คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : A night party
1
ที่ศาลาใต้ต้นสน ต้นไม้ประจำโรงเรียน หญิงสาวหกคนนั่งพิจารณากับประกาศ ที่พึ่งได้ยินมาจาก
ครูเมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมาขณะที่นั่งวาดรูปส่งครู
“เฮ้ย! ตกลงว่าวันศุกร์นี้จะมีงานเลี้ยงเต้นรำที่โรงเรียนเราใช่มั๊ย” ลินหรือนันท์นลิน ถามขึ้นพลางอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษที่พึ่งซื้อมาตอนเช้าก่อนมาโรงเรียน
“แต่ว่าโรงเรียนเรามันเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแล้วคู่เต้นรำต้องเป็นผู้ชายจะเอาผู้ชายมาจากไหนวะ นี้ก็วันพุธแล้วนะ” แพท หรือ ภัทธารี เสริมขึ้นขณะที่เล่นหมากรุกกับ เมย์ หรือเมธวี
“ก็ไอ้โรงเรียนชายล้วนข้างโรงเรียนเรานี้ไง” พัดหรือนงนภัสมองไปที่กลุ่มเด็กผู้ชายที่นั่งเล่นกีต้าร์ซึ่งมีรั้วเหล็กกั้นระหว่างสองโรงเรียนนี้
“ใครจะมาขอเราไปงานเนี่ย”นันท์นลินบ่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด ”โอ๊ย!! ” เธอยกมือลูบหัวก่อนจะก้มลงหยิบกระดาษที่อยู่ข้างเธอ
“ใครปามาวะ” เธอหันไปมองทิศทางที่กระดาษถูกส่งมา เด็กหนุ่มในพวกที่เล่นกีต้าร์ยิ้มให้เธอ และคนนั้นมันก็ช่างโดนเสป็คเธอเหลือเกิน
“แกะอ่านเลยลิน” ภัทธารีบอกกับเธอ ทุกคนในกลุ่มต่างลุกมาที่ลินและบอกให้เธอเปิดอ่าน นันท์นลินแกะกระดาษที่ถูกขยำออกและอ่านให้เพื่อนๆฟัง
“คืนนี้สองทุ่มเธอกับเพื่อนๆมาเจอพวกเราที่ห้องดนตรีหลังโรงยิมนะครับ แล้วพวกเราจะรอ” นันท์นลินเงยหน้าจากจดหมายและมองไปที่เด็กผู้ชายกลุ่มนั้นอีกครั้ง แต่เขาก็ยิ้มให้เธอเหมือนเคย
“เฮ้ย! หกคนพอดีเลยวะ หล่อๆทั้งนั้นสงสัยลูกคุณหนู” แพทบอกกับโบว์หรือลลิตาหลังจากที่ใช้สายตานับคนในกลุ่มนั้น
“แล้วพูดตอนนี้ไม่ได้รึไง ทำไมต้องนัดตอน2ทุ่ม” พราวหรือสลิลทิพย์คิ้วขมวดมุ่นเมื่ออ่านจดหมายอีกครั้ง “แล้วห้องดนตรีหลังโรงเรียนมันก็อยู่กึ่งกลางระหว่างโรงเรียนเรากับโรงเรียนนั้นแถมยังโดนปิดตายไม่ให้ใช้อีกต่างหาก” เธอยื่นจดหมายคืนให้ลิน
“จำกฎของโรงเรียนเราไม่ได้เหรอว่าห้ามคุยกับโรงเรียนนั้นระหว่างเรียน ถ้าเราคุยตอนนี้โดนข้อหาชู้สาวแน่ๆเลยอ่ะ” พัดบอกกับพราวขณะกำลังเปิดกระป๋องน้ำอัดลม
“ก็สองทุ่มที่หอเราเขาก็เข้านอนกันหมด และอีกอย่างที่ห้องดนตรีครูก็ไม่ไปดินตรวจ มันเลยปลอดภัยหน่อย”ลลิตาเสริม
“ไปเหอะ จะหมดคาบละ”เมย์เก็บกระดานหมากรุกใส่กระเป๋า และพวกเธอก็เก็บของใส่กระเป๋าและเดินไปยังห้องเรียนของพวกเธอ
.
“เร็วๆดิพราว”แพทพูดเสียงราวกับกระซิบเพราะกลัวห้องข้างๆจะได้ยิน สลิลทิพย์หยิบไฟฉายก่อนจะเดินมากับแพท
“มานี้เร็ว” ลินเรียกพราวกับแพท เมื่อเห็นเธอสองคนเดินมา นันท์นลิน เมธาวีและลลิตาออกมาจากห้องก่อนพราวและแพท เพราะ พราวต้องช่วยแพท ต้องไล่ปิดหน้าต่างภายในห้องเนื่องจากว่าฝนตก พวกเธอเดินหลบฝนไปตามระเบียงด้านหน้าห้อง
“เฮ้ย!มีคนมา” แพทบอกกับเพื่อนๆเมื่อเห็นเงาคนขึ้นบันไดมา พวกเธอวิ่งไปหลบที่โต๊ะพังๆด้านหลัง
เพื่อนในห้องเรียนพวกเธอพึ่งขึ้นมาเพราะเธอเป็นประธานนักเรียน จึงต้องไปตรวจความเรียบร้อยในหอจนถึงสองทุ่ม เมื่อเธอเดินผ่านไป พวกเธอต่างถอนหายใจและรีบวิ่งลงบันไดก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ทางออกของตึก
“ฝนตกหนักนะเนี่ยใครเอาร่มมาบ้าง” เมย์เอ่ยถามเพื่อนๆทุกคน แต่ก็ต่างส่ายหน้า
“สงสัยต้องลุย”แพทและลินมองหน้ากันก่อนจะวิ่งฝ่าฝนไปอยู่ใต้ต้นไม้ และพวกเธอก็วิ่งตามมา หลบที่ต้นไม้ต้นเดียวกัน แน่นอนว่าพวกเธอต้องเปียก แถมชุดนอนลายหมีสุดโปรดของแพทยังเปรอะโคลนตรงปลายกางเกงอีกต่างหาก
“แค่ไปอีกนิดเดียวเอง ก็ถึงแล้วพวกแก พร้อมมั๊ย” ลินบอกกับเพื่อนๆแต่ฝนตกหนักทำให้ไม่มีใคร
ได้ยินชัด
“ว่าไงนะลิน”พราวตะโกนถามลิน
“ฉัน บอกว่าแค่ไปอีกนิดเดียวเอง ก็ถึงแล้ว พวกแกพร้อมมั๊ย!!”เธอตะโกนบอกเพื่อนๆอีกครั้งพวกเธอพยักหน้าให้และวิ่งไปยังห้องดนตรีหลังโรงยิมทีละคน และแพทกับลินก็วิงตามไปคนสุดท้าย
“เปิดไฟฉายดิแพท”ลินสะกิดบอกเพื่อนสาว
“ถ่านหมดอ่ะ” เธอเขย่ากระบอกไฟฉายเผื่อว่าไฟจะออก
“ให้ตายเหอะไอ้พวกนั้นมันหายไปไหนกันนะเมื่อกี๊มันก็วิ่งมาก่อนเรานิ ”
“ไม่รู้ดิเดี๋ยวฉันไปเปิดไฟก่อนนะ” เธอเดินเซเพราะความมืด และเดินไปยังสวิตไฟที่เธอเห็นลางๆ เธอเอื้อมมือไปเปิดไฟ แต่มีมือมาดึงมือเธอไว้ และปิดปากเธอ
“เงียบๆผมเอง” เสียงนั้นเอ่ยบอกกับเธอ ‘เสียงผู้ชายนี้หว่า’ เขาจับมือเธอและเดินไปยังห้องซ้อมดนตรีชั้นบนซึ่งถูกแบ่งแยกเป็นสิบห้องเพื่อความสะดวกในการซ้อมดนตรี ‘หมอนี้มันเป็นใคร’ แพทคิดในใจก่อนจะเอ่ยถาม
“นายเป็นใคร”แต่เขาไม่ตอบและพาเธอไปที่ห้องซ้อมดนตรีเล็กๆห้องหนึ่งก่อนจะเข้าไปเธอสังเกตว่าที่ห้องอื่นมีไฟเปิดอยู่สี่ห้อง ไฟในห้องที่เธอเข้าไปถูกเปิดออกเด็กผู้ชายคนนั้นหันมามองหน้าเธอ
‘น่าจะสูงสักร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ อะไรกันฉันสูงแค่ร้อยหกสิบห้าเอง ผิวขาว หน้าตาน่ารัก ดัดฟันอีกต่างหาก โอ๊ย!ตายละ เสป็กฉัน’ เธอคิดในใจขณะมองหน้าเขา
“ผมชื่อหนึ่ง อยู่ม.4 แล้วเธอชื่ออะไร” เสียงนี้ทำเอาแพทตื่นจากภวังค์และตอบกลับไป
“ฉันชื่อแพท อยู่ม.3”
“ห่างกันแค่ปีเดียวเองนะน้องแพท”เขาทำเสียงล้อเลียนราวกับว่าเธอเป็นเด็กอนุบาล เธอจึงเบือนหน้าหนี
“โอ๋ๆ งอนเหรอจ้ะ พี่ขอโทษนะ ” แค่เสียงเขาเธอก็ลืมความโกรธไปหมดแล้ว
“ให้พวกแพทมาที่นี้ทำไมเหรอ”
“พวกพี่รู้ว่าพวกน้องแพทยังไม่มีคู่ไปงานเต้นรำ เพราะครูพึ่งประกาศเมื่อเช้า ก็เลยมาชวนไปงานด้วยกัน นะๆไปกับพี่นะ” หนึ่งทำเสียงอ้อนก็อย่างที่บอกละค่ะผู้อ่านแค่ได้ยินเสียงเธอก็ใจอ่อน
“แต่ๆ ทำไมพี่หนึ่งไม่ไปชวนคนอื่นไปละ”
“ไม่รู้สิ ก็ใจมันสั่งมาแค่เห็นแพท พี่ก็อยากไปงานด้วยไม่รู้ทำไม”
“แล้วทำไมต้องนัดมาที่นี้ด้วยอ่ะ”
“ก้มันเป็นธรรมเนียมลับๆ ทุกปีที่มีงานเลี้ยงเต้นรำ ก็จะนัดคู่ของตัวเองมาซ้อมเต้นรำที่นี้ ” เขาบอกกับเธอและเดินไปกดเล่นเครื่องเล่นซีดี เพลงในเครื่องบรรเลงออกมาและเป็นเพลงของงานเลี้ยงเต้นรำ
“แพทไม่เคยเต้นรำอ่ะ” เธอทำหน้าแย่ๆเมื่อหนึ่งยื่นมาให้
“เดี๋ยวพี่สอนให้” เขาเดินมาหาเธอและจับมือของเธอวางไว้ที่ไหล่อีกมือก็กุมไว้ เธอหมุนตัวช้าๆตามที่เขาสอน ในไม่ช้าเธอก็เต้นรำได้คล่อง
“พี่หนึ่งชื่อจริงว่าอะไรเหรอ นามสกุลด้วยนะ” เขายิ้มให้เธอเผยให้เห็นเหล็กดัดฟันสีฟ้า
“พี่ชื่อ วรวิทย์ วัฒน์ธนวงศ์ แล้ว แพทล่ะ” เธอเริ่มขมวดคิ้วมุ่น’นามสกุลนี้มันคุ้นๆอ่ะ’เธอคิดในใจ ราวกับว่าเธอเคยได้ยินนามสกุลนี้จากไหนสักที่ เธอคิดก่อนจะเอ่ยตอบ
“แพทชื่อ ภัทธารี รัตนบดินท์” เขามองหน้าเธอและคิดในใจ’ทำไมคุ้นๆ แต่ก็ช่างเหอะ’
“พี่ว่าเราพักก่อนเถอะ ดูสิปากซีดหมดแล้ว ตากฝนมาใช่มั๊ย” เขาพาเธอไปนั่งที่โซฟาก่อนจะถอดเสื้อคลุมให้เธอใส่
“แพท ขอโทษนะ” วรวิทย์ใช้ผ้าเช็ดหน้าสีน้ำตาลเช็ดใต้ตาของเธอ
“อะไรอ่ะพี่หนึ่ง” แพทหาวด้วยความง่วงเนื่องจากว่าทุกครั้งเธอนอนสองทุ่ม
“พี่ก็ไม่รู้สิสงสัยเป็นฝุ่นที่มากับฝนมั้ง อ้าว!” หนึ่งมองแพทที่นอนหลับคาโซฟาหัวก็เอนมาอยู่ที่ไหล่ของหนึ่ง
“หลับฝันดีนะ” เขากระซิบกับเธอ ก่อนจะหยิบมือถือของเธอที่หล่นบนโซฟามาดูและเมมเบอร์ของเขาไว้ในเครื่องเธอก่อนจะใส่กระเป๋าให้เหมือนเดิม
..
“ทำไมมันมืดขนาดนี้เนี้ย” เมธาวีที่พึ่งวิ่งตากฝนมาบ่นกับตัวเอง บางสิ่งบางอย่างมาดึงแขนเธอไว้แค่พาเธอขึ้นไปชั้นสองเธอดิ้นสุดใจขาดดิ้น แต่ไม่เป็นผลแรงอันน้อยนิดไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย เขาพาเธอไปในห้องแห่งหนึ่ง และให้เธอนั่งตรงโซฟา ‘แม่จ๋า เมย์คงไม่ได้เป็นผู้บรหารต่อจากแม่แล้วอ่ะ แง้ๆๆ’ น้ำตาอุ่นๆไหลออกมาอาบแก้มซึ่งเปียกน้ำฝน ไฟในห้องถูกเปิดออก เธอก้มหน้าร้องไห้จึงไม่เห็นคนๆนั้น
“เธอร้องไห้ทำไม” เมย์เงยหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาเมื่อได้ยินเสียงนั้น
“ฉันคิดว่านายเป็นโจรนะเนี่ย ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก”เมย์บอกกับเด็กหนุ่มข้างหน้าเธอ ‘ไอ้แว่นเอ๊ยหลอกฉันซะตกใจหมด ถึงจะหล่อก็เหอะ’
“ฉันขอโทษ ฉันชื่อโบ๊ท ธนพล รัตนธิไพศาล อยุ่ม.4แล้วเธอละ” เขาเอ่ยบอก ‘ฉันไม่ได้อยากรู้ชื่อเสียงเรียงนามของนายหรอกนะ’ เธอคิดในใจ
“ฉันชื่อ เมย์ เมธาวี ศิลรัตนมาศ อยู่ ม.3”
“เอาเป็นว่ามาเข้าเรื่องเลยนะ ฉันขอเธอไปงานเต้นรำ เธอจะไปกับฉันมั๊ย”
“เมย์มีคู่ไปงานแล้ว” ‘ผิดศีลอีกแล้วฉัน ไม่เป็นไรแค่แกล้งเล่นๆ’
“อย่าโกหกเลยน้องเมย์ พี่รู้ว่าครูพึ่งประกาศเรื่องงานเต้นรำตอนเช้า” ธนพลหัวเราะรวน
“เมย์ไปด้วยก็ได้”เธอเอ่ยตอบเมื่อรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวเนื่องจากคำพูดของธนพล
เขาเดินไปเปิดเพลงที่เครื่องเล่นซีดี เมย์และโบ๊ทเคยเรียนเต้นรำจึงไม่มีปัญหาในการเต้นรำหลังจากซ้อมเต้นรำเสร็จเขาและเธอก็มานั่งเล่นเกมส์เพลย์ด้วยกัน ก่อนจะผล็อยหลับทั้งคู่
.
“ไอ้เมย์!! ” ลลิตาตะโกนเรียกเพื่อนสาวที่วิ่งมาก่อนหน้านี้ ก่อนจะเดินตามหาในความมืด
“ไปไหนของมันวะ !” มือหนึ่งจับข้อมือเธอก่อนจะเอ่ยพูดด้วยเบาๆ
“เงียบๆ แล้วมากับฉัน” เขาพาเธอไปห้องซ้อมดนตรีชั้นบน ความเงียบครอบงำรอบตัวเขาและเธอ และเมื่อเขาเปิดไฟในห้องออก โบว์ถึงกับอึ้งเพราะมันโดนเสป็กเธอเหลือเกินแต่ชุดนอนเขาเนี้ยช่างคิกขุเหลือเกินลายอุนตร้าแมน
“ฉันชื่อแบงค์ ชื่อจริง วรวุฒิ อยู่ม.4นะ” เขาเอ่ยบอก
“ฉันชื่อโบว์ ชื่อจริง ลลิตา ม.3” เธอเดินตรงไปยังหน้าต่างห้อง
“ลมพัดเย็นดีนะ แต่ว่าเรามาคุยเรื่องสำคัญดีกว่า”เขาดึงเธอมาที่กลางห้อง
“งานเลี้ยงเต้นรำพี่แบงค์จะมาขอโบว์ไปงานใช่มั๊ย งั้นเรามาเริ่มซ้อมเลยดีกว่า” เธอเดินไปเปิดเพลลงและเริ่มเต้นรำกับเขา
“ร..รู้ได้ไงเนี่ย”เขาถามเธอขณะเต้นรำ
“พี่ชายของโบว์เคยบอก แล้วเพื่อนพี่ไปไหนหมดอ่ะ” เขายิ้มอย่างมีเลศนัยให้เธอ ก่อนจะเดินไปที่ริมหน้าต่าง
“ก็คือว่า เพื่อนๆพี่แอบกันอยู่ข้างล่าง คนไหนที่เราจะขอไปงานเต้นรำมาถึงก็จะพาขึ้นมาซ้อมเต้นรำแบบนี้แหละ”
“แล้วไม่มีใครมาซ้อมที่นี้เลยเหรอนอกจากพวกพี่”
“มีสิแต่ไม่ใช่วันนี้เพราะว่าวันนี้เป็นวันซ้อมเต้นรำของพวกป๊อปที่สุดในโรงเรียน”
“แล้วมาขอพวกโบว์ไปงานทำไมอ่ะ พวกโบว์ก็ไม่ได้ป๊อปเลยนะ ทำไมไม่ไปขอพวกยัยเจน ยัยดรีมอะไรอย่างนั้นอ่ะ”
“ไม่รู้สิ ไม่รู้ทำไมพวกพี่ถึงเลือกโบว์กับเพื่อนๆ คนที่โบว์พูดถึงเมื่อตอนเย็นเขาก็มาขอไอ้หนึ่งกับไอ้วิน ไปงานนะแต่มันไม่เอา”
“แล้วพี่หนึ่งกับพี่วินจะไปกับใครอ่ะ”
“ไอ้หนึ่งไปกับเพื่อนโบว์อ่ะ น้องที่ติดกิ๊ฟสีขาวแล้วสไลด์ผมด้านหน้า ส่วนไอ้วินก็ไปกับน้องที่ดัดฟัน”
“แพท ลิน” เธอพูดเบาๆราวกับกระซิบ
“อยากฟังเพลงป่ะ” แบงค์พูดขณะหยิบกีต้าร์ที่วางอยู่มาเล่น
“ก็ได้”เธอนั่งลงข้างๆเขา และแบงค์ก็เริ่มเล่นกีต้าร์และร้องเพลงโดยมีโบว์นั่งฟังอยู่ข้างๆ
ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติกของทั้งหกคู่และแล้วเวลาก็ได้พรากพวกเขา แต่แน่ละงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลาสลิลทิพย์ก้มมองนาฬิกาข้อมือซึ่งเป็นเวลาเที่ยงคืนตรง ตาของเธอจึงเบิกกว้างและหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
“สงสัยคงต้องไปแล้วละพรุ่งนี้มีเรียน” สลิลทิพย์เอ่ยบอกกับบาสหรือวิษณุคู่เต้นรำของเธอ เธอจึงเดินออกจากห้องและไปเรียกเพื่อนๆให้กลับหอ นงนภัสซึ่งกำลังหลับถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพราว เธอบอกลากับมอสหรือพงศกร และเดินออกไป ส่วนนันท์นลินซึ่งกำลังเล่นเกมส์ก็บอกลากับวินหรือพาทิศก่อนจะวิ่งออกจากห้องเช่นเดียวกับเมย์ แพท และโบว์ พวกเขายืนมองพวกเธอวิ่งจากไป และแพทยังเอาเสื้อคุลมของหนึ่งติดมาด้วย
“หวังว่าวันงานคงจะเยี่ยมกว่านี้นะ”พาทิศเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินกลับหอ
“ภัทธารี!!”ครูวิชาคณิตศาสตร์เรียกหญิงสาวที่หลับคาโต๊ะขณะที่ครูกำลังอธิบาย เธอเงยหน้าขึ้นและปลุกเมธาวีกับนันท์นลิน ส่วนสลิลทิพย์ ลลิตาและนงนภัสน่ะเหรอ นั่งเท้าคางแล้วหลับ ครูจึงสั่งให้ทั้งหกคนไปวิ่งรอบสนาม
“ไม่น่ากลับดึกเลย”ภัทธารีบ่นขณะที่ปิดปากที่กำลังหาวอยู่
“นั้นดิ”พราวเสริม
”โดนทำโทษเหรอจ้ะสาวๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพวกเธอจึงหันไปหาเจ้าของเสียง
“ไอ้พี่วิน”นันท์นลินพูดขึ้น ภัทธารีสังเกตว่าวรวิทย์หลับคาโต๊ะที่พวกเขานั่งและผมหน้าของเขาตกลงมา ‘หล่อบาดใจแม้กระทั่งตอนหลับ เออใช่!เสื้อคลุม ไว้ตอนวันงานค่อยเอาคืนละกัน’
“ไอ้หนึ่งตื่นดิวะ ดูน้องๆเขาโดนทำโทษดิ ฮ่าๆ ” วินหัวเราะรวน มือพิฆาตปลิวมาจากด้านหลังวินและบรรจบตรงหัวเขาพอดี วินเอามือกุมหัวก่อนจะโวยวายขึ้นมา
“โอ๊ย! ไอ้บาสแกทำอะไรวะเจ็บนะเว้ย” หนึ่งเงยหน้าขึ้นมา หัวเราะคิกคักทันที
“มันสนุกตรงไหนวะ ที่น้องเขาโดนทำโทษ ไม่ใช่พวกเราเหรอที่ไปชวนน้องเขาไปงาน แล้วซ้อมเต้นรำจนดึกเนี่ย” บาสพูดขึ้นอย่างหัวเสีย
“ไอ้โบ๊ท ขอเล่นบางดิ” มอสพูดขึ้นหลังจากที่โดนยึดโน๊ตบุ๊คไปเล่นเป็นเวลาสองชั่วโมง
“ไปเล่นกับไอ้แบงค์นู่นไป๊!” โบ๊ทไล่เพื่อนให้ไปนั่งเล่นบนต้นไม้กับแบงค์
“แกเอาโน๊ตบุ๊คฉันไปเล่นนานแล้วนะ” โบ๊ทยืนขึ้นและเดินไปหามอสที่ยืนพิงต้นไม้อยู่
“อีกแค่นิดเดียวนะๆ”
“ไม่เอาเว้ย ฉันขอเล่นบ้างดิ”มอสตอบกลับอย่างหัวเสีย
“ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ดูนั้นดิ”แบงค์เสริมเมื่อเห็นหนึ่งไปนั่งเล่นหลังจากที่โบ๊ทลุกและเดินมาหามอส
“โห!ไอ้หนึ่ง” ทั้งสองพูดขึ้นมาพร้อมกันราวกับนัดหมายกัน หน่งยิ้มให้ทั้งคู่และเล่นเกมส์ต่อโดยที่ไม่สนว่าวินจะเอาสมุดการบ้านที่อยู่ในกระเป๋าไปลอก
“พวกแกว่าหลังจากงานเต้นรำความสัมพันธ์ของพวกเรากับน้องๆเขาจะเป็นยังไงวะ ” บาสพูดด้วยเสียงแผ่วเบา หนึ่งกับวินที่กำลังเล่นเกมส์ด้วยกันเงยหน้าขึ้นและมองหน้าบาส
“นั้นดิ” แบงค์เสริม
“ฉันว่า ยัยพวกนั้นคงลืมๆพวกเราแล้วละ” มอสพูดขึ้นอย่างลอยๆแบงค์จึงโยนลูกบอลในมือใส่หัวมอส เขาเอามือลูบหัวด้วยความเจ็บ
“คงมีแค่แกกับไอ้โบ๊ทดิที่ลืม น้องพวกนั้นน่ารักจะตาย” แบงค์พูดขึ้นและยิ้มกับตัวเอง
“ใช่ๆ ก็แกกับโบ๊ทก็ไม่อยากไปงานอยู่แล้วนิ ถ้าฉันไม่หาคู่ให้อ่ะ” วินเสริม
“เฮ้ย!ไอ้เฟม”แบงค์พูดขึ้นหลังจากที่มองเห็น เด็กผู้ชายรุ่นเดียวกับเขาที่ลักษณะคล้ายกับหนึ่งทุกอย่างเว้นเสียว่าเขาเจาะคิ้วด้านซ้าย
“มันจะมาทำไม” หนึ่งลุกขึ้นและเดินตรงไปหาเฟม พวกเขาเห็นท่าไม่ดีเลยเดินตามไป
“นายจะมาทำไม!”หนึ่งพูดเสียงเรียบแต่ฟังแล้วดูเหมือนเย็นชา
“แค่เอาเงินที่ฉันติดหนี้นายมาให้”เขายื่นเงินสามพันบาทให้กับหนึ่ง
“เอามาให้นึกว่าฉันจะหายโกรธรึไง ไอ้คนทรยศ”หนึ่งพุ่งเข้าหาเฟมที่ยืนนิ่งแต่วินก็เข้ามาห้ามและรั้งไว้
“อย่าดิ! เพื่อนกันนะเว้ย” วินพูดเตือนสติหนึ่งที่กำลังโมโหและวู่วาม
“ฉันไม่นับเพื่อนกับมัน มันไม่ใช่เพื่อนฉัน” เขาตะโกนก่อนจะสวนหมัดใส่เฟม เขาล้มลงและพุ่งเข้าหาหนึ่งและสวนหมัดใส่หน้าเขา แบงค์ บาส และวินมาห้ามสองคนนี้ไว้ก่อนจะดึงหนึ่งกับโต๊ะ
“เฟม!” บาสเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เฟมหันหลังและเดินกลับไป บาสเดินกลับโต๊ะและนั่งลงข้างโบ๊ท
“โชคดีที่น้องพวกนั้นเข้าห้องไปแล้วนะเนี่ย”วินพูดขึ้นพลางมองไปที่สนามของอีกฝั่ง หนึ่งหักปากาดำที่ถืออยู่ น้ำหมึกไหลออกราวกับเลือดและหยดลงบนโต๊ะหินอ่อนที่พวกเขานั่ง บาสมองปากกาที่ถูกหักเป็นสองส่วนแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
.
“วันนี้ไปร้านทำผมกันนะๆๆ”ลินคะยั้นคะยอเพื่อนหลังจากที่เลิกเรียน
“เข้าหอก่อนหนึ่งทุ่มนะ”พราวบอกกับลิน
“จ้า” พราว ลิน และพัด ก็เดินไปที่รถซีอาวีสีดำของพราว แพท โบว์และเมย์ก็เดินไปที่ยาริสสีขาวคันโปรดของแพท
“อยากรู้จังนะเธอ ว่าพวกพี่บาสจะไปกับใคร” หญิงสาวกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันขณะที่พวกเธอกำลังเดินไปที่รถ
“ฉันจะชวนพี่หนึ่งไปละ”หญิงสาวผมยาวบอกกับเพื่อน แพทหัวเราะคิกคักกับเมย์และโบว์ก่อนจะขึ้นรถ
หลังจากที่พวกเธอทำผมเสร็จจึงไปเที่ยวห้างต่อเพราะยังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงจะหนึ่งทุ่ม
“เดี๋ยวหกโมงเจอกันที่รถนะ”แพทบอกกับโบว์ และเมย์ หลังจากนั้นเธอกับพราวก็เดินไปร้านตัดชุดราตรี
ซึ่งเจ้าของร้านเป็นเพื่อนแม่พราว
“น้องแพท น้องพราว”เสียงเรียกจากด้านหลังเธอ ทั้งคู่จึงหันไปตามเสียง
“พี่เฟม ” แพทพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“พี่นัท”พราวมองชายหนุ่มที่เธอรู้จักตอนไปงานเลี้ยงเต้นรำเมื่อปีที่แล้วกำลังเดินเข้ามาใน%
ความคิดเห็น