล้วทำไมไอ้ต๊อกมันต้องเกิดวันนี้ดวยอ่ะ
“เออ เราก็เลยจะมาชวนซินไปด้วยกันนะ ไปนะ”ไอ้โลมอ้อนไอ้ซินเต็มที่ โอย ฉันลากไอ้ซินออกมาห่างจากไอ้โลมเพื่อบอกมันว่า แกต้องไป คอยช่วยฉันเพื่อความลับแตก คนเยอะซะขนาดนั้น แล้วรู้จักกันหมดด้วย ฮือ เอาน่า มันมืด พวกมันมองไม่รู้หรอกว่าเป็นฉัน
ไอ้ซินตอบตกลงไป แกไม่อยากไปก้ต้องไปฉันบังคับแก!!!!
พักกลางวันหมดไปอย่างรวดเร็ว ยังไม่ทันที่จะได้เขาห้องน้ำปล่อยสารบริสุทธิ์ออกจากร่างกายเลยก็ต้องรีบไปเปลี่ยนชุดเพราะคาบต่อไปเป็นคาบพละ ใครมันจัดตารางเรียนน่ะ กินข้าวเสร็จแล้วมาเล่นเบสบอลเนี่ย
พวกเราเดินมารออาจาร์ยสมทรงที่สนามบอลแต่กำลังจะเป็นสนามเบสบอลแล้ว ที่ริบๆสนามมีผู้ชายที่ฉันจำได้ว่าเป็นกลุ่มนายพัพฟ์ เพราะนายนี่ชอบเล่นบอล นี่มันออดเข้าเรียนแล้วไม่ใช่รึไง เฮ้อ ช่างเถอะ ไอ้ซินหายไปไหนน่ะ ฉันหันหลังเดินกลับไปหาที่ร่มๆนั่ง แดดตอนบ่ายร้อนชะมัด
พลั่ก!!!!
ฮึก.......ฮึก.........อ่ะ โอ๊ย ฟุต...บอล ลุกฟุตบอลอัดเข้าเต็มหลังฉัน อ่ะ.....อยากอ้วกชะมัด ฉันล้มคว่ำไปกับสนามหญ้า เหมือนมีแรงโน้มถ่วงให้ฉันต้องนอนลงไปแล้วไม่สามารถที่จะต้านแรงโน้มถ่วงนั้นให้ลุกขึ้นได้ด้วย มันจุก เจ็บ ปวดที่สุดเลย อ๊ากกกกจะอ้วก
“เฟื่อง ไอ้เฟื่อง”เสียงไอ้ซินตะโกนเรียกฉันอยู่ข้างๆ ฉันเห้นรองเท้ามัน มันพยายามจะดึงฉันลุกขึ้น ไม่เอาอ่ะ รอให้ความทรมานมันลดลงก่อนได้ไหม
“เฮ้ย! เป็นไรมากเปล่าเนี่ย”
“เฮ้ย! ทำไมแม่นจังว่ะ
อ่ะ...เสียงที่สองเนี่ย นายพัพัฟ์ช่ะม่ะ ฉันจำได้ อยากบอกน่ะว่านายเป้นคนเตะลูกฟุตบอลโดนฉันอ่ะ แม่นโคตร นายเก่งจังน่ะ แต่หน้าหล่อๆของนาย ตอนนี้ไม่ทำให้ฉันโกรธไม่ลงหรอกนะ เออ เริ่มร้อนไปทั้งตัวแล้วสิ ฮื่อ นี่ฉันอยู่นอกโลดกไงน่ะ ดาวเต็มหัวเลยอ่ะ
ฮือ........โอย ดาวเสาร์ ดาวศุกร์...ดาว....
“ไอ้พัพฟ์ พาไปห้องพยาบาลดิ”
“ตายไหมเนี่ย”
นั่นแหละเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน นายจะสำนึกผิดบ้างไม่ได้หรอไงหะ อึ้ย.....ดาวพลูโต....ดาว.......
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น