คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชีวิตของ โอคิตะ
ที่ประเทศเกาหลี ที่เมืองบูซอน ในห้องเช่าเก่า ๆ มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ เขาชื่อโอคิตะ เขาเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ เขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตั้งแต่อายุ 15 เขามักจะถูกเพื่อน ๆ รุมทำร้าย ด้วยความที่มักถูกเพื่อน ๆ ล่อว่า ไอ้คนไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ทำให้เขากลายเป็นคนก้าวร้าว เกเร นิสัยพาล แต่ลึก ๆ แอบซ่อนด้วยความอ่อนโอน แต่คงไม่มีใครที่จะได้สัมผัสความรู้สึกเหล่านั้นเลย
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงนาฬิกาปลุก เวลา6.00 น.
โอคิตะงัวเงีย ลุกขึ้นจากที่นอน เขารีบเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งตัว รีบออกไปทำงาน เป็นกิจวัตรประจำวัน
เขาขี่มอเตอร์ไซต์คันเก่า ๆ ไปทำงาน
ที่บริษัทที่เขาทำงาน เขาทำงานเป็นคนส่งถังน้ำ ตามบ้าน ตามสำนักงาน ตามบริษัท จะถือได้ว่าเขาเป็นคนใช้แรงงานก็ว่าได้
ผู้จัดการที่เข้มงวด พูดกับ โอคิตะ ว่า
ผู้จัดการ : เธอนี่ก็เป็นคนขยัน ใช่ได้เลยที่เดียว แต่น่าเสียดาย ต้องทำงานอย่างนี้ ฉันอยากช่วยเธอเหมือนกัน เอาอย่างนี้ถ้ามีปัญหาอะไร เรื่องเงิน สามารถมาปรึกษาฉันได้นะ
โอคิตะ : ขอบคุณครับผู้จัดการ
ผู้จัดการ : เธอไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวฉันไปพูดกับนายท่านให้นะ
โอคิตะ ไปส่งถังน้ำ เขาทำงานหนัก มือที่ยกถังน้ำทุกวัน มือด้าน แข็ง และบ่าตรงหัวใหล มีแต่ความบอบซ้ำ จนไม่รู้สึกเจ็บแล้ว วันนี้เป็นวันสิ้นเดือนเขาต้องจ่ายค่าเช่าห้อง แต่เขามีตังไม่พอที่จะจ่าย เนื่องจาก เงินเดือนที่เขาได้มานั่นน้อยมาก เขาจึงคิดที่จะทำงานเพิ่มอีก เขายังไม่รู้ว่าเขาจะไปทำงานไรดี เพราะตัวเขาเองไม่ได้ร่ำเรียนมา เขาจึงคิดว่าจะไปปรึกษากับ ผู้จัดการในวันพรุ่งนี้
โอคิตะเขากับมาห้อง ด้วยความเหนื่อยล้าอย่างเคย เขาเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่มื้อเย็นเขาไม่ได้ทานอะไรเลย ทันใดนั้น เขาสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงเคาะห้องอย่างดังมากๆๆๆๆๆ เพราะ เมิงหยาง คนเก็บตังค์ค่าเช่าห้องมาท้วงโอคิตะ นั่นเอง
เมิงหยาง :โอคิตะ ฉันรู้นะว่าเธออยู่ในนี้ ฉันมาท้วงค่าห้อง จ่ายมาสักดี ๆ
โอคิตะ : คุณเมิงหยาง ครับ ตอนนี้ผมไม่มีตังค์ ที่จะพอจ่ายค่าห้องหรอกครับ ผมขอผลัดไปก่อนนะครับ
เมิงหยาง : เธอผลัดฉันมาหลายวันแล้วนะ ฉันจะให้เวลาเธอ3 วัน ถ้ายังหาเงินมาไม่ได้ เชิญเก็บของออกจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้
โอคิตะ : ผมจะพยายามหาเงินมาจ่ายนะครับ
โอคิตะนอนกลุ้ม เสียงท้องร้องดังขึ้น โอคิตะเดินเข้าไปหาบะหมี่ที่ตระกร้าใส่ของ บะหมี่หมดพอดี เขาเหลือตังค์แค่ 90 วอน ตีเป็นเงินคนไทยก็ประมาณ 360 บาท
เขาเดินลงบันไดมา ออกไปข้างนอก เพื่อจะไปซื้อบะหมี่มาทาน เค้าได้ไปเจอใบปลิวตามถนน ประกาศสมัครงานด่วน เป็นคนหาสาว ๆ มาทำงานในผับ หรือว่าเป็นนายหน้านั่นเอง
เขาหยิบใบปลิวนั่นมาถือไว้ แล้วเดินไปซื้อบะหมี่ ที่มินิมารกค์
พอซื้อเสร็จก็เดินกลับไปห้อง ไปเจอนักเลงอันธพาลเข้า
หัวหน้าแก็ง : ว่าไงไอ้ลูกหมา ไม่เจอกันซะนานเลย ยังอยู่ดีนิหว่า
โอคิตะ ไม่สนใจเสียงพูดเลย เขา เดินกลับที่พักอย่างไม่รู้สึกอะไร
หัวหน้าแก็ง : จับขาเสื้อโอคิตะ จะรีบเดินไปไหน สงสัยจะหิว และก็น่าสงสาร ซะจริง ๆ เนอะ พวกเรา ต้องกินบะหมี่ทุกมื้อ มาทำงานกับเราดีกว่า แค่ส่งของแป๊ปเดี๋ยวก็ได้ตังค์แล้ว
โอคิตะ : ผมมีงานทำงานแล้ว
หัวหน้าแก็ง : งานกระจอก อย่างนั้น จะมีตังค์พอยาไส้หรือวะ ต้องกินบะหมี่ทุกมื้อนี่นะ
โอคิตะ : ไม่เป็นไรครับ ผมรักงานของผม
หัวหน้าแก็ง : เอ็งอวดดีกับข้าหรือวะ
โอคิตะ : ป่าวนะครับ
หัวหน้าแก็ง : สั่งให้ลูกน้องรุมทำร้าย
บะหมี่ที่ซื้อมากระจัดกระจาย ตัวโอคิตะเองต้องนอนเจ็บอยู่บนทางเดินเท้า ทันใดนั้นเสียงรถตำรวจมา
จ่า: วัยรุ่นตีกันอีกแล้ว
หมวด : จ่ามีคนนอนเจ็บอยู่ ไปดูสิ เป็นยังไงบ้าง
จ่า : อาการแย่เหมือนกัน
หมวด : พาไปส่งโรงพยามบาลสิ
โอคิตะขึ้นรถตำรวจโดยไม่รู้สติ
โอคิตะ ฟื้นมาด้วยความตกใจ ถามพยาบาลว่า
โอคิตะ : ที่นี่ที่ไหน
พยาบาล : โรงพยาบาลค่ะ เมื่อคืนตำรวจมาส่งคุณที่โรงพยาบาลค่ะ ร่างกายคุณอ่อนเพลียมากนะค่ะ พักผ่อนสัก 3 4 วัน อาการของคุณก็จะดีขึ้นค่ะ
พยาบาลเดินออกไปจากห้อง โอคิตะครุ่นคิดเรื่องค่าใช่จ่าย รู้ตัวเองว่าไม่มีตังค์จ่าย จึงคิดที่จะหนีออกจากโรงพยาบาล โอคิตะเดินเข้าไปในห้องน้ำขโมยเสื้อผ้าจากห้องข้าง ๆ ที่พาดตรงประตูแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาโดยทันที โดยที่เหยื่อรายนั่นยังไม่รู้ตัว
โอคิตะ : ผมขอโทษนะครับ ผมไม่อยากทำอย่างนี้เลย
โอคิตะรีบเดินออกจากโรงพยาบาล ตังค์สักบาทไม่มีติดตัว โอคิตะคิดที่จะเดินไปบริษัททิ่เขาทำงานอยู่ แต่มันไกลแสนไกล เขาจึงคิดที่จะแอบขึ้นบนรถส่งของ หลบอยู่ท้ายกระบะโดยที่คนขับรถส่งของไม่รู้ตัว
เมื่อรถส่งของจอด คนขับรถส่งของ จะเปิดกระบะท้าย ได้เห็นโอคิตะ จึงตกใจตะโกนออกไปว่า
คนขับรถส่งของ: ผู้ร้าย ผู้ร้ายหลบหนีมา
โอคิตะ :ผมไม่ใช่ผู้ร้ายครับ ผมขอติดรถคุณมาด้วยครับ
คนขับรถส่งของ: เธอนั่นแหละเป็นผู้ร้ายแน่นอน ฉันจะโทรเรียกตำรวจ
โอคิตะเห็นท่าไม่ดี รีบลงจากรถวิ่งหนี อย่างสุดชีวิต
เมื่อมาถึงบริษัทต้องตกใจ กับข่าวที่พนักงานบริษัทพูดกัน
พนักงานบริษัท : ท่านผู้จัดการไม่น่าเลย อายุยังน้อยอยู่เรื่อย ด่วนเสียไปเสียนี่
โอคิตะถึงกับเข่าอ่อน เพราะผู้จัดการเปรียบเสมือนญาติคนเดียวที่เหลืออยู่
โอคิตะเข้าไปถามพนักงาน
โอคิตะ : คุณครับ ท่านผู้จัดการเป็นอะไรเสียครับ
พนักงานบริษัท :ท่านหัวใจวายตายเมื่อคืนค่ะ ท่านเป็นโรคหัวใจ
โอคิตะเสียใจมาก เดินกลับไปทำงาน ทางบริษัทนั้นได้ย้ายผู้จัดการคนใหม่มาโดยทันที ผู้จัดการคนใหม่ค่อนข้างไม่ชอบขี้หน้าโอคิตะ สักเท่าไหร่ พยายามจะขับไล่ให้โอคิตะออกจากงาน กลั่นแกล้งโอคิตะ สารพัด แต่โอคิตะก็ไม่ถือสา
****************ต่อไปชีวิตโอคิตะจะเป็นอย่างไร เขาจะถูกไล่ออกจากงานหรือไม่ จะมีเงินจ่ายค่าเช่าห้องหรือไม่ เพราะเหลือเวลาแค่ 2 วันเท่านั้น เขาจะมีที่อยู่หรือไม่ อนาคตของเขาจะเป็นเช่นไร ติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
ความคิดเห็น