คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง
“อึก!”
ชายผมขาวได้หลอมทดลองได้ร้องออกมาเบาๆด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ร่างกายของเขาจะปรากฎเส้นพลังงานบางอย่างขึ้นมา
“เควิน…”เสียงพูดของหญิงสาวผมสีม่วงในชุดกาวได้เอ่ยออกมาเบาๆด้วยความเป็นห่วง
สายตาของเธอได้จับจ้องไปยังร่างของชายหนุ่มได้หลอดแก้วด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
แต่ทันใดนั้นเองก็ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้วิ่งเข้ามาภายในห้องอย่างรีบร้อน
“ดร.เมย์คะตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่แล้วคะ?!”
หญิงสาวที่วิ่งเข้ามาในห้องได้พูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“หืม?” หญิงสาวผมสีม่วงที่ถูกเรียกได้หันไปด้วยความสงสัย
ก่อนที่หญิงสาวจะบอกให้ตามเธอไปที่ห้องมอนิเตอร์เนื่องจากตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ?” หญิงสาวผมสีม่วงได้ถามขึ้นหลังจากที่มาถึงยังห้องมอนิเตอร์
“ดูนี่ก่อนสิครับ?!” เสียงของชายที่นั่งอยู่ที่จอมอนิเตอร์ได้พูดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
ก่อนที่หน้าจอขนาดใหญ่จะฉายภาพๆหนึ่งขึ้นมาทำเอาดร.เมย์ที่เห็นถึงกับเบิกตากว้างเลยทีเดียว
“ดะ-ได้ยังไง! ก็เควินหน่ะยัง?!”
ดร.เมย์ได้พูดออกมาด้วยความตกใจนั่นก็เพราะว่าภาพเบื้องหน้าที่ทุกคนภายในห้องกำังได้เห็นอยู่นั่นคือ….
ภาพของชายหนุ่มผมสีขาวดวงตาสีฟ้าที่ทุกคนคุ้นเคยกำลังยืนเผชิญหน้ากับหญิงสาวผมสีแดง
แต่ที่แปลกก็คือชายหนุมคนนั้นกำลังปล่อยออร่าสีขาวออกมารอบๆตัวแช่แข็งพลังเปลวเพลิงของหญิงสาวผมสีแดง
“แล้วเควินหล่ะฉายภาพเควินขึ้นจอซิ!”
ดร.เมย์ได้พูดดขึ้นซึ่งชายหนุ่มที่เป็นผู้ควบคุมหน้าจอมอนิเตอร์ที่ได้ยินก็รีบฉายภาพของเควินขึ้นมาบนหน้าจอ
ซึ่งภาพของชายผมขาวที่อยู่ในหลอดทดลองก็ปราฏำขึ้นมากลางจอ
ทำเอาทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างก็พากันอึ้งว่ามันเป็นไปได้ยังไงที่มีเควินถึงสองคนในเวลาเดียวกัน
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี้ย-------”
ยังไม่ทันที่ดร.เมย์จะพูดจบหญิงสาวผมสีแดงก็เริ่มเปิดฉากจู่โจมชายหนุ่มผมสีขาวในจออย่างรวดเร็ว
[ตู้มมมมมมมมมมมมมม!!!!!!]
เปลวเพลิงสีแดงชาดได้พุ่งโจมตีไปยังชายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
“ดร.เมย์ครับพวกเราควรจะส่งกองกำลังเข้าไปช่วยเขามั้ยครับ?”
“ยัง… ยังก่อนรอดูหลังจากนี้ไปก่อนตอนนี้ความหวังของพวกเราห็เหลือเพียงแค่เควินเท่านั้น”
ดร.เมย์ตอบกลับด้วยใบหน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้จากนั้นเธอก็จ้อฃมอฃไปยังจอมอนิเตอร์อีกครั้ง
ทุกคนที่ได้ยินเมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้พวกเขาก็ทำได้แต่ต้องเชื่อฟังเท่านั้นก่อนจะพากันหันไปมองที่หน้าจออีกครั้ง
และภาพที่ปรากฎต่อไปก็ยิ่งทำให้ทุกคนอึ้งอีกครั้งเนื่องจากที่โดนระเบิดเข้าไปเมื่อกี้นี้แทบไม่เป็นอะไรเลย…
ไม่สิ…
ไม่มีบาดแผลเลยแม้แต่น้อย...
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย
“เห้อ… อะไรกันฟร่ะเนี้ย?”
ชายหนุ่มผมขาวพูดออกมาด้วยความงงงงวยเขาได้แต่ยืนงงในดงเพลิงด้วยความสฃสัย
เนื่องจากเมื่อกี้เขาพึ่งจะลงจากรถเมย์เพื่อไปงานคอสเพลย์ที่เพื่อนของเขาแนะนำมารู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่ที่นี่แล้ว
และในระหง่างที่กำลังเดินไปเรื่อยด้วยความมึนเขาก็เจอเข้ากับหญิงสาวผมสีแดงที่ยืนอยู่บนกองเพลิงเช่นเดียวกับเขา
ชายหนุ่มก็เลยถือโอกาสจะเข้าไปถามเลยว่าตกลงแล้วที่นี่เป็นที่ไหนกันแน่
แต่หญิงสาวคนนั้นเมื่อหันมาเจอเข้ากับเขาเธอก็ไม่พูดอะไรอยู่ดีๆก็โจมตีเข้ามาเฉยเลย
และในระหว่างที่ตัวของเขากำลังคิดว่ามันเรื่องอะไรกันแน่เขาก็เลยยกแขนขึ้นมากันเอาไว้
พอรู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นว่ารอบข้างของเขามันถูกปกคลุมไปด้วยนํ้าแข็ง
แทนที่จะเป็นเปลวเพลิงเหมือนกับก่อนหน้านี้ชายหนุ่มก็คิดขึ้นมาได้ทันที
“ใช่! ใช่แล้ว?! มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ?!”
ชายหนุ่มได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นทำเอาหญิงสาวผมสีแดงที่อยู่ตรงหน้าของเขาได้แต่ยืนงง
“?”
เธอมองชายตรงหน้าด้วยสายตาแปลกๆก่อนที่จะโจมตีเข้ามาอีกครั้ง
ตู้มมมมมมมมมมมมม!!!!!!!
เปลวเพลิงที่สุดแสนจะร้อนแรงได้พุ่งเข้ามาหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
และเมื่อควันได้จางหายไปสิ่งที่เธอเห็นมันก็ทำให้เธอได้แต่ยืนอึ้ง
และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็คือชายหนุ่มที่ไม่เป็นอะไรเลยสักนิิด
นอกจากนั้นเขายังเอาดาบที่ไม่รู้ว่าไปหาจากไหนขึ้นมาป้องกันการโจมตีของเธอเอาไว้ได้เฉยเลย
“ใช่แล้ว… ใช่จริงๆด้วย! ชั้นสามารถเรียกดาบออกมาจากความว่างเปล่าได้มันก็มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น?!”
ชายหนุ่มไพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับสบัดดาบอย่างแรงจนเปลวเพลิงที่อยู่รอบๆตัวของเธอและเขาได้ถูกแรงลมพัดจนหายไปหมด
“หึๆ!”
ชายหนุ่มได้หัวเราะในลำคอราวกับคนเบียวก่อนที่จะลืมตาขึ้น
“แม่งต้องเป็นฝันแน่ๆเลย ชัวร์ป้าป!”
ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างมั่นใจภายในหัวของเขาคิดว่าสงสัยเขาคงเผลอหลับในรถเมย์แน่ๆ
เหตุผลที่เขาสามารถเรียกดาบและพลังนํ้าแข็งออกมาจากความว่างเปล่าได้มันก็มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นนั่นก็คือฝัน
เขาเคยดูหนังเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับความฝันเราสามารถนึกอะไรขึ้นมาในฝันก็ได้เขาก็เลยนึกถึงดาบเล่มนี้ขึ้นมาและมันก็ปรากฎออกมาจริงๆ
มันก็ยิ่งทำให้เขายิ่งมั่นใจว่ามันเป็นฝันจริงๆเนื่องจากเขามีหน้าตาที่เหมือนกับเควิน คาสลาน่า
ที่อยู่ในเกมฮงไคมันก็เลยทำให้เขานึกถึงชื่ออาวุธของเควินขึ้นมาได้
Shuhadaku of Uriel นั่นแหล่ะคือชื่อของดาบที่เขากำลังถืออยู่ในมือตอนนี้
และในตอนนี้เขาก็จำหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าของเขาได้แล้ว
‘ถ้าจำไม่ผิด… รู้สึกว่าเธอจะชื่อว่าฮิเมโกะสินะ… แฮชเชอร์แห่งไฟลำดับที่ 7 จากอารยธรรมเก่ามั้ง?’
“ชั้นนี่มันสุดยอดจริงๆจินตนาการออกมาได้ซะเหมือนขนาดนี้ เล่นเอาซะนึกว่าเป็นของจริงเลยนะเนี้ย”
ชายหนุ่มที่ยังคงคิดว่ามันเป็นความฝันอยู่ได้พูดชมตัวเองออกมาอย่างหน้าไม่อาย
“ไหนๆมันก็เป็นความฝันแล้ว… สนองนีทสักหน่อยจะเป็นอะไรไปจริงมั้ย?”
ทันทีที่เขาพูดจบชายหนุ่มก็ได้โชว์ควงดาบไปหนึ่งที
ฟึบๆๆๆ!
‘ฝึกควงดาบเคนโด้ซะตั้งนานในที่สุดก็ได้ใช้สักที’
“ถ้าน้องไม่เข้ามาเดี๋ยวพี่จะไปหาเองนะจ๊ะ~”
และในระหว่างที่ตัวของชายหนุ่มนั้นกำลังยืนแอคอยู่ดีๆทันใดนั้นเองมันก็ได้มีหน้าต่างบางอย่างเด้งขึ้นมาตรงหน้าของเขา
***************************************
[ภารกิจ : เอาชนะแฮชเชอร์แห่งไฟ]
[รางวัล : การปรับอุณหภูมิร่างกาย]
***************************************
“สมแล้วจริงๆที่เป็นฝัน… แม่มมียันระบบ---”
ยังไม่ทันทีชายหนุ่มจะพูดจบสัญชาตญานของเขามันก็ได้ตะโกนบอกให้กระโดดหลบอะไรบางอย่าง
แน่นอนว่าชายหนุ่มนั้นก็เลยที่จะทำตามที่มันบอกเขาได้กระโดดหลบออกไปทางด้านข้าง
ก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมาเขาจะเห็นว่ามีเปลวเพลิงขนาดใหญ่ได้พุ่งไปยังจุดที่เขายืนอยู่เมื่อกี้อย่างแรง
มันแรงถึงขนาดทำให้พื้นที่เขายืนอยู่เมื่อกี้กลายสภาพเป็นลาวาเลยทีเดียว
“Holy Shit!!!!!” ชายหนุ่มนั้นก็ถึงกับเบิกตากว้างเลย
เปลวเพลิงเมื่อกี้มันต้องมีอุณหภูมิที่สูงมากแน่ๆไม่งั้นมันไม่ทำให้พื้นละลายหรอก
‘ขืนโดนเข้าไปตรงๆหล่ะก็แย่แน่! ต่อให้มันเป็นฝีนแต่ชั้นก็ไม่อยากถูกละลายหรอกนะเฟ้ย?!’
เมื่อเขาเห็นแบบนั้นหน้าของเขาก็ฉายแววตื่นตระหนกออกมาทันที
ก่อนที่เขาจะแล่นดิ้งลงพื้นทันทีที่ลงมาถึงพื้นแล้วเขาก็ไม่รอใช้รีบใช้พลังนํ้าแข็งของตนแช่แข็งรอบๆทันที
“ให้ตายเถอะเอาพลังนํ้าแข็งมาเจอกับพลังไฟแบบนี้ก็แย่หน่ะสิ”
ชายหนุ่มพูดพลางถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะหลบการโจมตีของอีกฝ่ายอีกครั้ง
แม้จะดาดเดาการโจมตีของอีกฝ่ายได้ง่ายก็จริงแต่หาโอกาสโจมตีค่อนข้างยาก
“ขืนหลบต่อไปเรื่อยๆแบบนี้ก็คงจบไม่ได้สักทีงั้นก็เปลี่ยนเป็นคลุกวงในแทนก็แล้วกัน!”
ชายหนุ่มได้เอ่ยขึ้นก่อนที่เขาจะกระชับดาบในมือให้แน่ขึ้นอีก
ส่วนเหตุผลที่เขาอยากรีบจบนั่นก็เพราะว่าตอนนี้เขาเริ่มปวดฉี่แล้ว
ขืนไม่รีบจบและรีบออกไปจากความฝันเร็วๆได้ปล่อยออกคารถเมย์แน่ๆ
แค่คิดถึงสายตาของประชาชีจำนวนมากที่ดูอยู่เขาก็ต้องอายจนแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆ
ความคิดเห็น