ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มนต์ขลัง หนังสือต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท หนังสือคำสาป

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.พ. 50



         ท่ามกลางระเบียงทางเดินที่มืดสลัว เสียงฝีเท้าหนักๆค่อยๆดังมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นสัญญาณว่าเจ้าของเสียงนั้นใกล้เข้ามาแล้ว แสงสว่างจากเชิงเทียนตามทางเดินส่องให้เห็นเพียงร่างในเสื้อคลุมสีขาวเท่านั้น

         ร่างในเสื้อคลุมเดินมาหยุดที่หน้าประตูบานหนึ่ง เสียงถอนหายใจเบาๆดังลอดออกมาจากเสื้อคลุม

              "ลูซิน เปิดประตู หรือจะให้ข้าพังเข้าไป"น้ำเสียงหล่อนร้อนรนแต่ก็ยังเจือเสียงหวานอยู่ นางกระสับกระส่ายขณะรอให้บุคคลด้านหลังประตูเปิดประตูออก "ท่านกำลังจะต้องซื้อประตูใหม่ ลูซิน"นางพูดด้วยเสียงดังกว่าเดิมด้วยอารมณ์คุกกรุ่น แต่ก่อนที่ประตูที่น่าสงสารจะหายไปจากโลก มันก็เปิดออก

              "เลิฟ ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุผลอันใด เชิญข้างในก่อนดีหรือไม่"เสียงแหบพร่าของชายแก่ประปรายด้วยนำเสียงที่ออกจะยั่วยุอารมณ์โมโหให้ทวีขึ้น ลูซินใส่เสื้อคลุสีดำสนิทผิดกับหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัด

         หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องอย่างไม่รอช้า พร้อมๆกับที่เทียนไขสีขาวจะสว่างขึ้นใจกลางห้อง เผยให้เห็นห้องที่ระเกะระกะเต็มไปด้วยหนังสือและขวดแก้วมากมายที่บรรจุของเหลวหลากสี ใกล้ๆกับหม้อต้มสีดำสนิท แต่ที่แปลกตาที่สุดคงจะเป็นลายอัขระโบราณที่สลักอย่างงดงามเป็นวงล้อมรอบเทียนไขสีขาว2ชั้น

              "ท่านรู้อยู่แล้วนี่ ว่าฉันจะมา และมาเพื่ออะไร"เลิฟว่าหลังจากที่กวาดตาดูรอบๆห้องและหยุดอยู่ที่เทียนไขและลายอัขระเป็นพิเศษ 

              ชายแก่ฉีกยิ้มกว้างอย่างน่ากลัว เขาหันมาเผชิญหน้าหญิงสาวอย่างไม่หวั่นเกรง"โอ้ สาวน้อย เรื่องนั้นมันแน่ๆอยู่แล้ว ไม่มีใครรอดจากเงื้อมือมัจจุราชได้หรอก"

         เลิฟหลุบตาลงต่ำอย่างสั่นสะเทือนใจ ริมฝีปากสั่นระริกเอ่ยสั้นๆว่า "เขาตายแล้ว"

         ลูซินมองเด็กสาวอ่อนวัยอย่างสงสาร อยากบอกนางนักว่า'ข้าเตือนแล้ว'แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะทำร้ายจิตใตนางไปมากกว่านี้

              "ส่งมันมาเถอะ"เสียงแหบพร้าดังขึ้น เลิฟจึงได้แต่กัดฟันอย่างปวดร้าว แล้วหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากเสื้อคลุม มันเป็นหนังสือปกดำที่ดูเก่าเอามากๆ แต่ไม่มีแม้ลายลักษณ์ใดบ่งบอกถึงชื่อเรื่องหรือชื่อผู้เขียน เธอส่งให้ชายแก่ด้วยมือที่สั่นระริก จนสุดท้ายลูซินถึงกับต้องคว้ามาเองเพราะกลัวว่าถ้ารอคงต้องใช้เวลาอีกนาน

         ลูซินถือหนังสือแล้วเดินเข้ามาในวงอัขระตามมาด้วยเลิฟ ชายแก่ถิดฮู้ดที่คลุมหัวอยู่ออกมาเผยให้เห็นศีรษะโล่นเตียน ขณะที่พอเลิฟถอดฮู้ดบ้างทำเอาลูซินต้องสบถกับผมยาวสลวยดุจไหมทอง

              "ในนามผู้ปกป้องแห่งความมืด"เสียงแหบพร่านำขึ้นก่อนพร้อมกับที่วงอัขระชั้นนอกเปล่งแสงสีดำ "ในนามของผู้ปกป้องแห่งแสงสว่าง"เสียงหวานเอ่ยตามทำให้วงอัขระชั้นในทอแสงสีขาว หลังจากนั้นตัวอัขระทั้ง2สีก็หลุดออกมาจากวงแหวนที่ล้อมรอบเทียนไข อัขระแต่ละตัวหมุนเวียนรอบเทียนไข ความเร็วเริ่มช้าลงเรื่อยๆจนใกล้จะหยุดนิ่ง ชายแก่เผยยิ้มบางๆ

              "ทำเองดีมั๊ย"เขายื่นหนังสือปกดำให้แก่หญิงสาวที่พยักหน้ารับและรับมาถือไว้อย่างชั่งใจ ทำให้ชายแก่ต้องพูดต่อ "ข้านึกว่าเจ้าตัดใจได้แล้วซะอีก" เลิฟหลลสายตากับคำพูดนั้น ทำเอาลูซินต้องถอนใจ

              "เจ้าจำได้มั๊ย ก่อนวันที่เจ้ามอบหนังสือเล่มนี้ให้เขาคนนั้น เจ้าบอกข้าว่าอย่างไร...เจ้าบอกข้าว่าเจ้าจะแสดงให้เห็น ถึงโอกาส เจ้าบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ และแน่นอนเจ้าบอกว่าสามารถแก้ไขความเป็นจริงนับพันปีได้...แต่จนบัดนี้ข้ายังไม่เห็นสิ่งใดตามที่เจ้าบอกเลย ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงได้..."ลูซินแสยะยิ้มอย่างเหยียดหยาม แต่เลิฟเพียงกอดหนังสือไว้กับอก แต่เขาก็แน่ใจว่าเธอได้ยินทุกคำพูด 

              "ทีนี้ลงมือซะ กำจัดมันไป เพื่อคนรักของเจ้าเองด้วย" คำพูดสุดท้ายทำเอาเลิฟถึงกับชะงัก

              "เชื่อสิ เลิฟ เชื่อเรา และตัวเจ้าเอง"

              "ไม่ต้องห่วงไปหรอก ไม่ว่าอย่างไรตราบที่มีเจ้าอยู่เคียงข้าง เราไม่มีทางเป็นอะไรหรอก"

              "ขอโทษนะที่เราพิสูจน์มันไม่ได้ แต่จำไว้เถอะ มัน..."

         ถ้อยคำในอดีตแล่นเข้าสู่ห้วงความคิด แต่คำพูดสุดท้ายของเขาคนนั้นกลับถูกลืมไปเสียแล้ว พร้อมๆกับหยดน้ำตาของความสูญเสีย...

         เลิฟกอดหนังสือปกดำไว้แน่น "ลูซิน...ฉันขอโทษที่มารบกวนเวลาท่าน ที่หลังจะไม่มารบกวนท่านอีก ขอตัวล่ะ"นางว่าแล้วก็ก้าวออกจากวงกลมไปทำให้ตัวอัขระสีขาวทั้งหมดล่วงลงสู่พื้นแล้วจมหายไป นางโค้งให้ลูซินที่ก้มหน้าอยู่ครั้งสุดท้ายแล้วจากไป
     
         ชายแก่เงยหน้าขึ้นช้าๆ ใบหน้าที่ประปรายไปด้วยรอยย่นปรากฏรอยยิ้มในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

              "เลิฟ เจ้าคิดจะให้ใครล้างคำสาปของ'หนังสือคำสาป'นั้นอีกล่ะ...ช่างเถอะ ข้าก็ยังไม่อยากให้เจ้าตายเหมือนกัน"พูดจบรอยยิ้มที่เคยมีก็เลือนหายไป หลงเหลือแต่เสียงหัวเราะในแบบฉบับปีศาจ...

                                                  ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×