ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    b l u e s k y

    ลำดับตอนที่ #1 : my love life is none of your business

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 64



    ( เป็นเพียงข้อมูลคร่าว ๆ เพื่อให้รู้จักตัวตนของบอนนี่มากขึ้นเท่านั้น ยังไม่ใช่โปรไฟล์ที่สมบูรณ์อย่างแท้จริงนะคะ )



    " ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะเป็นอีหรอบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ใจคือแม่งโคตรบัดซบสิ้นดี ไม่คิดแบบนั้นบ้างเหรอ? "

         ชื่อ : บอนนี่ | Bonnie / บอนนี่ ลินวูด | Bonnie Linwood

         บอนนี่ ; น่ารัก , มีเสน่ห์ลินวูด ; ป่าที่มีลำธาร


         โค้ดเนม : ?  โรซ่า | Rosa


         ทีม : -


         อายุ : 19 ปี


         ชั้นปี : ปี 1


         ส่วนสูง / น้ำหนัก : 154 / 45


         วันเกิด : 20 ธันวาคม


         กรุ๊ปเลือด : O


         รูปร่างหน้าตา :

         สมญานาม 'พลอยสีลูกกวาดแห่งวงการมาเฟีย' ก็น่าจะบ่งบอกถึงเธอคนนี้ได้นะ? หญิงสาววัยสิบเก้าปีที่มีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก ผิวขาวสว่างที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ใบหน้าดูน่ารักจิ้มลิ้มที่มีดวงตาสีไอซ์บลูส่องประกายเหมือนลูกแก้ว และล้อมรอบไปด้วยแพขนตายาวประดับอยู่ พวงแก้มนุ่มนิ่มที่มีสีสันจากบลัชออนสีอ่อน ปากนิดจมูกหน่อยเหมือนกับตุ๊กตา เธอมักจะแต่งแต้มริมฝีปากของตัวเองด้วยลิปกลอสสีพีชหรือชมพูอยู่เสมอ คิ้วเล็ก ๆ ที่มักจะขมวดอยู่บ่อยครั้งเมื่อเจอเรื่องไม่ชอบใจ เส้นผมของบอนนี่นั้นถูกย้อมเป็นสีชมพูกุหลาบ (สีผมจริง ๆ ของเธอเป็นสีดำ) และถูกไว้ให้ยาวถึงกลางหลัง ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีเหตุผลที่ย้อมเป็นพิเศษนอกจากชอบเท่านั้น --- ท่อนขาที่เรียวยาวหากแต่แข็งแกร่งกว่าที่ใครจะคาดคิด มือและเท้าที่ค่อนข้างเล็ก เธอมักจะไว้เล็บยาวอยู่เสมอและเพนท์มันด้วยสีสันหรือลวดลายต่าง ๆ ตามความชอบและพึงพอใจในช่วงนั้น (ส่วนมากถ้าไม่ใช่สีโทนชมพู ก็เป็นโทนฟ้าหรือม่วง) เธอเจาะหูในตำแหน่ง earlobe และ helix ทั้งสองข้าง รอบกายของหญิงสาวคนนี้จะอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้และอำพัน จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในแบรนด์ Ohana Mahaalo กลิ่น Halia Nohea ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม แชมพู แฮนด์ครีม หรืออื่น ๆ และจุดเด่นอีกอย่าง คือลายสักรูปดอกกุหลาบสีแดงที่ข้อเท้าข้างขวาของเธอนั่นเอง

         การแต่งกายของบอนนี่มักจะเน้นไปในโทนสีเข้มมากกว่าที่จะเป็นโทนสีอ่อน บอนนี่มีเสื้อผ้าอยู่หลากหลายแบบ แต่ที่เธอโปรดปรานที่สุดก็คงเป็นเสื้อเปิดไหล่ เสื้อยืด ใส่คู่กับกระโปรงหรือกางเกงขาสั้นในหลาย ๆ แบบ เธอเป็นคนที่ค่อนข้างจะขี้ร้อน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ค่อยชอบใส่อะไรที่หนามาก ๆ หรือยาวมาก ๆ สักเท่าไร เครื่องประดับของเธอก็มีหลากหลายเช่นกัน และเธอก็มักจะมิกซ์ให้มันเข้ากับเสื้อผ้าในวันนั้นด้วย ที่ใส่ประจำก็คงเป็นต่างหูตรงตำแหน่งที่เจาะหูทั้งสองข้าง ที่ขาดไม่ได้คือต่างหูสีเงินแบบห่วงที่ตำแหน่ง helix โบว์หรือริบบิ้นผูกผม สร้อยคอหรือโชคเกอร์ สร้อยคอมือแบบต่าง ๆ และสวมแหวนที่นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวา โดยปกติแล้วบอนนี่ชอบสวมรองเท้าส้นสูงเป็นพิเศษ และเธอก็ชินกับการเคลื่อนไหวบนรองเท้าส้นสูงด้วย แต่ถ้าบางวันที่จำเป็นต้องเน้นการเคลื่อนไหวก็สามารถใส่ผ้าใบหรือสนีคเกอร์ได้เช่นกัน


         ลักษณะการพูด :

         บอนนี่เป็นคนที่พูดจาฉะฉานและชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงของเธอมักจะขึ้นลงไปตามอารมณ์ของเจ้าตัวหรือสถานการณ์ในขณะนั้น ถ้ายังอารมณ์ดีอยู่ก็โทนเสียงปกติ แต่ถ้าหัวร้อนขึ้นมาก็เสียงดังได้เหมือนกัน จริง ๆ แล้วถ้าบอนนี่ไม่อยู่ในอารมณ์หงุดหงิด น้ำเสียงของเธอก็หวานใสน่าฟังไม่น้อยเลยนะ ลักษณะการพูดของเธอค่อนข้างจะตรงไปตรงมา ถ้าไม่ใช่ตอนทำงานเธอก็มักจะติดนิสัยพูดคุยแบบเป็นกันเองกับคนอื่นมากกว่าการพูดแบบเป็นทางการ บางครั้งก็อาจมีสบถหยาบคายบ้างถ้าโกรธหรือหงุดหงิดน่ะนะ

         บอนนี่มักจะแทนตัวเองว่า 'ฉัน' ซึ่งก็เรียกได้ว่าเกือบจะครอบคลุมเลยทีเดียว ยกเว้นกับผู้ใหญ่หรือคนที่อายุห่างกันมาก ๆ ที่เธอจะแทนตัวเองว่า 'หนู' และกับน้องชายที่จะแทนตัวเองว่า 'พี่' และแทนคนที่อายุใกล้กันหรือน้อยกว่าว่า 'นาย/เธอ' ตามความเหมาะสม หรือรุ่นพี่ที่สนิทกันหน่อยก็จะแทนว่า 'พี่' และแทนคนที่อายุมากกว่า ไม่สนิทหรือไม่รู้จักว่า 'คุณ' ถ้าเป็นเพื่อนหรือคนที่สนิทกันหน่อยบางครั้งก็อาจจะเรียกชื่อไปเลย


         Ex. 1

         นี่มันเลยเวลาทำภารกิจไปจนจะครึ่งวันอยู่แล้วนะ ทำไมไอ้น้องบ้านั่นยังไม่โทรมารายงานอีกเนี่ย!?

         เธอคิดพลางมองนาฬิกาแขวนสไตล์ยุโรป มองลูกตุ้มของมันแกว่งไปมาเหมือนกับไม่มีอะไรทำ และจู่ ๆ เธอก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้...

         แล้วถ้าเกิดว่าหมอนั่นทำพลาดล่ะ?

         ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปกว่านี้ เสียงเรียกเข้าจากมือถือก็ดังขึ้น พอหยิบมาดูก็พบว่าเป็นน้องชายของเธอนั่นเอง

         "แอนดี้ นั่นนายใช่ไหม?"

         'ไม่เอาน่า เธอคงไม่ได้เมมเบอร์ผมเป็นชื่อคนอื่นหรอกจริงไหม' อีกฝ่ายไม่ตอบ แถมยังมีหน้ามายอกย้อนเธอกลับอีกต่างหาก...

         "นี่! อย่ามาย้อนพี่นะ นายก็น่าจะรู้ว่าวงการนี้มันเป็นยังไง เล่นหายหัวไปทั้งวันแถมไม่รายงานภารกิจแบบนี้ใครจะไม่เป็นห่วงหา!?"

         'โอ๊ะ โทษที ก็แบตมันหมดนี่นา แต่ผมก็รายงานภารกิจกับเอลิซ่าไปแล้วน่า อีกอย่าง อย่ามาเรียกชื่อจริงกันตอนยังไม่แน่ใจแบบนี้สิ ถ้านี่ไม่ใช่ผมแต่เป็นคนอื่นจริง ๆ มันจะแย่เอานา'

         พอได้ฟังเรื่องที่ดูซีเรียสแต่น้ำเสียงกลับดูติดเล่นของน้องชายแล้วบอนนี่ก็ขมวดคิ้วทันที ไอ้หมอนี่มัน ---

         "จะพูดก็ช่วยพูดให้มันจริงจังไม่เป็นรึไงนะ..."


         Ex. 2

         "ไม่ได้! ไม่ว่ายังไงหนูก็ไม่ยอมรับเรื่องนี้เด็ดขาด!!"

         "บอนนี่! จะไปไหนน่ะ!?"

         เรื่องแบบนี้มันใช่เรื่องที่จะมาบังคับกันง่าย ๆ ได้ที่ไหน ยังไงก็ยอมไม่ได้!

         "อ้าว บอนนี่ น้าแอนนิต้าว่ายังไงบ้างล่ะ?"

         จูเลียนที่ยืนอยู่นอกบาร์ถามขึ้น แต่คำตอบของหญิงสาวเจ้าของผมสีชมพูกุหลาบคือการหันกลับมามองคนถามตาขวาง

         "อ่า --- ช่างมันเถอะ เอ้อ! จริงสิ งั้นไปดื่มกันไหม เธอไม่ได้ไปหลายวันแล้วนี่ ป่านนี้หมอนั่นถามหาแย่แล้วมั้ง"

         บอนนี่หยุดเดินก่อนจะกำหมัดแน่น --- ไม่ได้ หมอนั่นนั่นแหละที่เธอยังไม่อยากจะคุยเรื่องนี้ด้วยตอนนี้มากที่สุดน่ะ...

         "อยากไปบาร์นู้นก็ไปคนเดียวแล้วกัน จะไปชวนใครก็เชิญ ฉันจะไปบาร์อื่น ไม่เอาบาร์น้าแอนนิต้าด้วย คุยกันยังไงก็ไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย"

         เอ้า?

         "แต่หมอนั่นก็ --- "

         "จะมาหมอน่งหมอนั่นอะไรอีกล่ะห๊ะ!? นี่พี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าสถานการณ์เป็นยังไง วันนี้ไม่ไปโว้ย!!"

         แล้วเธอก็เดินออกไปอย่างหงุดหงิด ทิ้งให้ชายหนุ่มที่อายุมากกว่ายืนทำหน้างงอยู่ที่เดิม

         "...สงสัยจะถามผิดเรื่องแล้วมั้งเรา"


         Ex. 3

         "วันนี้เป็นอะไรไปน่ะ?"

         "..."

         "เฮ้ ๆ เงียบใส่กันแบบนี้ไม่สมเป็นบอนบอนเลยนะ"

         "หนวกหูน่า" เธอสวนกลับ แต่น้ำเสียงอ่อนปวกเปียกแบบนั้นก็บ่งบอกได้ว่าเธอเริ่มจะท่องโลกใบใหม่ของตัวเองไปกับค็อกเทลแก้วนั้นแล้วล่ะมั้ง...

         "เซ้าซี้อะไรของนายอยู่ได้ ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย --- ทั้งน้าแอนนิต้า ทั้งคนคนนั้น พี่จูเลียน ไอ้บ้าแอนดี้ นิสัยไม่ดีกันสักคนเลย..."

         เขานั่งฟังเธอพึมพำโดยที่ยังไม่ได้ตอบอะไรกลับไป หรือบางทีอาจแค่สงสัยว่าแม่นี่จะพูดอะไรออกมาอีกกันแน่นะ?

         "มีแค่พี่แครอลคนเดียวที่ใจดีกับฉัน"

         "เอ้า แล้วที่นั่งอยู่นี่ล่ะ?"

         "นายเองก็บ้า บ้าที่สุด ไอ้คนบ้า..."

         บอนนี่เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง แถมดูท่าทางจะไม่รู้ตัวว่ากำลังพล่ามอะไรออกมาอีกมั้งนั่น...

         "เมาแล้วนะนั่นน่ะ"

         "ไม่ได้เมาโว้ย!"

         เมาชัด ๆ ...


         Ex. 4

         ตอนนี้เธอคิดว่าตัวเองต้องดูแย่แน่ ๆ ...

         ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาและคราบเครื่องสำอาง หรือจะเป็นเส้นผมที่กระเซอะกระเซิงเพราะแรงลมตี แต่ตอนนี้ก็ช่างแม่งแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะใส่ใจเลยสักนิด

         "แม่งเอ๊ย..." หญิงสาวสบถ มือกำชายเสื้อแจ็กเก็ตที่ไม่ใช่ของตัวเองแน่นกว่าเดิม

         "ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้วะ?"

         ทำไมต้องเป็นคนคนนั้น ทำไมใครคนนั้นถึงต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ล่ะ?

         "มันต้องไม่จบลงแบบนี้สิ ไอ้พวกเวรนั่น --- อย่ามาดูถูกกันนะเว้ย! ถ้าเจอกันคราวหน้าล่ะก็..."

         จะไม่ปล่อยเอาไว้แน่


         Ex. 5

         เมื่อเด็กหนุ่มผมสีแอชบลอนด์เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ก็พบว่าพี่สาวของตัวเองกำลังจดจ่อกับอะไรบางอย่างในมือทั้งสองข้างอยู่

         เอาอีกแล้วเหรอนั่นน่ะ?

         "จะถักไปให้ใครล่ะนั่น?"

         แต่ดูเหมือนบอนนี่จะไม่ได้ยินล่ะมั้ง เธอกำลังใช้สมาธิในการถักนิตติ้งให้เป็นผ้าพันคอ ซึ่งจริง ๆ เขาก็พอจะเดาออกอยู่หรอกว่าเธอจะเอาไปให้ใครน่ะนะ...

         "ปกติก็ไม่เห็นเป็นแบบนี้นี่นา จริงไหม บอนบอน?"

         ได้ผล เธอหันหน้ามามองจนได้

         "รู้อยู่แล้วจะมาถามทำไมล่ะยะ!?"

         จะแหวใส่เขาทั้งที่หน้าแดงไปถึงหูอย่างนั้นเนี่ยนะ ไม่เนียน บอกเลย


         อุปนิสัย :

         ใครต่อใครก็ล้วนแต่บอกว่าภาพลักษณ์กับนิสัยของบอนนี่นั้นดูตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักและขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก แต่พร้อมฉอดทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามากวนใจ บอนนี่มักจะโดนแซวอยู่บ่อย ๆ ว่าตอนเธอโกรธนั้นไม่ได้ต่างอะไรจากแมวขู่ แต่ถ้ายังไม่เลิกล้อเล่นก็เจ็บตัวได้เหมือนกันนะ บอนนี่เป็นประเภทที่ว่าเก็บอารมณ์ของตัวเองไม่ค่อยอยู่ ถ้าเธอรู้สึกอย่างไรก็มักจะแสดงให้เห็นเดี๋ยวนั้นเลยเสียมากกว่า ที่เห็นเธอเหวี่ยงอยู่บ่อย ๆ คงเป็นเพราะสาเหตุนี้ล่ะมั้ง แถมนอกจากนี้ ถ้าให้พูดตามตรงแล้วเธอน่ะปากจัดแบบสุด ๆ ไปเลยล่ะ แต่ทุกคำพูดของเธอก็มีจุดหมายของมันเหมือนกัน ตามปกติแล้วเธอค่อนข้างจะใจร้อนสักหน่อย แถมคิดอะไรก็ทำเลยไม่มีรออีกต่างหาก แต่ก่อนจะทำเธอก็จะถามตัวเองก่อนเสมอว่า "ถ้าทำแบบนั้นแล้วจะดีจริง ๆ เหรอ" และเธอก็ไม่ใช่คนที่ยอมใครง่าย ๆ ด้วย บอนนี่เป็นคนที่รักศักดิ์ศรีของตัวเอง และจะไม่พอใจมาก ๆ เวลาที่มีใครมาดูถูก เพราะแบบนั้นเธอถึงทะเลาะกับน้องชายของตัวเองบ่อย ๆ ไงล่ะ...

         เธอเป็นคนที่แบ่งแยกเวลาทำงานกับเวลาเล่นอย่างชัดเจน และจริงจังกับการทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างมาก เวลางานคืองาน เวลาเล่นคือเล่น และถ้ามีใครมาทำอะไรแผลง ๆ ในเวลางานของเธอก็จะทำให้เธอโกรธมากเช่นกัน เธอไม่ได้หวังว่างานที่ทำต้องออกมาสมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อยเธอก็อยากจะทำให้สุดความสามารถ และที่จริงเธอก็ไม่ชอบทำตามที่ใครสั่งด้วย แต่ถ้ามันจำเป็นจริง ๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เธอแค่ไม่ค่อยจะพอใจเวลาโดนสั่งให้ไปทำนู่นทำนี่เท่านั้นแหละ ยิ่งถ้าใครเป็นคนที่เธอไม่ได้ให้ความเคารพแล้วมาอ้าปากสั่งนู่นนี่นั่นปาว ๆ ใส่ล่ะก็ บอนนี่ก็ไม่ลังเลเลยที่จะหันกลับไปแว้ดกลับ แต่ถึงจะยังไง เธอก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานทุกชิ้นที่รับมาเป็นอย่างมากเลยนะ ถ้าเกิดเธอทำอะไรไม่ถูกใจอีกฝ่ายแล้วพิจารณาได้ว่าทางนั้นผิด เธอก็คงจะโกรธอยู่นั่นแหละ แต่ถ้าตัวเองผิดก็คงขอโทษแล้วกลับไปนั่งหน้างออยู่บ้าน พลางโทษตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะรีบออกไปจัดการให้เรียบร้อยหลังจากที่ใจเย็นลงล่ะมั้ง...

         บอนนี่มักจะตรงไปตรงมาเสมอ เธอไม่ชอบพูดอะไรที่อ้อมค้อมสักเท่าไร ซึ่งถ้าไม่อยากพูด ส่วนมากเธอก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรเลยมากกว่าที่จะปากไม่ตรงกับใจน่ะนะ... ปกติเธอก็เป็นคนที่กล้าคิดกล้าทำอยู่หรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องของหัวใจ เธอค่อนข้างจะหวั่นไหวง่ายแถมยังเขินง่ายก็จริง แต่รู้อะไรไหม ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่ก็ใช่ว่าเธอจะเปิดใจให้ใครง่าย ๆ หรอกนะ เธอน่ะขี้ระแวงไม่น้อยเลย แต่ถ้าคุณแสดงให้เธอเห็นได้ว่าเธอสามารถเชื่อใจคุณได้ โอกาสเธอที่จะเปิดใจก็มีอยู่บ้าง ไม่ใช่ในแง่ของคนรักเท่านั้น แต่รวมไปถึงเพื่อนด้วยเช่นกัน แต่นั่นก็ไม่ได้มีบ่อยนักหรอก มีหลายคนไม่กล้าพอที่จะลองเข้าหาเธอ และบางคนพอเห็นภาพลักษณ์ที่ใจร้อนของเธอแล้วถ้าไม่เผ่นแน่บก็คงจะเอาไปเมาท์กันลับหลังนั่นแหละ ซึ่งโดยปกติถ้าไม่ใช่คนที่สำคัญกับเธอ เธอก็ไม่ค่อยจะสนใจนักหรอก แต่ถ้าคนคนนั้นเป็นคนที่เธอให้ความสำคัญล่ะก็ เธอก็เสียใจเหมือนกันนะ บอนนี่น่ะไม่ชอบปล่อยให้เรื่องอะไรก็ตามที่กวนใจเธอมาคาราคาซังให้นาน เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไร มาคุยกับเธอตรง ๆ เลยจะดีกว่านะ?

         นอกจากนี้ บอนนี่ยังเป็นคนที่มีความเป็นตัวเองสูงมาก ถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือเธอคือบอนนี่ที่เป็นบอนนี่ เธออาจไม่ได้ดูโดดเด่นอะไรขนาดนั้น แต่เธอก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร และดูเหมือนจะไม่มีใครเข้ามาเปลี่ยนแปลงเธอได้ เธอน่ะเรียกได้ว่าเสมอต้นเสมอปลายสุด ๆ และยังมีใครหลายคนบอกอีกว่า บอนนี่เป็นคนที่หัวดื้อหัวรั้นที่สุดในหมู่คนสี่คนที่ทำงานร่วมกัน เธอไม่ใช่คนที่รับมือยากขนาดนั้น (อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ใช่คนที่รับมือยากที่สุด) ถ้าพูดกันดี ๆ เธอก็เข้าใจอยู่หรอก แต่ถ้ามันไม่มีเหตุผลพอที่เธอจะเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ จะหัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอก็ไม่ยอมทำตามแน่นอน อีกอย่าง เธอไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายหรือตัดสินใจเรื่องของเธอแทนตัวเธอเองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการตัดสินใจที่ไม่ผ่านการปรึกษาหรือบอกเธอก่อน ถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำลายเป้าหมายของใครคนนั้นเลยล่ะ (ย้ำว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเธอโดยตรงเท่านั้น) และถึงจะเห็นว่าเธอไม่ค่อยจะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำ แต่ถ้าสิ่งนั้นมันพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง เธอก็ไม่ได้เกี่ยงอะไรหรอกถ้าจะเรียนรู้มันเอาไว้น่ะนะ

         สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือบอนนี่น่ะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ไปสุดในทุก ๆ ทาง ซึ่งถ้าเทียบกับข้างต้นว่าตามปกติเธอค่อนข้างจะใจร้อน แล้วถ้าเธอเกิดหัวร้อนหรือโมโหแบบสุด ๆ ขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็ แม่สาวคนนี้ก็พร้อมที่จะแผลงฤทธิ์แบบไม่สนใจใครได้เหมือนกัน เธอน่ะกลัวใครซะที่ไหนล่ะ (และเธอก็จะกลับมานั่งหงุดหงิดตัวเองว่าจะทำไปทำไมเสมอ) แต่พอบทจะใจเย็นก็ดันเงียบไปแบบดื้อ ๆ ซึ่งในกรณีที่เธอจะใจเย็นได้ คงเป็นตอนที่เธอจำเป็นต้องใช้สมาธิในการทำอะไรสักอย่างล่ะมั้ง แต่ถ้ามีใครมากวนใจในเวลานั้นเธอก็ไม่ลังเลที่จะหันไปวีนใส่ได้เหมือนกัน ที่จริงเธอแยกประสาทสัมผัสได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ เพราะงั้นพอวีนเสร็จก็กลับมาทำสิ่งนั้นต่อได้เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ ไง

         แต่ถึงจะเห็นเธอเป็นแบบนี้ ที่จริงก่อนหน้านี้บอนนี่เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีพอสมควรเหมือนกันนะ บางครั้งเธอก็สามารถมีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ อย่างการทำอะไรสักอย่างสำเร็จ ได้รับของขวัญหรือคำชมจากคนอื่น แต่เธอก็ไม่ได้อยากจะขออะไรจากใครหรอก ถึงบางครั้งจะแอบหวังจากใครบางคนอยู่ลึก ๆ ก็ตามที เธอมองว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นะ แต่จริง ๆ ก็แอบหงอยอยู่นิดหนึ่งนั่นแหละ และเธอก็ไม่ชอบการถูกเปรียบเทียบอย่างรุนแรงด้วย โดยเฉพาะกับน้องชายของเธอเอง... อย่างเช่นการที่เขาพูดจาไพเราะต่างจากเธอที่ค่อนข้างจะพูดจาขวานผ่าซาก เขาที่ดูเป็นเด็กดีเชื่อฟังผู้ใหญ่ (?) มากกว่าเธอที่ดื้อรั้น หรือเขาที่ใจเย็นกับเธอที่ใจร้อนน่ะ --- ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากลองกลับไปมองโลกเหมือนอย่างเมื่อก่อนได้บ้าง แต่เพราะสิ่งที่เมืองนี้ได้หล่อหลอมเธอให้เติบโตในหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น มันก็คงจะเป็นไปได้ยากมาก ๆ แล้วล่ะ

         อย่างไรก็ตาม บอนนี่เป็นคนที่แคร์คนรอบข้างของเธอมาก ถึงเธอจะใจร้อนหรือขี้หงุดหงิดไปบ้าง แต่เธอก็รักพวกพ้องและครอบครัวของเธอมาก ๆ เลยนะ แม้ว่าจะทะเลาะกับน้องชายของตัวเองบ่อย ๆ แต่ถ้าเขามีปัญหา เธอก็จะไม่ทิ้งเจ้าบ้าคนนั้นไว้คนเดียวเด็ดขาด หรือถ้าเป็นคนที่สนิทกันหน่อย เธอก็ไม่ได้ปฏิบัติต่างกันเลย บางครั้งเธอก็ดูเป็นจอมดุนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะความเป็นห่วง แต่ในทางตรงกันข้าม บอนนี่กลับไม่ชอบให้ใครมากังวลหรือเป็นห่วงเรื่องของเธอนัก เธอไม่อยากเป็นภาระของใครเลย ยกเว้นถ้าอีกฝ่ายยืนยันว่าอยากจะช่วยจริง ๆ (แต่ก่อนที่เธอจะหยุดหัวดื้อได้ก็พักใหญ่ ๆ ล่ะ) หลายครั้งที่เธอมักจะเอาเรื่องของตัวเองไว้ทีหลังแล้วจัดการเรื่องของคนอื่นก่อน ถึงจะไม่ยอมบอกเหตุผล แต่จริง ๆ ก็คือเป็นห่วงนั่นแหละ...

         ถ้าจะให้เปรียบเทียบว่าตัวตนของบอนนี่เหมือนกับเฉดสีอะไรในเมืองนี้ ก็คงเป็นสีเทาเฉดอ่อนล่ะมั้ง? เธอคุ้นชินกับบรรยากาศในเมืองไร้นามที่มีส่วนย่ำแย่มากกว่าส่วนดีนี้ ความรู้สึกหลายอย่างที่ไม่สามารถบอกได้ ทางเลือกมากมายที่ทำให้สับสน มันทำให้เธอสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน จะขอบคุณมันก็พูดไม่ได้เต็มปาก จะเกลียดมันก็ใช่ แต่เหมือนกับเป็นสิ่งที่พูดออกมาไม่ได้เสียมากกว่า อาจเป็นสิ่งที่พอรับได้ แต่ถ้าเลือกได้ก็คงไม่อยากสักเท่าไร และถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากออกไปจากที่นี่เพื่อใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้เสียที เธอไม่เคยกลัวที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ  อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็คงต้องจัดการอะไร ๆ ให้เรียบร้อยก่อนนั่นแหละ ยังไงก็ไม่อยากให้มีอะไรค้างคาอยู่แล้วนี่นะ


         ประวัติ : l*** is a bad word


         ชอบ :

         แฟชั่น ; ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าเกี่ยวกับแฟชั่นเธอก็ชอบหมดนั่นแหละ เธอจะดูท่าทางสนอกสนใจเป็นพิเศษถ้าได้เห็นน่ะนะ

         ภาพยนตร์สยองขวัญ ; จริง ๆ เธอก็แอบกลัวนิด ๆ อยู่นะ แต่ก็ยังชอบดูอยู่ดี ปกติก็ชอบดูอยู่ที่บ้านมากกว่าจะไปดูนอกบ้านด้วย

         ชีส ; บอนนี่ชอบอาหารที่มีส่วนประกอบของชีสเป็นพิเศษ เวลากินก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมาก รู้แค่ว่าเธอชอบนั่นแหละนะ

         คนที่มีความชอบเหมือนตัวเอง ; จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ถ้าเทสต์ตรงกันเธอก็รู้สึกว่าคุยด้วยแล้วสนุกดี

         สีชมพู ; ค่อนข้างจะเห็นได้ชัดเลยล่ะ ของใช้ยิบย่อยส่วนมากของเธอมักจะเป็นสีชมพูเป็นส่วนใหญ่

         ดอกกุหลาบ ; ถ้าไม่นับเรื่องสีชมพูก็คงจะเป็นดอกกุหลาบนี่แหละ เธอปลูกมันไว้หน้าบ้านด้วย เวลาเลือกดอกไม้ก็มักจะเลือกดอกกุหลาบเป็นส่วนใหญ่


         ไม่ชอบ :

         การถูกก่อกวน ; ไม่ว่าจะเป็นการก่อกวนแบบไหนเธอก็ไม่ชอบทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าเป็นช่วงแรก ๆ จะหันไปถลึงตาใส่ แต่ถ้ายังไม่เลิกก็จะหันไปว้ากใส่เลย

         ตอนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นน้องสาวของแอนดี้ ; จริง ๆ คนไม่รู้ก็ไม่ผิดหรอก เธอแค่รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยเพราะแอนดี้ชอบหัวเราะเธอน่ะสิ ไอ้น้องบ้านั่น...

         การถูกบังคับ ; อาจไม่ถึงขั้นเกลียด แต่มันก็ขัดใจไม่ใช่น้อยเลยเหมือนกัน ถ้าเธอคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องทำตามก็ไม่ทำเลย

         การถูกเปรียบเทียบ ; จะเปรียบให้มันได้อะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ คนเรามันเหมือนกันซะที่ไหน เธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรมากนัก แต่ในใจคือหงุดหงิดสุด ๆ เลยล่ะ

         มะเขือยาว ; เธอคิดว่ามันไม่อร่อย และจะหลีกเลี่ยงการกินผักชนิดนี้


         เกลียด :

         การเข้าโรงพยาบาล ; หมายถึงในกรณีที่เธอเป็นผู้ป่วย ไม่รู้สิ เธอคิดว่ามันไม่ค่อยสะดวกที่จะทำอะไรเลยน่ะ แถมยังโดนห้ามนั่นห้ามนี่ซะเยอะเลยด้วย จะไม่ทำตามก็ไม่หายอีก

         กลิ่นเหม็นทุกประเภท ; ถ้าเพื่องานก็ไม่เกี่ยงเท่าไร แต่ก็เกลียดอยู่ดีนั่นแหละ มลพิษทางจมูกชัด ๆ อาจพยายามเลี่ยงจากตรงนั้นหรือหาอะไรมาปิดจมูกเท่าที่จะทำได้

         คนทรยศ ; ไม่ว่าจะในด้านไหนก็ตาม คนแบบนี้มันเชื่อถือไม่ได้ ทั้งที่เชื่อใจแต่กลับมาตอบแทนกันแบบนี้เนี่ยนะ เธอไม่อยากจะมองหน้าเลยด้วยซ้ำ


         กลัว :

         หนู ; มันสกปรกแล้วก็ดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้สิ แค่วิ่งผ่านเธอก็กรี๊ดลั่นแล้ว

         เข็มฉีดยา ; แค่นึกภาพตอนมันกำลังแทงเข้ามาในผิวหนังก็น่ากลัวแล้ว ถ้ามันจำเป็นต้องฉีดจริง ๆ เธอก็จะพยายามไม่มองมันเพื่อที่จะไม่นึกถึงมันน่ะนะ


         แพ้ : -


         งานอดิเรก : ดูภาพยนตร์ / เต้น / ชอปปิง / เล่นโซเชียล / ออกกำลังกาย / ร้องคาราโอเกะ


         ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง / เต้น / คาราเต้ / ยิมนาสติก / ทักษะการใช้ปืน / ทำอาหาร / เย็บปักถักร้อย


         สเปคคนที่ชอบ : คนที่ชัดเจนและจริงใจ หมายถึงชัดเจนในด้านความรู้สึก บอนนี่ไม่ชอบอะไรที่อ้อมค้อม เพราะโดยส่วนตัวเธอเป็นคนที่ตรงไปตรงมา (ในที่นี้คือเรื่องการแสดงออก) และไม่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของเธอมากจนเกินไป และจริง ๆ ถ้าเป็นคนเอาใจเก่งด้วยจะชอบเป็นพิเศษ


         เพิ่มเติม :

         - อาวุธที่ถนัดใช้ที่สุดคือปืนสั้น อย่างอื่น ๆ ที่พอใช้ได้คือมีดและสนับมือ สามารถใช้สิ่งรอบตัวเป็นอาวุธได้เมื่อยามคับขัน แต่จริง ๆ ก็ถนัดการต่อสู้ระยะประชิดมากกว่า

         - ขับขี่ยานพาหนะอะไรไม่เป็นเลยนอกจากจักรยาน

         - มักเป็นคู่หูกับจูเลียนในการไปผับ , บาร์ต่าง ๆ ชอบไปบาร์ที่อยู่การดูแลของโคโรน่ามาเฟียเป็นพิเศษ

         ระดับความสนิทสนมกับคนที่ร่วมงานกัน : แอนดี้ (ให้เหตุผลว่าเพราะเป็นน้องชาย) > จูเลียน (ทำภารกิจร่วมกันบ่อย ๆ และไปตะลอนทัวร์ด้วยกันบ่อย) > แคโรไลน์ (จริง ๆ ก็สนิทกันอยู่ แต่เพราะแคโรไลน์เป็นคนที่เข้าถึงยากมากและไม่ค่อยพูดเรื่องของตัวเอง เธอจึงยังรู้สึกว่าตัวเองยังรู้จักอีกฝ่ายได้ไม่ดีพอ)

         เกี่ยวกับโค้ดเนม : (Rosa, โรซ่า ; ในภาษาสเปนแปลว่า 'ดอกกุหลาบ' และ 'สีชมพู' ซึ่งสีชมพูเป็นสีที่มีลักษณะปลอบประโลมจิตใจให้ความรู้สึกต่าง ๆ สงบลง ให้ความรู้สึกของการมีน้ำใจ จิตใจกว้างขวาง อบอุ่นและทะนุถนอม ส่วนกุหลาบถือว่าเป็นราชินีแห่งดอกไม้ทั้งปวง และเป็นตัวแทนของความรัก) บอนนี่ใช้โค้ดเนมนี้ เพราะเธอชอบสีชมพูและชอบดอกกุหลาบ ไม่ได้มีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านี้ ถึงเธอจะถูกแซวว่าดูเหมือนเป็นคนโรแมนติก แต่จริง ๆ แล้วเธอก็ยังไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นนัก


    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×