คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ไม่ต้อนรับ
ตอนที่ 1 : ไม่ต้อนรับ
โลกจะสวยงามกว่านี้ ถ้าไม่มีผู้ชายชื่อ มาซาฮิโร่ เรียวยะ
เขาคือคนที่ฉันรังเกียจและขยะแขยงที่สุด
เขาคือคนที่ฉันไม่ปรารถนาที่จะได้พบ ได้เห็น หรือ ได้ยินชื่อ
ถ้าฉันสาปแช่งได้ ฉันจะขอให้เขาตาย...ตายไปจากชีวิตฉัน หรือ ตายจากโลกนี้ไป...
"สวัสดีค่ะ...ฉันชื่อ ซึซึกิ นานาโกะ ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคนค่ะ"
นานาโกะ หญิงสาววัยสิบแปดปี เอ่ยแนะนำตัวเองอยู่บริเวณหน้าห้องเรียนของชั้นมัธยมปลายปีสามห้องหนึ่ง ดูน่าแปลกใจที่มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาเรียนในระดับชั้นนี้ ถ้าเธอไม่มีปัญหาทางบ้านก็คงไม่ย้ายมาในช่วงนี้หรอก ทั้งๆที่อีกปีเดียวก็จะเรียนจบแล้วแท้ๆ เพราะแม่ที่ทำงานเป็นแค่พนักงานห้างสรรพสินค้าเล็กๆในจังหวัดโอซาก้าตกงาน จึงส่งเธอมาอยู่กับ นาริตะ พี่ชายคนเดียว ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านขายดอกไม้ในโตเกียว พร้อมส่งเงินเก็บก้อนสุดท้ายมาให้เรียนต่อยังโรงเรียนมัธยมเรซึนะซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียง นักเรียนก็มีแต่ลูกคุณหนู แต่แม่ก็อยากให้เธอได้เข้ามาเรียนเนื่องจากเวลาจบจะได้ใบประกาศนียบัตรมาเป็นหลักประกันในการเข้ามหาวิทยาลัยดังๆได้ง่ายกว่าปกติ ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัยหรืออาหารการกินก็ได้คุณยูริเจ้าของร้านดอกไม้ที่นาริตะทำงานอุปการะ นับว่าโชคดีอยู่เหมือนกัน
ทุกๆคนในห้องมองดูนานาโกะด้วยความสนอกสนใจ หญิงสาวยิ้มส่งให้ทุกๆคน เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ หรือ ขี้ขลาด แค่การย้ายบ้าน ย้ายโรงเรียน ย้ายสังคม ไม่เคยทำให้หญิงสาวหวั่นเกรงหรือหวาดกลัวได้เลย เพราะอุปนิสัยที่ร่าเริง และ เข้ากับคนได้ง่ายนั่นเอง นานาโกะคิดเช่นนั้น โดยไม่ได้เฉลียวใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นเลยแม้แต่น้อย...
"ซึซึกิ ย้ายมาจากโอซาก้า หวังว่าทุกๆคนคงให้การต้อนรับเธอนะ"
อาจารย์โยชิดะ อาจารย์ผู้ชายวัยกลางคนเอ่ยบอกพลางชี้มือชี้ไม้ไปทางโต๊ะเรียนว่างๆตัวหนึ่งที่อยู่หลังสุดของแถวริมหน้าต่าง
"มีโต๊ะว่างพอดี เธอไปนั่งตรงนั้นละกัน"
"ค่ะ"
นานาโกะตอบรับอย่างว่าง่าย พลางสะพายกระเป๋าเดินตรงดิ่งไปยังโต๊ะตัวหลังสุด ในขณะที่เธอกำลังเดินผ่านโต๊ะเรียนของเพื่อนๆ เท้าของหญิงสาวก็บังเอิญไปสะดุดกับอะไรสักอย่าง ก่อนที่ร่างบางๆจะเซถลาล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง โครม!!!
เสียงหัวเราะของทุกๆคนดังขึ้นลั่นห้องเรียน นานาโกะพยายามพยุงร่างกายตัวเองขึ้นมาจากพื้นด้วยความอาย พลางมองหาสาเหตุการล้ม ก็พบกับเท้าคู่หนึ่งยื่นออกมาขวางทางเดิน เจ้าของเท้าเป็นชายหนุ่มผมสีดำสนิท นัยน์ตาสีเขียว ใบหน้าหล่อเหลาเอาการ ผิวขาวสะอาด ท่าทางเป็นคุณหนูกำลังยิ้มเยาะเธอ
"เฮ้ย...เรียวยะ แรงไปมั้ยวะ"
ผู้ชายอีกคนที่นั่งข้างๆเอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางตบไหล่เขาอย่างเป็นกันเอง เรียวยะเอ่ยตอบเพื่อนสนิทในขณะที่ดวงตาคู่นั้นยังจดจ้องมองดูเธอ
"ไม่รู้ว่ะชินอิจิ ...รู้อย่างเดียว ล้มลงไปอย่างแรง ฮ่าๆๆ"
ทุกๆคนหัวเราะเช่นเดียวกับเขา นานาโกะรู้สึกหน้าชาขึ้นมาในทันที นี่เธอโดนแกล้งเหรอ ? หญิงสาวรู้สึกงุนงงเล็กน้อย เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยโดนต้อนรับแบบนี้เลยสักครั้ง
"เรียวยะคุงอย่าไปแกล้งนักเรียนใหม่สิ"
อาจารย์โยชิดะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนหันไปเขียนกระดานดำเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะเรียนในชั่วโมงแรก โดยไม่ใส่ใจกับการกระทำของนักเรียนในห้องสักเท่าไร
"ยืนซื่อบื้ออยู่ได้ ทำไมไม่รีบไปนั่งล่ะ"
ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา นานาโกะได้สติรีบจ้ำอ้าวไปยังโต๊ะเรียนตัวสุดท้ายของเธอทันที หญิงสาวนั่งลงยังที่ของเธอพลางมองดูเพื่อนร่วมห้องบางคนซึ่งกำลังเหลือบมองมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูยากจะเข้าใจ
วิชาที่อาจารย์โยชิดะสอนคือวิชาภูมิศาสตร์โลก ทุกๆคนในห้องดูตั้งอกตั้งใจเรียน จนทั้งห้องเงียบกริบผิดกับเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิง นานาโกะมองดูสภาพห้องเรียนด้วยความสงสัย เมื่อสักครู่คงเป็นการหยอกล้อกันล่ะมั้ง... หญิงสาวครุ่นคิดหาเหตุผลในการโดนแกล้งเพื่อความสบายใจของตัวเธอเอง ก่อนจะเริ่มตั้งใจเรียนตามเพื่อนๆไปจนถึงช่วงพักเที่ยง
โรงอาหารของโรงเรียนเรซึนะค่อนข้างกว้างขวาง มีโต๊ะตัวยาวหลายร้อยตัวตั้งเรียงรายบ่งบอกจำนวนนักเรียนได้เป็นอย่างดี แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียนนับพัน เพราะมีหลายคนที่กำลังหาที่นั่งทานข้าวของตัวเอง เช่นเดียวกับนานาโกะในตอนนี้ เธอกำลังมองหาโต๊ะหรือที่นั่งว่างๆสักที่ มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถือชามราเมนร้อนๆไว้ ในขณะที่เท้าทั้งสองข้างก็พยายามเดินไปเดินมาตามดวงตาทั้งสองคู่ที่กำลังหาเป้าหมายไปเรื่อยๆ
แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเธอ ดวงตาคู่งามมองเห็นที่นั่งว่างๆซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่ยืนสักเท่าไร นานาโกะรีบเดินไปพลางวางชามราเมนลงบนโต๊ะ
"ใครให้เธอนั่งตรงนี้"
เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยดังขึ้นจากด้านหลัง นานาโกะรีบหันไปดูก็พบกับชายหนุ่มที่ยืนกอดอก หน้าเชิด ดูหาเรื่องเล็กน้อย ผู้ชายที่ชื่อ เรียวยะ...
"ตรงนี้เป็นที่ของนายเหรอ"
นานาโกะเอ่ยถามด้วยความสงสัย ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยพลางตอบไป
"ใช่"
"ขอโทษนะ งั้นฉันไปนั่งที่อื่นก็ได้"
หญิงสาวขอโทษขอโพยพลางเอื้อมมือไปหยิบชามราเมนหมายจะย้ายที่นั่ง แต่ทว่า...พลัวะ!!! ซ่า!!! เรียวยะปัดชมราเมนเข้าใส่ตัวเธออย่างแรง จนมันหกราดรดเสื้อนักเรียนของหญิงสาว
"โอ้ย..."
นานาโกะตกใจ รีบปัดเศษอาหารและน้ำร้อนๆที่หกรดบนตัวเธอออกไปอย่างรวดเร็ว พลางเงยหน้ามองดูชายหนุ่มที่ยืนยิ้มด้วยสีหน้าสะใจ
"นายทำอะไรของนายน่ะ ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะย้ายไปนั่งที่อื่น ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลย"
เธอโวยวายอย่างหัวเสีย หากแต่เรียวยะกลับพูดตอบไปว่า
"ที่ไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น!!!"
หญิงสาวรู้สึกฉุนกึกขึ้นมาในทันที อีตานี่ใหญ่โตมาจากไหนถึงได้มีสิทธิ์สั่งห้ามโน่นห้ามนี่ มันจะมากเกินไปแล้วนะ
"นายมีสิทธิ์อะไรมาสั่งห้ามโน่นห้ามนี่"
หญิงสาวตะโกนว่าเขา นักเรียนชายหญิงหลายคนที่ยืนมุงดูหัวเราะร่วนทันทีพลางซุบซิบคุยกัน
"ยัยโง่นั่นไม่รู้หรือไง ว่าเรียวยะคุงเป็นลูกชายของผู้อำนวยการโรงเรียน"
"คงไม่รู้หรอกมั้ง ได้ข่าวว่าเพิ่งย้ายมาจากบ้านนอกวันนี้"
"มิน่า...เด็กบ้านนอกนี่เอง เรียวยะคุงถึงได้แกล้ง"
แม้เสียงนั้นจะเบา แต่ดูเหมือนว่านานาโกะหูดีพอที่จะได้ยินประโยคต่างๆเหล่านี้ อะไรกัน!!! เพราะเธอเป็นเด็กต่างจังหวัด เขาถึงได้แกล้งเธอเหรอ ไม่เห็นยุติธรรมเลย
"นายจะใหญ่มาจากไหนฉันไม่รู้หรอกนะ แต่นายไม่ควรแกล้งฉันแบบนี้"
"ทำไมฉันจะแกล้งไม่ได้ เธอไม่รู้หรือไงว่าในโรงเรียนนี้ฉันสามารถทำอะไรก็ได้"
เรียวยะเอ่ยตอบเธอกลับไป ยิ่งทำให้นานาโกะโมโหมากขึ้นกว่าเดิม
"ทำไม!!! แค่เป็นลูกผู้อำนวยการโรงเรียน เลยคิดว่ามีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นเหรอ จริงๆนายควรจะสำนึกเอาไว้ได้เงินค่าเล่าเรียนฉันไปก็ควรให้เกียรติกันบ้าง"
นานาโกะตวาดใส่หน้าเขา เรียวยะปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็ว เขากระชากแขนเธอพลางดึงเข้าหาตัวอย่างแรง
"ขอโทษเถอะ ไอ้เศษเงินไม่กี่แสนเยนของเธอ มันไม่ได้สร้างบุญคุณอะไรให้ฉันแม้แต่น้อย อย่าได้ลำพองใจไปหน่อยเลยยัยบ้านนอก ฉันจะแถมเงินให้อีกสิบเท่าด้วยซ้ำ ถ้าทำให้เด็กบ้านนอกอย่างเธอลาออกไปจากโรงเรียนได้ แค่นี้ก็เหม็นกลิ่นโคลนสาปควายแย่อยู่แล้ว!!!"
เพี้ยะ!!!...ฝ่ามือของหญิงสาวฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแรง จนทุกคนในบริเวณนั้นเงียบกริบเพราะความตกใจและอึ้งกับการกระทำของเธอ แต่ดูเหมือนนานาโกะจะไม่ใส่ใจอะไรอีกแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์มาว่าเงินที่แม่ของเธออุตส่าห์เก็บหอมรอบริบเพื่อส่งให้เรียน เขาไม่มีสิทธิ์มาว่าถิ่นกำเนิดของเธอ นัยน์ตาสีเขียวมองดูเธอ ในขณะที่มือของเขาก็ลูบแก้มขาวๆที่บัดนี้แดงระเรื่อเพราะโดนตบไปเมื่อสักครู่
"เธอกล้าตบฉันเหรอ!!!"
เรียวยะปรี่เข้ามาอีกครั้ง พลางเงื้อฝ่ามือขึ้นหมายจะตบกลับ หญิงสาวหลับตาทันทีเพราะความกลัว ทว่า...เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน
"มีเรื่องอะไรกันน่ะ เสียงดังไปถึงห้องพักอาจารย์"
อาจารย์โยชิดะซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาภูมิศาสตร์โลกและยังเป็นอาจารย์ประจำชั้นเดินเข้ามา ทำให้นักเรียนหลายคนรีบแยกย้ายไปจากที่เกิดเหตุ เรียวยะผลักนานาโกะออกไปอย่างแรงก่อนที่อาจารย์โยชิดะจะมาถึง
"มีอะไรเหรอเรียวยะคุง"
อาจารย์หนุ่มถามด้วยความสงสัย นานาโกะหันไปมองดูชายหนุ่มว่าเขาจะตอบอย่างไร
"พอดีผมทำราเมนหกโดนนานาโกะ เธอตกใจก็เลยโวยวายเสียงดังเกินไปหน่อยน่ะครับ"
หญิงสาวอึ้งไปชั่วครู่ ให้ตายสิ...อีตานี่โกหกหน้าด้านๆ
"ไม่จริงค่ะอาจารย์ เขาปัดชามราเมนใส่หนู แล้วก็ด่าว่าบ้านนอกด้วย"
หญิงสาวรีบฟ้องอาจารย์โยชิดะตามความจริง หวังว่าจะเป็นที่พึ่งของเธอ แต่ทว่า...
"แค่นี้เอง เธอจะโวยวายไปทำไม เอาล่ะ...เรียวยะคุง ไหนๆก็ช่วยรับผิดชอบพานานาโกะไปล้างชุดที่เปื้อนเปรอะหน่อยนะ"
"ครับ"
เรียวยะรับคำ หากแต่หญิงสาวยังคงอึ้งกับคำพูดของอาจารย์โยชิดะอยู่ อะไรกัน!!! ทำไมอาจารย์ถึงไม่ทำอะไรสักอย่าง นอกจากคำว่า แค่นี้เอง เพราะอะไร ? เพราะการเหยียดหยามคนที่ด้อยกว่าเป็นเรื่องปกติของที่นี่หรือไง ทุกๆคนถึงได้ทำนิ่งเฉยโดยไม่รู้สึกรู้สา
"เสียใจด้วยนะ ที่อาจารย์ไม่สนใจกับคำฟ้องของเธอ เพราะฉันลืมบอกอะไรไปอย่าง นอกจากคุณแม่ของฉันที่รับเธอเข้าเรียน คนอื่นๆรวมทั้งฉันไม่ต้อนรับเด็กบ้านนอกมาทำให้เสียเกียรติชื่อเสียงของโรงเรียน หรือ มาทำให้เกิดรอยด่างพร้อย จงเตรียมใจไว้เถอะ...ไม่ว่าด้วยวิธีไหน ฉันจะทำให้เศษสวะอย่างเธอยอมยื่นใบลาออกให้ได้ ไม่เชื่อก็คอยดู"
นานาโกะฟังคำพูดของเรียวยะด้วยความโกรธโดยไม่สามารถทำอะไรได้ มีแต่ฟันที่กัดริมฝีปากจนห้อเลือดกับมือทั้งสองข้างที่กำแน่นเพื่อกลั้นอารมณ์โมโห เรียวยะยิ้มเยาะก่อนดึงแขนเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ได้เวลาไปล้างชุดแล้วยัยโสโครก"
-s b- mimi_ mimi + +
ความคิดเห็น