คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เดินทาง
ได้
ที่ อบาคัส แผนกมัธยม
ภายในห้องพักหมายเลขที่ 2313
เด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่ในห้องพักด้วยท่าที่สบายที่สุดเท่าทีจะทำได้ดวงตาสีน้ำเงินบอกถึงความง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัดผมสีทองยุ่งเหยิงอย่างไม่เป็นทรงแต่ก็ดูดีอีกระดับนึงแต่แล้วความเงือบสงัดก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงๆหนึ่ง
กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์ ใกล้ตัวดังขึ้น เด็กหนุ่มหยิบมันขึ้นมาแนบหู
“ว่าไง” เขาพูดสั้นๆ
“ ไอ้ วิล แกอยากโดนฆ่ารึไงวะ” เสียงคู่สนทนาดังราวกับได้รับรู้ว่า นกเพนกวินพ่นไฟได้
“ทำไม ใครจะฆ่าฉัน” วิลเลียม แมคคอเลย์ กล่าวด้วยเสียงระดับเดิม
“กี่โมงแล้ว”
“ถามอย่างตอบอย่าง 7.45 น่ะสิ”
“แล้ววันนี้เป็นวันอะไร” อีกฝ่ายยังถามต่อ
“คาลอส วันนี้ผีเข้ารึไง” วิลย้อน
“ตอบคำถามฉันมาก่อน” คาลอสพูดแกมบังคับ
“ก็เป็นวัน....................”ตาสีน้ำเงินเบิกกว้าง
“เปิดเทอมวันแรก” คาลอส เเละ วิลพูดพร้อมกัน
บัดนี้นาฬิกา บอกเวลา 7.50 น. อีก 10 นาทีจะเข่าเรียน คาลอสแอบขำอย่างชอบใจ
“แค่นี้ก่อนนะ” วิลพรวดพราดออกจากห้องแลัวรีบเข้าห้องน้ำ
ฟ้าว
เสียงรถรูปร่างคล้าย จักรยานยนต์ดังขึ้นก่อนจะทะยานตัวออกไปด้วยความเร็วสูง วิลบิดคันเร่งจนสุด ยังดีที่รถวิ่งเหนือพื้นดินถ้าวื่งข้างล่างรับรองคนตายกันรึ่ม วิลเบี่ยงตัวหลบอาคาร คหกรรม เลี้ยวขวาแล้วค่อยๆลงมายังที่จอดรถด้านหน้าตึกๆหนึ่ง วิล รีบวิ่งเข้าไปด้านในด้วยความเร็วที่เกินมนุษย์ วิลวิ่งขึ้นบันได จนมาถึงชั้น ห้าสิบ เขายืนทำใจก่อนจะเปิดประตูเข้าห้อง
ผ่าง
เงียบ
พระเจ้า
อาจารย์ยังไม่เข้าสอน
วิลเลียมถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ สายตานับสิบดวงกำลังมองมาทางเขาและตาทั้งหมดนั้นประสานกันเป็นหนึ่งเดียว อย่างมิได้นัดหมาย วิลเริ่มมองหาที่นั่งที่ยังว่างอยู่จนพบซึ่งคนที่นั่งข้างๆ เป็นเด็กผมสีขาว ตาฟ้า ดูแล้วก็ดูดีอีกแบบ และจะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจาก คาลอส เวซาดิอุส เพื่อนที่แสนดีที่โทรไปปลุกเขาเมื่อเช้านั่นเอง วิลเลียมนั่งลงก่อนจะเอ่ยปากพูด
“อาจารย์ยังไม่เข้าสอนอีกเหรอ”
“ยังเลย”
“แล้วเมื่อเช้าทำไมเพิ่งโทรมาปลูก” วิลพูดเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่วายที่จะโดนสายตานับสิบหันมามอง (อีกรอบ)
“แกล้งคนสนุกดีะ ว่าไหม?” คาลอสหันมาพูดด้วยน้ำเสียงประมาณ ว่า สะใจจังเลยโว้ย
“เออ หนุก หนุกมาก” วิลกัดฟันพูด “แต่อาจารย์มาช้าจัง”
“สงสัยเกิดเรื่อง” คาลอสกอดอกพูด พลันนั้นนักเรียนทั้งหมดที่คุยกันกลับเงียบลง เมื่อสัมผัสได้ถึง พลังบางอย่าง
พรึบ
เสียงบางอย่างคล้ายเสียงลมพัดเข้ามาแต่บางอย่างกำลังจะบอกนักเรียนในห้องว่ามันไม่ใช่เพียงลม หน้าต่างทุกบานปิดสนิทในห้องปรับอากาศแห่งนี้ ประตูก็เช่นเดียวกัน จะอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้มันกำลังพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง
เพล้ง
จู่ๆกระจกในห้องเรียนก็แตก อย่างไม่ทราบสาเหตุ
เหล่านักเรียนที่อยู่ในห้องพากันแตกตื่น แต่มีนักเรียนผมฟ้าที่มีปีกกระโจนออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับเหอะไปบนฟ้าเพื่อขอความช่วยเหลือคาลอสยืนขึ้นเพื่อหาต้นตอของพลังลึกลับ (ขออย่าให้มันเป็นอย่างที่ฉันคิด)คาลอสภาวนาในใจ อย่างไร้ซึ่งความ หวาดกลัว แต่ก็ไม่พบ
ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น ดังราวกับเสียงของอสูรร้าย
มึงทั้งหลายจะประสบพบสงคราม
มันเป็นเสียงที่น่ากลัวและลึกลับในเวลาเดียวกัน เสียงที่ชั่วร้าย ซึ่งนำมาด้วยความหวาดหวั่นของนักเรียนทุกคนภายในห้องนั้น และทำให้นักเรียนทั้งหมดเงียบลง คาลอสที่ยืนอยู่ถึงกับเข่าทรุด เช่นเดียวกับนักเรียนอีกหลายคนที่อยู่นิ่งอยู่กับที่ บางคนก็อยู่นิ่งไม่มีอาการใดแสดงออกทางสีหน้าอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่รู้เรื่อง
เกี่ยวกับประโยคนี้
เมื่อเด็กผมฟ้าที่มีปีกบินกลับมา ไม่นานอาจารย์คนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามา เขาเป็นอาจารย์ที่ดูมีอายุยังน้อยโยมีผมสีดำและตาสีเดียวกันที่สดใสเป็นเครื่องยืนยันได้ดี บวกกับสูทสีดำ ทำให้เขาดูเด็กขึ้นอีก
“อยู่ในความสงบเท่านั้นนะ ตอนนี้พวกครูกำลังปรึกษาเรื่องนี้กันอยู่ อย่ากังวลอะไรมาก” เขาเอ่ย “แล้วก็ขอโทษด้วยที่มาช้า ครูชื่อ บรอนทีสส์ เอาล่ะสำหรับวันนี้ยังไม่มีการเรียนการสอน แล้วพรุ่งนี้เรียนเต็มวันตามปกตินะ อย่าลืม” เขาก้าวออกจากห้องพร้อมกับเศษกระจกทั้งหมดที่กลับสู่สภาพเดิมด้วยอำนาจแห่งจิต
“คาลอส” วิลเขย่าตัวคาลอสที่ดูเหม่อลอย
“คาลอส” เขาเรียกซ้ำอีกครั้ง
“คาลอส”และอีกครั้ง
เมื่อเรียกแล้วไม่ขยับ ก็ต้อง
วิลใช้มือจับที่แขนของคาลอสอย่างแผ่วเบา
“อ๊าก” คาลอสร้องไม่เป็นภาษามนุษย์เมื่อสัมผัสถึงไอเย็นที่ค่อยๆลุกลามไปทั่วตัว!!!!!!!!!!!!!
“บอกได้ยังว่าเสียงพูดนั่นมันคืออะไร”
“แกเรียกดีๆก็ได้นี่”
วิลซัดน้ำแข็งไปอีกรอบ ราวกับจะสร้างรูปปั้นน้ำแข็ง ที่มีนามว่า เทพี คาลอส
คาลอสทำหน้าจริงจัง พร้อมกับพูดเสียงสั่น
“มัน เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้ มันเป็นแค่ตำนานเท่านั้น นั่นน่ะเป็นคำพูดที่อยู่ในบทกลอนโบราณที่เชื่อกันว่า เผ่าปักษาทมิฬ แต่งขึ้นเพื่อ ข่มขู่ชาวโลก แต่เมื่อมันแผลง ฤทธิ์ อีกครั้ง เผ่านี้นะถ้าได้ทำสงครามซักหน่อยละก็ โลก ทั้งใบ รวมถึงดาวทุกดวงที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่เหลือแม้แต่ซาก มันคือ ฝันร้ายที่ทุกคนไม่อยากเจอ
ถึงตอนนี้สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว”
“นั่นสำหรับนายคนเดียวหรอก”คาลอสย้อน แต่เมื่อกำลังจะเอ่ยปากพูดเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“โลกกำลังจะแตกแต่ไหงนายสองคนมานั่งคุยกัน 2ต่อ2 อย่างสนุกสนาน” เด็กสาวคนหนึ่งโผล่หน้าเข้ามาพูด
“อ้าวรีน่า”วิลทัก
“เกิดเรื่องแล้ว ที่ลานจอดรถข้างล่างน่ะ”เธอพูดก่อนจะวิ่งนำหน้าออกไป
****************************************************************************************
ที่ลานจอดรถ
มีนักเรียนมากมาย มุงดูอะไรบางอย่างอยู่ และแน่นอน มันต้องไม่ธรรมดาแน่
“ขอทางหน่อย ขอทางหน่อย” รีน่า ตะโกรบอกขณะที่เดินนำหน้าวิลและคาลอสฝ่าฝูงชนไปดูอะไรบางวิลเห็นว่ามันเป็นเหมือนหินสีส้มและดูใหญ่แต่เมื่อมองดูจากตรงนี้ก็ไม่เห็นอะไรมากนักและแล้วความพยายามก็ประสบผลสำเร็จเมื่อมาถึงจุดหมายจนได้
“ฉันเห็นว่ามันเกี่ยวข้องกับเธอโดยเฉพาะน่ะ” รีน่าพูดก่อนจะหลีกทางให้คาลอสเดินไป แล้วนั่งชันเข่าอยู่หน้าก้อนหินลึกลับ
เมื่อเห็นหินสีส้มเข้มที่มันทำลายทุกอย่างภายในที่จอดรถขนาดของมันก็ไม่ใหญ่มากแค่ขนาดเท่ากับรถยนต์สองคันรวมกันผิดกับอานุภาพของมันลับลับแต่มันก็ไม่น่ากลัวเท่าสัญลักษณ์บางอย่างที่อยู่ตรงกลางของหิน รูปร่างมันดูเหมือนดาบไขว้กันตรงกลางที่เป็นจุดเชื่อมต่อที่ให้ดาบไขว้กันตรงกลางนั้น เป็นรูปพระอาทิตย์ทุกอย่างเรืองแสงสีทองและมีพระจันทร์รูปทรงแปดเหลี่ยมสีเหลืองเรืองแสงล้อมลอบอีกที วิลใจกระตุกทันทีเมื่อเห็น
( นี่มัน รูปกุญแจแห่งนาซคานอีกอันนี่) คาลอสคิด
“แล้วอาจารย์เห็นหรือยัง” วิลหันไปถามรีน่า
“ยังเลย จู่ๆมันก็โผล่มาไม่มีแม้แต่เสียง น่าจะเกี่ยวข้องกับคำพยากรณ์เมื่อเช้านี้ด้วย” ท่าทางเด็กสาวดูกังวลไม่น้อย
(มาอยู่นี่ได้ไงนะ แล้วหินนี่มันคืออะไร) คาลอสส้มหน้าลงเหมือนคนใช้ความคิดก่อนจะเหลือบไปเห็นข้อความบางอย่าง ที่ปรากฏอยู่ข้างล่างของ รูปกุญแจแห่งนาซคาน ฟากฟ้าจะพิพากษาชะตามนุษย์ (ท่าทางงานนี้จะลำบากซะแล้ว)
“อ้าว ถอยหน่อย”นักเรียนหลีกถอยตามเสียงเมื่ออาจารย์หลายท่านเดินเข้ามา คาลอสลุกขึ้นแล้วเดินไปหาวิล
“hey”เด็กหนุ่มผมฟ้าคนหนึ่งเดินเข้ามาทักคาลอส “นายคงไม่เอาเรื่องพวกนี้ไปคิดมากหรอกนะ ใช่ไหม” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
“สงครามเริ่มแล้ว โลกิ บาฮาสคงถึงจุดจบในไม่ช้า”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันจ้องเล่นงานที่นี่ทำไม แต่นายคงไม่ปล่อยให้ดาวดวงนี้สูญสลายไปแน่ ใช่ไหม ผู้คุ้มครองกุญแจแห่งซัคคาน”แววตาของโลกิส่อแววถึงความเป็นห่วงเพื่อนอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่ปล่อยให้พวกนายไปเสี่ยงตายกับฉันแน่”คาลอสพูดักทางเหล่าผองเพื่อน
“ทำไมล่ะคาลอส เราเป็นเพื่อนนายนะ”รีน่าที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นเธอเป็นสาวเปรี้ยวที่มีผมสีขาวด้านหน้าและด้านหลังเป็นสีดำ
“ใช่คาลอส เราเป็นเพื่อนของนาย ลำพังนายคนเดียวเนี่ยนะคงไม่ไหว”คราวนี้เป็นเด็กผมแดงกับตาสีเดียวกันดูงามเด่นเห็นแต่ไกล
คาลอสก้มหน้านิ่ง
“พวกนายคิดดีแล้วหรือ”คาลอสถาม
“ใช่ เราคิดดีแล้ว”เด็กหญิงผมดำคนหนึ่งพูดดูแล้วเหมือนลูกคุณหนู
“อย่างที่ ออร่า กับเฟรย์ย่าพูด เราคิดดีแล้ว”รีน่าเอ่ย “เราคงต้องออกจากดาวคืนนี้ โลกได้เกิดภัยพิบัติขึ้นแล้ว คาลอสหายนะอยู่เพียงตรงหน้าเราแล้วนะ”
“แล้วจะออกไปยังไงล่ะ”
“เครื่องบินส่วนตัวของฉัน” โลกิกอดอกพูด“แล้วเปิดระบบล่องหน”
“เราคงจะไปหาสุสานของผู้ริเริ่มตำนานบทใหม่ได้ก่อนพรุ่งนี้”คาลอสพูดด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความแน่วแน่”จะไม่มีอะไรหยุดเราได้ โลกิไปตอนนี้เลยได้ไหม”
“แน่นอน”
พวกเขาทั้งหมดพากันมาตรงสถานที่ลับที่มีระบบล่องหนป้องกันอยู่โดยมีคนผมขาวนามว่า ซิลเวอร์เป็นคนพาไป ซึ่งอยู่ตรงส่วนที่ว่างของดาวมันคือสถานที่เพียงแห่งเดียวที่ตกการสำรวจของดาว โลกิได้แอบสร้างมันไว้ทุกอย่างล้วนล่องหนหมดโดยพลังของซิลเวอร์ เพื่อนของโลกิ
“เดินเข้าไปเลย เร็ว” โลกิเร่ง ทั้งหมดทำตามแต่โดยดี
ภายในห้องนั้นกว้างใหญ่มากจนขนาดจอดเครื่องบินได้ สองลำ น่าแปลกที่ไม่มีใครรู้ว่ามีสถานที่นี้แอบซ่อนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือเครื่องบินรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่วมีปีกขนาดเล็กทั่วทั่งลำเป็นสีดำแวววาว
“”แล้วเราจะเดินทางไปไหน” วิลหันมาถามคาลอส
“สโนว์วิ่ง ดาวแห่ง กาลเวลา เครื่องบินนายจะบินไกลขนาดนั้นได้จริงๆเหรอ”
“ใช่โลกิ ถ้าเชื้อเพลิงหมดเราคงไม่ต้องอยู่จิบกาแฟที่ ดาวอังคารเล่นหรอกนะ”ดูท่าว่ารีน่าคงจะสงสัยเรื่องเดียวกัน
“แล้วที่สโนว์วิ่งมีอะไรเหรอ”คาลอสถาม คาลอสทำท่าจะตอบ แต่รีน่าชิงพูดก่อน
“แล้วเมื่อไรได้ฤกษ์ออกเดินทางสักทีเนี่ย”
“เชิญครับคุณผู้หญิง” โลกิพูด
ฟ้าว
เครื่องบินทะยานตัวออกไปด้วยความเร็วสูงภายใน10วิพวกเขาก็เดินทางออกนอกดาวแล้ว
“ฉันไม่เข้าใจเลยว่ากุญแจแห่งนาซคานเกี่ยวอะไรกับเผ่าปักษาทมิฬ” วิลเอ่ยปากถาม ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดยกเว้นซิลเวอร์ นั่งอยู่บนโต๊ะประชุมตรงห้องโถงของยาน
“เมื่อเช้าที่มันส่งคำพยากรณ์กับหินประหลาดมาน่าจะเกี่ยวข้องกัน”คาลอสพูด”ฉันได้รวบรวมคำพยากรณ์ที่ได้เห็นมาทั้งหมดในวันนี้เริ่มต้นด้วย มึงทั้งหลายจะประสบพบสงครามและฟากฟ้าจะพิพากษาชะตามนุษย์ ส่วนนี่กุญแจแห่งนาซคานอีกอันที่ฉันคุ้มครองอยู่ (เขาหยิบบางอย่างขึ้นมามันเหมือนมีดตรงด้ามจับเป็นสีฟ้าใส ส่วนตัวมีดมีรูปร่างหกเหลี่ยมม่วงแดง)มีอีก 2อันที่เราต้องตามหาเพื่อไม่ให้ชนเผ่าทั้งหลายได้ไป”
“ของสำคัญอย่างนี้พึ่งจะมาตามหาไม่รอให้โลกแตกก่อนล่ะ”รีน่ากอดอกถาม
“ตอนนี้มันถูกเก็บอยู่ที่สโนว์วิ่งมันคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดแต่ฉันยังไม่แน่ใจว่ามันจะป้องกันภัยร้ายจากเผ่าปักษาทมิฬได้”
“แต่คาลอสลำพังเราเอาชนะมันไม่ได้หรอก”ออร่า เด็กผมแดงบอก
“พวกนายเลือกมากันเองนี่”คาลอสย้อน
“ใช่ แต่ฉันยังไม่รู้ว่าถ้าเราทำสงครามกับมันจะเป็นยังไง”ท่าทางวิลก็ดูวิตกไม่แพ้กัน
“นี่พวกนายรู้ไหมเด็กทุกคนที่อยู่บนยานลำนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดานะ”ซิลเวอร์เดินออกมาจากห้องควบคุม “ใช่ไหมล่ะ เหล่าผู้เริ่มตำนานบทใหม่ทั้งหลาย”
“พลังของเราไม่ได้มากมายนัก ชักกลัวแล้วสิ”รีน่าพูด
“เราจะมายอมแพ้ไม่ได้นะ”ซิลเวอร์บอก”ถ้านายยอมแพ้ก็คงเอาชนะศึกในตอนนี้ไม่ได้หรอก”
“หมายความว่าไง”คาลอสถาม
“ปักษาทมิฬตามเรามา” ทุกคนใจกระตุก
“ตอนนี้เราอยู่ไหน”โลกิถาม
“ดาวฟาสท์เซิลดาวข้างเคืองของสโนว์วิง”
ความคิดเห็น